ต่อจากเมื่อวาน
http://ppantip.com/topic/34808205 ตอนที่ 1
http://ppantip.com/topic/34812263 ตอนที่ 2
โดยเฉพาะล่า สุด ธุดงค์ธรรมชัย ของวัดนี้แน่นอนว่าสำนักข่าวต่างๆจ้องเล่นข่าวอยู่แล้ว ตามหลักทฤษฎี เข้าหลายข้อเลยแหละ และยิ่งบอกว่าทำให้รถติดด้วยนะ ยิ่งแจ่มเลย ขนาดฝนตกแล้วรถติดยังด่าฝนเลยจ้าาา ฉะนั้น ชาววัดพระธรรมกายอย่าน้อยใจ นี่คือโลกของความเป็นจริง ท่องเอาไว้เลยว่า "ข่าวร้ายลงฟรี ข่าวดีเสียตังค์" แม้ว่าคุณจะแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ ประชาสัมพันธ์ล่วงหน้า ยกหลักพระไตรปิฎกมาบอกว่าเป็นการธุดงค์ตามพระธรรมวินัยทุกประการก็ตาม เดินบนไหล่ทาง ก็จะโดนด่า คนเขาไม่สนใจว่าคุณเดินตามเส้นทางวัดสำคัญๆที่หลวงปู่สด วัดปากน้ำเคยผ่าน เขาก็จะไล่คุณไปเดินเข้าป่านู่น แม้วัดคุณจะมีโครงการเดินธุดงค์ธรรมชัยพัฒนาวัดร้างให้เป็นวัดรุ่ง เดินตามชนบทมาทั่วประเทศแล้วก็ตาม เขาก็ยังจะไล่คุณไปเดินแถว3-4จังหวัดภาคใต้ ซึ่งแม้ว่าทางวัดคุณจะมีกิจกรรมถวายสังฆทานยก4จังหวัดทุกเดือนที่ใต้ก็ตาม ต้องทำใจ พฤติกรรมการเสพสื่อสมัยใหม่เป็นไปตามกระแสเช่นนี้ จึงต้องรู้ให้เท่าทัน และต้องให้ถูกจริตคนกรุง+เด็กเกรียนคีย์บอร์ดทั้งหลาย
อีก ประเด็นยอดฮิต หลายคนบอกว่า วัดพระธรรมกายรวยก็รวย ทำไมไม่ให้ทุนการศึกษา ที่จริงมีเยอะครับ เยอะมาก เช่นโครงการวีสตาร์ แว่วๆว่าแต่ละปีวัดทุ่มให้กับทุนการศึกษานักเรียนกว่าร้อยล้าน บริจาคโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เปิดคลีนิครักษาฟรี ยังไม่รวมงานสังคมสงเคราะห์ของลูกศิษย์ตัวบิ๊กๆ..แน่นอน ไม่เป็นข่าว
เพราะ อะไร ส่วนหนึ่งอาจมาจาก เหมือนสำนักข่าวก็ไม่อยากpr ให้วัดนั่นแหละ กลัวถูกครหาว่าเป็นสาวก เพราะขนาดลูกศิษย์ลูกหาแท้ๆ ยังไม่กล้าเปิดเผยตัวต่อสาธารณะ ทั้งๆที่มีอยู่ทุกวงการ กลัวถูกสังคมรังเกียจ ข่าวว่าแต่ละวันแต่ละเดือน ก็จะคอยภาวนาว่า "วัดชั้นจะถูกพันทิบกับสำนักข่าวขุดขึ้นมาด่าอีกไหมหนอ" ชนชายขอบเหล่านี้ ยอมรับว่าน่าเห็นใจ ก็กลัวๆอยู่ว่าวันดีคืนดีเค้าจะลุกขึ้นมาเอามีดปาดคอหรือทำระเบิดพลีชีพใส่ พวกด่าวัดพระธรรมกาย อย่างกลุ่มไอเอสรึเปล่า แต่ทางวัดก็คงไม่สอนแบบนี้หรอก สบายใจได้
