วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 14:00 น.“
„“พระพรหมเสนาบดี” โต้รัฐบาลคณะสงฆ์ไม่ได้แตกแยก ย้ำควรให้เกียรติพระสงฆ์ ส่งทหารไปตามวัดไม่เหมาะ แนะนึกถึงคุณความดีพระสงฆ์ส่วนใหญ่ทำเพื่อประชาชน สังคม ประเทศชาติ ขณะที่ประธานสภานิสิตมจร.ผนึกกำลังสภานิสิตทั่วประเทศ เตรียมแสดงท่าทีต่อรัฐบาล ส่วนพระสังฆาธิการ ฆราวาส พื้นที่อีสานฮึ่ม เจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติ 2 มาตรฐาน วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 14:00 น. วันนี้( 28 ก.พ.) พระพรหมเสนาบดี เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา เจ้าคณะภาค 7(เชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน)กล่าวถึงรัฐบาลไม่เชื่อมั่นมหาเถรสมาคม(มส.)และระบุว่า คณะสงฆ์ขัดแย้งแตกแยกว่า คณะสงฆ์ไม่ได้ขัดแย้งแตกแยกโดยเฉพาะ การเสนอนามสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์(ช่วงวรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เพื่อสถาปนา เป็นสมเด็จพระสังฆราช นั้นกรรมการมส.ทั้งฝ่ายธรรมยุตและฝ่ายมหานิกาย มีมติเห็นชอบร่วมกันตามพ.ร.บ.คณะสงฆ์พ.ศ.2505แก้ไขเพิ่มเติม 2535
ซึ่งการที่มส.มีมติเกี่ยวกับเรื่องสังฆราชออกไปแล้วฝ่ายรัฐบาลไม่ให้ความเชื่อถือก็ไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ที่สำคัญตนได้รับรายงานว่า มีทหารเข้าไปตามวัดต่างๆในพื้นที่ภาคเหนือก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ฝ่ายบ้านเมือง ทำไม่เหมาะสม ไม่ให้เกียรติคณะสงฆ์ไทยซึ่งคณะสงฆ์จะทำอะไร มีระบบมีพระธรรมวินัย ยึดพ.ร.บ.คณะสงฆ์และจริยาพระสังฆาธิการคอยกำกับอยากให้ระลึกถึงสิ่งที่พระสงฆ์ได้กระทำซึ่งล้วนแล้วแต่เพื่อประโยชน์ประชาชนสังคมและประเทศชาติ “ตอนนี้การเมืองเข้ามายุ่งเกี่ยวกับศาสนา ชาวบ้านประชาชนทั่วไปเขาดูออกว่า รัฐบาลกระทำอย่างไรกับคณะสงฆ์พยายามให้ประชาชนเห็นว่า คณะสงฆ์ขัดแย้งซึ่งความจริงไม่มีเลยเวลานี้จะให้คณะสงฆ์รวมพลังกันให้เห็นก็ได้และอยากจะบอกว่า พระสงฆ์มีแต่ธรรมะ ไม่มีศาสตราวุธ
อย่างไรก็ตาม ขอให้ฝ่ายบ้านเมืองให้เกียรติคณะสงฆ์กันบ้างให้นึกถึงคุณงามความดีที่คณะสงฆ์ได้ทำเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองหากเหตุการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไปความมั่นคงของสถาบันชาติศาสนา พระมหากษัตริย์จะอยู่ได้อย่างไร”พระพรหมเสนาบดีกล่าว ด้านพระปลัดนนท์ประธานสภานิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร.)กล่าวว่าขณะนี้สภานิสิตมจร.ได้ประสานไปยังสภานิสิตทุกวิทยาเขตทั่วประเทศแล้วเพื่อเตรียมแสดงท่าทีและจุดยืนต่อรัฐบาลในการไม่เชื่อถือมหาเถรสมาคม(มส.)ต่อองค์กรปกครองสูงสุดของคณะสงฆ์ไทยและปฏิบัติต่อคณะสงฆ์แบบเลือกปฏิบัติ รวมทั้งการส่งทหารมาดูและควบคุมนิสิตตามวิทยาเขตต่างๆเป็นการละเลิดต่อสิทธิของสถาบันการศึกษาเป็นการคุกคามทางอ้อมเนื่องจากพระนิสิตก็ไม่ได้ทำอะไรที่มีความรุนแรงอย่างไรก็ตามทางนิสิตมจร.จะประสานความร่วมมือกันว่าจะเดินหน้าอย่างไรในการปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา
