กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกในชีวิต ผิดพลาดประการ
ใดขออภัยนะคะแนะนำตัวสักเล็กน้อยชื่อนิดาคะ ชอบกิน
เฉพาะของอร่อยทั่วโลก ซึ่งถือว่าเราโชคดีนิดนึง เพราะมี
โอกาสเดินทางไปต่างประเทศเกือบทุกเดือน เลยอยาก
แบ่งปันข้อมูลร้านอาหารให้เพื่อนๆกันคะ
Jiro Sushi ร้านในตำนานที่ใครเคยดูหนัง
เรื่อง Jiro dreams of Sushi คงใฝ่ฝันว่าสักวันนึง ชั้นจะ
ต้องไปชิมร้านนี้ให้ได้....นิดาก็เช่นเดียวกันคะเริ่มตั้งแต่
เมื่อปีที่แล้ว ให้เพื่อนชาวญี่ปุ่นโทรไปจองให้ซึ่งเปิด
รับจองทุกวันที่ 1 ของเดือนเท่านั้น ผลปรากฎว่าสาย
ไม่เคยว่างหรือไม่มีคนรับสาย เพื่อนเลยจะลองโทรไป
ทุกวันขอคุยกับพนักงานทีร้านก็ยังดี บอกเลยว่าเพื่อน
พยายามมากกกก ตั้งเวลาปลุกเวลาร้านเปิด โทรไป
ทุกวันเป็นเวลา 3 เดือน แต่ก็ไม่เป็นผล
นิดาได้แหล่งข้อมูลใหม่ เขาบอกต้องให้
โรงแรมห้าดาวจองให้ เพราะมี connection กันอยู่
จองโรงแรมตั้งแต่เดือน กันยายน ซื้อตั๋วเครื่องบินไว้เดือน
ต.ค. วันที่ 1 ต.ค. โรงแรมเมล์มาว่าจองไม่ได้เต็มแล้ว
อยากจะกรี๊ดดดดดดดดดด สรุปเสียเที่ยวบินไปฟรีคราวนี้
เขาถามว่าถ้าเป็นร้านลูกชายคนที่ 2 สาขา Roppongi
เราโอเคมั้ย พูดเลยว่าไม่โอเคคะ เสียเงินทั้งทีก็อยาก
ทานฝีมือคุณปู่ เลยลองถามเขาดูว่า ถ้าให้ตัดบัตรเครดิต
ไว้เพื่อเป็นการันตี ช่วยพยายามจองให้ทุกเดือนได้มั้ย
ถ้าได้จะซื้อตั๋วเครื่องบิน บินไปเลย....บทสรุปเรื่องนี้จะเป็น
ยังไง อิอิ ใช่เลยคะ และแล้วฝันของนิดาก็เป็นจริง
เมื่อโรงแรมเมลล์มาว่าจองได้แล้วในวันที่ 17 พ.ย. 15
นิดาและครอบครัวเลยต้องกลับไปญี่ปุ่นอีกครั้ง 2 เดือนติด
12.00 ตรง ด้วยความตื่นเต้นมาก่อนเวลา
15 นาทีคะ มีเฉพาะครอบครัวนิดาเพียง 4 คนเท่านั้น
(ในร้านห้ามถ่ายรูป ถ่ายได้เฉพาะอาหารนะคะ)
เมนูวันนี้ Omakase course 20 คำคะ
แล้วจะสรุปตอนท้ายให้ฟังว่า 20 คำมันส่งผลยังไงกับชีวิตดิฉันบ้าง
นิดาแอบทำการบ้านมาก่อนว่า เหล้าบ้วยที่นี่
ดี เลยให้พี่ชายสั่ง พี่ชายบอกว่าหอมดีคะ
ของทานเล่นอย่างแรก "แปะก๊วยคั่วเกลือ"
แปะก๊วยที่นี่ทุกร้านที่ไปจะสีเขียวปนเหลืองนะคะ แต่เมืองไทย
จะสีเหลืองหมดเน๊อะ
มาแล้วคะ คำที่ 1 karei = flat fish รสจะ
อ่อนคะ ออกเปรี้ยวนิดๆ(เวลาทานซูชิต้องคว่ำเนื้อปลาลงให้สัมผัสกับลิ้นนะคะ)
ต่อด้วยคำที่ 2 sumi-ika = squid ปลาหมึก
สดมากกก ใส เนื้อหนา กัดแล้วหนึบดีคะ เมนูนี้ทำให้ดียากนะ