อีกอันเรื่องการบริจาค วัดนี้ จากการวิจัย ไม่ได้เน้นเรื่องทำทานนะครับ เน้น "ภาวนา" หรือนั่งสมาธิเป็นหลัก ใครเคยไปจะรู้ว่านั่งจนตาตุ่มด้าน นั่งจนจะไปนิพพาน จะไปที่สุดแห่งธรรม นี่คือแก่นคำสอนของวัดเลย เราต้องเข้าใจใหม่เวลาจะวิจารณ์เค้า ไม่ใช่อยู่ก็เปิดหน้าว่า "สอนผิดๆสอนทำบุญเยอะๆ" แค่นี้ก็พูดกันคนละภาษาแล้ว ผมเชื่อว่าคนวัดพระธรรมกายคุยได้ แม้บางครั้งเราจะไม่เข้าใจ เพราะอุดมการณ์สูงสุดในชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกัน การให้ค่าต่อสิ่งหนึ่งๆจึงไม่เหมือนกัน เราอย่าเพิ่งเอามาตรฐานตัวเราไปเปรียบเทียบ ขอเตือน เดี๋ยวเงิบ
ส่วน เรื่องศีล ชาววัดพระธรรมกาย ถือศีล5 เป็นปกติ เพื่อนผมที่เป็นชาววัดบางคนถือศีล8เลยจ้า ถ้าใครมีเพื่อนเข้าวัดนี้ สังเกตง่ายๆว่าจะไม่ดื่มเหล้าสูบุหรี่ วันอาทิตย์ก็เข้าวัดตลอด ไม่รู้ว่าล้างสมองกันยังไง
กลับมาเรื่องบริจาค มีทั้งคนทำน้อยทำมาก ไม่บังคับ และที่สำคัญ อันนี้ขีดเส้นใต้8ล้านที "วัดนี้ไม่เคยสอนว่าต้องทำบุญมากๆถึงจะได้บุญมาก" และไม่เคยสอนว่าเอาเงินซื้อสวรรค์ซื้อนิพพานได้ วัดสอนตามหลักพุทธทุกอย่าง คือ บุญกริยาวัตถุ10 เรื่องเชียร์ทำบุญกันก็เป็นกุศโลบายกำจัดความตระหนี่จากใจ สละโลภ อย่างบุคคลในสมัยพุทธกาล อันนี้ทางวัดจะย้ำ โดยเฉพาะดำเนินตามรอยนิสัยพระพุทธเจ้าตอนเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ ที่แบบว่า ยอมตายได้เพื่อสร้างบารมีทั้ง10ทัศ
เท่าที่สังเกต วัดนี้คนปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง มีเป้าหมายคือ "เข้าถึงวิชชาธรรมกาย" ไม่เชื่อถามดู ไม่ได้มาวัดเพื่อบริจาคแล้วหวังรวย พวกเราจำใส่หัวกันใหม่นะ อีกอย่าง ชาววัดนี้ ไม่ได้หวังอยู่แค่สวรรค์ แต่หวังนิพพาน และไกลกว่านิพพานเฉพาะตัวเอง คือใช้คำว่า "รื้อสัตว์ขนสัตว์เข้านิพพานให้หมด" ด้วยการชวนคนทั้งโลกมาปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิให้เข้าถึงวิชชาธรรมกาย เท่ากับการบรรลุธรรมในพระพุทธศาสนาชั้นเบื้องต้น จนลุ่มลึกเข้าไป
สรุป ง่ายๆคือ หมู่คณะวัดพระธรรมกาย ปฏิญาณตนสั่งสมบารมีไปเรื่อยๆ เติมเต็มไปทุกชาติ จนกว่าจะเข้านิพพาน เมื่อรู้ว่าระหว่างภพชาติที่ยังไปไม่ถึงก็สร้างบุญเป็นเสบียงให้เกิดมามี พร้อม อันนี้คือความคิดของคนวัดนี้ ก็น่าคิดเล่นๆนะว่า มิน่าล่ะถึงมีแต่เศรษฐี
อย่าลืมว่าแนวทางคำสอนอย่างนี้ อยู่ในศาสนาพุทธนี่แหละ เห็นมั้ย ผมเองก็เพิ่งมารู้ก็ตอนได้ศึกษาศาสนาพุทธจริงๆ ใหม่ๆก็นึกเปรียบเทียบวัดทั่วไปที่เคยเห็น เลยว่าวัดนี้แปลกๆเกินไป
