หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] บันทึกการเดินทางของสาวใหญ่ ซีอาน(จีน)>ลาซา(ทิเบต)>กาฏมัณฑุ(เนปาล) -- ตอน 4
กระทู้รีวิว
รถไฟ
เที่ยวภูเขา
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
Backpack
ออกจากบริเวณ EBC แล้วเราก็มุ่งหน้าสู่ชายแดนเนปาลตามแพลน รถวิ่งไปตามถนนที่เรียกว่าอยู่บนหลังคาโลกของจริง บนนั้นเราได้เห็นยอดเขาต่างๆ ที่รู้สึกแปลกกว่าทุกครั้งคือ ตำแหน่งที่เรายืนอยู่กับยอดตรงนั้น มันแทบจะเรียกว่าอยู่ระดับเดียวกันเลย
วิวระหว่างทางสวยงามเหมือนอยู่บนสวรรค์ แต่ลมแรงและเย็นบาดหูหลุดมาก น้ำแข็งที่เห็นทั่วๆไปตามทางก่อรูปได้เป็นรูปร่างสวยแปลกตา
และเราก็มาถึง Tong La pass อยู่ที่ระดับ 5120 เมตรจากระดับน้ำทะเล ที่ๆเราได้วิวพาโนราม่าของเทือกเขาหิมาลัยในระยะเอื้อมมือถึงได้
ตามถนน ข้างทาง ในรถ ในร้านอาหาร ทุกๆที่ จะได้ยินแต่เสียงพึมพำๆตลอด ปรากฏว่านั่นคือเสียงสวดมนต์ภาวนา ไกด์เชดอร์ของเราก็เช่นกัน แกนั่งสวดพึมพำตลอดหลายวันของการเดินทางไกล แกสวดเพื่อให้ทุกคนปลอดภัย แกบอกว่าการที่คนทิเบตสวดมนต์ก็เพื่อขอให้ทุกคนมีความสุข เมื่อคนอื่นมีความสุข สังคมก็น่าอยู่ โลกก็จะอยู่กันอย่างสันติสุข ถึงตอนนี้แล้วจขกท.รู้สึกซาบซึ้งจิตมาก..ไม่ได้เพื่อแค่ขอให้ตัวเองดีอยู่คนเดียว
ใกล้ถึงเมือง Zhangmu แล้ว ขอลงมาพักชักภาพเป็นที่ระลึก ไกด์เชดอร์และคนขับรถคนเก่ง ขอบคุณเพื่อนตากล้องที่เสียสละถ่ายรูปนี้ให้
เมืองสุดท้ายที่ชายแดนเป็นคล้ายๆกับเมืองท่าที่เหล่ารถบรรทุกแวะจอดพักรอเข้าคิวข้ามประเทศ บ้านเมืองสร้างอยู่ตามถนนรอบหุบเขาสูงอีกที มันดูหวาดเสียวเหมือนกันนะเวลาที่เรามองลงไปว่าถนนมันอยู่กลางเหวสูงแค่ไหน ตอนจขกท.ไปปีนั้นยังไม่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ คิดว่าบริเวณนี้น่าจะได้รับผลกระทบใหญ่หลวงแน่นอน เราพักกันที่นี่ 1 คืน เพื่อตอนเช้ารุ่งขึ้นจะได้เข้าไปเนปาล ใกล้ถึงเวลาจากไกด์เชดอขวัญใจของเราแล้ว
ตอนเช้ามาเข้าคิวที่หน้าด่าน รอ Immigration เปิด ไกด์เชดอร์ยังอยู่รอชี้แจงเรื่องเอกสารนู่นนี่ให้ แกข้ามออกมาเป็นเพื่อนพวกเราด้วยเพื่อรอส่งช่วงต่อให้กับไกด์ทางฝั่งเนปาลมารับ เมื่อเรียบร้อยดีแล้วก็ถึงเวลาบ๊ายบาย ตั้งใจว่าถ้าคราวหน้ากลับไปทิเบตอีก ก็จะให้แกพาไปเดินบำเพ็ญเพียรรอบเขาไกรลาสกัน
