ความแปรปรวนในตลาดหุ้น strom is coming!!!

เวลาเราจะเดินทางไปเที่ยว ถ้าจุดหมายปลายทางของเรามีพายุ มีอุทกภัย วาตภัยเกิดอยู่หรือกำลังจะเกิด เราก็ชะลอไม่ไป หรือเปล่าครับ
ปี2554 น้ำท่วมกรุงเทพ ดอนเมืองท่วมเท่าอก คุณจะไปเยี่ยมญาติที่ดอนเมืองตอนนั้นหรือครับ
ถึงคุณจะตอบว่ากรูจะไป ก็เต็มไปด้วยความลำบากยากเย็น
ในตลาดหุ้น/ตลาดเงินทั่วโลก ก็มีความแปรปรวน
ดูเมืองไทย พอต่างชาติเทขายหุ้น เอาเงินออก ค่าเงินบาท มักจะอ่อนค่าลง ทุกครั้งไป
แต่ที่แปลกคือ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อตลาดหุ้นตก ค่าเงินเยนกลับแข็งค่าขึ้น ทั้งๆที่ดอกเบี้ยนโยบายติดลบไปแล้ว -0.1%
โดยทฤษฎีแล้ว เมื่อดอกเบี้ยนโยบายลดลง นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างชาติ ควรจะถอนเงินออกไปลงทุนยังตลาดทุนตลาดเงินที่อื่น อาทิ สหรัฐ
แต่ถ้าเราดูปัจจุบันนี้ กลายเป็นว่า ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลล่าร์ แถม พันธบัตรญึ่ปุ่นถูกกระหน่ำซื้อจนผลตอบแทนพันธบัตรอายุ10ปี มีค่าตอบแทนติดลบ (ก้อยังจะซื้อ) เหมือนกันมีนักลงทุนกลุ่มนึงที่ดื้อจะถือเงินเยนเอาไว้เป็นจำนวนมาก
(ผมคิดว่า เงินเยนที่แข็งค่าขึ้นผิดธรรมชาติ น่าจะเพราะประเทศจีน ซื้อเยน แทนถือดอลล่าร์ซะมากกว่า มันถึงแข็งค่าผิดปกติ)
เม่าชอปปิ้ง
ต้นปี ก็มีเรื่องประหลาดอีกอันนึงที่เพื่อนนักลงทุนไทยควรจะฉุกคิดสักนิดนึง
กรณี1จีนไม่เข้าซื้อพันธบัตรสหรัฐที่เปิดประมูลต้นปีนี้ เพราะปกติจีนซื้อพันธบัตรสหรัฐเป็นจำนวนมากๆเพื่อไว้เป็นทุนสำรองประเทศ แถมเทขายอีกต่างหาก
http://www.bloomberg.com/news/articles/2016-01-10/china-retreat-from-u-s-bonds-prompts-shrugs-where-fear-reigned

กรณี2 ประเทศจีนเริ่มลดการถือครองดอลล่าร์ ถึงสื่อต่างชาติจะตีความว่า เพราะเอาเงินไปปกป้องค่าเงินหยวนให้อ่อน แต่เท่าที่ดู น่าจะเอาเงินดอลล่าร์ไปซื้อบริษัทต่างประเทศที่มีเทคโนโลยีดีๆเสียมากกว่า
http://www.cnbc.com/2016/02/02/syngenta-says-to-be-acquired-by-chemchina.html

นอกจากนี้ยังมีเรื่องอิหร่านขอรับเงินยูโร ถ้าจะซื้อขายน้ำมัน
http://money.cnn.com/2016/02/09/investing/iran-euro-us-dollar/index.html

