ขั้นตอน วิธี นำเข้า สินค้าจากจีน
ง่าย.... มีเงิน เปิดเน็ต สั่งของ โอนเงิน หลังจากนั้น ก็ลุ้น ดวงดีได้รับสินค้า แย่หน่อย ผิดสเปก โชคร้ายนิด สินค้ามีปัญหา ซวยสุดโดนโกง
ฟังดูโหดร้ายเกิ๊น คนจะค้าจะขาย จิตใจโหดร้ายทำกันได้ลงคอเชียวหรือ..
ช่างต่างกับการทำธุรกิจในไทย ที่มีจิตใจเมตา ไอ้จะโกงกันหน้าด้านๆนั้นน้อยนัก
ผมมีประสบการณ์อยู่กับการนำเข้าสินค้าจากจีนตั้งแต่ปี 2008 จนถึงปัจจุบัน อาจไม่นาน แต่ก็เจอมาหลายรูปแบบ
ไม่น่าจะต่ำกว่า 60 บริษัทในจีนที่ผมเคยเยี่ยมชม ติดต่อเจรจา ทั้งส่วนตัว ของเพื่อน และคนที่ให้ช่วยนำเข้า
ขั้นตอน วิธี นำเข้า สินค้าจากจีน งั้นหรอ ไปหาข้อมูลได้มากมายในเน็ตเอาก็ได้
แต่ที่ผมอยากพูดถึงคือ การสแกนกรรม เฮ้ย.. สแกนคู่ค้า หรือ เลือกคู่ค้า มากกว่า เรื่องหาสินค้าให้ได้ราคาถูกๆ
โดยส่วนมากคนที่จะนำเข้าสินค้าจากจีนมาขาย สนใจเรื่องราคาเป็นอันอับแรก
ซึ่งราคาถูกมากๆ เนี้ยน่ากลัวที่สุด
ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เหตุผลที่ให้ราคาถูกเกิดจากอะไร?
โดยสาเหตุหลักๆ คือ ผลิตเป็นจำนวนมาก มีอำนาจต่อรองราคาวัตถุดิบ หรือไม่ก็ บริหารจัดการต้นทุนได้ดี
แต่ก็น่าแปลกที่โรงงานเล็ก หรือบริษัทนายหน้า จะขายได้ถูกมาก
นั้นเป็นเพราะอะไร? เค้าผลิตมาก? หรือ จัดการค่าใช้จ่ายได้ดีกว่าหรือ?
อาจจะมีนะครับ แต่ผมว่ากว่าร้อยละ90 เหตุผลเพราะ สินค้าคุณภาพคนละเกรด
ยกตัวอย่างเช่น เครื่องจักรก็ต่างกันที่ มอเตอร์ ลูกปืน ชนิดเหล็ก ระบบไฟที่ใช้ของถูกไม่ทน ถ้าเป็นพวกทำมาจากพาสติกก็ผสมเม็ดรีไซเคิลเยอะๆ
แรกๆก็ดูใหม่ไม่นานเท่าไรก็กรอบแตกแล้ว และยังมีอีกมากมายหลายวิธีที่ทำให้ราคาถูก
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้การที่จะสั่งสินค้าในราคาถูก มีโอกาสสูงที่สินค้าจะมีปัญหา
แต่ก็ไม่แปลกนิครับ ก็เราอยากได้ของถูกจึงเลือกซื้อของจีนนี่นา..
แล้วจะทำไง... ให้ได้ของถูกแต่ดี ให้ได้คู่ค้าที่ดี(ไม่โกง)
เราแบ่งบริษัท โรงงาน ออกเป็น 4 ประเภท
1.โรงงานขนาดใหญ่ * * * * *
2.โรงงานขนาดกลาง * * * *
3.โรงงานขนาดเล็ก * * *
4.บริษัทนายหน้า * *
โรงงานที่ควรหลีกเลี่ยงคือ 3 กับ 4
เหตผล คือ...
