[CR] ลุงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก ตะลุยมาเลเซีย-สิงคโปร์ ไม่นั่งเครืองบิน ตอน 16 สตูล สงขลา พัทลุง นครศรีธรรมราช ตรัง สุราษฎร์ธานี

"ลงกับป้าแบ็คแพ็ครอบโลก" ตะลุยมาเลเซีย-สิงคโปร์ โดยไม่นั่งเครื่องบิน
ตอนที่ 1ุ6.1 สตูล
                                        

                                        
กว่าเรือจะถึงท่าเรือปากบารา รถโดยสารก็หมดเวลาวิ่งแล้ว แต่น้องๆ ที่ทำงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยวแถวๆ ท่าเรือ กุลีกุจอ โทรหาเครือข่าย ให้หารถโดยสารให้นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะน้องบ๊วย โทรเรียกรถมารับเรา ตกลงราคาให้เหมา 150 บาท เพราะไม่มีผู้โดยสารอื่น พอรถมารับเราจริงๆ น้องบ๊วยได้ผู้โดยสารฝรั่งมาเพิ่ม 4 คน ให้พวกเขาจ่ายคนละ 30 บาท ส่วนเรา 2 คน ให้จ่ายแค่ 50 บาท จากปากบารา ต้องนั่งรถไปต่อรถที่ตลาดละงู
                                        

ถึงตลาดละงู เราต่อรถเที่ยว 17.00 น. ไปตัวเมืองสตูล หนุ่มสาวสเปนรอต่อรถไปหาดใหญ่ เพื่อข้ามไปมาเลเซีย ส่วนหนุ่มสาวชาวนอรเวย์ รอต่อรถไปกระบี่ ค่าโดยสารจากละงูไปสตูล คนละ 50 บาท
                                        
ขณะนั่งรถ ได้คุยกับน้อง อนุรักษ์ ยาประจัญ นักศึกษาเทคโนสตูล ได้ทุน RBAC เรียนต่อบริหารการบิน ในปีการศึกษาหน้า เขาเป็นคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เขาแนะนำสถานทีท่องเที่ยวในสตูล อย่างคนที่มีสำนึกในการบริการ
คำขวัญจังหวัด คือ “สตูลสงบ สะอาด ธรรมชาติบริสุทธิ์” แม้ สตูล เป็นเพียงจังหวัดชายแดนเล็ก ๆ บริเวณชายฝั่งทะเลอันดามันทางภาคใต้ของประเทศไทย แต่มีเกาะแก่งที่งดงามเป็นที่กล่าวขาน ทั้งยังอุดมด้วยธรรมชาติป่าเขาที่สมบูรณ์ ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวไทยมุสลิม
                                        

                                        
จังหวัดสตูลแบ่งออกเป็น 7 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอควนโดน อำเภอท่าแพ อำเภอควนกาหลง อำเภอละงู อำเภอทุ่งหว้า และอำเภอมะนัง อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 973 กิโลเมตร มีพื้นที่ 2,478 ตารางกิโลเมตร มีชายฝั่งทะเลยาว 80 กิโลเมตร สภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นเนินสูง มีที่ราบป่าเขา ห้วยลำธารในเขตภาคตะวันออกของจังหวัด ตอนกลางใกล้ชายทะเลเป็นที่ราบ มีภูเขาและที่ราบลุ่ม ส่วนชายฝั่งทะเลเป็นที่ราบและป่าชายเลนน้ำท่วมถึง มีป่าโกงกางและไม้แสมมาก นอกจากนี้ในเขตจังหวัดสตูลยังมีหมู่เกาะต่างๆ อีกกว่าร้อยเกาะ ที่รู้จักกันดีได้แก่ หมู่เกาะตะรุเตา เกาะอาดัง-ราวี เกาะหลีเป๊ะ และหมู่เกาะเภตรา
                                        
เราถึงสตูลใกล้ค่ำ รีบเข้าไปสำรวจและเยือนศาลากลางจังหวัด เดินออกจากศาลากลางเจอร้านผลไม้ ลุงซื้อกล้วยหอมเพราะหิวมาก เขาขายกิโลกรัมละ 35 บาท 4 ลูก ครึ่งกิโล พ่อค้าใจดีลดให้เหลือ 15 บาท และยินดีบอกเส้นทางที่เรากำลังตามหาสถานทีท่องเที่ยวด้วย
                                        
