ก่อนอื่นขอกราบสวีดักพ่อแม่พี่น้องทุกท่าน
กระผ้มประมุขพรรคมารเจ้าเก่ากลับมาอีกครั้งกับการรีวิวอาหาร.....
แต่หากผมมารีวิวส่วนใหญ่จะเน้นด่า ประจานหนักๆ หน่อยนี่โดนตามถีบมาหลายรอบแล้ว (ก็รีวิวในนิตยสารไม่สะใจอ่ะเลยต้องมาระบายบในพันดริฟนี่แหละ)
อารมณ์ประมาณว่า เอาล่ะเห็นชื่อ
นนี่แม่มต้องมีขึ้นเขียง แต่สำหรับร้านนี้เป็นข้อยกเว้นครับ
ร้าน Sushi Mania ตั้งอยู่ที่เดียวกับร้านบ้านญวนหน้าซอยรามคำแหง ๖๔ มีที่จอดรถเพียบทั้งด้านหน้าและด้านหลังร้าน
เมนูแรกจัดไปครัช แซลมอล ซาซิมิ
ร้านนี้ผมไม่มีความคิดจะมากินแต่อย่างใดเลย จนกระทั้งน้องชาย (ไอ้คนในรูป) มันแนะนำว่า "โหยเด็ดเพ่" ผมต้องถ่อจากประชาชื่นมารามเพื่อกินมื้อเดียวแล้วขับกลับเป็นชั่วโมงด้วยเหตุผลเพราะ "เมนูซาซิมิแซลมอล ๑๓๕ บาท ๕ ชิ้นอูมๆ" เท่านั้นแหละเลิกต้องไปลอง พอลองแล้วไม่ผิดหวังครับ แม่มอูมจริงๆ แซลมอลกินแผ่นบางๆ เท่าจิมิมดมันจะไปรู้เรื่องอะไรเล่าเฮ้ย มันต้องหย่ายหย่ายเต็มคำถึงสัมผัสได้ถึงรสอูมามิ แต่ในรูปผมสั่ง ๔ set ในจานเดียวนะครับ
ซูชิตับห่าน
ผมกินตับห่านมาเยอะนะ (แน่นอนว่าส่วนใหญ่กินฟรี) แต่ไม่เคยลองตับห่านในรูปแบบซูชิเหมือนกัน กินไปคำแรกเหยดโด้โดเรม่อนขอสอง ตับแม่มแตกในปากครัช ดังโป๊ะ (เสียงเดียวกับดาราเอวีกำลังกินไส้กรอกแล้วชักออกจากปากด้วยความรวดเร็วแล้วปลายไส้กรอกฟาดกระพุ้งแก้มดังโป๊ะนั่นแหละ) ใครจะไปคิดว่าตับห่านมันโคตรจะเข้ากับข้าวญี่ปุ่นเพียงนี้ ละลายในปากของจริงครับ เมนูนี้แนะนำว่าไม่ต้องจิ้มกับโชยุนะ กินมันทั้งงั้นเลยจะได้ลิ้มความลึกของลูกผสมฝรั่งเศษญี่ปุ่น (ออกมาดูดีและรสชาติน่าลิ้มชิมรสเหมือนกำลังละเลียดกินน้องไอดอลลูกครึ่งญี่ปุ่นอย่าง Leah Dizon ยังไงอย่างงั้น)
เผื่อไม่เห็นภาพ
ซูชิกุ้งหวานโบตั๋น
เมนูนี้สำหรับผมยังไม่ผ่านนะครับ รสหวานจากน้ำซอสมันกลบความสดใหม่และความหอมปนคาวน้ำทะเลไปหมด แต่โดยรวมถือว่าโอเค (แต่ที่แน่ๆ ถ่ายรูปสวยมากเมนูนี้)
ซูชิเนื้อวากิวโปะฟัวกรา *แนะนำ*
เมนูนี้ผมสั่งซ้ำ ๒ รอบอ่ะคิดดู การย่างด้วยไฟอ่อนเบาๆ ให้พอมีกลิ่นหอมผสมผสานกับน้ำเจี้ยวหวาน "เฮ้ย" น้ำจิ้มหวานสูตรทางร้านที่ทำเองสดๆ ใหม่ๆ ผนวกกับความนุ่มลิ้นของฟัวกราที่ละลายไปพร้อมกับรสเนื้อและข้าวอย่างพอดิบพอดี เป็นการวางสัดส่วนจนแทบจะเรียกได้ว่าเกือบเป็นสัดส่วนทอง (๓๐ - ๗๐) ใครมาร้านนี้แล้วชอบทานเนื้อ เมนูนี้ห้ามพลาดเป็นเด็ดขาด เสนาะเง่าลิ้นสุด
