"เรือของพ่อค้า บรรทุกสินค้าหนักเกินประมาณ ย่อมนำสินค้าอันหนักยิ่ง จมลงในมหาสมุทร ฉันใด นรชนสั่งสมบาปกรรมทีละน้อยๆ ก็ย่อมพาเอาบาปอันหนักยิ่ง ให้จมลงในนรก ฉันนั้น" มหานารทกัสสปชาดก
ปัจจุบันมีหลายคนที่ประมาทพลาดพลั้งไปทำบาปอกุศล ทั้งที่มีเจตนาและไม่มีเจตนา ที่ไม่เจตนาเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่เมื่อทำบ่อยๆ ก็กลายเป็นความคุ้นเคย เหมือนแมลงวันที่ คุ้นเคยกับของเน่าเหม็น ในที่สุดอาจกลายเป็นผู้เห็นผิดเป็นชอบ เห็นชั่วเป็นดี
เพราะไม่เห็นผลของการทำบาปเกิดขึ้นในทันที จนบางครั้งอาจกลายเป็น "เห็นกงจักรเป็นดอกบัว" ที่เป็นเช่นนี้ เพราะไม่เข้าใจในเรื่องบาปบุญคุณโทษอย่างแจ่มแจ้ง ไม่ได้ตระหนักถึงชีวิตหลังความตาย และกฎแห่งการกระทำว่า มีความสลับซับซ้อนเพียงไร จึงได้ประมาท โดยถือการกระทำที่ตนได้รับผลประโยชน์ในปัจจุบันเป็นหลัก นำสติปัญญาความสามารถไปทำเรื่องผิดศีลผิดธรรม ครั้นได้ทรัพย์สินเงินทองมามากมาย จึงเหมาว่าสิ่งที่ได้ทำไปนั้น ดีแล้ว ถูกต้องแล้ว ทำให้ยิ่งทำบาปอกุศลเพิ่มขึ้น โดยไม่รู้ว่า วันข้างหน้าสมบัติจะกลายเป็นวิบัติ เหมือนเรือที่บรรทุกของหนักเกินไป สุดท้ายย่อมต้องจมลงสู่ทะเลลึกฉะนั้น
"เห็นกงจักรเป็นดอกบัว"
ปัจจุบันมีหลายคนที่ประมาทพลาดพลั้งไปทำบาปอกุศล ทั้งที่มีเจตนาและไม่มีเจตนา ที่ไม่เจตนาเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่เมื่อทำบ่อยๆ ก็กลายเป็นความคุ้นเคย เหมือนแมลงวันที่ คุ้นเคยกับของเน่าเหม็น ในที่สุดอาจกลายเป็นผู้เห็นผิดเป็นชอบ เห็นชั่วเป็นดี
เพราะไม่เห็นผลของการทำบาปเกิดขึ้นในทันที จนบางครั้งอาจกลายเป็น "เห็นกงจักรเป็นดอกบัว" ที่เป็นเช่นนี้ เพราะไม่เข้าใจในเรื่องบาปบุญคุณโทษอย่างแจ่มแจ้ง ไม่ได้ตระหนักถึงชีวิตหลังความตาย และกฎแห่งการกระทำว่า มีความสลับซับซ้อนเพียงไร จึงได้ประมาท โดยถือการกระทำที่ตนได้รับผลประโยชน์ในปัจจุบันเป็นหลัก นำสติปัญญาความสามารถไปทำเรื่องผิดศีลผิดธรรม ครั้นได้ทรัพย์สินเงินทองมามากมาย จึงเหมาว่าสิ่งที่ได้ทำไปนั้น ดีแล้ว ถูกต้องแล้ว ทำให้ยิ่งทำบาปอกุศลเพิ่มขึ้น โดยไม่รู้ว่า วันข้างหน้าสมบัติจะกลายเป็นวิบัติ เหมือนเรือที่บรรทุกของหนักเกินไป สุดท้ายย่อมต้องจมลงสู่ทะเลลึกฉะนั้น