หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] บันทึกการเดินทางของสาวใหญ่ ซีอาน(จีน)>ลาซา(ทิเบต)>กาฏมัณฑุ(เนปาล) -- ตอน 2
กระทู้รีวิว
รถไฟ
เที่ยวภูเขา
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
Backpack
กฏระเบียบการเข้าทิเบตต้องอัพเดตติดตามข่าวตลอดๆเพราะมักจะเปลี่ยนไปมา จขกท.ไปทริปนี้เมื่อปี 2014 ตอนนั้นนักท่องเที่ยวต้องขอใบ Permit อนุญาตเข้าทิเบต และนักท่องเที่ยวจะต้องมีไกด์คอยไปด้วยเวลาไปเที่ยววัดสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งบริษัททัวร์จะทำให้เราเสร็จสรรพขั้นตอนนี้ -- ตอนนั้นไม่ค่อยเข้าใจมากนักแต่เมื่อเดินทางเข้าทิเบตเลยรู้ว่ามันจำเป็นที่จะต้องมีไกด์ไปไหนไปด้วย จีนไม่ให้เราเดินดุ่มๆสุ่มสี่สุ่มห้าเข้าไปที่นู่นที่นี่ได้ตามอำเภอใจ เพราะทุกสถานที่ ทุกเมือง ตำบล จะมีจนท.จีนอยู่ที่จุดตรวจเข้มงวด เช็ค permit ตลอด เป็นระยะๆเลยทีเดียว ไกด์ก็จะเป็นคนคุยภาษาจีนกับจนท. ยื่นเอกสาร อธิบายต่างๆกับจนท.จีน Big Brother is watching you!!
ลาซามีทั้งส่วนที่เป็นเมืองเก่า และเมืองใหม่ ดีที่พักของเราอยู่ในเขตเมืองเก่าซึ่งทำให้ได้อยู่ใกล้ชิดความเป็นทิเบตมาก ส่วนที่เป็นเมืองใหม่ผู้อาศัยส่วนใหญ่จะเป็นชาวฮั่น(จีน) ซึ่งทางการจีนสนับสนุนให้ชาวฮั่นเข้ามาอยู่อาศัยทำมาหากินในนี้ให้มากขึ้นๆ (จะว่าไปก็คือการกลืนชาติแบบเนียนๆ) ตึกอาคารบ้านเรือนก้อจะเป็นสไตล์ทิเบต แต่เป็นการสร้างใหม่
ตอนเย็นออกไปเดินหาข้าวกินใกล้ๆกับจตุรัสบาร์กอร์ แวะร้าน Spinn Cafe ที่นักท่องเที่ยวไทยที่ไปทิเบตน่าจะเคยได้ยินชื่อคาเฟ่นี้มาบ้าง สักพักจขกท.เริ่มรู้สึกปวดเบ้าตาตุบๆ ยิ่งอากาศหนาวบาดหน้ายิ่งทำให้แย่ลง ไม่รู้ว่าเพราะความหนาวหรือโรคแพ้ความสูงเล่นงาน และเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนเพื่อนทักเลยว่าทำไมตาโปน! หลังกินข้าวเสร็จหมดจานเริ่มรู้สึกดีขึ้น แต่อาการยังไม่หายไป เลยไปร้านขายยาซื้อยาแก้แพ้ Altitude Sickness มาคนละกล่องติดตัวไว้ ใครที่หายาจากเมืองไทยไม่ได้ (เพราะหาซื้อยากอยู่เหมือนกัน พยายามแล้ว) ไม่ต้องกลัว สามารถมาซื้อได้ที่ร้านขายยาที่นี่ ไม่ยุ่งยาก ทั้งยา ทั้งออกซิเจนกระป๋องซื้อตามร้านแบบนี้ถูกกว่าซื้อกับทัวร์จ้า เมื่อมีอาการให้นั่งพักเฉยๆ หายใจลึกๆช้าๆ และต้องทานน้ำบ่อยๆ จขกท.มีอาการตอนกลางคืน กินข้าว กินน้ำ เข้านอน พักผ่อนให้เพียงพอ ตื่นเช้ามาก็หาย สามารถไปเที่ยวในเมืองได้
