สวัสดีทุกๆ ท่านค่ะ
หวังว่าจะมีคนจำได้ที่เคยเข้ามาตั้งกระทู้ถามเรื่องการเป็นเลขานายญี่ปุ่นค่ะ
หลังจากเวลาล่วงเลยผ่านไป ก็ได้บทสรุปออกมาว่า
ดิฉันมาช่วยงานเป็นเลขาและล่ามของนายญี่ปุ่นที่บริษัทที่เพิ่งเปิดค่ะ
(บริษัทที่ตอนแรกบอกว่า ไม่ต้องใช้ล่ามที่กรุงเทพนั่นแหล่ะค่ะ)
จริงๆ แล้ว บริษัทเพิ่งเปิดอย่างเป็นทางการได้ไม่นาน
แต่รู้สึกอดรนทนไม่ไหว อย่างจะมาบ่นๆ ให้ฟังกันซะก่อน
เรื่องที่จะเล่าให้ฟังนั้ง อาจไม่ใช่เรื่องแปลกของการเป็นเลขา
แต่สำหรับเรานั้นถือว่าแปลกค่ะ เพราะยังไม่เคยทำงานสายนี้มาก่อน
ขอย้ำว่าบางเรื่องที่เจอนั้น น้องๆ หรือเพื่อนๆ พี่ๆ คนไหนที่ทำงานในสายงานเดียวกัน
อาจจะเจอไม่เหมือนกับเรานะคะ มันขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมการทำงาน และเนื้องานในแต่ละองค์กรค่ะ
มาค่ะ มาเริ่มกัน ว่าวันๆ เลขาและล่ามญี่ปุ่นอย่างอิฉันนั้นทำอะไรบ้าง
1. "เอกสารรอเซ็น" ด้วยความที่เจ้านายเป็นญี่ปุ่น และเอกสารเป็นภาษาไทย ก็ไม่พ้นเลขาที่ต้องนั่งอ่านและทำความเข้าใจ
เพื่อที่จะเอาไปอธิบายให้นายอย่างถูกต้อง ไม่ผิดพลาด
แต่บางคนที่เอาเอกสารมาให้ ก็บอกว่าจะรอเอา แล้วก็ยืนกดดัน
คือพี่คะ นายน่ะว่างเซ็น แต่หนูน่ะไม่ว่างอ่านและแปล ถ้าพี่อธิบายเองได้ พี่อธิบายเองเลยค่ะ หนูโอเค
หรือบางคนก็น่ารัก เอาเอกสารมาวางไว้ ไม่เขียนอธิบายอะไรทั้งสิ้น ไม่เขียนด้วยว่าใครเอามาวาง
เลขาก็นั่งงมไปนี่มันเอกสารอะไร แล้วสงสัยตรงไหนต้องไปถามใคร สรุปได้แต่นั่งบ่นให้นายฟัง
เอกสารอะไรไม่รู้ เอามาให้เซ็น ไม่อธิบายซักคำ เมโมจดบอกกันหน่อยก็ไม่มี
นายก็ได้แต่ยิ้มเป็นกำลังใจ พร้อมช่วยบ่นตามน้ำ
2. เรื่องยุบยิบในบริษัท ด้วยความที่บริษัทใหม่มาก อุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ก็ยังมีไม่พร้อม
เครื่องปรินท์ไม่มี ก็วิ่งมาหาเลขา เครื่องแสกนพังก็วิ่งมาหาเลขา เลขาก็มัวแต่จัดการให้คนอื่น
จนลืมดูเจ้านายตัวเอง ที่ตู้จะเก็บเอกสารยังไม่มี เจ้านายก็ดี้ดี ไม่หือไม่อือ เอาเอกสารวางไว้บนพื้นแบบเหงาๆ
วันๆ ไม่ต้องทำอะไร รับแต่เรื่องพวกนี้ก็หมดพลังงานแล้ว
3. ที่อยู่นายทั้งไทย ทั้งญี่ปุ่น หน้าพาสปอร์ต หน้าบุ๊คแบงค์ รหัสเอทีเอ็ม รหัสเข้าคอม รหัสอนุมัติเงิน
แพคเกจโทรศัพท์ รหัสอีเมล์ ต้องจำให้ได้ ห้ามจดแล้ววางเรี่ยราด โถๆ แค่รหัสอีเมล์ตัวเองดิฉันยังจำไม่ได้เลย
นี่ต้องมาจำของนายด้วย รหัสอิฉันเอาไว้ก่อนแล้วกัน จำของนายให้ได้ก่อนก็พอ
4. นัดประชุม บางอันนายเข้าได้ บางอันนายเข้าไม่ได้ นายก็ส่งอิฉันเข้าไปแทน
แล้วต้องมาเล่าให้นายฟัง พอกลับมาที่โต๊ะ จดหมายรักแปะเต็มโต๊ะ โทรกลับคนนั้น โทรหาคนนี้
เอกสารที่ฝากไว้ทำไมยังไม่เซ็น พรุ่งนี้ขอนัดประชุมนายให้ด้วย กาแฟนายหมดแล้ว บลาๆ
5. ต้องสวยตลอดเวลา บางทีวิ่งขึ้นวิ่งลง อายไลเนอร์มันก็ไหล หน้าก็มัน ไม่มีเวลาแม้แต่จะส่องกระจก
