เพิ่งกลับมาจากสตูลสดๆร้อนๆ เลยรีบมาเขียนกระทู้ตอนที่ยังมีไฟอยู่ เพราะพอกลับไปทำงานแล้ว พลังงานที่จะมาเขียนรีวิวก็คงจะหมด  จขกท.เดินทางท่องเที่ยวในประเทศมาเยอะ และจังหวัดสตูลก็เป็นจังหวัดที่ 74 แล้ว เลยอยากเอาประสบการณ์มานำเสนอ เผื่อเป็นประโยชน์ได้ค่ะ

สำหรับสถานที่ที่ไปมา ก็มี  เกาะหลีเปีะ - เมืองสตูล - ล่องแก่งวังทรายทอง - ถ้ำภูผาเพชร

#เกาะหลีเป๊ะ
วันแรก
จขกท.ได้จองแพคเกจของบันดาหยา จากงาน ททท. เพราะจะได้สะดวกเรื่องการเดินทาง โดยเราต้องจองไฟลท์เครื่องบินมาลงหาดใหญ่ช่วงแปดโมงเช้า จะมีรถตู้มารับไปท่าเรือ และไปถึงเกาะหลีเป๊ะตอนบ่ายโมง ตอนไปถึงวันแรกนี่ก็ครึ้มๆเลยทีเดียว

ที่หลีเป๊ะมี walking street ที่เหมือนเป็นศูนย์กลางของที่นี่ และก็มีร้านอาหาร ร้านขายเสื้อผ้า ขายชุดว่ายน้ำ 7-11 บริษัททัวร์ ร้านนวด ร้านทำผม บาร์ มีแท๊กซี่สามล้อให้พาไปที่อื่นๆได้ ก็แนะนำให้ซื้อทริปดำน้ำเลย จขกท.จองกับ star travel ที่อื่นไม่รู้มีบริการถ่ายรูปใต้น้ำให้หรือเปล่า แต่ที่นี่มีค่ะ  ตอนเย็นๆก็เล่นน้ำที่ชายหาดได้ น้ำใสมากค่ะ

ของกินที่ไม่ควรพลาดคือ โรตีชีส+ไข่

สำหรับหาดที่หลีเป๊ะ มีสามหาดหลักๆ  
      - หาดพัทยา เป็นหาดที่ครึกครื้นที่สุด มี bliss bar อารมณ์ pool party ได้นั่งดริงซ์ริมทะเล
      - หาดซันไรซ์  ทะเลตรงนี้ใสสุด สามารถพายเรือแคนูไปอีกเกาะนึงที่อยู่ตรงข้ามได้  จะมีโซนที่เป็นที่จอดของเรือหางยาว อาจจะต้องระวังเรือหน่อย
      - หาดซันเซต เป็นหาดที่เงียบที่สุดในความคิดเรา แต่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยมาก
ทุกหาดสามารถเดินไปหากันได้หมด โดยจากหาดพัทยาไปหาดซันไรซ์จะอยู่ห่างกันที่สุด

วันที่สอง
วันนี้เป็นวันที่ไปดำน้ำทั้งวัน ควรกินอาหารตุนพลังงานเอาไว้ เพราะส่วนตัวนี่เหนื่อยตั้งแต่เสร็จจากจุดที่ 3 แล้ว แฮ่ๆ  กลับมาถึงประมาณบ่าย 3 โมง ตอนเย็นไปหาดซันเซ็ท ไปดูพระอาทิตย์ตก แล้วเดินกลับมา walking street เพื่อหาอะไรทาน

วันที่สาม
เชคเอาท์จากบันดาหยา 8:30  และก็ไปขึ้นเรือหางยาว เพื่อไปรอเรือสปีดโบ้ทที่โป๊ะ  การเดินทางไปกลับหลีเป๊ะนี่ เหนื่อยตอนเดินทางที่สุด สงสัยอยู่เลยว่าคนที่อายุมากๆ ร่างกายไม่แข็งแรงจะมาได้ไหม ดีนะรีบมาเที่ยวก่อนที่จะไม่มีแรง ^^

