เห็นประกาศไม่ลงชื่อ.. แต่รู้ว่ามีการประชุมและส่งมติต่อไปยัง พศ. ก็ต้องสืบต่อจาก พศ.จ.ขอนแก่นนั่นแหละ

พบการใช้คณะสงฆ์จังหวัดขอนแก่นในการประชุมสามัญที่จัดโดย พศ. ประธานคือเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น พระราชปริยัติโสภณ ซึ่งในเว็บไซต์ตามลิงก์นี้จะเห็นทั้งภาพและการใช้คำว่าคณะสงฆ์จังหวัดขอนแก่น
http://kkn.onab.go.th/index.php?option=com_content&view=article&id=460:2016-03-04-10-14-21&catid=41:2008-10-29-14-40-50&Itemid=155

มาดูกันครับว่าเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่นเหตุใดถึงรับลูกเรื่องนี้ในกรณีพุทธอิสระ.. ก็ถึงบางอ้อ.. ที่แท้เครือข่ายเฮียประสานงานี่เอง.. ใช้มุกเดียวกับตอนเครือข่ายวัดปากน้ำฮึ่มปลดบิ๊กต๊อก

เจ้าคณะจ.ขอนแก่นยื่น 15 ข้อ ′บิ๊กตู่′ ชงปฏิรูปพุทธฯ รวม ′มหานิกาย-ธรรมยุต′
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1432653275

พระราชปริยัติโสภณ (ถนอม ชินวงฺโส) เจ้าคณะจังหวัด (จจ.) ขอนแก่น เจ้าอาวาสวัดหนองกุง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เปิดเผยภายหลังจากได้รับหนังสือ เรื่อง "การเตรียมกฎหมายเก็บภาษีพระ และตรวจสอบทรัพย์สินของวัด" จากพระเมธีธรรมาจารย์ (ประสาร จนฺทสาโร) รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ที่ปรึกษาสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา (สนพ.) ภายหลังนายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้รายงาน สปช.และคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดย ครม.ได้มอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนา (พศ.) นำไปศึกษา และส่งรายงานกลับใน 30 วัน ว่าหลังได้รับหนังสือ อาตมาคิดว่าเรื่องเก็บภาษีพระและวัด น่าจะมาจากเรื่องห้ามพระจับต้องเงิน ซึ่งเป็นเรื่องที่คณะกรรมการปฏิรูปฯ ชุดนายไพบูลย์เสนอไว้ในแนวทางปฏิรูปพระพุทธศาสนา ซึ่งพระวินัยอาจระบุว่าถ้าพระสงฆ์จับต้องเงินต้องอาบัติ แต่เนื่องจากยุคสมัยเปลี่ยนไป เงินจึงเป็นปัจจัยที่จำเป็นสำหรับสมณเพศ เพื่อเก็บสำรองไว้ใช้ในเรื่องส่วนรวมและส่วนตัว เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทาง เป็นต้น เนื่องจากรัฐไม่ได้ออกกฎหมายให้สิทธิพิเศษในเรื่องนี้ พระสงฆ์จึงต้องรับปัจจัยจากญาติโยมมาใช้จ่ายในกิจการของคณะสงฆ์ แม้การรับเงินบริจาค หรือเงินจากญาติโยมเป็นอาบัติ แต่เป็นอาบัติเพียงเล็กน้อย ไม่ใช่เรื่องรุนแรง สามารถปลงอาบัติได้ ทั้งนี้ อยากให้คณะกรรมการปฏิรูปฯหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลวัดต่างจังหวัดบ้าง ลำพังค่านิตยภัตของเจ้าอาวาสยังไม่พอจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ

พระราชปริยัติโสภณกล่าวอีกว่า อาตมาจึงได้เสนอแนวทางการปฏิรูปพระพุทธศาสนา ส่งไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 15 ข้อ ดังนี้ 1.ให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ 2.ให้รวมมหานิกายและธรรมยุตนิกายเป็นคณะเดียวกัน 3.ผู้ที่ทำงานราชการต้องสวดมนต์ได้ตามที่กำหนดไว้ 4.ผู้ที่เข้าทำงานต้องปฏิบัติตามทศพิธราชธรรมและธรรมาภิบาล 5.พระภิกษุสามเณรมีสิทธิในการเลือกตั้ง 6.วัดไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายประจำวัน เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ 7.ค่าภัตตาหารสำหรับพระภิกษุสามเณรทั้งในวัดและนอกวัดฟรี 8.ค่าเดินทางสำหรับพระภิกษุสามเณรฟรี 9.รัฐบาลให้งบประมาณสนับสนุนในการสร้างศาสนสถาน เช่น โบสถ์ ศาลา เป็นต้น 10.พระภิกษุสามเณรรักษาที่โรงพยาบาลฟรี 11.พระภิกษุสามเณรใช้เครื่องมือสื่อสารฟรี 12.รัฐบาลเป็นผู้ออกค่าจ่ายในการเดินทางออกไปปฏิบัติศาสนกิจของพระธรรมทูตทั้งในประเทศและต่างประเทศ 13.พระภิกษุสามเณรไปบรรยายธรรมนอกสถานที่รัฐต้องออกค่าใช้จ่ายให้ 14.รัฐต้องออกค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ให้พระภิกษุสามเณรที่เรียนระดับอุดมศึกษา และ 15.ผู้ใดดูหมิ่นพระสงฆ์ไทยที่ประพฤติดีปฏิบัติชอบ ต้องจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากรัฐบาลนำข้อเสนอนี้ไปร่างเป็นกฎหมายได้ พระสงฆ์ก็ไม่จำเป็นที่จะจับต้องเงินหรือพกเงินติดตัว

--------------
จบข่าว