หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] เพราะอารมณ์เปลียว เลยสะพายเป้เที่ยว ... ปาย
กระทู้รีวิว
ปาย
บันทึกนักเดินทาง
Backpack
จังหวัดเชียงใหม่
สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกที่เกี่ยวกับการเดินทาง สามารถแนะนำ ติชม กันได้นะคะ
อย่างที่จั่วหัวไว้ "เพราะอารมณ์เปลี่ยว เลยสะพายเป้เที่ยว...ปาย" อารมณ์นั้นจริง ๆ
เนื่องจากว่า ปาย เป็นสถานที่ ที่เราอยากไปมานานมากแล้ว ตั้งแต่ปายยังไม่มีชื่อเสียงมากเท่าทุกวันนี้
จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้ไป แต่ในที่สุด ฟ้าก็เป็นใจ เมื่อเหลือบมองปฏิทินหยุดงานของบริษัท เลยจัดการจองตั๋วทั้งรถทัวร์ และ เครื่องบิน ฤกษ์งามยามดีในการเดินทางคือ 5-8 ก.พ. การเดินทางครั้งนี้ Backpack คนเดียว และเนื่องจากว่าเที่ยวคนเดียว ดังนั้นเลยเที่ยวแบบตามใจฉัน ไม่มีการวางแผนใด ๆ ทั้งสิ้น สไตล์การเที่ยวออกแนวขี้เกียจหน่อย ๆ ไปเพื่อเปลี่ยนที่นอน ที่อ่านนิยาย
เราเริ่มจากขึ้นรถทัวร์ที่นครชัยแอร์ กะเวลาไปถึงโน้นเช้าพอดี ด้วยความที่ไม่รู้ว่ารถบัสมีแค่เที่ยวเดียวจากเชียงใหม่ ไปปาย คือรอบ 7:00 น. เลยทำเราเลือกนั่งรถทัวร์รอบสุดท้าย จึงได้นั่งรถตู้แทน คำเตือนในการนั่งรถตู้ คือ ท้องอย่าว่าง และ หากคุณ sensitive ต่อ รูป กลิ่น เสียง ของอาเจียน ภาวนาอย่าได้นั่งข้างพี่จีน เพราะ ขนาดเราทนไม้ทนมือแล้วยังเริ่มจะหาถุงตามพี่เขาเลย หรือ หากเป็นคนเมารถทุนเดิมอยู่แล้ว ภาวนาให้ยาแก้เมารถอย่าหมดฤทธิ์ก่อนถึงโค้งสุดท้าย รถตู้จากอาเขต ไปปายใช้เวลา 3 ชั่วโมง โดยประมาณ จะมีให้แวะระหว่างทาง 1 ครั้ง
เมื่อถึงจุดหมายปลายทางเรียบร้อยแล้ว เดินหาร้านเช่ามอไซค์ ได้คำแนะนำจากพี่ที่รู้จักว่า ปกติพี่เขาจะเช่าร้าน A Ya เลยตัดสินใจเดินไปเช่าที่นั้น ราคาอยู่ที่ 140/วัน มัดจำ 1,000 บาท พร้อมบัตรประชาชน หากนักท่องเที่ยวเยอะอาจจะต้องรอรถสักหน่อย ในกรณีต้องการรถเกียร์ออโต้ หรือถ้าไม่อยากรอก็เลือกรถเกียร์ธรรมดาได้เลยค่ะ เมื่อได้รถคู่ใจเรียบร้อย แว๊นซ์เข้าที่พักทันที เราพักเลือกพักที่ Prilpai Guesthouse บ้านหลักที่เราอยู่คืนละ 800 บาท ห้องพัดลม มีทีวี เครื่องทำน้ำอุ่น เปิดเข้าไปแล้วสำรวจชอบห้องน้ำที่สุด Open air อาบน้ำแต่ละครั้งต้องแข่งกับอุณหภูมิสุด ๆ เร้าใจไปอีกแบบ
เก็บของเสร็จสถานที่แรกที่เราแว๊นซ์ไป คือ ส้มตำหน้าอำเภอ คนเดียว 3 อย่าง แน่นอนว่าต้องมีพระเอกอย่าง ส้มตำปลาร้า เห็นเขาว่าร้านนี้อร่อย เลยต้องชิม แค่คำแรกก็ โอ้โห้ ปลาร้าจริงจังมาก แซ่บ นัว ครัวปายมาก (จะครัวอิสานก็ไม่ได้ เพราะ กินที่ปาย) ค่าเสียหายมื้อนี้ 150 บาท