เราเดินชมคฤหาสน์กูเด็น (Satun National Museum : Kuden Mansion) สถานที่ที่สำคัญคู่เมืองสตูล อยู่ใกล้กับตลาดโต้รุ่ง มัสยิดกลางของสตูล ชื่อ มำบัง (Mambang Satun Mosque) มีหอนาฬิกาอยู่ด้านหลัง
                                        

                                        
ย้อนกลับมาทางเดิม ไปตามหาร้านชาชัก อยู่ในซอยเยื้องกับโรงแรมสตูลธานี ระหว่างทางไปร้านชาชัก เดินผ่านร้านโรตี ขนาดเราไม่ได้ซื้อของพวกเธอ แต่พวกเธอตะโกนบอกให้ข้ามถนนอย่าเดินใกล้หมาแม่ลูกอ่อน มันจะกัดเอา เพราะมันหวงลูก
                                        

ที่ร้านชาชัก ตอนแรกเราไม่กล้าเข้า เพราะเราไม่ดื่มชา กับ กาแฟ แต่ลูกค้าประจำที่อยู่หน้าร้าน บอกเราว่า มีอย่างอื่นด้วย จะชักไมโล โอวัลติน ก็ได้ เราจึงตัดสินใจเดินเข้าไป ทำให้ได้ลิ้มลองโรตีจิ้มนมและน้ำแกง และไมโลชัก ที่ร้านชาชัก ของดีเมืองสตูล โรตีเขาเสิร์ฟนมข้นให้จิ้มพร้อมน้ำแกง ทำให้ได้รสชาติอร่อยนุ่มลิ้น
                                        
ไมโลชักของเขารสชาติเข้มข้นทีเดียว น้ำส้มคั้นก็ไม่เลว เจ้าของร้านออกมาคุยกับเราด้วย เพราะเราบอกว่าเราเคยเห็นตอนที่เขาออกทีวี เขาบอกว่า ตอนดึกผู้ช่วยหนุ่มหล่อที่เป็นพรีเซ็นเตอร์จะออกมาขาย เราคิดว่า เขามีชื่อดังแล้ว ราคาคงจะแพง แต่ไม่เลย เขาขายโรตีชุดละ 30 บาท ไมโลชักแก้วละ 25 บาท ส่วนน้ำะน้ำส้มปั่น แก้วละ 30 บาท
                                        
พอเราบอกว่าเราจะพักค้างคืน แต่ยังไม่รู้จะนอนที่ไหนดี เขาแนะนำโรงแรมสตูลธานี ที่อยู่ตรงข้ามกับปากซอยเข้าร้านชาชัก เราแบกเป้เข้าไปในโรงแรมสตูลธานี สอบถามราคา มื 2 ราคา คือ 400 บาท กับ 580 บาท เราถามว่ามันต่างกันอย่างไร พนักงานต้อนรับบอกว่า 400 บาท อยู่ข้างบน เป็นห้องเก่า ไม่มีทีวี กับ ตู้เย็น ส่วน 580 เป็นตึกใหม่ อยู่ด้านหลัง มีตู้เย็น กับ ทีวี เราจึงเลือก 400 บาท เพราะเราไม่มีความจำเป็นต้องใช้ตู้เย็นกับทีวี หลังจากเช็คอิน และเก็บของแล้ว เราก็ออกไปท่องราตรีกัน
                                        

                                        
เดินกลับไปทางมัสยิดกลาง ผ่านไปจนสุดถนน ข้ามถนนไปที่ศาลเจ้าโปเจ้เก้ง อาแปะที่เฝ้าศาลเจ้า ดีใจที่มีคนไปเยือนศาลเจ้า ลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งเหงาอยู่หน้าศาลเจ้า ตามเราเข้าไป และบอกให้เราเข้าไปข้างใน เราสังเกตเห็นว่า วัดจีน และศาลเจ้าจีน ทั้งในเมืองไทย และในต่างประเทศ ยินดีให้ผู้คนเข้าไปเยือน โดยไม่จำกัดเพศ วัย และการแต่งกาย แต่วัดฮินดู เคร่งครัดมาก ห้ามผู้หญิงใส่กางเกง ห้ามคนที่มีรอบเดือน ยิ่งที่อินเดีย ห้ามพวกจัณฑาลด้วย
เยือนศาลเจ้าจีนแล้วเดินกลับทางเดิม ผ่านโรงแรม ไปที่ตลาดโต้รุ่ง แวะซื้อไส้กรอกอีสาน ข้าวเหนียวปิ้ง ข้าวโพดต้ม ขนมหม้อแกง และเม็ดขนุน เดินกินเล่นๆ ไปจนถึงวัดสตูลลันตยาราม หรือ วัดป่าช้าไทย เพราะเป็นฌาปนสถาน ของเทศบาลเมืองสตูล มีพระพุทธรูปปางขัดสมาธิ องค์ใหญ่มากอยู่ด้านหลังวัด
                                        