ข้ามมาเนปาลคือเมืองโคดาริ ก็เจอความสับสนวุ่นวายที่แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน เริ่มตั้งแต่ความวุ่นวายที่ Immigration ฝั่งเนปาลที่เราต้องมากรอกเอกสารทำเรื่อง Visa on arrival คือไม่รู้ว่าแถวไหนมันอยู่ไหน จะต้องยื่นกับเจ้าหน้าที่คนไหน คืองง 555
พอออกมาได้ ก้อนั่งรถโฟร์วีล ลัดเลาะตามไล่เขาสูงเหมือนเดิม แต่หวาดเสียวกว่าฝั่งจีนมากกก เพราะเป็นถนนดินทั้งนั้น กันดารและเด้งไปเด้งมา บางช่วงถนนขาด รถสวนได้ทางเดียว แบ่งกันไป ท่องพ่อแก้วแม่แก้วเป็นเวลาหลายชั่วโมงตลอดทาง ขอแนะนำเลยว่าใครจะเดินทางเข้าเนปาลทางด้านนี้ไม่ควรมาช่วงหน้าฝน เพราะเสี่ยงเขาและดินถล่มตลอดทาง คนขับรถบอกว่า ก่อนหน้าเราไปไม่นาน เกิดดินถล่มครั้งใหญ่บนถนนเส้นนี้ บ้านพังลงมาเป็นแถบ คร่าชีวิตชาวบ้านไปเพียบ นี่เขาเพิ่งเปิดเส้นทางขึ้นใหม่ได้ไม่นาน
คุยกันไปมากับน้องคนขับ เลยทำให้รู้ว่าชาวเนปาลชอบจาพนมมาก ดังแรงและเป็นไอดอลของทุกคน พอเริ่มคุยถูกคอกันขุ่นน้องเลยบอกขอแวะกลางทางหน่อยนะ เพื่อนเปิดร้านอยู่ตรงนี้ เราก็เอ้อ เอ้า ได้ แวะก้อแวะ ร้านก็ใหม่ยังไม่ค่อยมีอะไรหรอก แต่ก็มีเครื่องดื่มแก้กระหาย เรายังไม่ได้ทำการแลกเงินอะไรเลย โกยเงินเท่าที่มีทั้งหมดสามคนเอามารวมกันแล้วเลยได้สิ่งนี้มา นับว่าคุ้ม (ตอนอยู่ในทิเบตไม่กล้าดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์อะไรทั้งสิ้น กลัวได้ลงกล่องกลับบ้าน)
ตัดภาพมาที่กาฏมัณฑุเลยละกัน ในแพกเกจของเรารวมที่พัก 1 คืนในกาฎมัณฑุด้วย (เฉพาะที่พักเท่านั้นไม่รวมสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เพราะเราคิดว่าไปไหนมาไหนเองไม่ลำบาก) ที่พักอยู่ในย่านทาเมลแหล่งนักท่องเที่ยว ห้องพักพออยู่ได้ มีน้ำอุ่น แอร์ ผ้าห่ม ที่นอน ก็สลบได้ทันที
เราออกมาเดินเล่น ตามที่ๆนักท่องเที่ยวควรจะไป ที่จริงเป็นการดีที่เราได้มาพักที่เนปาลก่อนกลับกรุงเทพ เป็นการเตรียมตัวเตรียมใจก่อนเจอสภาพความวุ่นวายในชีวิตแบบเมืองหลวง มันรู้สึกเหมือนตกสวรรค์อยู่นะ 555 เนปาลก็ดีงามในแบบของเขา วุ่นๆขวักไขว่ ฝุ่นเยอะๆ แท๊กซี่ต่อรองคุยกันได้ ไม่ใจร้าย มันให้ความสนุกสนานอีกแบบ
