ในเมื่อชีวิตจริงมันไม่ง่าย แล้วจะทำยังไงต่อไปดี
ตอนเด็กๆ ก็คงจะยังไม่คิดอะไรมาก ได้แต่สนุกสนาน มีความสุขไปวันๆ เนื่องจาก ยังไม่ได้สัมผัสกับโลภายนอก แต่พอเริ่มจะเติบโตขึ้น ความไร้เดียงสาต่างๆก็เริ่มค่อยๆห่างหายไป บางคนอาจจะโชคดีหน่อยได้เติบโตมาในสิ่งเเวดล้อมที่ดี ก็เลยเป็นคนที่ มองอะไรก็สวยงามไปหมด จะเรียนอะไรก็ได้เรียน อยากจะทำอะไรก็ได้ทำ โดยไม่ต้องกังวล เรื่องเงินทอง หาทงหาทุนอะไรเลย ขณะที่คนที่พวกนึง ที่เติบโตมากับสิ่งแวดล้อมที่เลวร้าย หรือ สังคมแย่ๆ มันก็เลยทำให้ท้อแท้กับชีวิต และรู้สึกไม่มีกำลังใจที่จะอยู่ต่อไป
ซึ่งคนพวกแรกที่โชคดีเติบโตมามีพร้อมทุกอย่าง สิ่งแวดล้อมดี ก็ใช่ว่าเขาจะเป็นคนที่ต่อสู้กับโลกแห่งความจริงได้ เนื่องจากว่า อาจจะไม่เคยเจอเรื่องกระทบเเรงๆ อาจจะไม่เคยกินไม่อิ่ม หรือ เครียดจนนอนไม่หลับ แล้วก็เพราะแบบนี้ พอเขาถึงจุดวักฤตเกิดขึ้นกับตัวเอง มันถึงได้ทำใจยอมรับไม่ได้ไง เพราะชีวิตไม่เคยเครียด กังวล สูญเสีย หรือ ผิดหวัง อะไรเลยสักอย่าง ขณะที่คนที่เหมือนจะโชคร้ายนั้น ก็อาจจะเรียกแบบนั้นก็คงจะไม่ได้อีก เพราะว่าสิ่งที่เขาพบเจอ ก็คือ ความจริงที่เกิดขึ้นบนโลก มันก็เลยจะต้องอดทนอย่างมาก ในการใช้ชีวิตมากกว่าหลายเท่าก็เท่านั้นเอง
ดังนั้น ก็อย่าคาดหวังอะไรกับชีวิตมาก สำคัญขอให้อดทน ต่อสู้กับปัญหา เวลาที่ท้อแท้ หมดหวัง หรือ ไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิตต่อไป ก็อย่าเอาแต่พูดว่าตัวเองไม่เอาไหน เพราะมันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น โดยเฉพาะจิตใจ แล้วก็อย่าไปคาดหวังให้ใครมาเข้าใจ เพราะช่วงที่มีปัญหาเยอะๆ นั้น เอาเข้าจริงก็อาจจะไม่ได้มีใครมานึกถึง รับฟังอะไรเลยด้วยซ้ำ เพราะคนมักจะสนใจแต่เรื่องของตนเองเท่านั้นไง ซึ่งก็ไม่เว้นแม้แต่ญาติพี่น้อง ลุง ป้า น้อง อา นะ
ยังไงก็อย่าลืมนะว่า ขณะที่เราหมดหวังท้อแท้กับหลายๆอย่างในชีวิต (พ่อแม่เลวร้าย,ตกอับหมดตัว,โดนไล่ออก ,ครอบครัวแตกแยก,โดนแบงค์ยึดทรัพย์,ค้างค่างวด,ไม่มีเงินผ่อน,ธุรกิจเจ๊ง,ญาติเสียกระทันหัน,หมาที่รักตายไปอย่างไม่มีวันกลับ,ไม่มีข้าวกิน,ลูกไม่มีใครเลี้ยง) คนที่ย่ำแย่กว่าเรา อีกหลายคน ก็พยายามที่จะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเคยเห็นบ้างไหม คนที่อยู่ๆกลายเป็นคนพิการ ช่วยเหลือไม่ได้แม้กระทั่งตนเอง เขาจะยิ่งรู้สึกแย่กว่าเราอีก ซึ่งที่ว่ามานี่ ไม่ได้จะให้รู้สึกแย่ลงกว่าเดิม แต่จะชี้ให้เห็นว่า ในโลกความจริงแล้ว เราจะต้องอดทนกันมากแค่ไหน เพื่อให้ยังสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้