โรงงานขนาดเล็ก การบริหารจัดการไม่ดี เงินน้อย ชิ้นส่วนหรืออะไหล่สั่งทำจากข้างนอกเป็นส่วนใหญ่ ควบคุมคุณภาพไม่ได้
บางโรงกำลังจะเจ๊ง ไหนๆจะเจ๊ง ก็โกงซะเลย
ส่วน บริษัทนายหน้า หน้าเว็บหรู อยู่เป็นห้องๆตามคอนโด มีออเดอร์เค้าก็ไปสั่งผลิต จับเสื้อมือเปล่า โชคดีไปถ้าของที่สั่งส่งมาตรงตามสเปก
แย่หน่อย ส่งมาผิดๆแบบตั้งใจ ร้ายสุดหายไปเลย
(บริษัทดีๆก็มีนะครับ แต่น้อย ปลอดภัยไว้ก่อน)
โรงงานขนาดกลาง ผลิตเองเป็นส่วนใหญ่ สั่งข้างนอกบ้างเล็กน้อย บริหารจัดการดีระดับนึง แบ่งเป็นสัดส่วน
พื้นโรงงานสะอาดบ้าง สินค้าที่ผลิตจะส่งออกกับขายในประเทศสัดส่วนครึ่งๆ
โรงงานขนาดใหญ่ แบ่งขั้นตอนผลิตได้ตามมาตรฐาน โรงงานสะอาด ผลิตเองแทบทั้งหมด คุณภาพส่งออก ราคาแพงพอๆกับ ของ ต่างประเทศ
โดยส่วนใหญ่จะมีตัวแทนจำหน่ายอยู่แล้ว
หากจะถามว่าแล้วจะรู้ได้อย่างไง โรงงานไหนเล็กใหญ่แค่ไหน ?
ตอบ ต้องไปดูครับ
แล้วจะคุ้มหรอ ?
ถ้าสั่งสินค้ามาไม่เยอะ หรือไม่ได้จะทำเป็นธุรกิจจริงจัง แนะนำไม่ต้องไป เปิดเน็ต หาซื้อในไทยจะดีกว่า
เสียมาเค้ารับประกันให้
แล้วจะทำจริงจัง?
อันดับแรก เราก็ควรมีความรู้ในตัวสินค้าให้ลึกซึ้ง แล้วค้นหาในเว็บ เช่น alibaba , made-in-china
หาบริษัทสัก 10 บริษัท มาเอ็กซเรย์
แนะนำอย่าเพิ่งไปสนใจเรื่องราคาให้มาก
สิ่งที่ควรดูคือ company profile
อาจจะเข้าไปดูหน้าเว็บจริงเค้าด้วย หากไม่มี เอาชื่อ บริษัท ไป เสิจ กูเกิลดู
สิ่งที่หน้าสนใจ
ปีที่เริ่มทำ หรือ ลงโฆษณามากี่ปีแล้ว อย่าง อลีบาบามีบอก
ขนาดโรงงาน
สินค้าหลักๆที่ผลิต
จำนวนพนักงาน
ที่อยู่ (เป็นตึก หรือ เขตนิคม )
เบอร์โทร แฟกซ์ (นายหน้าจะชอบมีแต่เบอร์มือถือ)
รูปแบบการเสนอราคาในอีเมล์
อื่นๆ
ใช้ข้อมูลที่เค้ามีประมาณการเอาเอง
ข้อมูลที่พูดมานั้นใช้ได้ระดับนึงในการเอ็กซเรย์ ให้เหลือสัก 3-4 โรงงาน
เมื่อพูดคุยได้รายละเอียดก็เดินทางไปดูโรงงานที่เราเลือก อ้อ..ลืมไป แนะนำแต่ละโรงงาน ให้อยู่ในเมืองมณทลที่ใกล้ๆกัน
สะดวกต่อการเดินทาง ไม่ไกลเกินไป เพราะจะเสียเวลาเดินทางและค่าใช้จ่ายมากเกินความจำเป็น
(หากสินค้าราคาแพงมาก มีทุนเยอะ ไม่ว่ากัน ไกลก็ควรไปดู)
ราคาสินค้านั้นเป็นประโยชน์ เมื่อตอนที่ไปเจอโรงงาน และเห็นสินค้าจริงที่จีน เพื่อที่เราจะได้เปรียบเทียบและต่อลองได้
สรุป
ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น คืออยากให้ความสำคัญกับโรงงานผู้ผลิต มากกว่า ราคา เพราะราคานั้นสามารถต่อรองได้
อย่าเพิ่งให้ความสำคัญกับราคาที่สอบถามกันโดยไม่ไปเจอตัวจริงเสียงจริง
เพราะมีหลายคนที่เคยสั่งของโอนเงินไปแล้วได้รับสินค้ามีปัญหา แม้แต่คนจีนด้วยกันเองยังโดนเลย
แล้วคนไทยหัวใจซื่ออย่างเรา...