ข้าวหน้าปลาไหล ๒ สายพันธุ์
ไม่ต้องมาถามว่าสายพันธุ์ไหน เพราะผมถามแล้วเค้าบอกว่าสายพันธุ์ทะเล ผมไม่ใช่คนละเอียดเรื่องข้อมูล แต่เห็นชื่อเมนูมันยั่วยุเชิญให้ถาม ไอ้เราก็ถามเพราะนึกว่าตั้งใจตั้งชื่อเพื่อเป็นกิมมิคอธิบายที่มาที่ไปของอาหารซะงั้น เออGuขอโทษเข้าใจผิดไปเอง จานนี้เสริฟเป็นมินิด้ง แต่กินเข้าไปอย่างอิ่มจ้า ปลาไหลถือเป็นอาหารที่ไม่ว่าจะกินที่ไหนต้องจัดว่าไฮโซครับ แต่ในทางกลับกันถ้าย่างเสียหรือทำไม่เป็นจนเนื้อแข็งแดรกไม่ได้ก็เสียของ เหมือนเอาเหล็กน้ำพี้มาตีเป็นช้อนส้อมแทนที่จะตีเป็นกระบี่แสนคม แต่ร้านนี้ถือว่าทำได้ดีครับ อร่อยใช้ได้ ความฉลาดคือการราดน้ำซอสเฉพาะตรงกลางถ้วยเพื่อให้มันซึมลงก้นเวลากินมันจะพอดิบพอดีกับการหมดของปลาไหล
ข้าวหน้าตับห่านไข่ปลาแซลมอล
สำหรับท่านที่ยังติดใจตับห่านและอยากกินแบบเน้นๆ ต้องโดนครับต้องโดนจานนี้ ตับห่านยังคงคุณภาพเหมือนซูชิ คือรสเหมือนกันแต่เจือจางตรงที่ข้าวญี่ปุ่นมันเยอะกว่าเท่านั้นเอง เพิ่มเติมคือไข่ปลาแซลมอลนี่ความคาวมันตัดความหวานน้ำมันหยดจากตับห่านได้ลงตัวพอดี
ซูชิปลาฮามาจิ
เห็นทางร้านแจ้งมาว่าปลาฮามาจิพึ่งเข้าเมื่อวานเลยจัดซิฮะ เมนูใช้ได้ครับ เป็นรสดั้งเดิมของซูชิ ซึ่งหมายถึงซูชิคือการทำอาหารเพื่อขับเน้นรสชาติปลา "มิใช่ปรุงแต่ง" นี่คือความหมายของซูชินอกจากเป็นการถนอมอาหารอย่างเดียว ฉะนั้นซูชิดั้งเดิมจึงมีแค่ข้าวกับปลาและเทคนิคการปั้นและหุงข้างของเชฟนั้นๆ เมนูนี้ผ่านครับปลาฮามาจิอร่อย ที่แอบเห็นคือมีวาซาบิสดวางเล็กๆ ตรงกลางเนื้อปลาพอแตะกลิ่น ชอบๆ ใส่ใจรายละเอียดดีครับ
ซูชิหน้าคลีบปลาตาเดียว
ผมชอบกินอะไรมันๆ อยู่แล้ว อารมณ์แบบอาหารคลีนอย่าหวังได้กินGuและเมนูปิดท้ายที่ดีคือซูชิที่จะทำให้รสคาปากสลายอย่างปลาตาเดียว นำส่วนคลีลที่เป็นส่วนที่ปลาขับเคลื่อนไหวจึงมีเนื้อและไขมันแทรกละม้ายคล้ายช่วงท้องปลาหรือแก้มปลา แต่คำโต สะใจ ลิ้มรสเต็มเหนี่ยว เมนูนี้ขอแนะนำให้นำวาซาบิสดแปะที่ชิ้นปลาก่อนค่อยจิ้มโชยุ (นิสัยคนไทยคือเอาวาซาบิไปละเลงโชยุแต่ก็ไม่ว่ากันครับ แต่เมนูนี้ผมแนะนำวิธีการกินแบบนี้เวิร์คมากมันตัดเลี่ยนได้ดี)