ไป Durbur Square รายละเอียดในสถาปัตยกรรมมีเยอะมาก ยิ่งถ้าใครได้ศึกษาได้รู้มาบ้างคงจะยิ่งสนุก
วันที่สองและสามในกาฏมันฑุ เนื่องจากหมดโปรแกรมแล้ว เราเลยย้ายไปพักที่ Tings Tea Lounge & Tings Lounge Hotel โรงแรมเล็กๆแต่เก๋ชิค คุณภาพคับ อาหารอร่อย พนักงานน่ารัก ใครไปกาฏมัณฑุขอแนะนำอย่างแรง
2 คืนที่พักที่นี่ เราเปลี่ยนห้องทั้งสองคืนเลย เพื่อเก็บให้ได้ครบทุกบรรยากาศ 555
ที่หน้าปากซอยที่พัก เป็นร้านอาหารชื่อดัง “Nepali Chulo” มีการแสดงและดนตรีพื้นเมืองใช้ชม เป็นที่นักท่องเที่ยวนิยมมากัน อารมณ์ประมาณสีลมวิลเลจอะไรอย่างนั้นอ่ะค่ะ
เด็กเสิร์ฟจำได้เลยว่าชื่อราชกุมาร แสนเฟรนด์ลี่มากไปบางที กว่าจะได้กิน Main Course นี่หลอกให้กินเหล้าจอกไปหลายกรึ๊บเลย เติมไม่หยุดนึกว่าบุฟเฟท์!
รุ่งขึ้นไปสถูป Swayambhunath สวยัมภูวนนาถ คือวัดที่มีลิงเยอะๆนั่นแหละ
หลังจากเดินชมรอบสถูปแล้วเราก็เดินมาเจอคาเฟ่หนึ่งที่อยู่ในหลืบแต่มีวิวที่ดีที่สุด “Cafe De Stub” ที่นั่งกินนั่งดื่มบนดาดฟ้า มองลงมาเห็นทั่วเมือง ปัจจุบันนี้ไม่แน่ใจว่าร้านค้าส่วนนี้ได้พังทลายลงมาหรือเปล่า T___T มานั่งนึกย้อนถึงตรงนี้ รู้สึกว่าเราโชคดีมากที่ได้เห็นสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ด้วยตาก่อนมันจะเสียหายไปจากแผ่นดินไหว 2015 ได้แต่ขอให้เนปาลฟื้นฟูสวยงามมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
วันสุดท้ายเรามาทิ้งทวนที่ Boudhanath มหาเจดีย์พุทธนาถ ไม่แคล้วหาคาเฟ่นั่งเพื่อนั่งชม นั่งซึมซับบรรยากาศ
หาของกินในร้านบ้านๆ กินอาหารพื้นเมืองซะหน่อย
เวลามักเดินเร็วขึ้นเสมอเมื่อตอนเรากำลังเพลิดเพลินมีความสุข ได้เวลาที่ต้องไปสนามบินตรีภูวันเพื่อรอขึ้น Airasia X กลับบ้านแว้ว จากกาฏมัณฑุสู่กรุงเทพ จะต้องมาต่อเครื่องที่ KL ก่อน พบว่าทั้งไฟล์ทจากกาฏมัณฑุเต็มไปด้วยหนุ่มชาวเนปาลเต็มลำ มีชาวเนปาลจำนวนมากที่มาค้าแรงงานหางานทำใน KL ตอนเดินจะขึ้นบันไดขึ้นเครื่องบิน จขกท.สังเกตเห็นแรงงานชาวเนปาลส่วนใหญ่มีผ้าคาตะสีขาวคล้องคอ สิ่งที่ประทับใจคือ ก่อนที่เขาเหล่านั้นจะก้าวพ้นแผ่นดินแม่ไป ต่างคนต่างก็ก้มลงใช้มือจูบแตะพื้นเหมือนร่ำลา แล้วค่อยก้าวขึ้นบันไดเหินฟ้าไปทำงานต่างบ้านต่างเมือง