รายละเอียดเกี่ยวกับในการนำเข้าสินค้าจากจีน เมล์มาถามได้
lamjeen15@gmail.com
ai_chenmulong@hotmail.com
ขั้นตอน วิธี นำเข้า สินค้าจากจีน
ง่าย.... มีเงิน เปิดเน็ต สั่งของ โอนเงิน หลังจากนั้น ก็ลุ้น ดวงดีได้รับสินค้า แย่หน่อย ผิดสเปก โชคร้ายนิด สินค้ามีปัญหา ซวยสุดโดนโกง
ฟังดูโหดร้ายเกิ๊น คนจะค้าจะขาย จิตใจโหดร้ายทำกันได้ลงคอเชียวหรือ..
ช่างต่างกับการทำธุรกิจในไทย ที่มีจิตใจเมตา ไอ้จะโกงกันหน้าด้านๆนั้นน้อยนัก
ผมมีประสบการณ์อยู่กับการนำเข้าสินค้าจากจีนตั้งแต่ปี 2008 จนถึงปัจจุบัน อาจไม่นาน แต่ก็เจอมาหลายรูปแบบ
ไม่น่าจะต่ำกว่า 60 บริษัทในจีนที่ผมเคยเยี่ยมชม ติดต่อเจรจา ทั้งส่วนตัว ของเพื่อน และคนที่ให้ช่วยนำเข้า
ขั้นตอน วิธี นำเข้า สินค้าจากจีน งั้นหรอ ไปหาข้อมูลได้มากมายในเน็ตเอาก็ได้
แต่ที่ผมอยากพูดถึงคือ การสแกนกรรม เฮ้ย.. สแกนคู่ค้า หรือ เลือกคู่ค้า มากกว่า เรื่องหาสินค้าให้ได้ราคาถูกๆ
โดยส่วนมากคนที่จะนำเข้าสินค้าจากจีนมาขาย สนใจเรื่องราคาเป็นอันอับแรก
ซึ่งราคาถูกมากๆ เนี้ยน่ากลัวที่สุด
ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เหตุผลที่ให้ราคาถูกเกิดจากอะไร?
โดยสาเหตุหลักๆ คือ ผลิตเป็นจำนวนมาก มีอำนาจต่อรองราคาวัตถุดิบ หรือไม่ก็ บริหารจัดการต้นทุนได้ดี
แต่ก็น่าแปลกที่โรงงานเล็ก หรือบริษัทนายหน้า จะขายได้ถูกมาก
นั้นเป็นเพราะอะไร? เค้าผลิตมาก? หรือ จัดการค่าใช้จ่ายได้ดีกว่าหรือ?
อาจจะมีนะครับ แต่ผมว่ากว่าร้อยละ90 เหตุผลเพราะ สินค้าคุณภาพคนละเกรด
ยกตัวอย่างเช่น เครื่องจักรก็ต่างกันที่ มอเตอร์ ลูกปืน ชนิดเหล็ก ระบบไฟที่ใช้ของถูกไม่ทน ถ้าเป็นพวกทำมาจากพาสติกก็ผสมเม็ดรีไซเคิลเยอะๆ
แรกๆก็ดูใหม่ไม่นานเท่าไรก็กรอบแตกแล้ว และยังมีอีกมากมายหลายวิธีที่ทำให้ราคาถูก
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้การที่จะสั่งสินค้าในราคาถูก มีโอกาสสูงที่สินค้าจะมีปัญหา
แต่ก็ไม่แปลกนิครับ ก็เราอยากได้ของถูกจึงเลือกซื้อของจีนนี่นา..
แล้วจะทำไง... ให้ได้ของถูกแต่ดี ให้ได้คู่ค้าที่ดี(ไม่โกง)
เราแบ่งบริษัท โรงงาน ออกเป็น 4 ประเภท
1.โรงงานขนาดใหญ่ * * * * *
2.โรงงานขนาดกลาง * * * *
3.โรงงานขนาดเล็ก * * *
4.บริษัทนายหน้า * *
โรงงานที่ควรหลีกเลี่ยงคือ 3 กับ 4
เหตผล คือ...