เช้าวันแรกในลาซา ก็ไป Potala Palace เลย เราอยากไปดูกะตาที่เขาพูดว่าคนทิเบตมีศรัทธาแรงกล้าต่อศาสนาของเขานี่มันเป็นยังไง
ก่อนเข้าถึง White palace ตรงนี้สามารถถ่ายรูปได้
ภายในพระราชวัง และวัดต่างๆส่วนใหญ่ห้ามถ่ายภาพ น่าเสียดายที่ไม่สามารถถ่ายทอดความขลังอลังการด้านในมาให้ดูได้หมด อารยธรรมเป็นพันปีขนาดนี้ได้มาเห็นบรรยากาศมาดมกลิ่นด้วยตัวเองก็ถือว่าดีมากแล้ว มีบางที่สามารถบันทึกภาพได้แต่ต้องเสียเงินซะก่อน รูปนี้ถ่ายภายในมาได้นิดเดียวเพราะไกด์เชดอร์แอบบอก เอ้า แอบถ่ายได้หน่อยนึง เร็วๆ
ไม้แดงคล้ายก้านธูป เสียบๆเป็นโครงสร้างผนังของพระราชวังต้านลม ความชื้นระบายออกได้ดี
ขึ้นบันไดสูงๆปกติก็หอบแล้ว มาเจออากาศเบาบางแบบนี้ยิ่งสาหัสเป็นทวีคูณ เพื่อนจขกท.ยังมีอาการปวดไม่หายตั้งแต่เมื่อมาถึง ต้องจัดยาเป็นระยะคอยบรรเทา ประคับประคองอาการไม่ให้หนักกว่านี้ ว่างๆก็นั่งสูดออกซิเจนกระป๋องไปชิวๆ ซึ่งไกด์ของเราก็ห่วงใยมาก คอยถามไถ่ตลอดเวลา ฮีประเมินแล้วว่าอาการไม่หนัก สามารถไปต่อได้ เย่!
ตอนอยู่ที่ต่ำๆเราลืมลมหายใจไป บางทีกลั้นหายใจ บางทีไม่รู้ตัวว่าหายใจอยู่ด้วยซ้ำ พอได้ไปอยู่ที่หลังคาโลกแบบนั้นทุกย่างก้าวสำคัญมาก อย่างกับได้ปฏิบัติธรรมเพราะต้องรู้ตัว หายใจเข้าออกลึกๆทุกลมหายใจ ย้ำ! ทุกลมหายใจ เพราะไม่งั้นจะตายเอานั่นเอง
Sera Monastery เป็นศูนย์กลางของนิกายหมวกเหลืองเกลุกปะ จะมีลานวัดที่เหล่าลามะจะมาทำการปุจฉาวิสัชนากันอย่างถึงพริกถึงขิง ถ้าตอบถูกผู้ถามจะทำท่าเหมือนตบมือคือมือขวาคว่ำทับมือซ้าย แต่ถ้าตอบผิดก็จะหงายมือขวาตบทับมือซ้าย
ปัจจุบันชาวทิเบตถูกจำกัดเรื่องการบวชมาก ชายชาวทิเบตเรียกได้ว่าแทบทุกคนปรารถนาการบวชเรียนสูงสุด แต่ไม่สามารถบวชเรียนได้ตามใจ ต้องขออนุญาตจากรัฐบาลจีน ซึ่งแต่ละปีๆจะเคร่งครัดมีกฏเกณฑ์มากมายทำให้มีไม่กี่คนที่จะได้บวช
Mandala ที่เขียนด้วยทราย
หมดโปรแกรมของวันที่สอง เลยเดินหาไรกินกันตาม Lonely Planet แนะนำอย่างเจริญใจ ร้านชื่อ Tashi1 เมนูแนะนำคือ Bobi with 4 veggies มีบราวนี่และอื่นๆ แปลกและอร่อยดีค่ะ
เริ่มต้นวันที่ 3 ในลาซาที่ Dreprung Monastery เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในทิเบต ในสมัยรุ่งเรืองเคยมีพระอยู่ในนี้ถึง 10,000 รูป
ไม้สน Juniper Twigs ไม้พุ่มประเภทหนึ่งที่นำมาจุดบูชาเพื่อให้มีกลิ่นหอมอบอวล หอมไปให้ถึงสรวงสวรรค์
Norbulingka Palace พระราชวังฤดูร้อนของท่านดาไลลามะ ล้อมรอบด้วยสวน ดอกไม้ร่มรื่น