เรื่อง หลักคำสอนอื่นๆ วัดนี้สอนได้ครบถ้วนหมด สอนให้คนละ ปล่อยวางได้ ถึงมีคนมาบวชตลอดชีวิตที่วัดนี้เยอะไงครับ เห็นมีบางคนบอกว่ามาบวชแล้วจะรวยรึเปล่า อารมณ์แบบอัดฉีดรึเปล่า อันนี้ต้องมาลองดู แต่เพื่อนที่เรียนมหาวิทยาลัยมาบวชอยู่หลายรูป เก่งกว่าเราทั้งนั้น เพื่อนเราไม่น่าจะโง่ให้เค้าหลอกนะ ว่าจะแวะไปกราบบ้าง
สรุป วัดพระธรรมกายก็เหมือนวัดทั่วไปนี่แหละครับ เพียงแต่สเกลใหญ่กว่ามากๆๆๆมีทั้งสอน ทั้งปฏิบัติธรรม ทั้งเผยแผ่ พระที่วัดนี้ไม่ได้นั่งๆนอนๆเล่น ทุกรูปต้องรับบุญหรือทำงานตามหน้าที่ ตอนนี้พระในวัดน่าจะเกือบ2,000รูป อุบาสกและอุบาสิกา คือ ชาวบ้านแบบเราๆนี่แหละครับ ที่เค้าละทางโลกได้ แล้วเลื่อมใสปาวารณาตัวบอกว่าช่วยงานศาสนาถือศีล8 กินข้าวก้นบาตรอยู่ในวัดอีก2,000คน รวมๆบุคลากรน่าจะ4,000คน ตัวเลขผิดพลาดต้องขออภัย มีสาขาอยู่ทั่วประเทศและทั่วโลก ยังไม่รวมคนงานและแม่บ้านโรงครัวเป็นที่เป็นการจ้างงานคนในพื้นที่และต่าง จังหวัดอีกมากมาย
และแน่นอน พูดตรงๆถ้างานใหญ่ก็ต้องใช้งบเยอะ คนที่สร้างวัดหรือสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมจะรู้ดี ไม่เชื่อไปถามท่าน ว. ที่ไร่เชิญตะวัน และเมื่อมีที่ก็ต้องมีคนมา ถ้าจะให้คนมาก็ต้องมีพิธีกรรม ซึ่งไม่แปลก เห็นจะแปลกตรงที่วัดพระธรรมกาย ไม่เคยและไม่มีมหรสพเพื่อดึงคนเข้าวัด และไม่เคยเห็นรูปบูชาอื่นใดนอกเหนือไปจากพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ในวัดนี้ ส่วนดวงแก้ว หมายว่าเป็นดวงธรรม หรือ พระธรรมภายใน และสมารถใช้เป็นนิมิตรฝึกสมาธิด้วย พระอาจารย์วัดนี้จะแนะนำทุกครั้งที่มีคนใหม่เข้าวัดแล้วสงสัย
ส่วน เรื่องหลักการทำสมาธิที่ว่าแปลกๆไปนั้นส่วนตัวผมว่าไม่แปลก ในพุทธมีหลายวิธี แนวของวัดนี้ก็มาจากวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ หรือแนว "สัมมาอรหัง" นี่แหละครับ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายไม่ได้คิดเอง ชอบไม่ชอบอย่างไรก็ว่ากันตามจริต ซึ่งถ้าหากจะวิจารณ์เรื่องหลักการวิปัสนาก็ต้องแม่นๆส่วนตัวผมไม่ถนัด เพราะยังเป็นคนกิเลสหนาปัญญาหยาบ ไม่เจนจัดเรื่องนี้ ถ้าเหาะได้เมื่อไหร่จะมาเล่าให้ฟังแล้วกันครับ
พูดถึงตรงนี้ บางครั้ง ผมว่าชาวพุทธเลิกหลอกตัวเองว่าเป็นวิทยาศาสตร์เถอะครับ เรื่องนรก สวรรค์ ผีสางนางไม้มีอยู่ในพระไตรปิฎกชัดเจน ส่วนใหญ่เป็นวิทยาศาสตร์จริง แต่บางส่วนก็อาจไม่ใช่ หรือที่ชาวพุทธเราปลอบใจตัวเองว่า "วิทยาศาสตร์ยังไปไม่ถึง"