ออกจากวัด เดินเล่นในตัวเมืองสตูล หาซื้อผลไม้ เจอแม่ค้าแตงโม นั่งขายแตงโมกับลูกสาววัยรุ่นท่าทางจะเป็นนักเรียนมัธยม เราอยากช่วยอุดหนุน แต่เห็นแตงโมงตอปิโด ผ่าครึ่งลูกแล้ว เราก็กลัวเพราะมันมากเกินกว่าที่ท้องเราจะบรรจุเข้าไปหมด แต่แม่ค้าบอกว่า เธอยินดีแบ่งขาย เราจึงให้เธอแบ่งครึ่ง พอแบ่งแล้ว เธอให้เราเลือก เราบอกว่า ซีกไหนก็ได้ เธอจึงลองเอาขึ้นชั่งดู ปรากฏว่า ทั้งสองซีกหนัก 1 กก. เท่ากัน เราขอให้เธอทำเป็นเชิ้นเล็กให้ด้วย และขอไม้จิ้ม เผื่อว่าจะเป็นการจุดประกายให้พวกเธอฉุกคิด ว่า ถ้าทำเป็นซีกเล็กๆ และมีไม้จิ้มด้วย อาจจะขายได้ดีกว่าเดิม เพราะเราเดินผ่านครั้งแรก ก็เห็นพวกเธอนั่งเหงาๆ กันอยู่ พอผ่านคร้งที่สอง ก็ยังขายไม่ได้ ขณะที่เรากำลังรออยู่ก็มีนักเรียนหญิงวัยรุ่นขี่รถมอเตอร์ไซด์มาจอด เราดีใจบอกพวกเธอว่า มีลูกค้ามาเพิ่มแล้ว พวกเธอบอกว่า ไม่ใช่หรอก นั่นคือ ลูกสาวอีกคนหนึ่ง ดูเหมือนว่า เย็นนั้นคนที่เปิดการขาย คือ เรา 18 บาท เราชวนพวกเธอคุย ถามว่า เป็นแตงโมที่ปลูกเอง หรือ เปล่า พวกเธอบอกว่า มันไม่ใช่ผลไม้ที่ปลูกในสตูล เราจึงทายว่า ถ้าไม่ใช่แตงจากสุพรรณ หรือ จังหวัดอื่นๆ ในภาคกลาง ก็น่าจะไปจากภาคอีสาน จากประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายจังหวัด บอกเราเช่นนั้น แล้วเราก็ใช้มือหยิบแตงโมเดินกินกันสนุกสนาน เพราะไม่มีใครรู้จักเราที่นั่น
กลับไปแวะที่ตลาดโต้รุ่ง เก็บไปหลายร้านแล้ว แสดงว่าไม่โต้รุ่งจริง เพราะตอนที่เราลงไปรอรถไปหาดใหญ่ตอนเช้า ก็ไม่เห็นร่องรอยของแม่ค้า หรือ พ่อค้าแล้ว
                                        
วันอังคารที่ 26 มกราคม 2559 เราเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมตั้งแต่เวลา 05.50 น. ไปรอรถที่หน้า 7-11 ก่อนถึงตลาดโต้รุ่ง ข้อมูลที่ได้มา คือ รถบัสไปหาดใหญ่จะออกจากสถานีขนส่งเวลา 06.00 น. จะมาถึงตรงนั้นหลัง 6โมงเล็กน้อย
                                        
ชื่อสินค้า:   สตูล สงขลา พัทลุง นครศรีธรรมราช ตรัง สุราษฎร์ธานี
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่