วันเวลาในแดนใต้ หมุนเวียนเปลี่ยนผัน คุณพระอรรถคดีวิชัยกำลังบรรจงปั้นสาวน้อยที่คอยฉอเลาะออเซาะอยู่ตรงหน้า เพื่อในเวลาอันใกล้ตำแหน่งที่เขาคิดไว้มันจะเลื่อนลอยลงมาหาเธอในไม่ช้า เช้าวันนี้เสียงใส ๆ ของอนงค์ยังเจื้อยแจ้วเกี่ยวกับคำท้าทายที่ให้ไว้เมื่อวันวาน เจ้าตัวยังอารมณ์ดียอมรับสภาพ และ ยังไม่ละความพยายาม รอยยิ้มของเจ้าหล่อนสดใสเหมือนดอกไม้แรกแย้ม ทำเอาใจคุณพระออกหวิว ๆ แทบจะลอยหลุดไป เมื่ออีกฝ่ายเง้างอด อยากไปดูหนังกลางแปลง ก็เป็นเขาที่รับปากกับเธอแต่โดยดี
เช้าวันนี้ อนงค์เรียกป้าแจ้ง มาที่บ้าน ตั้งใจจะมอบอาชีพให้เลี้ยงตัว เมื่อเธอสังเกตว่าป้าเองดูไม่มีใคร แต่ก็เป็นคุณพระที่ไม่ปิดบังความจริง ว่าป้าเป็นตัวความเกี่ยวของกับคดีที่คุณพระเคยตัดสิน และ ในคดีนั้น "บ๋อย" เป็นจำเลย ความเป็นมาของคดีนี้ทำให้อนงค์นึกถึงตัวเองในเมื่อก่อน เรื่องราวในคืนวันเกิดวันที่อนงค์รู้สึกตกต่ำที่สุดในชีวิต วันที่เธอเอาอารมณ์มาอยู่เหนือเหตุผล วันที่เธอคิดว่าโดนคุณพระปฏิเสธ เพราะเขากำลังคบหากับคนอื่น เธอผู้ตีตั๋วเฟิร์สคลาสมาตลอดชีวิต ชายทั่วพระนครคลั่งไคล้ไหลหลง กลับถูกปฏิเสธจากผู้ชายวัยกลางคนนึง กลับเป็นคนที่คิดไปเองข้างเดียวเหมือนเป็นบ้า ความเจ็บช้ำน้ำใจ และ ความอับอายไม่สามารถจะเก็บกลืนลงไปได้หมดในเวลาอันสั้น น้ำตาท่วมท้นหลั่งไหล น้องเล็กที่โหยไห้กับบรรดาพี่ชายราวโลกแตกดับ ภาพนั้นหวนคืนกลับมา คำแนะนำแสบ ๆ คัน ๆ ที่เธอปั่นจนจันทรไปกับชัด และ หวังว่าคุณพระจะเจ็บช้ำน้ำใจเช่นเธอบ้าง ทั้งที่เรื่องความรัก เธอก็รู้มันบังคับกันได้ไฉน แต่มันเจ็บใจหนิ สุดท้ายเธอก็รู้ซึ้งว่ามันไม่มีประโยชน์อันใดเลย เมื่อนึกถึงคราวคุณพระป่วยเจ็บในวันนั้น
คุณป้าก็คงรู้สึกว่ามันอยุติธรรมไม่ต่างกัน ลูกชายของคุณป้าเจ็บตัวอยู่แล้ว แต่ก็ยังต้องไปชกมวยเลี้ยงครอบครัว ลำพังการชกมวย คือ การต่อสู้ ว่ากันตามกฎหมาย การสมัครใจเข้าชกมวยซึ่งเป็นเกมกีฬาก็เป็นการยกเว้นความรับผิดอยู่แล้ว ศาลอธิบายก็เข้าใจได้ หากความป่วยเจ็บที่เป็นต้นเหตุมีมาแต่เดิมซึ่งคุณป้าปิดบังเอาไว้ ทำให้เรื่องราวโกลาหลใหญ่โต บ๋อยสิ้นอิสรภาพ รู้สึกผิด โดยไม่สนใจจะแก้ตัวเลยซักครั้ง เพราะ เข้าใจว่าเป็นความผิดพลาดของตัวเอง คุณพระตัดสินตามหลักฐานเชิงประจักษ์ที่มี เพื่อมารู้ภายหลังว่า ตนเองได้ทำพลาดไปแล้ว ด้วยเหตุและผลตามว่าโทษใครได้ ไม่มีเลย แต่อารมณ์ที่ว่าแล้วทำไมมันต้องเกิดกับฉัน ก็ไม่แปลกที่จะต้องหาใครซักคนมารับโทษทัณฑ์ เจ็บเหมือนกันอย่างที่ฉันเจ็บ