ระหว่างทางก็โทรจองทริปล่องแก่งสำหรับวันพรุ่งนี้ มาถึงสนามบินหาดใหญ่ตอนเที่ยง  แล้วก็รับรถที่เช่าไว้จากสนามบิน ขับไปตัวจังหวัดสตูล แวะซื้อไก่ทอดเดชาสาขาใหญ่ เป็นอาหารกลางวัน

ระหว่างทางก็แวะตลาดชายแดนและอุทยานแห่งชาติทะเลบัน ที่อุทยานมีเขียดว๊ากอาศัยอยู่ พอเข้าไปก็จะได้ยินเสียงมันร้องเต็มไปหมด

#จังหวัดสตูล
สิ่งที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นในการมาสตูลคือ การได้เห็นการใช้ชีวิตใหม่ๆ ได้เห็นมัสยิด การแต่งตัวของคนที่นี่ที่ไม่ใช่เรื่องธรรมดาเวลาอยู่ที่กรุงเทพ  และได้ลองอาหารท้องถิ่น สำหรับการแต่งตัวของเรา ก็ควรจะใส่กางเกงขายาว เพื่อให้เกียรติสถานที่ด้วยค่ะ

สำหรับที่พัก เราพักที่รร.เดอะวัน เป็นบูติคโฮเทล คืนละ 950 บาท อยู่ริมถนน พอไปถึงก็ยืมมอเตอไซต์ของโรงแรมมาขี่เล่นในตัวเมือง แวะตลาดโต้รุ่งพิพิธภัณฑ์เมืองสตูล แวะซื้อไก่ทอด "บังมีนเหนียวไก่ทอด" หน้าเซเว่น (เป็นร้านที่มาของ viral เหนียวไก่ เมื่อสามปีก่อน) กินโรตีร้านบังฟาน (ทริปนี้กินโรตีทุกวันเลย 55)  แต่ก็แอบพลาดไม่ได้ไปกินร้านอาหารน้องณี ที่เป็นร้านขายอาหารใต้ เพราะว่าอิ่มเหลือเกิน

วันที่สี่
ตอนเช้าตรู่ เรียกมอไซต์รับจ้างไปตลาดเทศบาล ที่เห็นแบบแปลกๆไปจากกรุงเทพก็มีขายสะตอ มีตลาดปลาทะเล ของแห้ง และก็อาหารท้องถื่นราคาถูก (จขกท ซื้อขนมจีนน้ำยาใต้ 10 บาท และข้าวแกงปลาห่อใบบัวอีก 10บาทมา และซื้อสะตอฝากป้าที่บ้าน)

แต่งตัวใส่ชุดเตรียมเล่นน้ำ แล้วขับรถออกจากตัวเมืองตอน 7:30 ไปที่น้ำตกวังทรายทอง จะถึงประมาณ 9 โมงเช้า เข้าไปติดต่อล่องแก่งที่รีสอร์ท ได้เริ่มล่องแก่งตอน 10 โมง  ส่วนตัวเคยไปล่องแก่งที่เพชรบุรีและนครนายกมาแล้ว บอกเลยว่าที่วังทรายทองนี่คือล่องแก่งของจริง เพราะเป็นแม่น้ำจริงๆ เรือล่มจริงๆ เจ็บก็จริงๆ  เราทำเรือล่มไป 3 รอบ ขาตั้งกล้องก็ตกหายไป แว่นกันแดดเป็นรอย เท้ากระแทกหินอีก แต่มันได้ความรู้สึกธรรมชาติมากกว่า ยิ่งจินตนาการว่า เรากำลังได้ล่องเรืออยู่กลางเทือกเขาบรรทัด ซึ่งเป็นเทือกเขาที่เราเคยได้ยินตอนเรียนสมัยมัธยม ก็รู้สึกดีมากเลย



เสร็จจากล่องแก่งก็เที่ยง ก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่รีสอร์ทและก็ขอผ้าเช็ดตัวรีสอร์ทด้วยเพราะไม่ได้เอาติกมาเลย  แล้วก็ทานอาหารที่รีสอร์ทก่อน ก่อนจะขับรถต่อไปที่ถ้ำภูผาเพชร ซึ่งเป็นถ้ำประเภทสวยงามที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆของโลก ต้องขึ้นบันไดไปปากถ้ำประมาณ 250 ขั้น พอเข้าไปข้างในจะมีไกด์นำเที่ยว แนะนำให้มีไกด์ไปด้วยเพราะข้างในใหญ่มากๆ และมีจุดสำคัญๆหลายอย่างที่มีข้อมูลน่ารับฟัง ถ้าโชคดีก็จะได้เจอช่วงที่แสงสอดเข้ามาในถ้ำ สวยงามมาก และจะเสียเวลากับการถ่ายรูปกับจุดนี้เยอะที่สุด