ละทริปของเราก็จบลงเพียงเท่านี้ สิ่งที่เหลือไว้คือความทรงจำดีๆที่อยากเก็บไว้นานๆ ว่าแล้วเลยเลือกรูปไปประดับบ้าน มุมห้อง โต๊ะทำงานไว้ฝันถึงเวลาทำงานเหนื่อยๆ อิอิ
ชอบรูปนี้เป็นพิเศษ ถ่ายจาก iPhone5 ธรรมดาๆ แบบ Panorama ตอนที่อยู่ระหว่างทางบน Friendship Highway
แต่งกำแพงซะหน่อย เป็น Wall Gallery สายอาร์ตต้องทำงี้
ละฮิปเตอร์อย่างเราก็ต้องตามด้วยภาพสไตล์โพราลอยด์เกร๋ๆ
ขอบคุณ www.igoncanvas.com สำหรับบริการภาพสวยๆด้วยค่า
...และขอบคุณที่ติดตามอ่านจนบรรทัดสุดท้ายค่ะ จนกว่าเราจะพบกันใหม่ เมื่อเรามีแรงเขียนอีกน๊า
รวมลิ้งค์ให้นะคะเพื่อการติดตามง่ายขึ้น:
ตอนที่ 1
http://ppantip.com/topic/34778434
ตอนที่ 2
http://ppantip.com/topic/34778547
ตอนที่ 3
http://ppantip.com/topic/34778732
ชื่อสินค้า:
นั่งรถไฟไปทิเบตต่อรถไปเนปาล
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
JJNY : “สส.โคราช ปชน.”อวยพรปีใหม่แบบสับ│สลดส่งท้ายปี! ชั้นลอยรง.พังถล่ม│10 วัน ตาย 143 เจ็บ 841│นักบินแจ้งบินชนนกก่อนตก
โซเชียลวิจารณ์ยับ “สส.โคราช ประชาชน” อวยพรปีใหม่แบบสับ https://ch3plus.com/news/political/morning/429639 วันนี้ (30 ธ.ค. 2567) ผู้สื่อข่าวร
สมาชิกหมายเลข 3185714
มหาเจดีย์โพธินาถ Boudhanath Stupa แห่งเนปาล ในความหมายอันลึกว่า “พระพทธเจ้าผู้เป็นที่พึ่ง”
มหาเจดีย์โพธินาถ หรือ พุทธนาถ (อักษรโรมัน: Boudhanath หรือ Baudhanath, เนปาล: बौद्धनाथ; เนวาร์: खास्ति चैत्य; ทิเบต: བྱ་རུང་ཁ་
ขี้เมี่ยง ชาแนล
ดินแดนมุสตางค์แห่งเนปาล ร่องรอยอาณาจักรโบราณที่เคยยิ่งใหญ่
มุสตางค์ (Mustang) หรือ อัปเปอร์มุสตางค์ อยู่ในเขตการปกครองของ เนปาล ได้ชื่อว่าเป็นอาณาจักรที่ถูกช
ขี้เมี่ยง ชาแนล
หนังสือเดินทาง x Tibet, roof top of the world
สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว pantip วันนี้หนังสือเดินทางของผมขอเริ่มต้นด้วยการแชร์ประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวทิเบตซึ่งอาจจะเป็น dream destination ของหลายๆ คน ที่ดูเหมือนดินแดนลี้ลับ ห่างไกล เต็มไปด้วยความ
NavigatorH
บันทึกการเดินทางของสาวใหญ่ ซีอาน(จีน)>ลาซา(ทิเบต)>กาฏมัณฑุ(เนปาล) -- ตอน 3
เริ่มออกจากลาซาแต่เช้า เพลินเพลินกับวิวข้างทางและหวาดเสียวไปพร้อมกัน เราเดินทางมาจอดที่จุดแวะพักหนึ่งมีเจ้าของหมาพันธุ์ Tibetan mastiff นำหมาออกมาให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป และมีลูกแพะด้วย! เอามากอดถ่ายร
psychesinging
เที่ยว “เชียงคาน” ที่ไม่ใช่ถนนคนเดิน
เชียงคาน ในฤดูท่องเที่ยว ก็คงประมาณนี้ https://youtube.com/shorts/VrfCV44gbMA?si=gMFfrcrCaVdFRLrN วันนี้มาเล่าสู่กันฟัง ว่าเชียงคาน มีมากกว่าถนนคนเดิน อีกกิจกรรม ที่คนส่วนน้อยทำ คือ การล่องเรือในแ
Trail and travel
ในสมัยโบราณ อาณาจักรแถบเทือกเขาหิมาลัย มีตีกันไหมครับ
จากสภาพภูมิประเทศที่สุดขั้วขนาดนั้น ในสมัยโบราณ อาณาจักรใน ดินแดนทิเบต เนปาล สิกขิม ภูฏาน หิมาจัลประเทศฯลฯ มีทำสงครามกันไหมครับ
สมาชิกหมายเลข 4074667
รีวิวที่พักบรรยากาศไทย ๆ หาดส่วนตัว Anantara Hua Hin อนันตราหัวหินรีสอร์ท
ออกเดินทางเส้นเพชรเกษม มุ่งหน้านครปฐม ลงใต้ ร้านแรกที่แวะ *ฉ๋อยเป็ดย่าง* ตอนนี้มี 7 สาขา ที่เรากินจะเป็นสาขานครปฐม เพราะ
รวยขึ้นทุกวัน
บันทึกการเดินทางของสาวใหญ่ ซีอาน(จีน)>ลาซา(ทิเบต)>กาฏมัณฑุ(เนปาล) -- ตอน 2
กฏระเบียบการเข้าทิเบตต้องอัพเดตติดตามข่าวตลอดๆเพราะมักจะเปลี่ยนไปมา จขกท.ไปทริปนี้เมื่อปี 2014 ตอนนั้นนักท่องเที่ยวต้องขอใบ Permit อนุญาตเข้าทิเบต และนักท่องเที่ยวจะต้องมีไกด์คอยไปด้วยเวลาไปเที่ยววัดส
psychesinging
ขับมอเตอไซด์...เที่ยววัดและคาเฟ่ใกล้กรุงเทพฯ
ไม่ได้ขี่มอเตอร์ไซด์มานาน... ได้เวลาออกทริปสั้นๆกันบ้าง แวะมาไหว้พระ... วัดไร่ขิง วัดนี้ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และก็เปิดให้สักการะ ไหว้พระทำบุญทุกวัน แต่วันหยุด เสาร์ อาทิตย์ คนจะเยอะกว่าวันธรรมดา
สมาชิกหมายเลข 1542280
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
รถไฟ
เที่ยวภูเขา
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
Backpack
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 64
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] บันทึกการเดินทางของสาวใหญ่ ซีอาน(จีน)>ลาซา(ทิเบต)>กาฏมัณฑุ(เนปาล) -- ตอน 4
วิวระหว่างทางสวยงามเหมือนอยู่บนสวรรค์ แต่ลมแรงและเย็นบาดหูหลุดมาก น้ำแข็งที่เห็นทั่วๆไปตามทางก่อรูปได้เป็นรูปร่างสวยแปลกตา