ในเมื่อชีวิตจริงมันไม่ง่าย แล้วจะทำยังไงต่อไปดี
ตอนเด็กๆ ก็คงจะยังไม่คิดอะไรมาก ได้แต่สนุกสนาน มีความสุขไปวันๆ เนื่องจาก ยังไม่ได้สัมผัสกับโลภายนอก แต่พอเริ่มจะเติบโตขึ้น ความไร้เดียงสาต่างๆก็เริ่มค่อยๆห่างหายไป บางคนอาจจะโชคดีหน่อยได้เติบโตมาในสิ่งเเวดล้อมที่ดี ก็เลยเป็นคนที่ มองอะไรก็สวยงามไปหมด จะเรียนอะไรก็ได้เรียน อยากจะทำอะไรก็ได้ทำ โดยไม่ต้องกังวล เรื่องเงินทอง หาทงหาทุนอะไรเลย ขณะที่คนที่พวกนึง ที่เติบโตมากับสิ่งแวดล้อมที่เลวร้าย หรือ สังคมแย่ๆ มันก็เลยทำให้ท้อแท้กับชีวิต และรู้สึกไม่มีกำลังใจที่จะอยู่ต่อไป
ซึ่งคนพวกแรกที่โชคดีเติบโตมามีพร้อมทุกอย่าง สิ่งแวดล้อมดี ก็ใช่ว่าเขาจะเป็นคนที่ต่อสู้กับโลกแห่งความจริงได้ เนื่องจากว่า อาจจะไม่เคยเจอเรื่องกระทบเเรงๆ อาจจะไม่เคยกินไม่อิ่ม หรือ เครียดจนนอนไม่หลับ แล้วก็เพราะแบบนี้ พอเขาถึงจุดวักฤตเกิดขึ้นกับตัวเอง มันถึงได้ทำใจยอมรับไม่ได้ไง เพราะชีวิตไม่เคยเครียด กังวล สูญเสีย หรือ ผิดหวัง อะไรเลยสักอย่าง ขณะที่คนที่เหมือนจะโชคร้ายนั้น ก็อาจจะเรียกแบบนั้นก็คงจะไม่ได้อีก เพราะว่าสิ่งที่เขาพบเจอ ก็คือ ความจริงที่เกิดขึ้นบนโลก มันก็เลยจะต้องอดทนอย่างมาก ในการใช้ชีวิตมากกว่าหลายเท่าก็เท่านั้นเอง
ดังนั้น ก็อย่าคาดหวังอะไรกับชีวิตมาก สำคัญขอให้อดทน ต่อสู้กับปัญหา เวลาที่ท้อแท้ หมดหวัง หรือ ไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิตต่อไป ก็อย่าเอาแต่พูดว่าตัวเองไม่เอาไหน เพราะมันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น โดยเฉพาะจิตใจ แล้วก็อย่าไปคาดหวังให้ใครมาเข้าใจ เพราะช่วงที่มีปัญหาเยอะๆ นั้น เอาเข้าจริงก็อาจจะไม่ได้มีใครมานึกถึง รับฟังอะไรเลยด้วยซ้ำ เพราะคนมักจะสนใจแต่เรื่องของตนเองเท่านั้นไง ซึ่งก็ไม่เว้นแม้แต่ญาติพี่น้อง ลุง ป้า น้อง อา นะ
ยังไงก็อย่าลืมนะว่า ขณะที่เราหมดหวังท้อแท้กับหลายๆอย่างในชีวิต (พ่อแม่เลวร้าย,ตกอับหมดตัว,โดนไล่ออก ,ครอบครัวแตกแยก,โดนแบงค์ยึดทรัพย์,ค้างค่างวด,ไม่มีเงินผ่อน,ธุรกิจเจ๊ง,ญาติเสียกระทันหัน,หมาที่รักตายไปอย่างไม่มีวันกลับ,ไม่มีข้าวกิน,ลูกไม่มีใครเลี้ยง) คนที่ย่ำแย่กว่าเรา อีกหลายคน ก็พยายามที่จะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเคยเห็นบ้างไหม คนที่อยู่ๆกลายเป็นคนพิการ ช่วยเหลือไม่ได้แม้กระทั่งตนเอง เขาจะยิ่งรู้สึกแย่กว่าเราอีก ซึ่งที่ว่ามานี่ ไม่ได้จะให้รู้สึกแย่ลงกว่าเดิม แต่จะชี้ให้เห็นว่า ในโลกความจริงแล้ว เราจะต้องอดทนกันมากแค่ไหน เพื่อให้ยังสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้