เมื่อท้องอิ่ม สมองสั่ง หาที่เที่ยวเถอะ ปักมุดที่แรก สะพานประวัติศาสตร์ ถ่ายรูปไปนิดเดียว ถ่ายแบบรีบ ๆ เพราะเอาจริง ๆ ยังไม่ชินกับการเที่ยวคนเดียว และ อีกอย่างด้วยน้ำหนักตัวแล้ว แอบกลัวไม้บนสะพาย เลยได้เดินแค่ต้น ๆ สะพานไม่กล้าไปกลางสะพานเท่าไหร่ รู้ว่าแข็งแรง แต่พี่ก็ยังอดหวั่นใจไม่ได้ ถ่ายรูปแชะ สองแชะ เลยตัดสินใจไปสถานีต่อไป
สถานีต่อไป คือ กองแลน หรือ ปายแคนย่อน เห็นบันไดนึกว่าเดินขึ้นชิล ๆ ที่ไหนได้ หอบเอาการ แต่ได้กำลังใจดีจากเด็กฝรั่งเดินตาม แสดงเป็นช้างเท้าหน้าให้ฝรั่งได้รู้ หญิงไทยแข็งแรง เดินไม่มีหยุด แม้จะหอบแฮกก็ตาม เดินขึ้นถึงชั้นบนได้สูดหายใจเข้าเต็มปอด หาจังหวะถ่ายรูป กะว่าจะเดินลงตาม 3 หนุ่มลงไปซักหน่อย แต่สังขารป้าไม่ไหวจริง ๆ ขอนั่งพักแถว ๆ นั้นละกัน ได้รูปมา 3 รูปถ้วน นั่งเล่นกินลมซะส่วนใหญ่ หายเหนื่อยจึงเดินไปต่อ เนื้อคู่ คือ เนื้อคู่ ลงมาปะ 3 หนุ่มนั้น แต่ก็มีอันต้องแยกจาก เพราะ เด็กหนุ่มทั้ง 3 ตกลงกันว่าจะไป Love Strawberry Pai ต่อ (แอบสาระแนล้วน ๆ) แต่สำหรับเราแล้ว เราคิดว่ามันเฉย ๆ เลยขอข้ามไปกินลม จิบกาแฟ ณ Coffee in love ดีกว่า แต่พอถึงที่หมาย โอ้โห้!!! ขุ่นพระ คนหรือนี่ ที่นั่งไม่มี แต่กาแฟหอมมาก เดินหาที่สักพัก ตัดสินใจ กลับไปชาร์ตแบตมือถือ แล้วชาร์ตแบตตัวเองทีห้องดีกว่า ว่าแล้วก็แว๊นซ์กลับห้อง นอน
Coffee in love ไม่ได้เข้า ถ่ายตู้ไปรษณีย์ด้านหน้ามาอย่างเดียว
ตื่นขึ้นมาได้เวลาถนนคนเดิน มิรอช้า รีบบิดรถคู่ใจไป วนหาที่จอดรถอยู่นาน จะจอดหน้าร้านก็เกรงใจเขา เลยได้มาจอดที่หน้าโรงเรียน แล้วค่อยเดินไปแทน เราเลือกเดินดูร้านก่อน 1 รอบ แล้วค่อยเจาะจงว่าพุ่งเข้าร้านไหนดี ร้านแรกที่เข้าคือ ยำขนมจีน แปลกดี เพิ่งเคยเห็น รสชาติใช้ได้ กระทงละ 10 บาท เดินไป กินไป หมดซะล่ะ ถ้าหากมาปายแล้วไม่ได้เขียนโปสการ์ดมันก็ไม่ใช่เนาะ เอากับเขาซักหน่อย ซื้อมา 3 แผ่น แผ่นละ 10 บาท แสตมป์ดวงละ 3 บาท (ใช่มั้ย ลืม) เขียนถึงตัวเอง พ่อแม่ และ พี่ที่รู้จัก เนื่องจากได้บอกกล่าวแกไปว่า "กลับจากปาย ถ้าไม่มีผู้ชายไปฝาก จะเขียนโปสการ์ดให้นะ" และ ดูจากรูปการแล้ว ไม่มีจะมีไปฝากพี่แกแน่นอน เลยเลือกเขียนโปสการ์ดเลยดีกว่า เขียนไป ติดแสตมป์ไป หย่อนตู้เสร็จ อ้าว!!! shift หายล่ะ ยังไม่ได้ถ่ายรูปโปสการ์ดเลย งั้นช่างมันเถอะ ไม่ทันล่ะ เลยเดินออกจากร้าน มุ่งหน้าหาร้านต่อไป เนื่องจากยังอิ่มส้มตำ ข้าวเหนียวอยู่ เลยเลือกที่จะกินอะไรเบา ๆ เน้นแคลอรี่ เช่น โรตีไข่ชีส สั่งมา 1 แผ่น เอาไว้ไปกินที่ห้อง ผลไม้ซักหน่อย มัลเบอร์รี่มา 1 กล่อง หนาว เย็น เลยกลับดีกว่า ระหว่างที่เดินหาของกิน ก็เดินดูตารางทัวร์ไปด้วย แต่เนื่องจากอะไรดลใจไม่รู้ เลยตัดสินใจไม่ไปดีกว่า ห้วยน้ำดัง ปางอุ๋ง ลอยหายไปในพริบตา เมื่อเห็นเวลา ตี4 และ ตี5 (ความขี้เกียจดลใจนั้นเอง)