และเราก็มาถึง Tong La pass อยู่ที่ระดับ 5120 เมตรจากระดับน้ำทะเล ที่ๆเราได้วิวพาโนราม่าของเทือกเขาหิมาลัยในระยะเอื้อมมือถึงได้
ตามถนน ข้างทาง ในรถ ในร้านอาหาร ทุกๆที่ จะได้ยินแต่เสียงพึมพำๆตลอด ปรากฏว่านั่นคือเสียงสวดมนต์ภาวนา ไกด์เชดอร์ของเราก็เช่นกัน แกนั่งสวดพึมพำตลอดหลายวันของการเดินทางไกล แกสวดเพื่อให้ทุกคนปลอดภัย แกบอกว่าการที่คนทิเบตสวดมนต์ก็เพื่อขอให้ทุกคนมีความสุข เมื่อคนอื่นมีความสุข สังคมก็น่าอยู่ โลกก็จะอยู่กันอย่างสันติสุข ถึงตอนนี้แล้วจขกท.รู้สึกซาบซึ้งจิตมาก..ไม่ได้เพื่อแค่ขอให้ตัวเองดีอยู่คนเดียว
ใกล้ถึงเมือง Zhangmu แล้ว ขอลงมาพักชักภาพเป็นที่ระลึก ไกด์เชดอร์และคนขับรถคนเก่ง ขอบคุณเพื่อนตากล้องที่เสียสละถ่ายรูปนี้ให้
เมืองสุดท้ายที่ชายแดนเป็นคล้ายๆกับเมืองท่าที่เหล่ารถบรรทุกแวะจอดพักรอเข้าคิวข้ามประเทศ บ้านเมืองสร้างอยู่ตามถนนรอบหุบเขาสูงอีกที มันดูหวาดเสียวเหมือนกันนะเวลาที่เรามองลงไปว่าถนนมันอยู่กลางเหวสูงแค่ไหน ตอนจขกท.ไปปีนั้นยังไม่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ คิดว่าบริเวณนี้น่าจะได้รับผลกระทบใหญ่หลวงแน่นอน เราพักกันที่นี่ 1 คืน เพื่อตอนเช้ารุ่งขึ้นจะได้เข้าไปเนปาล ใกล้ถึงเวลาจากไกด์เชดอขวัญใจของเราแล้ว
ตอนเช้ามาเข้าคิวที่หน้าด่าน รอ Immigration เปิด ไกด์เชดอร์ยังอยู่รอชี้แจงเรื่องเอกสารนู่นนี่ให้ แกข้ามออกมาเป็นเพื่อนพวกเราด้วยเพื่อรอส่งช่วงต่อให้กับไกด์ทางฝั่งเนปาลมารับ เมื่อเรียบร้อยดีแล้วก็ถึงเวลาบ๊ายบาย ตั้งใจว่าถ้าคราวหน้ากลับไปทิเบตอีก ก็จะให้แกพาไปเดินบำเพ็ญเพียรรอบเขาไกรลาสกัน
ข้ามมาเนปาลคือเมืองโคดาริ ก็เจอความสับสนวุ่นวายที่แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน เริ่มตั้งแต่ความวุ่นวายที่ Immigration ฝั่งเนปาลที่เราต้องมากรอกเอกสารทำเรื่อง Visa on arrival คือไม่รู้ว่าแถวไหนมันอยู่ไหน จะต้องยื่นกับเจ้าหน้าที่คนไหน คืองง 555
พอออกมาได้ ก้อนั่งรถโฟร์วีล ลัดเลาะตามไล่เขาสูงเหมือนเดิม แต่หวาดเสียวกว่าฝั่งจีนมากกก เพราะเป็นถนนดินทั้งนั้น กันดารและเด้งไปเด้งมา บางช่วงถนนขาด รถสวนได้ทางเดียว แบ่งกันไป ท่องพ่อแก้วแม่แก้วเป็นเวลาหลายชั่วโมงตลอดทาง ขอแนะนำเลยว่าใครจะเดินทางเข้าเนปาลทางด้านนี้ไม่ควรมาช่วงหน้าฝน เพราะเสี่ยงเขาและดินถล่มตลอดทาง คนขับรถบอกว่า ก่อนหน้าเราไปไม่นาน เกิดดินถล่มครั้งใหญ่บนถนนเส้นนี้ บ้านพังลงมาเป็นแถบ คร่าชีวิตชาวบ้านไปเพียบ นี่เขาเพิ่งเปิดเส้นทางขึ้นใหม่ได้ไม่นาน