ออกจากถ้ำก็ประมาณสี่โมงเย็น ก็ขับรถไปนอนที่หาดใหญ่ เราไปนอนที่โรงแรมที่เห็นว่าเพิ่งสร้างเสร็จ คือ Siam Oriental ข้อดีคือมันใหม่มากๆ และวิวก็ดีได้เห็นเมืองหาดใหญ่ ที่เลือกที่นี่เพราะราคาไม่ได้แพงมากและกะจะนอนยาวๆสักคืน กลังจากที่ลุยมาหลายวัน

ที่หาดใหญ่ก็อย่างที่ทราบกันว่าของกินเยอะมากกกก เรากินอาหารใต้ที่ครัวชื่นสุข (ยำผักกูด ใบเหลียงผัก แกงคั่วปูใบชะพลู ไข่ทอด ปลาดุกฟู) และไปกินของหวานเป็นซาลาเปาทอดที่ร้านโกวอ้วน ทั้งหมดนี้หามาจากแอป FourSquare ทั้งนั้น และก็ไม่ผิดหวังเลย



วันที่ห้า
วันนี้ต้องบินไฟลท์เที่ยง ก็ได้นอนตื่นสายชาจพลังเต็มที่ และก็ขับรถไปแวะตลาดกิมหยง ไปซื้อไมโลคิวบ์อย่างรวดเร็ว ที่ตลาดกิมหยงหาที่จอดรถยากมาก ควรจะมีคนขับรถขับวนไปเรื่อยๆ แล้วเราก็รีบซื้อให้เสร็จจะประหยัดเวลามากกว่า

Tip คือ ก่อนส่งรถจริงๆก็มีปั๊มน้ำมันปตท.ในสนามบิน แต่ว่ามีแค่น้ำมันชนิด E20 และ sohol 95 เท่านั้น ไม่มี 91 ถ้าจะเติม 91 ก็ควรจะไปเติมจากข้างนอก

ทริปตะลุยสตูลก็จบเพียงเท่านี้ และก็อยากฝาก tips เล็กน้อยสำหรับการเดินทาง ดังนี้ค่ะ

1. เวลาแพคเสื้อผ้า ควรจะเตรียมเสื้อผ้าเผื่อไปเลยอย่างน้อย 1 ชุดจากที่แพลนเอาไว้ โดยเฉพาะชุดชั้นใน เพราะบางทีอาจมีกิจกรรมที่ไม่ได้คาดคิดเกิดขึ้นก็ได้
2. เนื่องจากเวลาเที่ยวของเรามีจำกัด เวลาเห็นอะไรน่าซื้อ ให้ซื้อไปเลย เพราะถ้าห่วงแต่เรื่องราคาอาจทำให้พลาดไม่ได้ซื้อไปเลย
3. เวลาซื้อของฝากก็ซื้อเกินจากที่นับเอาไว้ ดีกว่ามานั่งเสียดายทีหลังว่าให้ของฝากแก่คนสำคัญๆไม่ครบ
4. ถ้าอยากซึมซับความเป็นคนท้องถิ่น ให้เดินตลาดสดตอนเช้า และนั่งกินอาหารที่นั่น จะได้บรรยากาศมาก
5. การศึกษาประวัติในพิพิธภัณฑ์จะช่วยให้เราได้เรียนรู้ประวัติของชาติไทยไปในตัว

สุดท้ายนี้ ขอบคุณจังหวัดสตูลที่มีอากาศดีๆให้เราทุกวันเลย ถึงแม้จะอยู่ในช่วงหน้าฝน แต่ก็ไม่เจอฝนมาขัดขวางการเที่ยวของเรา   
ขอให้ทุกคนเที่ยวให้สนุกนะคะ