เม่าเหม่อ
ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกสับสนและไร้สิ่งยึดเหนี่ยว จนสุดท้ายหันไปพึ่งทองคำ ซื้อกันจังช่วงนี้
นักลงทุนรายย่อยไทย กลับจะกล้าลงทุนซื้อหุ้นไทยกันอยู่
วิกฤติเศรษฐกิจ ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน
สมัยวิกฤติต้มยำกุ้ง2540 ผมทำงานกินเงินเดือน ยังรู้สึกได้ถึงความฝืดเคีองของคนรอบข้าง
เคยได้คุยกับนักลงทุนหุ้นท่านนึงในสมัยนั้นเมื่อชวนคุยถึงเรื่องหุ้น แกว่า เศรษฐกิจมันแย่มาหลายปีแล้ว จนมาถล่มหนัก ตอนปล่อยลอยตัวค่าเงินบาท
ถ้าเป็นผมตอนนี้ คงจะถามต่อไปว่า "ในเมื่อมันแย่ ทำไมพี่ยังจะเล่นหุ้นอีก ไม่ขายทิ้ง หนีออกมาจากตลาดหุ้นก่อนล่ะครับ"
เม่าอุ้มห่าน
ปัจจุบันหลังได้โพสตอบกระทู้ในพันทิพ ก็พอจะเข้าใจ หลังมีคนมาคอมเม้นท์
ตามที่ผมเข้าใจ คือนักลงทุนเหล่านั้น คิดเข้าข้างตัวเอง(คิดว่าหุ้นที่ตัวเองถือขาดทุนอยู่นั้น ดีเอามากๆ น่าจะกลับมายืนราคาเดิม) และมองเห็นแต่สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว (อนาคตมองไม่ออกเอาซะเลย)
ยิ่งถ้าคนเหล่านั้นคุยว่าตัวเองเป็นสายเทคนิคดูแนวโน้มหุ้นจากกราฟ ถ้าเป็นระดับday ผมไม่เถียงหรอกครับ มันพลิกขึ้นลงไปเรื่อยตามธรรมชาติของหุ้นระดับวัน
เจ้าเริงร่า
ถ้าระดับ month ล่ะครับ มันแนวโน้มขาลงหรือเปล่า (แล้วยัง บอกว่าหุ้นจะกลับตัวขึ้น ให้ซื้อหุ้นเก็บ กลัวตกรถ)
QE ของสหรัฐ ทำมาตั้งแต่ปี2552-2557 แล้ว นับคร่าวๆ 5ปี
ตอนนี้หุ้นน่าจะเป็นขาลงประมาณ5ปีหรือเปล่าล่ะครับ
http://www.isstep.com/quantitative-easing-qe/
ไอ้คนที่บอกว่า หุ้นไทยร่วงมา2ปีแล้ว น่าจะสิ้นสุดขาลงแล้ว  คิดเข้าข้างตัวเองมากไปหรือเปล่าครับ
ถ้ามองปัจจัยพื้นฐาน ตอนนี้เศรษฐกิจไทยแย่มาก ส่งออกน้อยลง ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทำให้เกษตรกรยากจนหนัก
คุณจะเอาเหตุผลอะไรไปบอกว่า ตลาดหุ้นไทยจะดีในแง่ผลตอบแทนของเงินปันผล ถ้าลูกค้าคุณกำลังแย่ และทำท่าจะแย่หนักขึ้นจากภัยแล้ง
ดูเชิงเทคนิค หุ้นไทย อย่างมากก็ไซด์เวย์ ทรงตัวไปวันๆ รอวันร่วงหนักๆ จากการเทขายของกองทุนไทย
เม่าบาดเจ็บ
สุดท้าย ผู้อ่าน น่าจะถามผมต่อว่า เมิ่งโม้มาตั้งเยอะ ต้องการจะชี้แนะอะไรว่ะ
กรุณาคิดแผน3 เผื่อกรณีเกิดวิกฤติในตลาดหุ้นไว้บ้าง ว่าคุณจะทำอย่างไร จะรับขาดทุนได้เท่าไหร่
ผมใช้เวลา6เดือน เพื่อดูว่าจะขายล้างพอร์ตอย่างไร(ส่วนใหญ่คือ ใช้เวลาทำใจเสียมากกว่าจะมาวิเคราะห์สถานการณ์หุ้น)
เอาจริงๆ เวลาคุณจะขายหุ้นมูลค่า20-30 ล้านบาท ทั้งพอร์ต แบบไม่เสียราคา(โดยเฉพาะหุ้นที่ไม่ค่อยมีปริมาณซื้อขายมากๆ/วัน คุณต้องค่อยๆหยอดขายออกไปซึ่งใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะหมด)
เวลาตลาดแพนนิค (panic) คุณตกใจขาดสติ ขายออกไปทุกๆราคา จะไม่เหลืออะไรนะครับ
เพราะเวลาเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ บริษัท รง ห้างร้านจะปิดตัวลง มนุษย์เงินเดือนก็ไม่มีรายได้ ไม่มีเงินจ่ายค่าผ่อนรถ บ้าน บัตรเครดิตแบบกระทันหัน
เงินที่เอาไปลงทุนในหุ้น ถ้าไม่ยอมขายขาดทุน ก็เอาออกมาใช้จ่ายไม่ได้ เจ็บหนักขึ้นไปอีก
เงินที่คิดว่า เย็น จะร้อนขึ้นมา แบบกระทันหัน
ผมทำธุรกิจซื้อมาขายไป ทำไปทำมา ขายไม่ดี คู่ค้าโกงเอาสินค้าไปเงินไม่จ่าย คนขายส่งบังคับให้ซื้อเป็นสต็อกเพิ่ม
แรกๆก็หยวนๆ ช่วยๆกันไป สินค้าคงคลังจาก8แสน กลายเป็น2.5 ล้าน แต่ขายไม่ออก
สุดท้ายจำต้องเลิกเล่นหุ้น(มาร์จิ้น) ไป เพื่อรักษาบริษัทเอาไว้ เพราะบริษัทกำลังขาดสภาพคล่อง อย่างช้าๆ
ผมยังต้องรีบเลิกเล่นหุ้น ในสภาวะที่ตลาดยังพอดูมีอนาคต หรืออาจจะรุ่งโรจน์มากๆในสายตาของนักเล่นหุ้นบางคน
คิดๆเผื่อไว้หน่อยเถอะครับ เพราะพอถึงเวลาเกิดเรื่องจริงๆ มันช่วยคุณได้มากๆเลย
(ก้อในเมื่อมองเห็นพายุปั่นป่วนในตลาดทุนทั่วโลกยังงี้ คุณเองยังจะเดินทางเข้ามา หาเรื่องร้อนใจใส่ตัวทำไมครับ)
จากใจ เพื่อนถึงเพื่อนร่วมชะตากรรม
เม่าคัทลอส
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่