อย่างที่บอกว่าลักษณะของห้องน้ำนั้น Open air อาบไปเต้นไป มันส์เลยทีเดียว ยิ่งคืนที่ 2 ได้ยินแม่ค้าพูดว่า อุณหภูมิอาจจะลดถึง 9 องศา อือฮืออ ถนนคนเดินคงไม่ได้แอ้มเงินฉัน(มาก)หรอก รีบซื้อของ รีบกลับ ไปอาบน้ำ
เช้าวันที่ 2 ณ ปาย อากาศดีมาก ไม่มีแดดเลย ตอนแรกกลางคืนวางแผนกับตัวเองไว้ว่าจะไป หยุนไหล ไปดูทะเลหมอกตอนเช้า ที่ไหนได้ ไหลเลย นอนไหล อยู่ในห้อง ตื่นอีกที 7 โมงกว่า ๆ กว่าจะเขี่ยขี้ตา อาบน้ำเสร็จ ปาเข้าไป 8 โมงกว่า ๆ เช้านี้ทางพริ้วปาย ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ให้ คือ ข้าวต้มหมูเห็ดหอม หอมจริง กระเทียมเจียวหอมมาก รสชาติอร่อยมาก แทบอยากจะเดินไปบอกป้าว่า หนูขอเพิ่มอีกถ้วยได้ไหมค่ะ นั่งพิรี้พิไรซักพัก ได้ฤกษ์ออกจากที่พัก
จุดหมายแรกที่ไป คือ วัดพระธาตุแม่เย็น (อยู่ใกล้ ๆ ที่พัก) ดูจากบันไดแล้ว กว่าจะถึงบนสุด หอบชัวร์ และก็หอบจริง ๆ แต่พอมองลงมาเท่านั้นล่ะ มันหายเหนื่อยเลย วิวด้านล่างสวยมาก มันรวมความเป็นธรรมชาติ และ บ้านเรือนเข้าด้วยกันได้ดี เดินวนพระใหญ่ 1 รอบ นั่งกินลม ชมวิว สูดหายใจเข้าปอดให้ลึก ๆ หลาย ๆ รอบ ทำการแว๊นซ์ไปที่ต่อไป
ที่ถัดมา คือ หยุนไหล ที่ ๆ นอนไหล เลยไม่ได้ออกมาตอนเช้า มาตอนสาย ๆ ก็สวยเหมือนกันนะ แต่กว่าจะขี่ถึง ต้องเปิดดู แผนที่ หลายรอบว่ามาถูกหรือเปล่า เพราะ ข้างทางไม่บอกอะไรเลย ขี่มาก็นานล่ะ แต่ในที่สุดก็ถึงจุดหมาย สวยจริง ๆ พูดได้คำเดียว นี่ถ้ามาตอนเช้า พระอาทิตย์กำลังจะขึ้น หรือ หมอกลงจัด ๆ จะสวยขนาดไหน ขนาดมีหมอกลงเล็กน้อยยังสวยขนาดนี้ ว่าแล้วก็ชักภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก ตำราเดิม เดินวนไป วนมา นั่งยอง ๆ สูดอากาศเข้าปอด
ก่อนจะถึงหยุนไหล เราจะผ่านหมู่บ้านสันติชล ดังนั้นขากลับเราต้องแวะ และ เมื่อดูเวลาด้วยแล้ว ฝากท้องมื้อเที่ยงเลยละกัน ถามว่าข้าวต้มย่อยแล้ว? ตอบเลยว่า ยังค่ะ เดินดูรอบ ๆ หมู่บ้านที่เขาจัดขึ้นมา มีชาขาย มีสตรอเบอร์รี่อบแห้ง บ๊วย มะเขือเทศ และ อีกมากมาย วางขาย แต่เป้าหมายของเรา คือ อาหารยูนาน เดินเข้าไปในร้านของชาวบ้าน (ลักษณะเหมือนโรงเตี๊ยม ในหนังจีน เวลาเดินทางไกล จินตนาการณ์ล่ำจริง ๆ) แน่นอนว่าสั่งที่ต้องสั่ง คือ ขาหมูน้ำแดง แอบถามน้องเขาแล้วว่า มีชุดเล็กมั้ยค่ะน้อง เผอิญพี่มาคนเดียว คำตอบที่ได้คือ มีชุดเดียวนี่ล่ะครับ อืมมม งั้นก็โอเคครับ ขาหมู 1 ซาลาเปานึง 3 ทอด 2 ผัดยอดฟักแม้ว 1 (มาคนเดียว หึหึ) ตัดเลี่ยนด้วย ชา 1 กา กินเสร็จถึงกับไปไหนไม่รอด เต็มท้อง ค่าเสียหายมื้อนี้ 400 บาท