ความเจ๋งอีกอย่างคือร้านนี้ขูดวาซาบิสดและทำโชยุเองครับ ไม่มักง่ายไปซื้อโชยุขวดแบบร้านอาหารญี่ปุ่นตามห้างนิยมทำ และน้ำซอสร้านนี้อร่อยหมดแปลได้ว่าน้ำซอสทั้งหลาย (ซึ่งรวมถึงน้ำสลัดด้วย) ทางร้านทำเอง ซึ่งคิดถูกแล้วครับ ราคาและมาตราฐานจะเป็นตัวกำหนดคุณภาพ ซึ่งการใส่ใจอาหารแบบเสริฟต่อเสริฟ คำต่อคำ เป็นสิ่งที่เชฟญี่ปุ่นควรพึงมี
เมนูสุดท้ายที่แปะเป็นเมนูล้างปากที่ทางร้านจัดให้ฟรีครับ น่ารักมากๆ เลยกับกิมมิคใส่ขวดแก้วและไม่ใช่คิดแค่ให้มันออกมาน่ารักอย่างเดียว ยังคำนึงต่อว่ามันจะแดรกยังไง เพราะมีการแยกโชยุเป็นแบบหลอดบีบให้สะดวกต่อการกินมากๆ เยี่ยมครับ
สรุปร้านนี้อร่อยครับ ผมจะเพิ่มร้านนี้เป็นร้านประจำวำหรับการกินอาหารญี่ปุ่นในลิส สำหรับราคาร้านนี้จะมีโปร "ตามใจฉัน" คือจะลดแล้วแต่สะดวก ๓๐ - ๕๐ เปอร์เซ็นต์เป็นเทคนิคการดึงลูกค้าใหม่คีปลูกค้าเก่า และหากทานครบ ๖๐๐๐ จะมีบัตรสมาชิกให้ลด ๑๐% สำหรับเมนูที่ไม่ลดราคา แต่ส่วนตัวนะ รสชาติขนาดนี้ ผมไม่สนเรื่องส่วนลดเท่าไหร่หรอกครับ แต่ลดเยอะๆ ก็ดี ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
จบการรีวิวร้านอาหาร Sushi Mania เพียงเท่านี้ เมนูสุดท้ายสั่งกินเล่นระหว่างคุยกันบนโต๊ะชิลๆ ตามประสาประมุขพรรคมาร รักในหลวง
สวัส D ครับ facebook.com/1000master
[CR] Sushi Mania อร่อยจริงไม่ล้อเล่น
ก่อนอื่นขอกราบสวีดักพ่อแม่พี่น้องทุกท่าน
กระผ้มประมุขพรรคมารเจ้าเก่ากลับมาอีกครั้งกับการรีวิวอาหาร.....
แต่หากผมมารีวิวส่วนใหญ่จะเน้นด่า ประจานหนักๆ หน่อยนี่โดนตามถีบมาหลายรอบแล้ว (ก็รีวิวในนิตยสารไม่สะใจอ่ะเลยต้องมาระบายบในพันดริฟนี่แหละ)
อารมณ์ประมาณว่า เอาล่ะเห็นชื่อนนี่แม่มต้องมีขึ้นเขียง แต่สำหรับร้านนี้เป็นข้อยกเว้นครับ
ร้าน Sushi Mania ตั้งอยู่ที่เดียวกับร้านบ้านญวนหน้าซอยรามคำแหง ๖๔ มีที่จอดรถเพียบทั้งด้านหน้าและด้านหลังร้าน
เมนูแรกจัดไปครัช แซลมอล ซาซิมิ
ร้านนี้ผมไม่มีความคิดจะมากินแต่อย่างใดเลย จนกระทั้งน้องชาย (ไอ้คนในรูป) มันแนะนำว่า "โหยเด็ดเพ่" ผมต้องถ่อจากประชาชื่นมารามเพื่อกินมื้อเดียวแล้วขับกลับเป็นชั่วโมงด้วยเหตุผลเพราะ "เมนูซาซิมิแซลมอล ๑๓๕ บาท ๕ ชิ้นอูมๆ" เท่านั้นแหละเลิกต้องไปลอง พอลองแล้วไม่ผิดหวังครับ แม่มอูมจริงๆ แซลมอลกินแผ่นบางๆ เท่าจิมิมดมันจะไปรู้เรื่องอะไรเล่าเฮ้ย มันต้องหย่ายหย่ายเต็มคำถึงสัมผัสได้ถึงรสอูมามิ แต่ในรูปผมสั่ง ๔ set ในจานเดียวนะครับ
ซูชิตับห่าน