เดินเที่ยวจัตุรัส Barkohr ตอนกลางวัน มีไกด์เชดอร์นำทางซอกแซกตามซอยต่างๆ
จขกท.แจ้งความประสงค์อยากได้ภาพ Thanga Mandala ไกด์เชดอร์เลยพาเข้า Gallery นึงของอาจารย์สอนวาดทังก้าที่มีชื่อเสียง ได้มาหนึ่งรูปสวยงามในราคาปาดเหงื่อ โทรขอวงเงินบัตรเครดิตเพิ่มข้ามประเทศเลยทีเดียว เพิ่งรู้ว่าเป็นความโชคดีของเราที่ได้ไปที่ร้านในวันนั้น เพราะวันนั้นเป็นวันสุดท้ายก่อนจะปิดช้อป หน้าหนาวปลายปีศิลปินจะปิด 3 เดือนออกจากเมืองหลวงกลับบ้านนอกค่ะ (เพราะไม่ใช่หน้าท่องเที่ยวด้วย)
Jokhang Monastery เป็นวัดสำคัญที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวทิเบต ผู้คนจะเดินทางมากราบอัษฎางคประดิษฐ์รอบวิหาร มาปฏิบัติสมาธิภาวนาในรูปแบบต่างๆซึ่งจขกท.ไม่เคยพบเห็นมาก่อน
ภายในประดิษฐานพระศรีศากยมุนี (หรือ Jowo Rinpoche) ที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์มากและสำคัญที่สุด ในตอนที่พวกเรากำลังทำการเดินรอบองค์พระ เจ้าหน้าที่กำลังผลัดผ้าให้พระพุทธรูปพอดี ได้เห็นเนื้อทองเปล่งปลั่งงดงาม ไกด์เชดอร์ของเราหัวไว แกรีบจัดการหยิบม้วนกระบอกภาพทังก้าของจขกท.ที่เพิ่งซื้อมาเมื่อกี๊ ออกมายื่นไปแตะๆที่องค์พระพุทธรูปขอพรเป็นศิริมงคลให้ จขกท.ปลาบปลื้มใจสุดๆ ขออภัยไม่มีภาพด้านในให้ชม ต้องไปดูเองด้วยตาค่า
ไกด์เชดอร์ของเราทำหน้าที่ไกด์ได้อย่างดีและครบถ้วน แกไม่เหน็ดเหนื่อยอธิบายยาวเหยียดถึงความเป็นมาของวัด ของพระพุทธรูปต่าง ห้องกี่ร้อยห้องแกอธิบายละเอียด แกยังสอนพวกเรากราบแบบอัษฎางคประดิษฐ์อีกด้วย ดูแกจะยิ่งนำเสนอมากขึ้นเมื่อเห็นพวกเราสนใจและถามนู่นนี่
ไกด์พาเราไปโรงนำ้ชาของชาวทิเบต ซึ่งถ้าไม่มีไกด์พาเข้าไปเราคงไม่กล้าเข้าแน่นอน วันก่อนหน้าเราเคยยืนสงสัยอยู่ว่าที่แห่งนี้คืออะไร เพราะเห็นคนมากและเดินเข้าออกกันให้ควั่ก เรียกว่าเป็นแหล่งแฮงเอ้าท์ของคนทุกวัย คนมักเต็มโรงน้ำชาตลอดเวลาทั้งวัน ใครเข้ามาก็หาที่เล็กๆมาแทรกเบียดๆกันกับคนอื่นๆได้ คนขายชาจะเดินไปมาพร้อมกาน้ำชาใบใหญ่ๆคอยเสิร์ฟตามแก้วเปล่าที่วางพร้อมกับเงินบนโต๊ะ เป็นอันรู้กันว่าใครต้องการน้ำชาเพิ่ม คนก็มักจะกองเงินสุมๆกันไว้บนโต๊ะซะเลย เพราะกินหลายแก้วนั่งนานๆคุยกันไป จะได้ไม่ต้องหยิบเงินบ่อยๆ อ่อ ชาทีนี่เป็นชานมมีรสหวาน กินแล้วอุ่นดีค่ะ
อำลา 3 วันในลาซาที่ New Mandala Restaurant หลังจากนี้ก็ได้เวลาของ road trip แล้ว
ตอนที่ 3 ทางนี้ค่ะ
