ยกตัวอย่าง ถ้าขับ 10 ทริป
ได้ 5 ดาว 7 ครั้ง (5 x 7 = 35)
ได้ 4 ดาว 3 ครั้ง (4 x 3 = 12)
35 + 12 = 47
______________________
หารด้วยจำนวนทริป 10 ทริป
Rating = 4.70
**เท่ากับว่าคนขับมีโอกาสที่จะโดนถอนออกจากระบบคนขับ Uber ทั้งๆ ที่ Rating ก็ดูเหมือนเยอะแล้ว**
(ในที่นี้ยังไม่รวมคนที่ให้ต่ำกว่า 4 ดาว)
ส่ิงที่คิดว่าเป็นปัญหาสำหรับคนขับ Uber ที่อยากจะบอกผู้โดยสาร คือ
1. คนขับบางคนเป็นมือใหม่ และมีคนใหม่เข้ามาตลอดเวลา บางคนทำ Part time ไม่ได้ขับรถเป็นอาชีพหลัก แน่นอนความเชี่ยวชาญด้านเส้นทางอาจจะสู้คนขับมืออาชีพไม่ได้ เพราะฉนั้นอาจมีผิดพลาดและเสียเวลากันได้ ถึงแม้จะใช้ App ที่บางครั้งก็ไม่ตรงหรือพาอ้อม
2. คนขับไม่สามารถปฏิเสธผู้โดยสารได้ (ถ้าปฏิเสธโดนปรับ 500 บาท) โดนเรียกไปปริมณฑลก็ต้องไป ไปในถนนที่ไม่คุ้นเส้นทางและไม่เคยไป ถึงจะใช้ App นำทาง (ถ้าผู้โดยสารไม่บอกเส้นทาง) ยิ่งเวลากลางคืนที่ถนนมืดมาก ก็อาจมีผิดพลาดกันได้ ไม่เหมือน Taxi ที่ปฏิเสธผู้โดยสารได้ในที่ๆ ไม่คุ้นเส้นทางหรือไม่อยากไป และยังได้ค่าโดยสารอัตราต่ำกว่า Taxi เกือบ 2 เท่า และโดน Uber หักอีก 20% และด้วยกฎที่ห้ามปฏิเสธผู้โดยสาร อาจจะต้องวิ่งไปไกลๆ และทำให้ต้องตีรถเปล่ากลับเป็นระยะทาง 10-30 ก.ม. (รายได้เฉลี่ยแล้วจะหักเป็นค่าน้ำมันอีก 25-50% แล้วแต่ทริปที่ไปและรุ่นรถ)
**การโดนเรียกไปไกลๆ ชานเมือง ปริมณฑล คนขับมักไม่คุ้นเส้นทาง ต้องตีรถเปล่ากลับ แถมยังได้ Rating ต่ำกว่า 5 ดาวจากผู้โดยสารเป็นของแถม อันนี้ต้องขอความเห็นใจมากๆ**
3. ผู้โดยสารปักหมุดแล้วไปอยู่ฝั่งตรงข้าม (พบเจอบ่อย และลูกค้าก็พูดถึงปัญหา App Uber นี้บ่อย) ซึ่งถ้าไม่ได้สอบถามให้ละเอียด หรือผู้โดยสารบอกที่อยู่ไม่ชัดเจน ทำให้ต้อง U-Turn ไปมา ทำให้ไปรับล่าช้า อาจมีผลต่อคะแนนที่ต่ำ
4. ผู้โดยสารเป็นชาวต่างชาติ ถ้าโทรศัพท์ไม่ได้เปิดระบบโทรต่างประเทศ สามารถทำได้แค่ส่งข้อความ (ครั้งละ 9 บาท) บางทีต้องส่งถึง 2 ครั้ง และการสื่อสารข้อความทางเดียวไม่สามารถโทรศัพท์ได้ ก็ทำให้สถานที่ไปรับคลาดเคลื่อนได้เช่นกัน บวกกับชาวต่างชาติไม่รู้การจราจรบ้านเรา บางถนนเป็น One Way / ห้ามเลี้ยว / ห้าม U-Turn ทำให้เค้าเข้าใจผิดว่าเราพาอ้อม ก็อาจส่งผลต่อ Rating ต่ำได้
สุดท้ายนี้อยากจะฝากไว้ว่า ถ้าคนขับไม่ได้ไร้มารยาท หรือขับรถอันตราย เร็วเกินไป ก็ให้อภัยกันบ้าง คิดว่าคนขับ Uber ส่วนมากยินดีให้บริการอย่างเต็มใจอยู่แล้ว
เพราะถ้าหากท่านให้ Rating ต่ำกว่า 5 ดาวเรื่อยๆ คนขับ Uber ที่เริ่มจะสั่งสมประสบการณ์ได้ก็จะน้อยลง บวกกับบางคนก็เลิกขับไปเพราะไม่คุ้มค่าน้ำมันมันกับการสึกหรอรถ หรือถ้าจะคิดว่าถ้าบริการไม่ 5 ดาวตลอด ก็ไม่สมควรขับ Uber แน่นอนพอคนใหม่ๆ เข้ามา ก็จะเจอปัญาเดิมๆ วนไปเรื่อยๆ
ทีนี้พอคนขับ Uber น้อยลง ก็ต้องเรียก Taxi ที่ส่วนมากเรียกก็ไม่ไปเหมือนเดิม
(ขอ Tag ห้องสีลม เพราะมีผู้ใช้บริการเยอะ)