ผมกินตับห่านมาเยอะนะ (แน่นอนว่าส่วนใหญ่กินฟรี) แต่ไม่เคยลองตับห่านในรูปแบบซูชิเหมือนกัน กินไปคำแรกเหยดโด้โดเรม่อนขอสอง ตับแม่มแตกในปากครัช ดังโป๊ะ (เสียงเดียวกับดาราเอวีกำลังกินไส้กรอกแล้วชักออกจากปากด้วยความรวดเร็วแล้วปลายไส้กรอกฟาดกระพุ้งแก้มดังโป๊ะนั่นแหละ) ใครจะไปคิดว่าตับห่านมันโคตรจะเข้ากับข้าวญี่ปุ่นเพียงนี้ ละลายในปากของจริงครับ เมนูนี้แนะนำว่าไม่ต้องจิ้มกับโชยุนะ กินมันทั้งงั้นเลยจะได้ลิ้มความลึกของลูกผสมฝรั่งเศษญี่ปุ่น (ออกมาดูดีและรสชาติน่าลิ้มชิมรสเหมือนกำลังละเลียดกินน้องไอดอลลูกครึ่งญี่ปุ่นอย่าง Leah Dizon ยังไงอย่างงั้น)
เผื่อไม่เห็นภาพ
ซูชิกุ้งหวานโบตั๋น
เมนูนี้สำหรับผมยังไม่ผ่านนะครับ รสหวานจากน้ำซอสมันกลบความสดใหม่และความหอมปนคาวน้ำทะเลไปหมด แต่โดยรวมถือว่าโอเค (แต่ที่แน่ๆ ถ่ายรูปสวยมากเมนูนี้)
ซูชิเนื้อวากิวโปะฟัวกรา *แนะนำ*
เมนูนี้ผมสั่งซ้ำ ๒ รอบอ่ะคิดดู การย่างด้วยไฟอ่อนเบาๆ ให้พอมีกลิ่นหอมผสมผสานกับน้ำเจี้ยวหวาน "เฮ้ย" น้ำจิ้มหวานสูตรทางร้านที่ทำเองสดๆ ใหม่ๆ ผนวกกับความนุ่มลิ้นของฟัวกราที่ละลายไปพร้อมกับรสเนื้อและข้าวอย่างพอดิบพอดี เป็นการวางสัดส่วนจนแทบจะเรียกได้ว่าเกือบเป็นสัดส่วนทอง (๓๐ - ๗๐) ใครมาร้านนี้แล้วชอบทานเนื้อ เมนูนี้ห้ามพลาดเป็นเด็ดขาด เสนาะเง่าลิ้นสุด
ข้าวหน้าปลาไหล ๒ สายพันธุ์
ไม่ต้องมาถามว่าสายพันธุ์ไหน เพราะผมถามแล้วเค้าบอกว่าสายพันธุ์ทะเล ผมไม่ใช่คนละเอียดเรื่องข้อมูล แต่เห็นชื่อเมนูมันยั่วยุเชิญให้ถาม ไอ้เราก็ถามเพราะนึกว่าตั้งใจตั้งชื่อเพื่อเป็นกิมมิคอธิบายที่มาที่ไปของอาหารซะงั้น เออGuขอโทษเข้าใจผิดไปเอง จานนี้เสริฟเป็นมินิด้ง แต่กินเข้าไปอย่างอิ่มจ้า ปลาไหลถือเป็นอาหารที่ไม่ว่าจะกินที่ไหนต้องจัดว่าไฮโซครับ แต่ในทางกลับกันถ้าย่างเสียหรือทำไม่เป็นจนเนื้อแข็งแดรกไม่ได้ก็เสียของ เหมือนเอาเหล็กน้ำพี้มาตีเป็นช้อนส้อมแทนที่จะตีเป็นกระบี่แสนคม แต่ร้านนี้ถือว่าทำได้ดีครับ อร่อยใช้ได้ ความฉลาดคือการราดน้ำซอสเฉพาะตรงกลางถ้วยเพื่อให้มันซึมลงก้นเวลากินมันจะพอดิบพอดีกับการหมดของปลาไหล
ข้าวหน้าตับห่านไข่ปลาแซลมอล
สำหรับท่านที่ยังติดใจตับห่านและอยากกินแบบเน้นๆ ต้องโดนครับต้องโดนจานนี้ ตับห่านยังคงคุณภาพเหมือนซูชิ คือรสเหมือนกันแต่เจือจางตรงที่ข้าวญี่ปุ่นมันเยอะกว่าเท่านั้นเอง เพิ่มเติมคือไข่ปลาแซลมอลนี่ความคาวมันตัดความหวานน้ำมันหยดจากตับห่านได้ลงตัวพอดี