http://ppantip.com/topic/34778732
ชื่อสินค้า:
นั่งรถไฟไปทิเบตต่อรถไปเนปาล
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
บันทึกการเดินทางของสาวใหญ่ ซีอาน(จีน)>ลาซา(ทิเบต)>กาฏมัณฑุ(เนปาล) -- ตอน 1
สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกในชีวิตบนพันทิพเลย ตื่นเต้นเล็กน้อยไม่รู้ทำไม :p ขออนุญาตเปิดประเดิมด้วยทริปทิเบต หนึ่งในทริปที่น่าจดจำที่สุดทริปหนึ่งในชีวิต หากเกิดข้อผิดพลาดแต่ประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้
psychesinging
บันทึกการเดินทางของสาวใหญ่ ซีอาน(จีน)>ลาซา(ทิเบต)>กาฏมัณฑุ(เนปาล) -- ตอน 3
เริ่มออกจากลาซาแต่เช้า เพลินเพลินกับวิวข้างทางและหวาดเสียวไปพร้อมกัน เราเดินทางมาจอดที่จุดแวะพักหนึ่งมีเจ้าของหมาพันธุ์ Tibetan mastiff นำหมาออกมาให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป และมีลูกแพะด้วย! เอามากอดถ่ายร
psychesinging
Top 10 ประเทศวัฒนธรรมคล้ายกันที่สุดในโลก
สมาชิกหมายเลข 1433410
ดินแดนมุสตางค์แห่งเนปาล ร่องรอยอาณาจักรโบราณที่เคยยิ่งใหญ่
มุสตางค์ (Mustang) หรือ อัปเปอร์มุสตางค์ อยู่ในเขตการปกครองของ เนปาล ได้ชื่อว่าเป็นอาณาจักรที่ถูกช
ขี้เมี่ยง ชาแนล
วัดลามะที่ปักกิ่ง
มาไหว้พระขอพรพระศรีอริยเมตไตรย (弥勒大佛) รูปแบบทิเบต ที่ถูกแกะสลักจากไม้จันทร์หอมสีขาวชิ้นเดียว โดยมีความสูงทั้งหมด 26 เมตร มีส่วนที่ฝั่งอยู่ใต้ดิน 8 เมตร และส่วนที่เหนือพื้นดินโดยมองผ่านตา 18 เมตร ในปีค
สมาชิกหมายเลข 8434553
ลาซาด้าติดศุลกากรเข้าไทยกี่วันค่ะ
สั่งของลาซาด้ามาจากจีน ขึ้นว่าติดพิธีศุลกากรขาเข้าของประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาแล้วค่ะ ตามกำหนดลาซาด้าแจ้งว่าจะมาส่งถึงบ้านไม่เกินวันที่ 15 ธันวา แต่วันนี้ (16 ธันวา) ของยังติดอยู่พิธีศุลกากรอย
Minie Mouse
เลห์ในแบบที่ผมเห็น
สวัสดีครับ ปกติจะเข้ามาอ่านอย่างเดียวไม่เคยคิดจะโพสต์อะไรเท่าไหร่ แต่วันนี้มีความประทับใจจากเดินทางไป”เลห์”มาเล่าสู่กันฟังพร้อมภาพประกอบเล็กน้อย การเดินทางของผมอาจจะต่างกับสมาชิกหลายๆท่านเ
dark short & not handsome
หนังสือเดินทาง x Tibet, roof top of the world
สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว pantip วันนี้หนังสือเดินทางของผมขอเริ่มต้นด้วยการแชร์ประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวทิเบตซึ่งอาจจะเป็น dream destination ของหลายๆ คน ที่ดูเหมือนดินแดนลี้ลับ ห่างไกล เต็มไปด้วยความ