และคนที่วิจารณ์คนอื่นว่า "โง่งมงาย ไม่ใช่พุทธแท้ๆเฟ้ย!" อย่าให้เห็นนะครับว่าอัพเฟซบุ๊คว่าไปแก้ปีชง หรือไปไหว้เทพเจ้าแขกที่ไหน มันดูตลกย้อนแย้ง คนวัดพระธรรมกายเค้าจะหัวเราะเยาะแล้วแผ่เมตตาให้เราซะงั้นไป
มาถึง เรื่องการเมืองบ้าง ผู้สนส่วนใหญ่มักคิดว่าวัดนี้เป็นของเสื้อแดงจ้า อดีตนายกฯสร้างบ้าง (วัดนี้อายุ40กว่าปี) บ้าไปแล้ว..จากการสำรวจพบว่า คนเข้าวัดนี้ มีทุกสี แต่ใบ้นิดนึงว่าก็เป็นไปตามโครงสร้างประชากรของประเทศ คิดว่าประเทศไทยนิยมสีไหนมาก ก็คนสีนั้นแหละเข้าวัดมาก ส่วนบุคคลสำคัญก็มีทั้ง2ฝั่งที่เข้าวัดนี้ ไม่รู้ว่ามานั่งสมาธิข้างกันได้ยังไง
และแน่นอนว่า การขยายขนาดนี้ย่อมกระทบ กระตุกหนวดเสือ ทางวัดพระธรรมกายก็รู้ มีการทำสำรวจและรู้ตัวขบวนการที่ชาววัดบอกว่ามุ่งดิสเครดิตวัด
ใน ฐานะทำงานด้านข่าวยอมรับว่ามีจริง และมีทุกวงการ อย่างพวกทีมไซเบอร์ทั้งหลาย อีกทั้ง ชาววัดนี้มักเล่าสู่กันฟังรุ่นต่อรุ่นว่า "ถ้าสื่อสำนักไหนตั้งธงเล่นงานพระบ่อยๆส่วนใหญ่เจ๊งทุกราย"
ยาวหน่อยนะครับ... โปรดติดตามตอนต่อไป Cr.Uncle BP
วัดพระธรรมกาย.. อ่านไว้จะได้ไม่เงิบ #3
http://ppantip.com/topic/34808205 ตอนที่ 1
http://ppantip.com/topic/34812263 ตอนที่ 2
โดยเฉพาะล่า สุด ธุดงค์ธรรมชัย ของวัดนี้แน่นอนว่าสำนักข่าวต่างๆจ้องเล่นข่าวอยู่แล้ว ตามหลักทฤษฎี เข้าหลายข้อเลยแหละ และยิ่งบอกว่าทำให้รถติดด้วยนะ ยิ่งแจ่มเลย ขนาดฝนตกแล้วรถติดยังด่าฝนเลยจ้าาา ฉะนั้น ชาววัดพระธรรมกายอย่าน้อยใจ นี่คือโลกของความเป็นจริง ท่องเอาไว้เลยว่า "ข่าวร้ายลงฟรี ข่าวดีเสียตังค์" แม้ว่าคุณจะแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ ประชาสัมพันธ์ล่วงหน้า ยกหลักพระไตรปิฎกมาบอกว่าเป็นการธุดงค์ตามพระธรรมวินัยทุกประการก็ตาม เดินบนไหล่ทาง ก็จะโดนด่า คนเขาไม่สนใจว่าคุณเดินตามเส้นทางวัดสำคัญๆที่หลวงปู่สด วัดปากน้ำเคยผ่าน เขาก็จะไล่คุณไปเดินเข้าป่านู่น แม้วัดคุณจะมีโครงการเดินธุดงค์ธรรมชัยพัฒนาวัดร้างให้เป็นวัดรุ่ง เดินตามชนบทมาทั่วประเทศแล้วก็ตาม เขาก็ยังจะไล่คุณไปเดินแถว3-4จังหวัดภาคใต้ ซึ่งแม้ว่าทางวัดคุณจะมีกิจกรรมถวายสังฆทานยก4จังหวัดทุกเดือนที่ใต้ก็ตาม ต้องทำใจ พฤติกรรมการเสพสื่อสมัยใหม่เป็นไปตามกระแสเช่นนี้ จึงต้องรู้ให้เท่าทัน และต้องให้ถูกจริตคนกรุง+เด็กเกรียนคีย์บอร์ดทั้งหลาย