โรงงานขนาดเล็ก การบริหารจัดการไม่ดี เงินน้อย ชิ้นส่วนหรืออะไหล่สั่งทำจากข้างนอกเป็นส่วนใหญ่ ควบคุมคุณภาพไม่ได้
บางโรงกำลังจะเจ๊ง ไหนๆจะเจ๊ง ก็โกงซะเลย
ส่วน บริษัทนายหน้า หน้าเว็บหรู อยู่เป็นห้องๆตามคอนโด มีออเดอร์เค้าก็ไปสั่งผลิต จับเสื้อมือเปล่า โชคดีไปถ้าของที่สั่งส่งมาตรงตามสเปก
แย่หน่อย ส่งมาผิดๆแบบตั้งใจ ร้ายสุดหายไปเลย
(บริษัทดีๆก็มีนะครับ แต่น้อย ปลอดภัยไว้ก่อน)
โรงงานขนาดกลาง ผลิตเองเป็นส่วนใหญ่ สั่งข้างนอกบ้างเล็กน้อย บริหารจัดการดีระดับนึง แบ่งเป็นสัดส่วน
พื้นโรงงานสะอาดบ้าง สินค้าที่ผลิตจะส่งออกกับขายในประเทศสัดส่วนครึ่งๆ
โรงงานขนาดใหญ่ แบ่งขั้นตอนผลิตได้ตามมาตรฐาน โรงงานสะอาด ผลิตเองแทบทั้งหมด คุณภาพส่งออก ราคาแพงพอๆกับ ของ ต่างประเทศ
โดยส่วนใหญ่จะมีตัวแทนจำหน่ายอยู่แล้ว
หากจะถามว่าแล้วจะรู้ได้อย่างไง โรงงานไหนเล็กใหญ่แค่ไหน ?
ตอบ ต้องไปดูครับ
แล้วจะคุ้มหรอ ?
ถ้าสั่งสินค้ามาไม่เยอะ หรือไม่ได้จะทำเป็นธุรกิจจริงจัง แนะนำไม่ต้องไป เปิดเน็ต หาซื้อในไทยจะดีกว่า
เสียมาเค้ารับประกันให้
แล้วจะทำจริงจัง?
อันดับแรก เราก็ควรมีความรู้ในตัวสินค้าให้ลึกซึ้ง แล้วค้นหาในเว็บ เช่น alibaba , made-in-china
หาบริษัทสัก 10 บริษัท มาเอ็กซเรย์
แนะนำอย่าเพิ่งไปสนใจเรื่องราคาให้มาก
สิ่งที่ควรดูคือ company profile
อาจจะเข้าไปดูหน้าเว็บจริงเค้าด้วย หากไม่มี เอาชื่อ บริษัท ไป เสิจ กูเกิลดู
สิ่งที่หน้าสนใจ
ปีที่เริ่มทำ หรือ ลงโฆษณามากี่ปีแล้ว อย่าง อลีบาบามีบอก
ขนาดโรงงาน
สินค้าหลักๆที่ผลิต
จำนวนพนักงาน
ที่อยู่ (เป็นตึก หรือ เขตนิคม )
เบอร์โทร แฟกซ์ (นายหน้าจะชอบมีแต่เบอร์มือถือ)
รูปแบบการเสนอราคาในอีเมล์
อื่นๆ
ใช้ข้อมูลที่เค้ามีประมาณการเอาเอง
ข้อมูลที่พูดมานั้นใช้ได้ระดับนึงในการเอ็กซเรย์ ให้เหลือสัก 3-4 โรงงาน
เมื่อพูดคุยได้รายละเอียดก็เดินทางไปดูโรงงานที่เราเลือก อ้อ..ลืมไป แนะนำแต่ละโรงงาน ให้อยู่ในเมืองมณทลที่ใกล้ๆกัน
สะดวกต่อการเดินทาง ไม่ไกลเกินไป เพราะจะเสียเวลาเดินทางและค่าใช้จ่ายมากเกินความจำเป็น
(หากสินค้าราคาแพงมาก มีทุนเยอะ ไม่ว่ากัน ไกลก็ควรไปดู)
ราคาสินค้านั้นเป็นประโยชน์ เมื่อตอนที่ไปเจอโรงงาน และเห็นสินค้าจริงที่จีน เพื่อที่เราจะได้เปรียบเทียบและต่อลองได้
สรุป
ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น คืออยากให้ความสำคัญกับโรงงานผู้ผลิต มากกว่า ราคา เพราะราคานั้นสามารถต่อรองได้
อย่าเพิ่งให้ความสำคัญกับราคาที่สอบถามกันโดยไม่ไปเจอตัวจริงเสียงจริง
เพราะมีหลายคนที่เคยสั่งของโอนเงินไปแล้วได้รับสินค้ามีปัญหา แม้แต่คนจีนด้วยกันเองยังโดนเลย
แล้วคนไทยหัวใจซื่ออย่างเรา...
รายละเอียดเกี่ยวกับในการนำเข้าสินค้าจากจีน เมล์มาถามได้
lamjeen15@gmail.com
ai_chenmulong@hotmail.com