NavigatorH
Let's go to find Shambhala in Tibet (Part 2)
ติดตาม ภาคแรก ได้จาก ลิ้งด้านล่างนี้ครับ http://ppantip.com/topic/31531456 จะเป็น 3 วันแรกที่มาเริ่มผจญภัย ที่ทิเบต และอยู่ใน ลาซา เท่านั้น มาต่อ กันที่ วันที่ 4 เลยครับ Day 1: Arrive in Lhasa, pi
Monkey_D_Luffy
ขนส่ง lazada ไม่เข้าร่วมมาตรการเช็คของก่อนจ่ายของ สคบ. เหรอคะ
ตั้งแต่สั่งของมาไม่เคยมีปัญหากับร้านไทยนะคะ แต่กับร้านจีนจะเจอปัญหาของไม่ครบ/ไม่ตรงปกบ่อย มาตรการนี้จึงมีประโยชน์กับคนซื้อเวลาเจอกับร้านจีนที่ชอบเอาเปรียบ วันนี้เพิ่งรู้ว่าลาซาด้าไม่ให้เช็คก่อนจ่ายเพร
Gato Feliz
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
รถไฟ
เที่ยวภูเขา
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
Backpack
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] บันทึกการเดินทางของสาวใหญ่ ซีอาน(จีน)>ลาซา(ทิเบต)>กาฏมัณฑุ(เนปาล) -- ตอน 2
ลาซามีทั้งส่วนที่เป็นเมืองเก่า และเมืองใหม่ ดีที่พักของเราอยู่ในเขตเมืองเก่าซึ่งทำให้ได้อยู่ใกล้ชิดความเป็นทิเบตมาก ส่วนที่เป็นเมืองใหม่ผู้อาศัยส่วนใหญ่จะเป็นชาวฮั่น(จีน) ซึ่งทางการจีนสนับสนุนให้ชาวฮั่นเข้ามาอยู่อาศัยทำมาหากินในนี้ให้มากขึ้นๆ (จะว่าไปก็คือการกลืนชาติแบบเนียนๆ) ตึกอาคารบ้านเรือนก้อจะเป็นสไตล์ทิเบต แต่เป็นการสร้างใหม่
ตอนเย็นออกไปเดินหาข้าวกินใกล้ๆกับจตุรัสบาร์กอร์ แวะร้าน Spinn Cafe ที่นักท่องเที่ยวไทยที่ไปทิเบตน่าจะเคยได้ยินชื่อคาเฟ่นี้มาบ้าง สักพักจขกท.เริ่มรู้สึกปวดเบ้าตาตุบๆ ยิ่งอากาศหนาวบาดหน้ายิ่งทำให้แย่ลง ไม่รู้ว่าเพราะความหนาวหรือโรคแพ้ความสูงเล่นงาน และเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนเพื่อนทักเลยว่าทำไมตาโปน! หลังกินข้าวเสร็จหมดจานเริ่มรู้สึกดีขึ้น แต่อาการยังไม่หายไป เลยไปร้านขายยาซื้อยาแก้แพ้ Altitude Sickness มาคนละกล่องติดตัวไว้ ใครที่หายาจากเมืองไทยไม่ได้ (เพราะหาซื้อยากอยู่เหมือนกัน พยายามแล้ว) ไม่ต้องกลัว สามารถมาซื้อได้ที่ร้านขายยาที่นี่ ไม่ยุ่งยาก ทั้งยา ทั้งออกซิเจนกระป๋องซื้อตามร้านแบบนี้ถูกกว่าซื้อกับทัวร์จ้า เมื่อมีอาการให้นั่งพักเฉยๆ หายใจลึกๆช้าๆ และต้องทานน้ำบ่อยๆ จขกท.มีอาการตอนกลางคืน กินข้าว กินน้ำ เข้านอน พักผ่อนให้เพียงพอ ตื่นเช้ามาก็หาย สามารถไปเที่ยวในเมืองได้