อีก ประเด็นยอดฮิต หลายคนบอกว่า วัดพระธรรมกายรวยก็รวย ทำไมไม่ให้ทุนการศึกษา ที่จริงมีเยอะครับ เยอะมาก เช่นโครงการวีสตาร์ แว่วๆว่าแต่ละปีวัดทุ่มให้กับทุนการศึกษานักเรียนกว่าร้อยล้าน บริจาคโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เปิดคลีนิครักษาฟรี ยังไม่รวมงานสังคมสงเคราะห์ของลูกศิษย์ตัวบิ๊กๆ..แน่นอน ไม่เป็นข่าว
เพราะ อะไร ส่วนหนึ่งอาจมาจาก เหมือนสำนักข่าวก็ไม่อยากpr ให้วัดนั่นแหละ กลัวถูกครหาว่าเป็นสาวก เพราะขนาดลูกศิษย์ลูกหาแท้ๆ ยังไม่กล้าเปิดเผยตัวต่อสาธารณะ ทั้งๆที่มีอยู่ทุกวงการ กลัวถูกสังคมรังเกียจ ข่าวว่าแต่ละวันแต่ละเดือน ก็จะคอยภาวนาว่า "วัดชั้นจะถูกพันทิบกับสำนักข่าวขุดขึ้นมาด่าอีกไหมหนอ" ชนชายขอบเหล่านี้ ยอมรับว่าน่าเห็นใจ ก็กลัวๆอยู่ว่าวันดีคืนดีเค้าจะลุกขึ้นมาเอามีดปาดคอหรือทำระเบิดพลีชีพใส่ พวกด่าวัดพระธรรมกาย อย่างกลุ่มไอเอสรึเปล่า แต่ทางวัดก็คงไม่สอนแบบนี้หรอก สบายใจได้
อีกอันเรื่องการบริจาค วัดนี้ จากการวิจัย ไม่ได้เน้นเรื่องทำทานนะครับ เน้น "ภาวนา" หรือนั่งสมาธิเป็นหลัก ใครเคยไปจะรู้ว่านั่งจนตาตุ่มด้าน นั่งจนจะไปนิพพาน จะไปที่สุดแห่งธรรม นี่คือแก่นคำสอนของวัดเลย เราต้องเข้าใจใหม่เวลาจะวิจารณ์เค้า ไม่ใช่อยู่ก็เปิดหน้าว่า "สอนผิดๆสอนทำบุญเยอะๆ" แค่นี้ก็พูดกันคนละภาษาแล้ว ผมเชื่อว่าคนวัดพระธรรมกายคุยได้ แม้บางครั้งเราจะไม่เข้าใจ เพราะอุดมการณ์สูงสุดในชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกัน การให้ค่าต่อสิ่งหนึ่งๆจึงไม่เหมือนกัน เราอย่าเพิ่งเอามาตรฐานตัวเราไปเปรียบเทียบ ขอเตือน เดี๋ยวเงิบ
ส่วน เรื่องศีล ชาววัดพระธรรมกาย ถือศีล5 เป็นปกติ เพื่อนผมที่เป็นชาววัดบางคนถือศีล8เลยจ้า ถ้าใครมีเพื่อนเข้าวัดนี้ สังเกตง่ายๆว่าจะไม่ดื่มเหล้าสูบุหรี่ วันอาทิตย์ก็เข้าวัดตลอด ไม่รู้ว่าล้างสมองกันยังไง
กลับมาเรื่องบริจาค มีทั้งคนทำน้อยทำมาก ไม่บังคับ และที่สำคัญ อันนี้ขีดเส้นใต้8ล้านที "วัดนี้ไม่เคยสอนว่าต้องทำบุญมากๆถึงจะได้บุญมาก" และไม่เคยสอนว่าเอาเงินซื้อสวรรค์ซื้อนิพพานได้ วัดสอนตามหลักพุทธทุกอย่าง คือ บุญกริยาวัตถุ10 เรื่องเชียร์ทำบุญกันก็เป็นกุศโลบายกำจัดความตระหนี่จากใจ สละโลภ อย่างบุคคลในสมัยพุทธกาล อันนี้ทางวัดจะย้ำ โดยเฉพาะดำเนินตามรอยนิสัยพระพุทธเจ้าตอนเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ ที่แบบว่า ยอมตายได้เพื่อสร้างบารมีทั้ง10ทัศ