การกระทำของคุณป้าในวันนี้เหมือนดังกระจากสะท้อนเหตุการณ์ในวันวาน อนงค์เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่ามันส่งผลอย่างไร เธอจึงปลุกปลอบป้าแจ้งอย่างคนตกผลึกในชีวิต ความข้อนี้ทำให้เธอได้รับคำชมอย่างไม่คาดคิด ความภาคภูมิปนประหลาดใจผุดขึ้นบนใบหน้าสวยหวาน เปิดช่องให้คุณพระชี้ให้เห็นว่าการทำดีด้วยใจ แล้วได้ผลตอบกลับมาอย่างไม่คาดฝัน มันอิ่มเอมอย่างไร และ ในครานี้อนงค์ก็ได้เรียนรู้ด้วยเช่นกัน ว่าเขาไม่ใช่คนที่ไร้ที่ติ การตัดสินของเขาใช่ว่าไม่มีข้อผิดพลาด และ คงไม่หาญกล้าจะไปชี้นิ้วตัดสินใครได้อีก อีกครั้งที่คุณพระต้องใจกระตุก เมื่อสายตาอ่อนหวานปะปนด้วยความจริงจังฉ่ำเย็นกระทบใจ เมื่อเธอเอ่ยกับเขาว่า การตัดสินคดีความไม่ได้ประกอบด้วยการลงโทษเพียงอย่างเดียว แต่ต้องให้โอกาสในการกลับตัว คุณพระก็อย่าลืมให้โอกาสตัวเอง
ณ เวลานั้นเขารู้แล้ว ว่าเธอคือดอกไม้ที่ "ผลิบาน" ในแบบของตัวเอง
คำชมบัดนี้ไม่ต้องรีรอ เป็นเขาที่พูดออกมาจากใจ เด็กสาวใจร้อน เอาอารมณ์ของตัวเองเป็นที่ตั้งคนนั้น ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี แม้อยู่หน้าบัลลังก์ศาล เขาเห็นความตั้งใจ ความนิ่ง เห็นสมาธิ ที่จดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แม้ใครจะเยาะเย้ยหยาบหยาม เธอก็ยังนิ่ง พยายามครองสติและทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี ใจที่คุณพระมีให้อนงค์ยิ่งเพิ่มพูนขึ้นทุกขณะจิต เขาคิดว่าเธอพร้อมแล้วกับตำแหน่งนั้นจริง ๆ นั่นแหละ
การผลิบานของเธอในวันนี้
ทำให้ความรักของเขาที่มีต่อเธอสุกงอมหอมหวาน
การประกาศก้องว่าคบหาฉันคนรัก จึงเกิดขึ้นต่อหน้าศาลสถิตยุติธรรมในวันนี้
หนึ่งในร้อย ตอนที่ 13 (รีวิว) : Bloomability
เช้าวันนี้ อนงค์เรียกป้าแจ้ง มาที่บ้าน ตั้งใจจะมอบอาชีพให้เลี้ยงตัว เมื่อเธอสังเกตว่าป้าเองดูไม่มีใคร แต่ก็เป็นคุณพระที่ไม่ปิดบังความจริง ว่าป้าเป็นตัวความเกี่ยวของกับคดีที่คุณพระเคยตัดสิน และ ในคดีนั้น "บ๋อย" เป็นจำเลย ความเป็นมาของคดีนี้ทำให้อนงค์นึกถึงตัวเองในเมื่อก่อน เรื่องราวในคืนวันเกิดวันที่อนงค์รู้สึกตกต่ำที่สุดในชีวิต วันที่เธอเอาอารมณ์มาอยู่เหนือเหตุผล วันที่เธอคิดว่าโดนคุณพระปฏิเสธ เพราะเขากำลังคบหากับคนอื่น เธอผู้ตีตั๋วเฟิร์สคลาสมาตลอดชีวิต ชายทั่วพระนครคลั่งไคล้ไหลหลง กลับถูกปฏิเสธจากผู้ชายวัยกลางคนนึง กลับเป็นคนที่คิดไปเองข้างเดียวเหมือนเป็นบ้า ความเจ็บช้ำน้ำใจ และ ความอับอายไม่สามารถจะเก็บกลืนลงไปได้หมดในเวลาอันสั้น น้ำตาท่วมท้นหลั่งไหล น้องเล็กที่โหยไห้กับบรรดาพี่ชายราวโลกแตกดับ ภาพนั้นหวนคืนกลับมา คำแนะนำแสบ ๆ คัน ๆ ที่เธอปั่นจนจันทรไปกับชัด และ หวังว่าคุณพระจะเจ็บช้ำน้ำใจเช่นเธอบ้าง ทั้งที่เรื่องความรัก เธอก็รู้มันบังคับกันได้ไฉน แต่มันเจ็บใจหนิ สุดท้ายเธอก็รู้ซึ้งว่ามันไม่มีประโยชน์อันใดเลย เมื่อนึกถึงคราวคุณพระป่วยเจ็บในวันนั้น
คุณป้าก็คงรู้สึกว่ามันอยุติธรรมไม่ต่างกัน ลูกชายของคุณป้าเจ็บตัวอยู่แล้ว แต่ก็ยังต้องไปชกมวยเลี้ยงครอบครัว ลำพังการชกมวย คือ การต่อสู้ ว่ากันตามกฎหมาย การสมัครใจเข้าชกมวยซึ่งเป็นเกมกีฬาก็เป็นการยกเว้นความรับผิดอยู่แล้ว ศาลอธิบายก็เข้าใจได้ หากความป่วยเจ็บที่เป็นต้นเหตุมีมาแต่เดิมซึ่งคุณป้าปิดบังเอาไว้ ทำให้เรื่องราวโกลาหลใหญ่โต บ๋อยสิ้นอิสรภาพ รู้สึกผิด โดยไม่สนใจจะแก้ตัวเลยซักครั้ง เพราะ เข้าใจว่าเป็นความผิดพลาดของตัวเอง คุณพระตัดสินตามหลักฐานเชิงประจักษ์ที่มี เพื่อมารู้ภายหลังว่า ตนเองได้ทำพลาดไปแล้ว ด้วยเหตุและผลตามว่าโทษใครได้ ไม่มีเลย แต่อารมณ์ที่ว่าแล้วทำไมมันต้องเกิดกับฉัน ก็ไม่แปลกที่จะต้องหาใครซักคนมารับโทษทัณฑ์ เจ็บเหมือนกันอย่างที่ฉันเจ็บ
การกระทำของคุณป้าในวันนี้เหมือนดังกระจากสะท้อนเหตุการณ์ในวันวาน อนงค์เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่ามันส่งผลอย่างไร เธอจึงปลุกปลอบป้าแจ้งอย่างคนตกผลึกในชีวิต ความข้อนี้ทำให้เธอได้รับคำชมอย่างไม่คาดคิด ความภาคภูมิปนประหลาดใจผุดขึ้นบนใบหน้าสวยหวาน เปิดช่องให้คุณพระชี้ให้เห็นว่าการทำดีด้วยใจ แล้วได้ผลตอบกลับมาอย่างไม่คาดฝัน มันอิ่มเอมอย่างไร และ ในครานี้อนงค์ก็ได้เรียนรู้ด้วยเช่นกัน ว่าเขาไม่ใช่คนที่ไร้ที่ติ การตัดสินของเขาใช่ว่าไม่มีข้อผิดพลาด และ คงไม่หาญกล้าจะไปชี้นิ้วตัดสินใครได้อีก อีกครั้งที่คุณพระต้องใจกระตุก เมื่อสายตาอ่อนหวานปะปนด้วยความจริงจังฉ่ำเย็นกระทบใจ เมื่อเธอเอ่ยกับเขาว่า การตัดสินคดีความไม่ได้ประกอบด้วยการลงโทษเพียงอย่างเดียว แต่ต้องให้โอกาสในการกลับตัว คุณพระก็อย่าลืมให้โอกาสตัวเอง