เช้าวันแรกในลาซา ก็ไป Potala Palace เลย เราอยากไปดูกะตาที่เขาพูดว่าคนทิเบตมีศรัทธาแรงกล้าต่อศาสนาของเขานี่มันเป็นยังไง
ก่อนเข้าถึง White palace ตรงนี้สามารถถ่ายรูปได้
ภายในพระราชวัง และวัดต่างๆส่วนใหญ่ห้ามถ่ายภาพ น่าเสียดายที่ไม่สามารถถ่ายทอดความขลังอลังการด้านในมาให้ดูได้หมด อารยธรรมเป็นพันปีขนาดนี้ได้มาเห็นบรรยากาศมาดมกลิ่นด้วยตัวเองก็ถือว่าดีมากแล้ว มีบางที่สามารถบันทึกภาพได้แต่ต้องเสียเงินซะก่อน รูปนี้ถ่ายภายในมาได้นิดเดียวเพราะไกด์เชดอร์แอบบอก เอ้า แอบถ่ายได้หน่อยนึง เร็วๆ
ไม้แดงคล้ายก้านธูป เสียบๆเป็นโครงสร้างผนังของพระราชวังต้านลม ความชื้นระบายออกได้ดี
ขึ้นบันไดสูงๆปกติก็หอบแล้ว มาเจออากาศเบาบางแบบนี้ยิ่งสาหัสเป็นทวีคูณ เพื่อนจขกท.ยังมีอาการปวดไม่หายตั้งแต่เมื่อมาถึง ต้องจัดยาเป็นระยะคอยบรรเทา ประคับประคองอาการไม่ให้หนักกว่านี้ ว่างๆก็นั่งสูดออกซิเจนกระป๋องไปชิวๆ ซึ่งไกด์ของเราก็ห่วงใยมาก คอยถามไถ่ตลอดเวลา ฮีประเมินแล้วว่าอาการไม่หนัก สามารถไปต่อได้ เย่!
ตอนอยู่ที่ต่ำๆเราลืมลมหายใจไป บางทีกลั้นหายใจ บางทีไม่รู้ตัวว่าหายใจอยู่ด้วยซ้ำ พอได้ไปอยู่ที่หลังคาโลกแบบนั้นทุกย่างก้าวสำคัญมาก อย่างกับได้ปฏิบัติธรรมเพราะต้องรู้ตัว หายใจเข้าออกลึกๆทุกลมหายใจ ย้ำ! ทุกลมหายใจ เพราะไม่งั้นจะตายเอานั่นเอง
Sera Monastery เป็นศูนย์กลางของนิกายหมวกเหลืองเกลุกปะ จะมีลานวัดที่เหล่าลามะจะมาทำการปุจฉาวิสัชนากันอย่างถึงพริกถึงขิง ถ้าตอบถูกผู้ถามจะทำท่าเหมือนตบมือคือมือขวาคว่ำทับมือซ้าย แต่ถ้าตอบผิดก็จะหงายมือขวาตบทับมือซ้าย
ปัจจุบันชาวทิเบตถูกจำกัดเรื่องการบวชมาก ชายชาวทิเบตเรียกได้ว่าแทบทุกคนปรารถนาการบวชเรียนสูงสุด แต่ไม่สามารถบวชเรียนได้ตามใจ ต้องขออนุญาตจากรัฐบาลจีน ซึ่งแต่ละปีๆจะเคร่งครัดมีกฏเกณฑ์มากมายทำให้มีไม่กี่คนที่จะได้บวช
Mandala ที่เขียนด้วยทราย
หมดโปรแกรมของวันที่สอง เลยเดินหาไรกินกันตาม Lonely Planet แนะนำอย่างเจริญใจ ร้านชื่อ Tashi1 เมนูแนะนำคือ Bobi with 4 veggies มีบราวนี่และอื่นๆ แปลกและอร่อยดีค่ะ
เริ่มต้นวันที่ 3 ในลาซาที่ Dreprung Monastery เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในทิเบต ในสมัยรุ่งเรืองเคยมีพระอยู่ในนี้ถึง 10,000 รูป
ไม้สน Juniper Twigs ไม้พุ่มประเภทหนึ่งที่นำมาจุดบูชาเพื่อให้มีกลิ่นหอมอบอวล หอมไปให้ถึงสรวงสวรรค์
Norbulingka Palace พระราชวังฤดูร้อนของท่านดาไลลามะ ล้อมรอบด้วยสวน ดอกไม้ร่มรื่น