คุยกันไปมากับน้องคนขับ เลยทำให้รู้ว่าชาวเนปาลชอบจาพนมมาก ดังแรงและเป็นไอดอลของทุกคน พอเริ่มคุยถูกคอกันขุ่นน้องเลยบอกขอแวะกลางทางหน่อยนะ เพื่อนเปิดร้านอยู่ตรงนี้ เราก็เอ้อ เอ้า ได้ แวะก้อแวะ ร้านก็ใหม่ยังไม่ค่อยมีอะไรหรอก แต่ก็มีเครื่องดื่มแก้กระหาย เรายังไม่ได้ทำการแลกเงินอะไรเลย โกยเงินเท่าที่มีทั้งหมดสามคนเอามารวมกันแล้วเลยได้สิ่งนี้มา นับว่าคุ้ม (ตอนอยู่ในทิเบตไม่กล้าดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์อะไรทั้งสิ้น กลัวได้ลงกล่องกลับบ้าน)
ตัดภาพมาที่กาฏมัณฑุเลยละกัน ในแพกเกจของเรารวมที่พัก 1 คืนในกาฎมัณฑุด้วย (เฉพาะที่พักเท่านั้นไม่รวมสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เพราะเราคิดว่าไปไหนมาไหนเองไม่ลำบาก) ที่พักอยู่ในย่านทาเมลแหล่งนักท่องเที่ยว ห้องพักพออยู่ได้ มีน้ำอุ่น แอร์ ผ้าห่ม ที่นอน ก็สลบได้ทันที
เราออกมาเดินเล่น ตามที่ๆนักท่องเที่ยวควรจะไป ที่จริงเป็นการดีที่เราได้มาพักที่เนปาลก่อนกลับกรุงเทพ เป็นการเตรียมตัวเตรียมใจก่อนเจอสภาพความวุ่นวายในชีวิตแบบเมืองหลวง มันรู้สึกเหมือนตกสวรรค์อยู่นะ 555 เนปาลก็ดีงามในแบบของเขา วุ่นๆขวักไขว่ ฝุ่นเยอะๆ แท๊กซี่ต่อรองคุยกันได้ ไม่ใจร้าย มันให้ความสนุกสนานอีกแบบ
ไป Durbur Square รายละเอียดในสถาปัตยกรรมมีเยอะมาก ยิ่งถ้าใครได้ศึกษาได้รู้มาบ้างคงจะยิ่งสนุก
วันที่สองและสามในกาฏมันฑุ เนื่องจากหมดโปรแกรมแล้ว เราเลยย้ายไปพักที่ Tings Tea Lounge & Tings Lounge Hotel โรงแรมเล็กๆแต่เก๋ชิค คุณภาพคับ อาหารอร่อย พนักงานน่ารัก ใครไปกาฏมัณฑุขอแนะนำอย่างแรง
2 คืนที่พักที่นี่ เราเปลี่ยนห้องทั้งสองคืนเลย เพื่อเก็บให้ได้ครบทุกบรรยากาศ 555
ที่หน้าปากซอยที่พัก เป็นร้านอาหารชื่อดัง “Nepali Chulo” มีการแสดงและดนตรีพื้นเมืองใช้ชม เป็นที่นักท่องเที่ยวนิยมมากัน อารมณ์ประมาณสีลมวิลเลจอะไรอย่างนั้นอ่ะค่ะ
เด็กเสิร์ฟจำได้เลยว่าชื่อราชกุมาร แสนเฟรนด์ลี่มากไปบางที กว่าจะได้กิน Main Course นี่หลอกให้กินเหล้าจอกไปหลายกรึ๊บเลย เติมไม่หยุดนึกว่าบุฟเฟท์!