"สำหรับเรื่องการคว่ำบาตรรัฐบาลอาตมาไม่ได้พูดลอยๆเนื่องจากคำว่าคว่ำบาตรมีอยู่ในพระไตรปิฎกฉบับหลวงภาษาไทยเล่มที่ 7โดยพระพุทธองค์ ได้ทรงบัญญัติไว้ว่าดูกรภิกษุทั้งหลายสงฆ์พึงคว่ำบาตรแก่อุบาสกผู้ประกอบด้วยองค์ 8 คือ1.ขวนขวายเพื่อมิใช่ลาภแห่งภิกษุทั้งหลาย2.ขวนขวายเพื่อมิใช่ประโยชน์แห่งภิกษุทั้งหลาย3.ขวนขวายเพื่ออยู่ไม่ได้แห่งภิกษุทั้งหลาย4. ด่าว่าเปรียบเปรยภิกษุทั้งหลาย5. ยุยงภิกษุทั้งหลายให้แตกกัน6.กล่าวติเตียนพระพุทธเจ้า7. กล่าวติเตียนพระธรรม8. กล่าวติเตียนพระสงฆ์ดูกรภิกษุทั้งหลายเราอนุญาตให้คว่ำบาตรแก่อุบาสกผู้ประกอบด้วยองค์8 นี้”ประธานสภานิสิตมจร.กล่าว ขณะที่พระมหาศิริศักดิ์สิริวุฑฺปัญฺญาเมธีรองประธานสภานิสิตมจร.วิทยาเขตขอนแก่น กล่าวว่าไม่เพียงเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลเท่านั้นที่มีทหารเข้าไปตามวัดและสถาบันการศึกษาอย่างมจร.แม้แต่ของแก่นบางหน่วยงานได้ส่งเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจ มาตามวัด และมหาวิทยาลัยสงฆ์มาถามว่า มีพระรูปใดไปชุมนุมที่พุทธมณฑลบ้างพร้อมสั่งเจ้าอาวาสห้ามไม่พระสงฆ์ออกนอกวัดหากคณะสงฆ์มีการจัดกิจกรรมอะไรในส่วนกลางเจ้าอาวาสจะมีความผิดไปด้วยทำให้พระสังฆาธิการสถานิสิตมจร.ขอนแก่นและพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ขอนแก่นไม่พอใจ ที่ได้รับการปฏิบัติแบบ2 มาตรฐานเพราะขณะที่พระบางรูปคนบางกลุ่มออกไปเคลื่อนไหวด่าคนนั้นคนนี้ แม้แต่พระมหาเถรในมส.ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารกลับอำนวยความสะดวก นอกจากนี้ขอถามถึงนายสุวพันธุ์ตันยุวรรธนะ ที่นายกรัฐมนตรีส่งมาให้ดูแลงานพระศาสนากลับไม่เชื่อถือคณะสงฆ์ท่านจะทำงานตรงนี้ได้อย่างไรด้วย“
อ่านต่อที่ :
http://www.dailynews.co.th/education/382521
“รองสมเด็จ”โต้รัฐบาลสงฆ์ไม่ได้แตกแยกย้ำให้เกียรติกันบ้าง | เดลินิวส์
„“พระพรหมเสนาบดี” โต้รัฐบาลคณะสงฆ์ไม่ได้แตกแยก ย้ำควรให้เกียรติพระสงฆ์ ส่งทหารไปตามวัดไม่เหมาะ แนะนึกถึงคุณความดีพระสงฆ์ส่วนใหญ่ทำเพื่อประชาชน สังคม ประเทศชาติ ขณะที่ประธานสภานิสิตมจร.ผนึกกำลังสภานิสิตทั่วประเทศ เตรียมแสดงท่าทีต่อรัฐบาล ส่วนพระสังฆาธิการ ฆราวาส พื้นที่อีสานฮึ่ม เจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติ 2 มาตรฐาน วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 14:00 น. วันนี้( 28 ก.พ.) พระพรหมเสนาบดี เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา เจ้าคณะภาค 7(เชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน)กล่าวถึงรัฐบาลไม่เชื่อมั่นมหาเถรสมาคม(มส.)และระบุว่า คณะสงฆ์ขัดแย้งแตกแยกว่า คณะสงฆ์ไม่ได้ขัดแย้งแตกแยกโดยเฉพาะ การเสนอนามสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์(ช่วงวรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เพื่อสถาปนา เป็นสมเด็จพระสังฆราช นั้นกรรมการมส.ทั้งฝ่ายธรรมยุตและฝ่ายมหานิกาย มีมติเห็นชอบร่วมกันตามพ.ร.บ.คณะสงฆ์พ.ศ.2505แก้ไขเพิ่มเติม 2535
ซึ่งการที่มส.มีมติเกี่ยวกับเรื่องสังฆราชออกไปแล้วฝ่ายรัฐบาลไม่ให้ความเชื่อถือก็ไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ที่สำคัญตนได้รับรายงานว่า มีทหารเข้าไปตามวัดต่างๆในพื้นที่ภาคเหนือก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ฝ่ายบ้านเมือง ทำไม่เหมาะสม ไม่ให้เกียรติคณะสงฆ์ไทยซึ่งคณะสงฆ์จะทำอะไร มีระบบมีพระธรรมวินัย ยึดพ.ร.บ.คณะสงฆ์และจริยาพระสังฆาธิการคอยกำกับอยากให้ระลึกถึงสิ่งที่พระสงฆ์ได้กระทำซึ่งล้วนแล้วแต่เพื่อประโยชน์ประชาชนสังคมและประเทศชาติ “ตอนนี้การเมืองเข้ามายุ่งเกี่ยวกับศาสนา ชาวบ้านประชาชนทั่วไปเขาดูออกว่า รัฐบาลกระทำอย่างไรกับคณะสงฆ์พยายามให้ประชาชนเห็นว่า คณะสงฆ์ขัดแย้งซึ่งความจริงไม่มีเลยเวลานี้จะให้คณะสงฆ์รวมพลังกันให้เห็นก็ได้และอยากจะบอกว่า พระสงฆ์มีแต่ธรรมะ ไม่มีศาสตราวุธ