อาหารย่อยซักพักไปต่อที่ถัดไป วัดน้ำฮู วัดนี้เข้าไปกราบพระ และ อ่านประวัติของวัด ออกมาด้านนอกจะเจอ เจดีย์บรรจุพระอัฐิ และ พระเกศา ของพระสุพรรณกัลยา
ขี่รถเที่ยวนอกตัวเมือง ในตัวเมืองปาย ซักพักเริ่มรู้สึกว่า ขาหมูทำพิษ ควรนอน ไม่รอช้าแว๊นซ์กลับห้องนอน กะเวลาซักบ่าย 3 ค่อยออกไปนั่งปักหลักรอถนนคนเดินที่ร้านกาแฟ ในที่สุดร้านรวงก็เริ่มเปิด เราก็เริ่มเดิน พิกัดแรกอยู่ที่ ร้านขนมจีนนั่งยอง สั่งน้ำยากระทิ ไข่ต้ม 1 อือหือออ อร่อย แต่เบิ้ลคงไม่ไหว เพราะ ขาหมู และ ซาลาเปายังจองพื้นที่ไว้อยู่ สำหรับรอบนี้เรากะว่าจะเดินซื้อเฉพาะของฝากเท่านั้น อย่างที่บอกว่า เราได้ยินแม่ค้าคุยกันเรื่อง 9 องศา จึงตัดสินใจ รีบซื้อ รีบกลับดีกว่า ได้สตรอเบอร์รี่มาเป็นของฝาก โรตีชีสของเพิ่มแคลอรี่ เช่นเดิม
แม่น้ำปาย ยามเย็น
ทุ่งก่อนถึงที่พัก
ชื่อสินค้า:
ปาย
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
กล้องเซลฟี่ sony หล่นหาย ที่ หยุนไหล อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน
เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2558 แฟนผมกับครอบครัวขึ้นไปชมทะเลหมอกที่จุดชมวิว หยุนไหล อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน กล้องเซลฟี่ SONY DSC-KW11 ได้หล่นจากกระเป๋าสะพายโดยไม่รู้ตัว และ คงเพราะยังไม่เช้าเลยไม่เห็นตอนร่วง
bond13th
หนังสือ คู่มือปฎิบัติวัดท่าซุง เล่ม 1 อานาปานุสสติกรรมฐาน ตอนที่ 15.1
อานาปานุสสติกรรมฐาน ตอนที่ 15.1 ท่านสาธุชนพุทธบริษัททั้งหลาย และพระโยคาวจรทั้งหลาย สำหรับเวลานี้ ท่านทั้งหลายได้พากันสมาทานศีล สมาทานพระกรรมฐาน สมาทานศีลแล้ว ต่อนี้ไปโ
สมาชิกหมายเลข 8483559
สอบถามระยะเวลาการเดินทางเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน แบบวงกลม ค่ะ
ไปเที่ยววันธรรมดาช่วงปลายเดือนธันวาคมค่ะ ขับรถเก๋งมือเดียวไปกับเพื่อน 2 คน รบกวนสอบถามเรื่อง ระยะเวลาการเดินทางในแต่ละวันต้องใช้เวลาประมาณเท่าไร เพราะถ้ามีเวลาเหลือ จะแวะเที่ยวตามรายทางค่ะ วัน1
สมาชิกหมายเลข 5432350
รวม 30 รูปที่ชอบที่สุดปี 2018 จากกล้องมือถือ Xiaomi x วิชาท่องเที่ยว 101
สวัสดีครับ เพื่อนๆ Pantip ทุกคน หลังๆ มานี่ต้องยอมรับเลยว่าเวลาออกไปท่องเที่ยวถ่ายรูปนั่น บางครั้งก็ขี้เกียจที่จะสะพายกล้องหนักๆ แบกอุปกรณ์เยอะๆ เลยเปลี่ยนมาใช้มือถือแทนกล้องคอยเก็บภาพบรรยากาศแทน ผมเ
วิชาท่องเที่ยว 101
ขอคำแนะนำเที่ยวปาย ครึ่งวัน