ผู้ที่ใช้บริการ Uber รู้หรือเปล่าว่า "ถ้าคนขับได้ Rating ต่ำกว่า 4.7 / 5 ดาว" จะโดนปลดออกจากระบบ
ได้ 5 ดาว 7 ครั้ง (5 x 7 = 35)
ได้ 4 ดาว 3 ครั้ง (4 x 3 = 12)
35 + 12 = 47
______________________
หารด้วยจำนวนทริป 10 ทริป
Rating = 4.70
**เท่ากับว่าคนขับมีโอกาสที่จะโดนถอนออกจากระบบคนขับ Uber ทั้งๆ ที่ Rating ก็ดูเหมือนเยอะแล้ว**
(ในที่นี้ยังไม่รวมคนที่ให้ต่ำกว่า 4 ดาว)
ส่ิงที่คิดว่าเป็นปัญหาสำหรับคนขับ Uber ที่อยากจะบอกผู้โดยสาร คือ
1. คนขับบางคนเป็นมือใหม่ และมีคนใหม่เข้ามาตลอดเวลา บางคนทำ Part time ไม่ได้ขับรถเป็นอาชีพหลัก แน่นอนความเชี่ยวชาญด้านเส้นทางอาจจะสู้คนขับมืออาชีพไม่ได้ เพราะฉนั้นอาจมีผิดพลาดและเสียเวลากันได้ ถึงแม้จะใช้ App ที่บางครั้งก็ไม่ตรงหรือพาอ้อม
2. คนขับไม่สามารถปฏิเสธผู้โดยสารได้ (ถ้าปฏิเสธโดนปรับ 500 บาท) โดนเรียกไปปริมณฑลก็ต้องไป ไปในถนนที่ไม่คุ้นเส้นทางและไม่เคยไป ถึงจะใช้ App นำทาง (ถ้าผู้โดยสารไม่บอกเส้นทาง) ยิ่งเวลากลางคืนที่ถนนมืดมาก ก็อาจมีผิดพลาดกันได้ ไม่เหมือน Taxi ที่ปฏิเสธผู้โดยสารได้ในที่ๆ ไม่คุ้นเส้นทางหรือไม่อยากไป และยังได้ค่าโดยสารอัตราต่ำกว่า Taxi เกือบ 2 เท่า และโดน Uber หักอีก 20% และด้วยกฎที่ห้ามปฏิเสธผู้โดยสาร อาจจะต้องวิ่งไปไกลๆ และทำให้ต้องตีรถเปล่ากลับเป็นระยะทาง 10-30 ก.ม. (รายได้เฉลี่ยแล้วจะหักเป็นค่าน้ำมันอีก 25-50% แล้วแต่ทริปที่ไปและรุ่นรถ)
**การโดนเรียกไปไกลๆ ชานเมือง ปริมณฑล คนขับมักไม่คุ้นเส้นทาง ต้องตีรถเปล่ากลับ แถมยังได้ Rating ต่ำกว่า 5 ดาวจากผู้โดยสารเป็นของแถม อันนี้ต้องขอความเห็นใจมากๆ**
3. ผู้โดยสารปักหมุดแล้วไปอยู่ฝั่งตรงข้าม (พบเจอบ่อย และลูกค้าก็พูดถึงปัญหา App Uber นี้บ่อย) ซึ่งถ้าไม่ได้สอบถามให้ละเอียด หรือผู้โดยสารบอกที่อยู่ไม่ชัดเจน ทำให้ต้อง U-Turn ไปมา ทำให้ไปรับล่าช้า อาจมีผลต่อคะแนนที่ต่ำ
4. ผู้โดยสารเป็นชาวต่างชาติ ถ้าโทรศัพท์ไม่ได้เปิดระบบโทรต่างประเทศ สามารถทำได้แค่ส่งข้อความ (ครั้งละ 9 บาท) บางทีต้องส่งถึง 2 ครั้ง และการสื่อสารข้อความทางเดียวไม่สามารถโทรศัพท์ได้ ก็ทำให้สถานที่ไปรับคลาดเคลื่อนได้เช่นกัน บวกกับชาวต่างชาติไม่รู้การจราจรบ้านเรา บางถนนเป็น One Way / ห้ามเลี้ยว / ห้าม U-Turn ทำให้เค้าเข้าใจผิดว่าเราพาอ้อม ก็อาจส่งผลต่อ Rating ต่ำได้
สุดท้ายนี้อยากจะฝากไว้ว่า ถ้าคนขับไม่ได้ไร้มารยาท หรือขับรถอันตราย เร็วเกินไป ก็ให้อภัยกันบ้าง คิดว่าคนขับ Uber ส่วนมากยินดีให้บริการอย่างเต็มใจอยู่แล้ว เพราะถ้าหากท่านให้ Rating ต่ำกว่า 5 ดาวเรื่อยๆ คนขับ Uber ที่เริ่มจะสั่งสมประสบการณ์ได้ก็จะน้อยลง บวกกับบางคนก็เลิกขับไปเพราะไม่คุ้มค่าน้ำมันมันกับการสึกหรอรถ หรือถ้าจะคิดว่าถ้าบริการไม่ 5 ดาวตลอด ก็ไม่สมควรขับ Uber แน่นอนพอคนใหม่ๆ เข้ามา ก็จะเจอปัญาเดิมๆ วนไปเรื่อยๆ
ทีนี้พอคนขับ Uber น้อยลง ก็ต้องเรียก Taxi ที่ส่วนมากเรียกก็ไม่ไปเหมือนเดิม
(ขอ Tag ห้องสีลม เพราะมีผู้ใช้บริการเยอะ)