updated: 23 ก.พ. 2559 เวลา 13:12:00 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
ดูเหมือนว่า มาตรการปรับดอกเบี้ยเงินฝากติดลบของธนาคารกลางญี่ปุ่น (Bank of Japan: BOJ) ซึ่งปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของเงินที่ธนาคารพาณิชย์ในญี่ปุ่นฝากไว้กับ BOJ จากเดิมที่ 0.1% มาเป็นการกำหนดอัตราดอกเบี้ย 3 ขั้น ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำที่สุดอยู่ที่ -0.1% (อัตราดอกเบี้ย 3 ขั้น ได้แก่ 0.1%, 0% และ -0.1% ขึ้นอยู่กับปริมาณเงินที่ธนาคารพาณิชย์ในญี่ปุ่นฝากไว้กับ BOJ) โดยหวังบีบให้ผู้คนนำเงินออกไปหมุนเวียนใช้นั้นจะให้ผลตรงข้าม
ล่าสุด สำนักข่าววอลสตรีทเจอนัล รายงานว่า ชาวญี่ปุ่นกำลังแห่กันไปซื้อตู้เซฟจากร้านฮาร์ดแวร์เพื่อเก็บเงินสดของตน ส่งผลให้สินค้าเริ่มขาดตลาด โดยบริษัท ชิมะชู ผู้บริหารเชนร้านฮาร์ดแวร์ "ชิมะชู" เปิดเผยว่า ยอดขายตู้เซฟช่วงวันที่ 15-21 ก.พ. ที่ผ่านมาพุ่งสูงขึ้นถึง 2.5 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยขณะนี้ตู้เซฟรุ่นหนึ่งราคา 78,000 เยน ขาดตลาดแล้ว และอาจไม่มีสินค้าเข้ามาอีกกว่า 1 เดือน
"มาตรการดอกเบี้ยติดลบนี้ ทำให้ผู้สูงอายุหลายคนคิดจะเก็บเงินเอาไว้ที่บ้านแทนการฝากธนาคาร" มาริโกะ ชิโมคาวะ พนักงานขายของร้านชิมะชู สาขาหนึ่งทางด้านตะวันออกของโตเกียวกล่าว
สอดคล้องกับความเห็นของ คาซูโอะ มัสสึโมโตะ วัย 64 ปี ลูกค้าของร้านชิมะชู ที่กล่าวว่า แม้ตนจะไม่ซื้อเซฟเพื่อเก็บเงินสด แต่จะนำเงินไปซื้อทองคำ และเก็บไว้ในตู้นิรภัยที่ตนเช่าไว้แทน
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวของ BOJ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีลดลงเหลือ -0.005% หรือเท่ากับผู้ลงทุนจะเสียเงินแทน เช่นเดียวกับธนาคารซูมิโมโตะ มิตซุยที่ลดดอกเบี้ยเงินฝากจาก 0.02% ต่อปีเป็น 0.001% ต่อปี
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1456207975
ชาวญี่ปุ่นแห่ซื้อตู้เซฟ เก็บเงินสดหนีดอกเบี้ยเงินฝากติดลบ
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
ดูเหมือนว่า มาตรการปรับดอกเบี้ยเงินฝากติดลบของธนาคารกลางญี่ปุ่น (Bank of Japan: BOJ) ซึ่งปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของเงินที่ธนาคารพาณิชย์ในญี่ปุ่นฝากไว้กับ BOJ จากเดิมที่ 0.1% มาเป็นการกำหนดอัตราดอกเบี้ย 3 ขั้น ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำที่สุดอยู่ที่ -0.1% (อัตราดอกเบี้ย 3 ขั้น ได้แก่ 0.1%, 0% และ -0.1% ขึ้นอยู่กับปริมาณเงินที่ธนาคารพาณิชย์ในญี่ปุ่นฝากไว้กับ BOJ) โดยหวังบีบให้ผู้คนนำเงินออกไปหมุนเวียนใช้นั้นจะให้ผลตรงข้าม
ล่าสุด สำนักข่าววอลสตรีทเจอนัล รายงานว่า ชาวญี่ปุ่นกำลังแห่กันไปซื้อตู้เซฟจากร้านฮาร์ดแวร์เพื่อเก็บเงินสดของตน ส่งผลให้สินค้าเริ่มขาดตลาด โดยบริษัท ชิมะชู ผู้บริหารเชนร้านฮาร์ดแวร์ "ชิมะชู" เปิดเผยว่า ยอดขายตู้เซฟช่วงวันที่ 15-21 ก.พ. ที่ผ่านมาพุ่งสูงขึ้นถึง 2.5 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยขณะนี้ตู้เซฟรุ่นหนึ่งราคา 78,000 เยน ขาดตลาดแล้ว และอาจไม่มีสินค้าเข้ามาอีกกว่า 1 เดือน
"มาตรการดอกเบี้ยติดลบนี้ ทำให้ผู้สูงอายุหลายคนคิดจะเก็บเงินเอาไว้ที่บ้านแทนการฝากธนาคาร" มาริโกะ ชิโมคาวะ พนักงานขายของร้านชิมะชู สาขาหนึ่งทางด้านตะวันออกของโตเกียวกล่าว
สอดคล้องกับความเห็นของ คาซูโอะ มัสสึโมโตะ วัย 64 ปี ลูกค้าของร้านชิมะชู ที่กล่าวว่า แม้ตนจะไม่ซื้อเซฟเพื่อเก็บเงินสด แต่จะนำเงินไปซื้อทองคำ และเก็บไว้ในตู้นิรภัยที่ตนเช่าไว้แทน
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวของ BOJ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีลดลงเหลือ -0.005% หรือเท่ากับผู้ลงทุนจะเสียเงินแทน เช่นเดียวกับธนาคารซูมิโมโตะ มิตซุยที่ลดดอกเบี้ยเงินฝากจาก 0.02% ต่อปีเป็น 0.001% ต่อปี
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1456207975