เดินเที่ยวจัตุรัส Barkohr ตอนกลางวัน มีไกด์เชดอร์นำทางซอกแซกตามซอยต่างๆ
จขกท.แจ้งความประสงค์อยากได้ภาพ Thanga Mandala ไกด์เชดอร์เลยพาเข้า Gallery นึงของอาจารย์สอนวาดทังก้าที่มีชื่อเสียง ได้มาหนึ่งรูปสวยงามในราคาปาดเหงื่อ โทรขอวงเงินบัตรเครดิตเพิ่มข้ามประเทศเลยทีเดียว เพิ่งรู้ว่าเป็นความโชคดีของเราที่ได้ไปที่ร้านในวันนั้น เพราะวันนั้นเป็นวันสุดท้ายก่อนจะปิดช้อป หน้าหนาวปลายปีศิลปินจะปิด 3 เดือนออกจากเมืองหลวงกลับบ้านนอกค่ะ (เพราะไม่ใช่หน้าท่องเที่ยวด้วย)
Jokhang Monastery เป็นวัดสำคัญที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวทิเบต ผู้คนจะเดินทางมากราบอัษฎางคประดิษฐ์รอบวิหาร มาปฏิบัติสมาธิภาวนาในรูปแบบต่างๆซึ่งจขกท.ไม่เคยพบเห็นมาก่อน
ภายในประดิษฐานพระศรีศากยมุนี (หรือ Jowo Rinpoche) ที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์มากและสำคัญที่สุด ในตอนที่พวกเรากำลังทำการเดินรอบองค์พระ เจ้าหน้าที่กำลังผลัดผ้าให้พระพุทธรูปพอดี ได้เห็นเนื้อทองเปล่งปลั่งงดงาม ไกด์เชดอร์ของเราหัวไว แกรีบจัดการหยิบม้วนกระบอกภาพทังก้าของจขกท.ที่เพิ่งซื้อมาเมื่อกี๊ ออกมายื่นไปแตะๆที่องค์พระพุทธรูปขอพรเป็นศิริมงคลให้ จขกท.ปลาบปลื้มใจสุดๆ ขออภัยไม่มีภาพด้านในให้ชม ต้องไปดูเองด้วยตาค่า
ไกด์เชดอร์ของเราทำหน้าที่ไกด์ได้อย่างดีและครบถ้วน แกไม่เหน็ดเหนื่อยอธิบายยาวเหยียดถึงความเป็นมาของวัด ของพระพุทธรูปต่าง ห้องกี่ร้อยห้องแกอธิบายละเอียด แกยังสอนพวกเรากราบแบบอัษฎางคประดิษฐ์อีกด้วย ดูแกจะยิ่งนำเสนอมากขึ้นเมื่อเห็นพวกเราสนใจและถามนู่นนี่
ไกด์พาเราไปโรงนำ้ชาของชาวทิเบต ซึ่งถ้าไม่มีไกด์พาเข้าไปเราคงไม่กล้าเข้าแน่นอน วันก่อนหน้าเราเคยยืนสงสัยอยู่ว่าที่แห่งนี้คืออะไร เพราะเห็นคนมากและเดินเข้าออกกันให้ควั่ก เรียกว่าเป็นแหล่งแฮงเอ้าท์ของคนทุกวัย คนมักเต็มโรงน้ำชาตลอดเวลาทั้งวัน ใครเข้ามาก็หาที่เล็กๆมาแทรกเบียดๆกันกับคนอื่นๆได้ คนขายชาจะเดินไปมาพร้อมกาน้ำชาใบใหญ่ๆคอยเสิร์ฟตามแก้วเปล่าที่วางพร้อมกับเงินบนโต๊ะ เป็นอันรู้กันว่าใครต้องการน้ำชาเพิ่ม คนก็มักจะกองเงินสุมๆกันไว้บนโต๊ะซะเลย เพราะกินหลายแก้วนั่งนานๆคุยกันไป จะได้ไม่ต้องหยิบเงินบ่อยๆ อ่อ ชาทีนี่เป็นชานมมีรสหวาน กินแล้วอุ่นดีค่ะ
อำลา 3 วันในลาซาที่ New Mandala Restaurant หลังจากนี้ก็ได้เวลาของ road trip แล้ว
ตอนที่ 3 ทางนี้ค่ะ
http://ppantip.com/topic/34778732