อย่างไรก็ตาม ขอให้ฝ่ายบ้านเมืองให้เกียรติคณะสงฆ์กันบ้างให้นึกถึงคุณงามความดีที่คณะสงฆ์ได้ทำเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองหากเหตุการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไปความมั่นคงของสถาบันชาติศาสนา พระมหากษัตริย์จะอยู่ได้อย่างไร”พระพรหมเสนาบดีกล่าว ด้านพระปลัดนนท์ประธานสภานิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร.)กล่าวว่าขณะนี้สภานิสิตมจร.ได้ประสานไปยังสภานิสิตทุกวิทยาเขตทั่วประเทศแล้วเพื่อเตรียมแสดงท่าทีและจุดยืนต่อรัฐบาลในการไม่เชื่อถือมหาเถรสมาคม(มส.)ต่อองค์กรปกครองสูงสุดของคณะสงฆ์ไทยและปฏิบัติต่อคณะสงฆ์แบบเลือกปฏิบัติ รวมทั้งการส่งทหารมาดูและควบคุมนิสิตตามวิทยาเขตต่างๆเป็นการละเลิดต่อสิทธิของสถาบันการศึกษาเป็นการคุกคามทางอ้อมเนื่องจากพระนิสิตก็ไม่ได้ทำอะไรที่มีความรุนแรงอย่างไรก็ตามทางนิสิตมจร.จะประสานความร่วมมือกันว่าจะเดินหน้าอย่างไรในการปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา
"สำหรับเรื่องการคว่ำบาตรรัฐบาลอาตมาไม่ได้พูดลอยๆเนื่องจากคำว่าคว่ำบาตรมีอยู่ในพระไตรปิฎกฉบับหลวงภาษาไทยเล่มที่ 7โดยพระพุทธองค์ ได้ทรงบัญญัติไว้ว่าดูกรภิกษุทั้งหลายสงฆ์พึงคว่ำบาตรแก่อุบาสกผู้ประกอบด้วยองค์ 8 คือ1.ขวนขวายเพื่อมิใช่ลาภแห่งภิกษุทั้งหลาย2.ขวนขวายเพื่อมิใช่ประโยชน์แห่งภิกษุทั้งหลาย3.ขวนขวายเพื่ออยู่ไม่ได้แห่งภิกษุทั้งหลาย4. ด่าว่าเปรียบเปรยภิกษุทั้งหลาย5. ยุยงภิกษุทั้งหลายให้แตกกัน6.กล่าวติเตียนพระพุทธเจ้า7. กล่าวติเตียนพระธรรม8. กล่าวติเตียนพระสงฆ์ดูกรภิกษุทั้งหลายเราอนุญาตให้คว่ำบาตรแก่อุบาสกผู้ประกอบด้วยองค์8 นี้”ประธานสภานิสิตมจร.กล่าว ขณะที่พระมหาศิริศักดิ์สิริวุฑฺปัญฺญาเมธีรองประธานสภานิสิตมจร.วิทยาเขตขอนแก่น กล่าวว่าไม่เพียงเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลเท่านั้นที่มีทหารเข้าไปตามวัดและสถาบันการศึกษาอย่างมจร.แม้แต่ของแก่นบางหน่วยงานได้ส่งเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจ มาตามวัด และมหาวิทยาลัยสงฆ์มาถามว่า มีพระรูปใดไปชุมนุมที่พุทธมณฑลบ้างพร้อมสั่งเจ้าอาวาสห้ามไม่พระสงฆ์ออกนอกวัดหากคณะสงฆ์มีการจัดกิจกรรมอะไรในส่วนกลางเจ้าอาวาสจะมีความผิดไปด้วยทำให้พระสังฆาธิการสถานิสิตมจร.ขอนแก่นและพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ขอนแก่นไม่พอใจ ที่ได้รับการปฏิบัติแบบ2 มาตรฐานเพราะขณะที่พระบางรูปคนบางกลุ่มออกไปเคลื่อนไหวด่าคนนั้นคนนี้ แม้แต่พระมหาเถรในมส.ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารกลับอำนวยความสะดวก นอกจากนี้ขอถามถึงนายสุวพันธุ์ตันยุวรรธนะ ที่นายกรัฐมนตรีส่งมาให้ดูแลงานพระศาสนากลับไม่เชื่อถือคณะสงฆ์ท่านจะทำงานตรงนี้ได้อย่างไรด้วย“
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/education/382521