เพราะต้องนวดปลาหมึก 40-50 นาทีโดยเป็นเทคนิคที่คุณปู่
คิดขึ้นมาเอง ถ้านวดถี่เกินไปเนื้อจะแข็งและไม่มีรสชาติ
การนวดนี้ก็เพื่อให้เนื้อนุ่ม ดึงกลิ่นปลาหมึกจริงๆออกมา
และต้องเสิร์ฟตอนอุ่นคะ
คำที่ 3 shima aji = striped jack นิดาชอบคำนี้คะ รสชาติปลาเข้มข้นกว่าคำแรก
คำที่ 4 akami = lean tuna หรือทูน่า
ไร้ไขมัน คำนี้ใส่วาซาบิมาให้เยอะคะ ขึ้นจมูกเลย ซึ่งถ้าได้
ทูน่าตัวเล็กมา จะพักปลาไว้ 3 วัน ตัวใหญ่ 7 วัน
คำที่ 5-6 chu-toro = semi fatty tuna
อร่อยมากๆ รสออกเปรี้ยว ละลายในปากเลย แปลกใจมั้ยคะ
ว่าทำไมเขาให้ตั้ง 2 คำ เพราะถ้าดูจากภาพยนต์ คุณปู่บอก
ว่าท่านชอบ chu-toro มากกว่า otoro เพราะจะได้รสชาติ
ของปลาจริงๆมากกว่าโอโทโร่ที่รสของไขมันจะมากลบ
และปลาแต่ละตัวรสชาติไม่เหมือนกัน...แยกแยะได้ขนาดนั้น
กราบคะกราบ (ตอนที่นิดาไปทาน Yoshitake Sushiที่ได้ 3
ดาวมิชลิน เชฟถามว่าระหว่างโอโทโร่กับชิวโทโร่ ชอบอะไร
มากกว่ากัน พอนิดาตอบไปว่า ชิวโทโร่คะ เชฟบอกว่า
ผมก็ชอบชิวโทโร่มากกว่าเหมือนกัน...^^)
คำที่ 7 kohada = gizzard shad นิดาไม่
ค่อยชอบคำนี้คะ พวกปลาเนื้อขาวไม่ถูกปากเป็นการส่วนตัวคะ
คำที่ 8 mushi awabi = steam abalone
ตอนเขาเสิร์ฟที่จาน ขนาดห่างจากตัวนิดา 1 ฟุต กลิ่นเป๋าฮื้อ
ห้อมหอม โชยมาแตะจมูกชัดเจนเลยคะ คำนี้วาซาบิค่อนข้าง
เยอะ กินแล้วปรี๊ดขึ้นจมูก ชอบๆ
คำที่ 9 aji = jack mackerel คำนี้ชอบคะ มีขิงอยู่ด้านในด้วย
คำที่ 10 kurumaebi = boiled prawn กุ้งยังอุ่นอยู่เลย แสดงว่าต้มใหม่ๆ หวานมากคะ
ซึ่งร้านโดยทั่วไปจะต้มแต่เช้า รอขายทั้งวัน
คำที่ 11 akagai = ark shell นิดาชอบ
ร้าน Yoshitake มากกว่า(แต่ไม่ใช่ว่าที่นี่ไม่ดีนะคะ) เพราะ
ของคุณปู่เป็นหอยตายแล้ว แต่ของอีกร้านทานตอนเป็นๆ
กัดไปแล้วเนื้อเด้งมาก...ไว้จะมารีวิวให้ฟังคะ
คำที่ 12 sayori = needle fish อร่อยเลย ลื่นปรื๊ดลงคอ
คำที่ 13 hamaguri = clam shell คำนี้
ออกรสหวานคะของผู้หญิงคำจะเล็กกว่าผู้ชาย เพื่อเวลาทาน
จะได้เสร็จพร้อมๆกัน...ใส่ใจจัง
คำที่ 14 katsuo = bonito เอาปลาไปกริว กลิ่นหอมมากๆ คำนี้เอาใจไปเลยคะ
คำที่ 15 shako = mantis shrimp หรือ
กั้งนั่นเอง คำนี้นิดาไม่ค่อยถูกปากคะ เนื้อจะออกทรายๆ
รสหวานน้ำซอสที่ทาด้านบน
คำที่ 16 uni = sea urchin ที่นี่ใช้จาก
ทะเลแหล่งเดียว แต่ที่ Yoshitake ใช้ 2 แหล่งซึ่งจะมี
ความหวานและเค็มต่างกัน รู้สึกพลาดจริงๆที่ทาน