ขอคำแนะนำเที่ยวปาย ครึ่งวัน ผมเดินทางถึงปายค่ำวันที่ 28 ธันวาคม 2567 วันที่ 29 คิดว่าจะเที่ยวในอำเภอปาย ครึ่งวัน เริ่ม 6 โมงเช้าเลยครับ เพราะบ่าย จะเดินทางต่อไปบ้านรักไทยมีแพลนแวะระหว่างทางด้วย ซ
สมาชิกหมายเลข 3204353
หกโมงเช้า-เที่ยงคืน 1,351 km กับการเดินทางของเด็กชายตี๋
ตาม ใจ ปรารถนา : อุ้มผาง แผ่นดินดอย ถนนลอยฟ้า คือ เม็ดยาจากธรรมชาติ ที่ช่วยบำบัดรักษาอาการ " อยากโค้ง " ของคนชอบขี่รถมอเตอร์ไซค์ การเดิ
dnt_mocyc
หนึ่งในร้อย ตอนที่ 13 (รีวิว) : Bloomability
วันเวลาในแดนใต้ หมุนเวียนเปลี่ยนผัน คุณพระอรรถคดีวิชัยกำลังบรรจงปั้นสาวน้อยที่คอยฉอเลาะออเซาะอยู่ตรงหน้า เพื่อในเวลาอันใกล้ตำแหน่งที่เขาคิดไว้มันจะเลื่อนลอยลงมาหาเธอในไม่ช้า เช้าวันนี้เสีย
วรินทร์รตา
หนึ่งในร้อย ตอนที่ 12 (รีวิว) : Great Expectation
เมื่อได้สติบริบูรณ์ขึ้นมา สิ่งแรกที่คุณพระนึกถึง คือ สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเขาและอนงค์ในวันวาน นั่นทำให้เขาไปนั่งจ๋องต่อหน้าคุณอาแฝดของอนงค์พร้อมสารภาพเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น แล้วท้ายที่สุดจดหมายห
วรินทร์รตา
๏ ... ปล่อยวาง กลางทะเลชีวิต ... ๏
https://www.youtube.com/watch?v=X9ZQBMlUNSU.09.36 น..๏ บุญไม่พอ ต่อแพ พยุงชีพเห็นนาวาใหญ่ อยู่ไกลลิบ รีบพายจ้ำฝ่าคลื่นน้ำลาย อารมณ์ แทบล้มคว่ำทะเล เจ้ากรรม
นกโก๊ก
ชาวนครปฐม ใครเคยเจอกระเทยตามคุกคาม ระแวกตลาดองค์พระ หรือสถานีรถไฟบ้าง?
ผมเพิ่งโดนเมื่อเช้านี่เองครับ รอรถสปรินเตอร์กลับบ้านที่ใต้ เป็นกระเทยน่าจะอายุราวๆ 40 - 50 ใส่เสื้อคอปกส้ม สะพายกระเป๋าโน๊ตบุ้กดำ ตอนแรกทำทีเดินเข้ามาพูดคุยเรื่
สมาชิกหมายเลข 8449614
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ปาย
บันทึกนักเดินทาง
Backpack
จังหวัดเชียงใหม่
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] เพราะอารมณ์เปลียว เลยสะพายเป้เที่ยว ... ปาย
อย่างที่จั่วหัวไว้ "เพราะอารมณ์เปลี่ยว เลยสะพายเป้เที่ยว...ปาย" อารมณ์นั้นจริง ๆ
เนื่องจากว่า ปาย เป็นสถานที่ ที่เราอยากไปมานานมากแล้ว ตั้งแต่ปายยังไม่มีชื่อเสียงมากเท่าทุกวันนี้
จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้ไป แต่ในที่สุด ฟ้าก็เป็นใจ เมื่อเหลือบมองปฏิทินหยุดงานของบริษัท เลยจัดการจองตั๋วทั้งรถทัวร์ และ เครื่องบิน ฤกษ์งามยามดีในการเดินทางคือ 5-8 ก.พ. การเดินทางครั้งนี้ Backpack คนเดียว และเนื่องจากว่าเที่ยวคนเดียว ดังนั้นเลยเที่ยวแบบตามใจฉัน ไม่มีการวางแผนใด ๆ ทั้งสิ้น สไตล์การเที่ยวออกแนวขี้เกียจหน่อย ๆ ไปเพื่อเปลี่ยนที่นอน ที่อ่านนิยาย