เท่าที่สังเกต วัดนี้คนปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง มีเป้าหมายคือ "เข้าถึงวิชชาธรรมกาย" ไม่เชื่อถามดู ไม่ได้มาวัดเพื่อบริจาคแล้วหวังรวย พวกเราจำใส่หัวกันใหม่นะ อีกอย่าง ชาววัดนี้ ไม่ได้หวังอยู่แค่สวรรค์ แต่หวังนิพพาน และไกลกว่านิพพานเฉพาะตัวเอง คือใช้คำว่า "รื้อสัตว์ขนสัตว์เข้านิพพานให้หมด" ด้วยการชวนคนทั้งโลกมาปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิให้เข้าถึงวิชชาธรรมกาย เท่ากับการบรรลุธรรมในพระพุทธศาสนาชั้นเบื้องต้น จนลุ่มลึกเข้าไป
สรุป ง่ายๆคือ หมู่คณะวัดพระธรรมกาย ปฏิญาณตนสั่งสมบารมีไปเรื่อยๆ เติมเต็มไปทุกชาติ จนกว่าจะเข้านิพพาน เมื่อรู้ว่าระหว่างภพชาติที่ยังไปไม่ถึงก็สร้างบุญเป็นเสบียงให้เกิดมามี พร้อม อันนี้คือความคิดของคนวัดนี้ ก็น่าคิดเล่นๆนะว่า มิน่าล่ะถึงมีแต่เศรษฐี
อย่าลืมว่าแนวทางคำสอนอย่างนี้ อยู่ในศาสนาพุทธนี่แหละ เห็นมั้ย ผมเองก็เพิ่งมารู้ก็ตอนได้ศึกษาศาสนาพุทธจริงๆ ใหม่ๆก็นึกเปรียบเทียบวัดทั่วไปที่เคยเห็น เลยว่าวัดนี้แปลกๆเกินไป
เรื่อง หลักคำสอนอื่นๆ วัดนี้สอนได้ครบถ้วนหมด สอนให้คนละ ปล่อยวางได้ ถึงมีคนมาบวชตลอดชีวิตที่วัดนี้เยอะไงครับ เห็นมีบางคนบอกว่ามาบวชแล้วจะรวยรึเปล่า อารมณ์แบบอัดฉีดรึเปล่า อันนี้ต้องมาลองดู แต่เพื่อนที่เรียนมหาวิทยาลัยมาบวชอยู่หลายรูป เก่งกว่าเราทั้งนั้น เพื่อนเราไม่น่าจะโง่ให้เค้าหลอกนะ ว่าจะแวะไปกราบบ้าง
สรุป วัดพระธรรมกายก็เหมือนวัดทั่วไปนี่แหละครับ เพียงแต่สเกลใหญ่กว่ามากๆๆๆมีทั้งสอน ทั้งปฏิบัติธรรม ทั้งเผยแผ่ พระที่วัดนี้ไม่ได้นั่งๆนอนๆเล่น ทุกรูปต้องรับบุญหรือทำงานตามหน้าที่ ตอนนี้พระในวัดน่าจะเกือบ2,000รูป อุบาสกและอุบาสิกา คือ ชาวบ้านแบบเราๆนี่แหละครับ ที่เค้าละทางโลกได้ แล้วเลื่อมใสปาวารณาตัวบอกว่าช่วยงานศาสนาถือศีล8 กินข้าวก้นบาตรอยู่ในวัดอีก2,000คน รวมๆบุคลากรน่าจะ4,000คน ตัวเลขผิดพลาดต้องขออภัย มีสาขาอยู่ทั่วประเทศและทั่วโลก ยังไม่รวมคนงานและแม่บ้านโรงครัวเป็นที่เป็นการจ้างงานคนในพื้นที่และต่าง จังหวัดอีกมากมาย