รุ่งขึ้นไปสถูป Swayambhunath สวยัมภูวนนาถ คือวัดที่มีลิงเยอะๆนั่นแหละ
หลังจากเดินชมรอบสถูปแล้วเราก็เดินมาเจอคาเฟ่หนึ่งที่อยู่ในหลืบแต่มีวิวที่ดีที่สุด “Cafe De Stub” ที่นั่งกินนั่งดื่มบนดาดฟ้า มองลงมาเห็นทั่วเมือง ปัจจุบันนี้ไม่แน่ใจว่าร้านค้าส่วนนี้ได้พังทลายลงมาหรือเปล่า T___T มานั่งนึกย้อนถึงตรงนี้ รู้สึกว่าเราโชคดีมากที่ได้เห็นสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ด้วยตาก่อนมันจะเสียหายไปจากแผ่นดินไหว 2015 ได้แต่ขอให้เนปาลฟื้นฟูสวยงามมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
วันสุดท้ายเรามาทิ้งทวนที่ Boudhanath มหาเจดีย์พุทธนาถ ไม่แคล้วหาคาเฟ่นั่งเพื่อนั่งชม นั่งซึมซับบรรยากาศ
หาของกินในร้านบ้านๆ กินอาหารพื้นเมืองซะหน่อย
เวลามักเดินเร็วขึ้นเสมอเมื่อตอนเรากำลังเพลิดเพลินมีความสุข ได้เวลาที่ต้องไปสนามบินตรีภูวันเพื่อรอขึ้น Airasia X กลับบ้านแว้ว จากกาฏมัณฑุสู่กรุงเทพ จะต้องมาต่อเครื่องที่ KL ก่อน พบว่าทั้งไฟล์ทจากกาฏมัณฑุเต็มไปด้วยหนุ่มชาวเนปาลเต็มลำ มีชาวเนปาลจำนวนมากที่มาค้าแรงงานหางานทำใน KL ตอนเดินจะขึ้นบันไดขึ้นเครื่องบิน จขกท.สังเกตเห็นแรงงานชาวเนปาลส่วนใหญ่มีผ้าคาตะสีขาวคล้องคอ สิ่งที่ประทับใจคือ ก่อนที่เขาเหล่านั้นจะก้าวพ้นแผ่นดินแม่ไป ต่างคนต่างก็ก้มลงใช้มือจูบแตะพื้นเหมือนร่ำลา แล้วค่อยก้าวขึ้นบันไดเหินฟ้าไปทำงานต่างบ้านต่างเมือง
ละทริปของเราก็จบลงเพียงเท่านี้ สิ่งที่เหลือไว้คือความทรงจำดีๆที่อยากเก็บไว้นานๆ ว่าแล้วเลยเลือกรูปไปประดับบ้าน มุมห้อง โต๊ะทำงานไว้ฝันถึงเวลาทำงานเหนื่อยๆ อิอิ
ชอบรูปนี้เป็นพิเศษ ถ่ายจาก iPhone5 ธรรมดาๆ แบบ Panorama ตอนที่อยู่ระหว่างทางบน Friendship Highway
แต่งกำแพงซะหน่อย เป็น Wall Gallery สายอาร์ตต้องทำงี้
ละฮิปเตอร์อย่างเราก็ต้องตามด้วยภาพสไตล์โพราลอยด์เกร๋ๆ
ขอบคุณ www.igoncanvas.com สำหรับบริการภาพสวยๆด้วยค่า
...และขอบคุณที่ติดตามอ่านจนบรรทัดสุดท้ายค่ะ จนกว่าเราจะพบกันใหม่ เมื่อเรามีแรงเขียนอีกน๊า
รวมลิ้งค์ให้นะคะเพื่อการติดตามง่ายขึ้น:
ตอนที่ 1 http://ppantip.com/topic/34778434
ตอนที่ 2 http://ppantip.com/topic/34778547
ตอนที่ 3 http://ppantip.com/topic/34778732