ซูชิปลาฮามาจิ
เห็นทางร้านแจ้งมาว่าปลาฮามาจิพึ่งเข้าเมื่อวานเลยจัดซิฮะ เมนูใช้ได้ครับ เป็นรสดั้งเดิมของซูชิ ซึ่งหมายถึงซูชิคือการทำอาหารเพื่อขับเน้นรสชาติปลา "มิใช่ปรุงแต่ง" นี่คือความหมายของซูชินอกจากเป็นการถนอมอาหารอย่างเดียว ฉะนั้นซูชิดั้งเดิมจึงมีแค่ข้าวกับปลาและเทคนิคการปั้นและหุงข้างของเชฟนั้นๆ เมนูนี้ผ่านครับปลาฮามาจิอร่อย ที่แอบเห็นคือมีวาซาบิสดวางเล็กๆ ตรงกลางเนื้อปลาพอแตะกลิ่น ชอบๆ ใส่ใจรายละเอียดดีครับ
ซูชิหน้าคลีบปลาตาเดียว
ผมชอบกินอะไรมันๆ อยู่แล้ว อารมณ์แบบอาหารคลีนอย่าหวังได้กินGuและเมนูปิดท้ายที่ดีคือซูชิที่จะทำให้รสคาปากสลายอย่างปลาตาเดียว นำส่วนคลีลที่เป็นส่วนที่ปลาขับเคลื่อนไหวจึงมีเนื้อและไขมันแทรกละม้ายคล้ายช่วงท้องปลาหรือแก้มปลา แต่คำโต สะใจ ลิ้มรสเต็มเหนี่ยว เมนูนี้ขอแนะนำให้นำวาซาบิสดแปะที่ชิ้นปลาก่อนค่อยจิ้มโชยุ (นิสัยคนไทยคือเอาวาซาบิไปละเลงโชยุแต่ก็ไม่ว่ากันครับ แต่เมนูนี้ผมแนะนำวิธีการกินแบบนี้เวิร์คมากมันตัดเลี่ยนได้ดี)
ความเจ๋งอีกอย่างคือร้านนี้ขูดวาซาบิสดและทำโชยุเองครับ ไม่มักง่ายไปซื้อโชยุขวดแบบร้านอาหารญี่ปุ่นตามห้างนิยมทำ และน้ำซอสร้านนี้อร่อยหมดแปลได้ว่าน้ำซอสทั้งหลาย (ซึ่งรวมถึงน้ำสลัดด้วย) ทางร้านทำเอง ซึ่งคิดถูกแล้วครับ ราคาและมาตราฐานจะเป็นตัวกำหนดคุณภาพ ซึ่งการใส่ใจอาหารแบบเสริฟต่อเสริฟ คำต่อคำ เป็นสิ่งที่เชฟญี่ปุ่นควรพึงมี
เมนูสุดท้ายที่แปะเป็นเมนูล้างปากที่ทางร้านจัดให้ฟรีครับ น่ารักมากๆ เลยกับกิมมิคใส่ขวดแก้วและไม่ใช่คิดแค่ให้มันออกมาน่ารักอย่างเดียว ยังคำนึงต่อว่ามันจะแดรกยังไง เพราะมีการแยกโชยุเป็นแบบหลอดบีบให้สะดวกต่อการกินมากๆ เยี่ยมครับ
สรุปร้านนี้อร่อยครับ ผมจะเพิ่มร้านนี้เป็นร้านประจำวำหรับการกินอาหารญี่ปุ่นในลิส สำหรับราคาร้านนี้จะมีโปร "ตามใจฉัน" คือจะลดแล้วแต่สะดวก ๓๐ - ๕๐ เปอร์เซ็นต์เป็นเทคนิคการดึงลูกค้าใหม่คีปลูกค้าเก่า และหากทานครบ ๖๐๐๐ จะมีบัตรสมาชิกให้ลด ๑๐% สำหรับเมนูที่ไม่ลดราคา แต่ส่วนตัวนะ รสชาติขนาดนี้ ผมไม่สนเรื่องส่วนลดเท่าไหร่หรอกครับ แต่ลดเยอะๆ ก็ดี ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
จบการรีวิวร้านอาหาร Sushi Mania เพียงเท่านี้ เมนูสุดท้ายสั่งกินเล่นระหว่างคุยกันบนโต๊ะชิลๆ ตามประสาประมุขพรรคมาร รักในหลวง
สวัส D ครับ facebook.com/1000master