และแน่นอน พูดตรงๆถ้างานใหญ่ก็ต้องใช้งบเยอะ คนที่สร้างวัดหรือสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมจะรู้ดี ไม่เชื่อไปถามท่าน ว. ที่ไร่เชิญตะวัน และเมื่อมีที่ก็ต้องมีคนมา ถ้าจะให้คนมาก็ต้องมีพิธีกรรม ซึ่งไม่แปลก เห็นจะแปลกตรงที่วัดพระธรรมกาย ไม่เคยและไม่มีมหรสพเพื่อดึงคนเข้าวัด และไม่เคยเห็นรูปบูชาอื่นใดนอกเหนือไปจากพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ในวัดนี้ ส่วนดวงแก้ว หมายว่าเป็นดวงธรรม หรือ พระธรรมภายใน และสมารถใช้เป็นนิมิตรฝึกสมาธิด้วย พระอาจารย์วัดนี้จะแนะนำทุกครั้งที่มีคนใหม่เข้าวัดแล้วสงสัย
ส่วน เรื่องหลักการทำสมาธิที่ว่าแปลกๆไปนั้นส่วนตัวผมว่าไม่แปลก ในพุทธมีหลายวิธี แนวของวัดนี้ก็มาจากวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ หรือแนว "สัมมาอรหัง" นี่แหละครับ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายไม่ได้คิดเอง ชอบไม่ชอบอย่างไรก็ว่ากันตามจริต ซึ่งถ้าหากจะวิจารณ์เรื่องหลักการวิปัสนาก็ต้องแม่นๆส่วนตัวผมไม่ถนัด เพราะยังเป็นคนกิเลสหนาปัญญาหยาบ ไม่เจนจัดเรื่องนี้ ถ้าเหาะได้เมื่อไหร่จะมาเล่าให้ฟังแล้วกันครับ
พูดถึงตรงนี้ บางครั้ง ผมว่าชาวพุทธเลิกหลอกตัวเองว่าเป็นวิทยาศาสตร์เถอะครับ เรื่องนรก สวรรค์ ผีสางนางไม้มีอยู่ในพระไตรปิฎกชัดเจน ส่วนใหญ่เป็นวิทยาศาสตร์จริง แต่บางส่วนก็อาจไม่ใช่ หรือที่ชาวพุทธเราปลอบใจตัวเองว่า "วิทยาศาสตร์ยังไปไม่ถึง"
และคนที่วิจารณ์คนอื่นว่า "โง่งมงาย ไม่ใช่พุทธแท้ๆเฟ้ย!" อย่าให้เห็นนะครับว่าอัพเฟซบุ๊คว่าไปแก้ปีชง หรือไปไหว้เทพเจ้าแขกที่ไหน มันดูตลกย้อนแย้ง คนวัดพระธรรมกายเค้าจะหัวเราะเยาะแล้วแผ่เมตตาให้เราซะงั้นไป
มาถึง เรื่องการเมืองบ้าง ผู้สนส่วนใหญ่มักคิดว่าวัดนี้เป็นของเสื้อแดงจ้า อดีตนายกฯสร้างบ้าง (วัดนี้อายุ40กว่าปี) บ้าไปแล้ว..จากการสำรวจพบว่า คนเข้าวัดนี้ มีทุกสี แต่ใบ้นิดนึงว่าก็เป็นไปตามโครงสร้างประชากรของประเทศ คิดว่าประเทศไทยนิยมสีไหนมาก ก็คนสีนั้นแหละเข้าวัดมาก ส่วนบุคคลสำคัญก็มีทั้ง2ฝั่งที่เข้าวัดนี้ ไม่รู้ว่ามานั่งสมาธิข้างกันได้ยังไง
และแน่นอนว่า การขยายขนาดนี้ย่อมกระทบ กระตุกหนวดเสือ ทางวัดพระธรรมกายก็รู้ มีการทำสำรวจและรู้ตัวขบวนการที่ชาววัดบอกว่ามุ่งดิสเครดิตวัด
ใน ฐานะทำงานด้านข่าวยอมรับว่ามีจริง และมีทุกวงการ อย่างพวกทีมไซเบอร์ทั้งหลาย อีกทั้ง ชาววัดนี้มักเล่าสู่กันฟังรุ่นต่อรุ่นว่า "ถ้าสื่อสำนักไหนตั้งธงเล่นงานพระบ่อยๆส่วนใหญ่เจ๊งทุกราย"
ยาวหน่อยนะครับ... โปรดติดตามตอนต่อไป Cr.Uncle BP