เราเริ่มจากขึ้นรถทัวร์ที่นครชัยแอร์ กะเวลาไปถึงโน้นเช้าพอดี ด้วยความที่ไม่รู้ว่ารถบัสมีแค่เที่ยวเดียวจากเชียงใหม่ ไปปาย คือรอบ 7:00 น. เลยทำเราเลือกนั่งรถทัวร์รอบสุดท้าย จึงได้นั่งรถตู้แทน คำเตือนในการนั่งรถตู้ คือ ท้องอย่าว่าง และ หากคุณ sensitive ต่อ รูป กลิ่น เสียง ของอาเจียน ภาวนาอย่าได้นั่งข้างพี่จีน เพราะ ขนาดเราทนไม้ทนมือแล้วยังเริ่มจะหาถุงตามพี่เขาเลย หรือ หากเป็นคนเมารถทุนเดิมอยู่แล้ว ภาวนาให้ยาแก้เมารถอย่าหมดฤทธิ์ก่อนถึงโค้งสุดท้าย รถตู้จากอาเขต ไปปายใช้เวลา 3 ชั่วโมง โดยประมาณ จะมีให้แวะระหว่างทาง 1 ครั้ง
เมื่อถึงจุดหมายปลายทางเรียบร้อยแล้ว เดินหาร้านเช่ามอไซค์ ได้คำแนะนำจากพี่ที่รู้จักว่า ปกติพี่เขาจะเช่าร้าน A Ya เลยตัดสินใจเดินไปเช่าที่นั้น ราคาอยู่ที่ 140/วัน มัดจำ 1,000 บาท พร้อมบัตรประชาชน หากนักท่องเที่ยวเยอะอาจจะต้องรอรถสักหน่อย ในกรณีต้องการรถเกียร์ออโต้ หรือถ้าไม่อยากรอก็เลือกรถเกียร์ธรรมดาได้เลยค่ะ เมื่อได้รถคู่ใจเรียบร้อย แว๊นซ์เข้าที่พักทันที เราพักเลือกพักที่ Prilpai Guesthouse บ้านหลักที่เราอยู่คืนละ 800 บาท ห้องพัดลม มีทีวี เครื่องทำน้ำอุ่น เปิดเข้าไปแล้วสำรวจชอบห้องน้ำที่สุด Open air อาบน้ำแต่ละครั้งต้องแข่งกับอุณหภูมิสุด ๆ เร้าใจไปอีกแบบ
เก็บของเสร็จสถานที่แรกที่เราแว๊นซ์ไป คือ ส้มตำหน้าอำเภอ คนเดียว 3 อย่าง แน่นอนว่าต้องมีพระเอกอย่าง ส้มตำปลาร้า เห็นเขาว่าร้านนี้อร่อย เลยต้องชิม แค่คำแรกก็ โอ้โห้ ปลาร้าจริงจังมาก แซ่บ นัว ครัวปายมาก (จะครัวอิสานก็ไม่ได้ เพราะ กินที่ปาย) ค่าเสียหายมื้อนี้ 150 บาท
เมื่อท้องอิ่ม สมองสั่ง หาที่เที่ยวเถอะ ปักมุดที่แรก สะพานประวัติศาสตร์ ถ่ายรูปไปนิดเดียว ถ่ายแบบรีบ ๆ เพราะเอาจริง ๆ ยังไม่ชินกับการเที่ยวคนเดียว และ อีกอย่างด้วยน้ำหนักตัวแล้ว แอบกลัวไม้บนสะพาย เลยได้เดินแค่ต้น ๆ สะพานไม่กล้าไปกลางสะพานเท่าไหร่ รู้ว่าแข็งแรง แต่พี่ก็ยังอดหวั่นใจไม่ได้ ถ่ายรูปแชะ สองแชะ เลยตัดสินใจไปสถานีต่อไป
สถานีต่อไป คือ กองแลน หรือ ปายแคนย่อน เห็นบันไดนึกว่าเดินขึ้นชิล ๆ ที่ไหนได้ หอบเอาการ แต่ได้กำลังใจดีจากเด็กฝรั่งเดินตาม แสดงเป็นช้างเท้าหน้าให้ฝรั่งได้รู้ หญิงไทยแข็งแรง เดินไม่มีหยุด แม้จะหอบแฮกก็ตาม เดินขึ้นถึงชั้นบนได้สูดหายใจเข้าเต็มปอด หาจังหวะถ่ายรูป กะว่าจะเดินลงตาม 3 หนุ่มลงไปซักหน่อย แต่สังขารป้าไม่ไหวจริง ๆ ขอนั่งพักแถว ๆ นั้นละกัน ได้รูปมา 3 รูปถ้วน นั่งเล่นกินลมซะส่วนใหญ่ หายเหนื่อยจึงเดินไปต่อ เนื้อคู่ คือ เนื้อคู่ ลงมาปะ 3 หนุ่มนั้น แต่ก็มีอันต้องแยกจาก เพราะ เด็กหนุ่มทั้ง 3 ตกลงกันว่าจะไป Love Strawberry Pai ต่อ (แอบสาระแนล้วน ๆ) แต่สำหรับเราแล้ว เราคิดว่ามันเฉย ๆ เลยขอข้ามไปกินลม จิบกาแฟ ณ Coffee in love ดีกว่า แต่พอถึงที่หมาย โอ้โห้!!! ขุ่นพระ คนหรือนี่ ที่นั่งไม่มี แต่กาแฟหอมมาก เดินหาที่สักพัก ตัดสินใจ กลับไปชาร์ตแบตมือถือ แล้วชาร์ตแบตตัวเองทีห้องดีกว่า ว่าแล้วก็แว๊นซ์กลับห้อง นอน