Yoshitake มาก่อน เลยทานไปเปรียบเทียบไป
คำที่ 17 kobashira = baby scallops อร่อยตามท้องเรื่องคะ
คำที่ 18 ikura = salmon roe ใสแจ๋ว
คำที่ 19 anago = sea eel เรื่องจริงคือตอนนี้อิ่มมากๆๆๆๆคะ กินไม่รู้รสแล้ว
คำที่ 20 tamago = egg ไข่หวาน เขา
บอกว่าที่นี่เทพมากๆๆๆ แต่นิดาอิ่มคะอิ่ม ทานให้จบเป็นพอ
แต่รู้มั้ยคะ คนที่จะทำไข่หวานที่ร้านนี้ได้ต้องอยู่มา 10 ปี
คุณปู่ค่อยเริ่มถ่ายทอดเทคนิค เข้ามาแรกๆได้แต่บิดผ้าเช็ด
มือร้อนๆ แบบลวกเลย แล้วค่อยเขยิบไปแล่ปลา พอ 10 ปี
ถึงได้ทำไข่หวานในหนังมีพนักงานที่ได้เริ่มทำไข่หวาน
ต้องทิ้งถึง 200 แผ่นกว่าคุณปู่จะให้ผ่าน
Melon ปิดท้าย หวานหอม
ค่าเสียหายคะ
ใครอยากทราบข้อมูลร้านอาหารอื่นๆ
เพิ่มเติม ติดตามได้ที่นี่นะคะ
https://www.facebook.com/nidajapapai/
ปล. นิดารีวิวถึงร้านที่ 11 แล้ว
ร้านที่ 2 เริ่ม คห.16 ลองทยอยอ่านกันนะคะ
ถ้า Ep.2 จะเขียนถึงทริปอื่นเลย (เห็นคน inboxมาถาม
รออ่านร้านที่ 2 )
ชื่อสินค้า: Jiro Sushi, Aoyama Flower market Tea House, Himitsudo ics shave, Fugu Fukuji, Obana Unagi,Subimi yakiniku nakabahara,Cafe de Ginza Miyaki-Kan,Kitsuneya, Botan chicken sukiyaki, La Rochelle เชฟซาไก, Butadaigaku หมูย่าง, Maruka Udon
คะแนน:
[CR] นิดาจะพาไป...ทริปตะลุยกินโตเกียว 4 วัน 12 ร้าน ตั้งแต่ร้านอายุ 100 ปี ,มิชลินสตาร์ ยัน Jiro Sushi Ep.1
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกในชีวิต ผิดพลาดประการ
ใดขออภัยนะคะแนะนำตัวสักเล็กน้อยชื่อนิดาคะ ชอบกิน
เฉพาะของอร่อยทั่วโลก ซึ่งถือว่าเราโชคดีนิดนึง เพราะมี
โอกาสเดินทางไปต่างประเทศเกือบทุกเดือน เลยอยาก
แบ่งปันข้อมูลร้านอาหารให้เพื่อนๆกันคะ
Jiro Sushi ร้านในตำนานที่ใครเคยดูหนัง
เรื่อง Jiro dreams of Sushi คงใฝ่ฝันว่าสักวันนึง ชั้นจะ
ต้องไปชิมร้านนี้ให้ได้....นิดาก็เช่นเดียวกันคะเริ่มตั้งแต่
เมื่อปีที่แล้ว ให้เพื่อนชาวญี่ปุ่นโทรไปจองให้ซึ่งเปิด
รับจองทุกวันที่ 1 ของเดือนเท่านั้น ผลปรากฎว่าสาย
ไม่เคยว่างหรือไม่มีคนรับสาย เพื่อนเลยจะลองโทรไป
ทุกวันขอคุยกับพนักงานทีร้านก็ยังดี บอกเลยว่าเพื่อน
พยายามมากกกก ตั้งเวลาปลุกเวลาร้านเปิด โทรไป
ทุกวันเป็นเวลา 3 เดือน แต่ก็ไม่เป็นผล
นิดาได้แหล่งข้อมูลใหม่ เขาบอกต้องให้
โรงแรมห้าดาวจองให้ เพราะมี connection กันอยู่
จองโรงแรมตั้งแต่เดือน กันยายน ซื้อตั๋วเครื่องบินไว้เดือน
