มีหลายฉากที่ประทับใจในวันนี้
ทั้งฉากที่มิตรผู้เสียสละทั้งสี่ ยอมให้อ้ายศรีแลอ้ายเมืองใจหนีไปเอาปืนใหญ่ให้ได้ ส่วนพวกตนก็ได้พลีชีพแทน ต่อจากนั้น ก็เป็นฉากที่อ้ายยศสันต์ปรึกษาเรื่องงานกับนายแม่ นายแม่ได้กล่าวว่าแม้นทุกคนจะพยายามทำงานอย่างเต็มที่ แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ให้แก่อามิสสินจ้างที่จ่ายใต้โต๊ะ ดูแล้วมิว่ายุคใด สมัยใด ก็ล้วนแล้วแต่มีอ้ายพวกที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน จนทำให้บ้านเมือง ฤๅชิ้นงานต้องเสียไป
แล้วก็มาฉากที่อ้ายศรีแลอ้ายเมืองใจถูกมัดไว้ด้วยกัน เหมือนจักสื่ออะไรบางอย่าง ถึงแม้นเพลานี้ อ้ายศรีแลอ้ายเมืองใจจักมองตากันมิติด แต่ในเมื่อถูกมัดติดอยู่ด้วยกัน (เหมือนกับอยู่ในแผ่นดินเดียวกัน) ก็ต้องสามัคคีกันเพื่อพาตัวเองไปสู่ความอยู่รอด (เหมือนกับการพาประเทศก้าวไปข้างหน้า) หากแม้นเอาแต่ดึงดัน คนหนึ่งไปทาง อีกคนไปทาง ก็คงจักตายเป็นแน่แท้
ฉากที่อ้ายศรีแลอ้ายเมืองใจถูกมัดมืออยู่ด้วยกัน มีคติสอนใจแอบแฝงอยู่
ทั้งฉากที่มิตรผู้เสียสละทั้งสี่ ยอมให้อ้ายศรีแลอ้ายเมืองใจหนีไปเอาปืนใหญ่ให้ได้ ส่วนพวกตนก็ได้พลีชีพแทน ต่อจากนั้น ก็เป็นฉากที่อ้ายยศสันต์ปรึกษาเรื่องงานกับนายแม่ นายแม่ได้กล่าวว่าแม้นทุกคนจะพยายามทำงานอย่างเต็มที่ แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ให้แก่อามิสสินจ้างที่จ่ายใต้โต๊ะ ดูแล้วมิว่ายุคใด สมัยใด ก็ล้วนแล้วแต่มีอ้ายพวกที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน จนทำให้บ้านเมือง ฤๅชิ้นงานต้องเสียไป
แล้วก็มาฉากที่อ้ายศรีแลอ้ายเมืองใจถูกมัดไว้ด้วยกัน เหมือนจักสื่ออะไรบางอย่าง ถึงแม้นเพลานี้ อ้ายศรีแลอ้ายเมืองใจจักมองตากันมิติด แต่ในเมื่อถูกมัดติดอยู่ด้วยกัน (เหมือนกับอยู่ในแผ่นดินเดียวกัน) ก็ต้องสามัคคีกันเพื่อพาตัวเองไปสู่ความอยู่รอด (เหมือนกับการพาประเทศก้าวไปข้างหน้า) หากแม้นเอาแต่ดึงดัน คนหนึ่งไปทาง อีกคนไปทาง ก็คงจักตายเป็นแน่แท้