Coffee in love ไม่ได้เข้า ถ่ายตู้ไปรษณีย์ด้านหน้ามาอย่างเดียว
ตื่นขึ้นมาได้เวลาถนนคนเดิน มิรอช้า รีบบิดรถคู่ใจไป วนหาที่จอดรถอยู่นาน จะจอดหน้าร้านก็เกรงใจเขา เลยได้มาจอดที่หน้าโรงเรียน แล้วค่อยเดินไปแทน เราเลือกเดินดูร้านก่อน 1 รอบ แล้วค่อยเจาะจงว่าพุ่งเข้าร้านไหนดี ร้านแรกที่เข้าคือ ยำขนมจีน แปลกดี เพิ่งเคยเห็น รสชาติใช้ได้ กระทงละ 10 บาท เดินไป กินไป หมดซะล่ะ ถ้าหากมาปายแล้วไม่ได้เขียนโปสการ์ดมันก็ไม่ใช่เนาะ เอากับเขาซักหน่อย ซื้อมา 3 แผ่น แผ่นละ 10 บาท แสตมป์ดวงละ 3 บาท (ใช่มั้ย ลืม) เขียนถึงตัวเอง พ่อแม่ และ พี่ที่รู้จัก เนื่องจากได้บอกกล่าวแกไปว่า "กลับจากปาย ถ้าไม่มีผู้ชายไปฝาก จะเขียนโปสการ์ดให้นะ" และ ดูจากรูปการแล้ว ไม่มีจะมีไปฝากพี่แกแน่นอน เลยเลือกเขียนโปสการ์ดเลยดีกว่า เขียนไป ติดแสตมป์ไป หย่อนตู้เสร็จ อ้าว!!! shift หายล่ะ ยังไม่ได้ถ่ายรูปโปสการ์ดเลย งั้นช่างมันเถอะ ไม่ทันล่ะ เลยเดินออกจากร้าน มุ่งหน้าหาร้านต่อไป เนื่องจากยังอิ่มส้มตำ ข้าวเหนียวอยู่ เลยเลือกที่จะกินอะไรเบา ๆ เน้นแคลอรี่ เช่น โรตีไข่ชีส สั่งมา 1 แผ่น เอาไว้ไปกินที่ห้อง ผลไม้ซักหน่อย มัลเบอร์รี่มา 1 กล่อง หนาว เย็น เลยกลับดีกว่า ระหว่างที่เดินหาของกิน ก็เดินดูตารางทัวร์ไปด้วย แต่เนื่องจากอะไรดลใจไม่รู้ เลยตัดสินใจไม่ไปดีกว่า ห้วยน้ำดัง ปางอุ๋ง ลอยหายไปในพริบตา เมื่อเห็นเวลา ตี4 และ ตี5 (ความขี้เกียจดลใจนั้นเอง)
อย่างที่บอกว่าลักษณะของห้องน้ำนั้น Open air อาบไปเต้นไป มันส์เลยทีเดียว ยิ่งคืนที่ 2 ได้ยินแม่ค้าพูดว่า อุณหภูมิอาจจะลดถึง 9 องศา อือฮืออ ถนนคนเดินคงไม่ได้แอ้มเงินฉัน(มาก)หรอก รีบซื้อของ รีบกลับ ไปอาบน้ำ
เช้าวันที่ 2 ณ ปาย อากาศดีมาก ไม่มีแดดเลย ตอนแรกกลางคืนวางแผนกับตัวเองไว้ว่าจะไป หยุนไหล ไปดูทะเลหมอกตอนเช้า ที่ไหนได้ ไหลเลย นอนไหล อยู่ในห้อง ตื่นอีกที 7 โมงกว่า ๆ กว่าจะเขี่ยขี้ตา อาบน้ำเสร็จ ปาเข้าไป 8 โมงกว่า ๆ เช้านี้ทางพริ้วปาย ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ให้ คือ ข้าวต้มหมูเห็ดหอม หอมจริง กระเทียมเจียวหอมมาก รสชาติอร่อยมาก แทบอยากจะเดินไปบอกป้าว่า หนูขอเพิ่มอีกถ้วยได้ไหมค่ะ นั่งพิรี้พิไรซักพัก ได้ฤกษ์ออกจากที่พัก