ต.ค. วันที่ 1 ต.ค. โรงแรมเมล์มาว่าจองไม่ได้เต็มแล้ว
อยากจะกรี๊ดดดดดดดดดด สรุปเสียเที่ยวบินไปฟรีคราวนี้
เขาถามว่าถ้าเป็นร้านลูกชายคนที่ 2 สาขา Roppongi
เราโอเคมั้ย พูดเลยว่าไม่โอเคคะ เสียเงินทั้งทีก็อยาก
ทานฝีมือคุณปู่ เลยลองถามเขาดูว่า ถ้าให้ตัดบัตรเครดิต
ไว้เพื่อเป็นการันตี ช่วยพยายามจองให้ทุกเดือนได้มั้ย
ถ้าได้จะซื้อตั๋วเครื่องบิน บินไปเลย....บทสรุปเรื่องนี้จะเป็น
ยังไง อิอิ ใช่เลยคะ และแล้วฝันของนิดาก็เป็นจริง
เมื่อโรงแรมเมลล์มาว่าจองได้แล้วในวันที่ 17 พ.ย. 15
นิดาและครอบครัวเลยต้องกลับไปญี่ปุ่นอีกครั้ง 2 เดือนติด
12.00 ตรง ด้วยความตื่นเต้นมาก่อนเวลา
15 นาทีคะ มีเฉพาะครอบครัวนิดาเพียง 4 คนเท่านั้น
(ในร้านห้ามถ่ายรูป ถ่ายได้เฉพาะอาหารนะคะ)
เมนูวันนี้ Omakase course 20 คำคะ
แล้วจะสรุปตอนท้ายให้ฟังว่า 20 คำมันส่งผลยังไงกับชีวิตดิฉันบ้าง
นิดาแอบทำการบ้านมาก่อนว่า เหล้าบ้วยที่นี่
ดี เลยให้พี่ชายสั่ง พี่ชายบอกว่าหอมดีคะ
ของทานเล่นอย่างแรก "แปะก๊วยคั่วเกลือ"
แปะก๊วยที่นี่ทุกร้านที่ไปจะสีเขียวปนเหลืองนะคะ แต่เมืองไทย
จะสีเหลืองหมดเน๊อะ
มาแล้วคะ คำที่ 1 karei = flat fish รสจะ
อ่อนคะ ออกเปรี้ยวนิดๆ(เวลาทานซูชิต้องคว่ำเนื้อปลาลงให้สัมผัสกับลิ้นนะคะ)
ต่อด้วยคำที่ 2 sumi-ika = squid ปลาหมึก
สดมากกก ใส เนื้อหนา กัดแล้วหนึบดีคะ เมนูนี้ทำให้ดียากนะ
เพราะต้องนวดปลาหมึก 40-50 นาทีโดยเป็นเทคนิคที่คุณปู่
คิดขึ้นมาเอง ถ้านวดถี่เกินไปเนื้อจะแข็งและไม่มีรสชาติ
การนวดนี้ก็เพื่อให้เนื้อนุ่ม ดึงกลิ่นปลาหมึกจริงๆออกมา
และต้องเสิร์ฟตอนอุ่นคะ
คำที่ 3 shima aji = striped jack นิดาชอบคำนี้คะ รสชาติปลาเข้มข้นกว่าคำแรก
คำที่ 4 akami = lean tuna หรือทูน่า
ไร้ไขมัน คำนี้ใส่วาซาบิมาให้เยอะคะ ขึ้นจมูกเลย ซึ่งถ้าได้
ทูน่าตัวเล็กมา จะพักปลาไว้ 3 วัน ตัวใหญ่ 7 วัน
คำที่ 5-6 chu-toro = semi fatty tuna
อร่อยมากๆ รสออกเปรี้ยว ละลายในปากเลย แปลกใจมั้ยคะ
ว่าทำไมเขาให้ตั้ง 2 คำ เพราะถ้าดูจากภาพยนต์ คุณปู่บอก
ว่าท่านชอบ chu-toro มากกว่า otoro เพราะจะได้รสชาติ
ของปลาจริงๆมากกว่าโอโทโร่ที่รสของไขมันจะมากลบ
และปลาแต่ละตัวรสชาติไม่เหมือนกัน...แยกแยะได้ขนาดนั้น
กราบคะกราบ (ตอนที่นิดาไปทาน Yoshitake Sushiที่ได้ 3
ดาวมิชลิน เชฟถามว่าระหว่างโอโทโร่กับชิวโทโร่ ชอบอะไร
มากกว่ากัน พอนิดาตอบไปว่า ชิวโทโร่คะ เชฟบอกว่า