จุดหมายแรกที่ไป คือ วัดพระธาตุแม่เย็น (อยู่ใกล้ ๆ ที่พัก) ดูจากบันไดแล้ว กว่าจะถึงบนสุด หอบชัวร์ และก็หอบจริง ๆ แต่พอมองลงมาเท่านั้นล่ะ มันหายเหนื่อยเลย วิวด้านล่างสวยมาก มันรวมความเป็นธรรมชาติ และ บ้านเรือนเข้าด้วยกันได้ดี เดินวนพระใหญ่ 1 รอบ นั่งกินลม ชมวิว สูดหายใจเข้าปอดให้ลึก ๆ หลาย ๆ รอบ ทำการแว๊นซ์ไปที่ต่อไป
ที่ถัดมา คือ หยุนไหล ที่ ๆ นอนไหล เลยไม่ได้ออกมาตอนเช้า มาตอนสาย ๆ ก็สวยเหมือนกันนะ แต่กว่าจะขี่ถึง ต้องเปิดดู แผนที่ หลายรอบว่ามาถูกหรือเปล่า เพราะ ข้างทางไม่บอกอะไรเลย ขี่มาก็นานล่ะ แต่ในที่สุดก็ถึงจุดหมาย สวยจริง ๆ พูดได้คำเดียว นี่ถ้ามาตอนเช้า พระอาทิตย์กำลังจะขึ้น หรือ หมอกลงจัด ๆ จะสวยขนาดไหน ขนาดมีหมอกลงเล็กน้อยยังสวยขนาดนี้ ว่าแล้วก็ชักภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก ตำราเดิม เดินวนไป วนมา นั่งยอง ๆ สูดอากาศเข้าปอด
ก่อนจะถึงหยุนไหล เราจะผ่านหมู่บ้านสันติชล ดังนั้นขากลับเราต้องแวะ และ เมื่อดูเวลาด้วยแล้ว ฝากท้องมื้อเที่ยงเลยละกัน ถามว่าข้าวต้มย่อยแล้ว? ตอบเลยว่า ยังค่ะ เดินดูรอบ ๆ หมู่บ้านที่เขาจัดขึ้นมา มีชาขาย มีสตรอเบอร์รี่อบแห้ง บ๊วย มะเขือเทศ และ อีกมากมาย วางขาย แต่เป้าหมายของเรา คือ อาหารยูนาน เดินเข้าไปในร้านของชาวบ้าน (ลักษณะเหมือนโรงเตี๊ยม ในหนังจีน เวลาเดินทางไกล จินตนาการณ์ล่ำจริง ๆ) แน่นอนว่าสั่งที่ต้องสั่ง คือ ขาหมูน้ำแดง แอบถามน้องเขาแล้วว่า มีชุดเล็กมั้ยค่ะน้อง เผอิญพี่มาคนเดียว คำตอบที่ได้คือ มีชุดเดียวนี่ล่ะครับ อืมมม งั้นก็โอเคครับ ขาหมู 1 ซาลาเปานึง 3 ทอด 2 ผัดยอดฟักแม้ว 1 (มาคนเดียว หึหึ) ตัดเลี่ยนด้วย ชา 1 กา กินเสร็จถึงกับไปไหนไม่รอด เต็มท้อง ค่าเสียหายมื้อนี้ 400 บาท
อาหารย่อยซักพักไปต่อที่ถัดไป วัดน้ำฮู วัดนี้เข้าไปกราบพระ และ อ่านประวัติของวัด ออกมาด้านนอกจะเจอ เจดีย์บรรจุพระอัฐิ และ พระเกศา ของพระสุพรรณกัลยา
ขี่รถเที่ยวนอกตัวเมือง ในตัวเมืองปาย ซักพักเริ่มรู้สึกว่า ขาหมูทำพิษ ควรนอน ไม่รอช้าแว๊นซ์กลับห้องนอน กะเวลาซักบ่าย 3 ค่อยออกไปนั่งปักหลักรอถนนคนเดินที่ร้านกาแฟ ในที่สุดร้านรวงก็เริ่มเปิด เราก็เริ่มเดิน พิกัดแรกอยู่ที่ ร้านขนมจีนนั่งยอง สั่งน้ำยากระทิ ไข่ต้ม 1 อือหือออ อร่อย แต่เบิ้ลคงไม่ไหว เพราะ ขาหมู และ ซาลาเปายังจองพื้นที่ไว้อยู่ สำหรับรอบนี้เรากะว่าจะเดินซื้อเฉพาะของฝากเท่านั้น อย่างที่บอกว่า เราได้ยินแม่ค้าคุยกันเรื่อง 9 องศา จึงตัดสินใจ รีบซื้อ รีบกลับดีกว่า ได้สตรอเบอร์รี่มาเป็นของฝาก โรตีชีสของเพิ่มแคลอรี่ เช่นเดิม
แม่น้ำปาย ยามเย็น
ทุ่งก่อนถึงที่พัก
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น