ผมก็ชอบชิวโทโร่มากกว่าเหมือนกัน...^^)
คำที่ 7 kohada = gizzard shad นิดาไม่
ค่อยชอบคำนี้คะ พวกปลาเนื้อขาวไม่ถูกปากเป็นการส่วนตัวคะ
คำที่ 8 mushi awabi = steam abalone
ตอนเขาเสิร์ฟที่จาน ขนาดห่างจากตัวนิดา 1 ฟุต กลิ่นเป๋าฮื้อ
ห้อมหอม โชยมาแตะจมูกชัดเจนเลยคะ คำนี้วาซาบิค่อนข้าง
เยอะ กินแล้วปรี๊ดขึ้นจมูก ชอบๆ
คำที่ 9 aji = jack mackerel คำนี้ชอบคะ มีขิงอยู่ด้านในด้วย
คำที่ 10 kurumaebi = boiled prawn กุ้งยังอุ่นอยู่เลย แสดงว่าต้มใหม่ๆ หวานมากคะ
ซึ่งร้านโดยทั่วไปจะต้มแต่เช้า รอขายทั้งวัน
คำที่ 11 akagai = ark shell นิดาชอบ
ร้าน Yoshitake มากกว่า(แต่ไม่ใช่ว่าที่นี่ไม่ดีนะคะ) เพราะ
ของคุณปู่เป็นหอยตายแล้ว แต่ของอีกร้านทานตอนเป็นๆ
กัดไปแล้วเนื้อเด้งมาก...ไว้จะมารีวิวให้ฟังคะ
คำที่ 12 sayori = needle fish อร่อยเลย ลื่นปรื๊ดลงคอ
คำที่ 13 hamaguri = clam shell คำนี้
ออกรสหวานคะของผู้หญิงคำจะเล็กกว่าผู้ชาย เพื่อเวลาทาน
จะได้เสร็จพร้อมๆกัน...ใส่ใจจัง
คำที่ 14 katsuo = bonito เอาปลาไปกริว กลิ่นหอมมากๆ คำนี้เอาใจไปเลยคะ
คำที่ 15 shako = mantis shrimp หรือ
กั้งนั่นเอง คำนี้นิดาไม่ค่อยถูกปากคะ เนื้อจะออกทรายๆ
รสหวานน้ำซอสที่ทาด้านบน
คำที่ 16 uni = sea urchin ที่นี่ใช้จาก
ทะเลแหล่งเดียว แต่ที่ Yoshitake ใช้ 2 แหล่งซึ่งจะมี
ความหวานและเค็มต่างกัน รู้สึกพลาดจริงๆที่ทาน
Yoshitake มาก่อน เลยทานไปเปรียบเทียบไป
คำที่ 17 kobashira = baby scallops อร่อยตามท้องเรื่องคะ
คำที่ 18 ikura = salmon roe ใสแจ๋ว
คำที่ 19 anago = sea eel เรื่องจริงคือตอนนี้อิ่มมากๆๆๆๆคะ กินไม่รู้รสแล้ว
คำที่ 20 tamago = egg ไข่หวาน เขา
บอกว่าที่นี่เทพมากๆๆๆ แต่นิดาอิ่มคะอิ่ม ทานให้จบเป็นพอ
แต่รู้มั้ยคะ คนที่จะทำไข่หวานที่ร้านนี้ได้ต้องอยู่มา 10 ปี
คุณปู่ค่อยเริ่มถ่ายทอดเทคนิค เข้ามาแรกๆได้แต่บิดผ้าเช็ด
มือร้อนๆ แบบลวกเลย แล้วค่อยเขยิบไปแล่ปลา พอ 10 ปี
ถึงได้ทำไข่หวานในหนังมีพนักงานที่ได้เริ่มทำไข่หวาน
ต้องทิ้งถึง 200 แผ่นกว่าคุณปู่จะให้ผ่าน
Melon ปิดท้าย หวานหอม
ค่าเสียหายคะ
ใครอยากทราบข้อมูลร้านอาหารอื่นๆ
เพิ่มเติม ติดตามได้ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/nidajapapai/
ปล. นิดารีวิวถึงร้านที่ 11 แล้ว
ร้านที่ 2 เริ่ม คห.16 ลองทยอยอ่านกันนะคะ
ถ้า Ep.2 จะเขียนถึงทริปอื่นเลย (เห็นคน inboxมาถาม
รออ่านร้านที่ 2 )