ดูสภาพหนังหนาและทรงผมตัวเอง ตกเย็นพี่ที่นั่งใกล้ๆ ถาม หนูไหวมั้ยลูก เข้าห้องน้ำหน่อยมั้ย
อิฉันเลยเดินลอยๆ ไปเข้าห้องน้ำ สิ่งแรกที่เห็นในกระจก นั่นมันผีที่ไหน อายไลเนอร์นี่เลอะจนจะถึงคิ้ว
ปากนี่ซีดยังกับศพ หัวเหมือนไปมุดพุ่มไม้ที่ไหนมา แล้วเจ้านายก็นั่งอยู่กับเราโดยไม่บอกกันสักคำ
6. มีอะไรก็โทรมาหาเลขา ณ เวลา 4 ทุ่มที่อิฉันกำลังจะล้มตัวลงนอน น้องคะเอกสารที่ให้นายเซ็นเมื่อตอนเย็น
ได้มั้ยคะ - -* พี่คะนี่มัน 4 ทุ่มนะ พี่โทรมาถามหนูตอนนี้จริงๆ อ่ะเหรอ วางจากคนนี้ไป คนนั้นโทรมาอีก
ไม่ทราบว่าโอนเงินมัดจำค่าจัดงานเลี้ยงผู้ถือหุ้นรึยังครับ ตรูจะรู้มั้ย ตรูไม่ใช่บัญชี!! หึ่ย!! ได้แต่คิด ปากก็ตอบไปว่า
เดี๋ยวพรุ่งนี้เข็คให้นะคะ
7. เป็นกำแพงกั้นระหว่างเธอและนาย บางทีนายมีเรื่องอยากคุยกับคุณก ไอเราก็โทรหาลูกน้องคุณก ซะดิบดี
นัดวัน เวลา เรียบร้อย ถึงเวลาคุณก โทรมาหาเรา "ไม่ต้องให้ญี่ปุ่นมาคุยกับพี่หรอก พี่ไม่คุย ก็บอกแล้วว่ามันเป็นแบบนี้ๆ
หนูไม่เข้าใจหรอ" เลขาก็ได้แต่กรอกตามองบน ทำเสียงหวาน
"หนูเข้าใจค่ะพี่ แต่ก็อย่างที่หนูบอกว่านายบอกว่าตอนนั้นไม่ได้คุยกันแบบนี้"
คุณก "ก็ไปอธิบายให้ญี่ปุ่นเข้าใจแบบนี้สิ" แล้วคุณท่านก็วางไป
ไอเราจะเถียงต่อก็ไม่ได้ เขาเป็นผู้ใหญ่ ได้แต่นั่งโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่คนเดียว
จนทนไม่ไหว โทรไปฟ้องกรรมการบริหารคนไทยอีกท่าน ให้มาช่วยเคียร์
8. ถ้าแยกร่างได้ อิฉันก็จะทำ
ในระหว่างที่เป็นตัวแทนนายเข้าประชุม ก็มีโทรศัพท์เรียกให้ออกมาตัดสินใจ
เรื่องการตั้งพาสเวิร์ดเครื่องถ่ายเอกสารของนาย (มันต้องรีบขนาดนั้นใช่มั้ยคะพี่)
แว็บออกมาจากห้องประชุม มาตั้งพาสเวิร์ด โทรศัพท์ที่โต๊ะก็ดัง จะปล่อยให้นายรับก็ใช่เรื่อง
วิ่งมารับโทรศัพท์ อีกมือจดพาสเวิร์ด น้องอีกคนวิ่งมาหา พี่คะมีสายรอคุยต่อนะ
น้ำตาจะไหล อยากจะมีซัก 10 ร่าง
9. ถามอะไรต้องตอบได้
บางทีนายก็จะถามขึ้นมาลอยๆ ว่าได้ดูรีพอร์ตยอดขายเมื่อวานรึยัง ตรงนี้คืออะไรไม่เข้าใจ
อีเมล์ที่คุณข แผนกการเงินส่งมาคืออะไร อ่านแล้วงง
คนที่นั่งอยู่ตรงโน้นเป็นใคร เขามาทำอะไร
เอกสารนี่เซ็นเสร็จแล้วไปให้ใคร
ตู้ ATM ธนาคารกรุงเทพอยู่ตรงไหน
คนนี้วันๆ เขาทำอะไรบ้าง แล้วทำงานเป็นยังไง
เงินที่เขามาขอเบิกล่วงหน้า มันเยอะไปรึเปล่า ไม่เซ็นได้มั้ย
และอีกมากมาย ซึ่งเราต้องตอบได้ ถ้าตอบไม่ได้ในทันที
ต้องไปหาคำตอบ แล้วมาตอบนายให้ได้
และนี่คือสิ่งที่อิฉันเจอคร่าวๆ ตั้งแต่เปิดบริษัทมา
ถึงแม้งานจะหนักขนาดไหน แต่เราก็แฮปปี้ค่ะ เพราะได้เจ้านายดีมาก
เวลาเห็นเลขาหน้าเครียดๆ นายก็เอาแต่ขอโทษ ที่ช่วยอะไรไม่ได้
กลับถึงบ้านส่งไลน์มาขอบคุณ ที่ช่วยทำงาน ช่วยดูแล
และเตือนว่ามาทำงานด้วยนะ
(อันนี้สงสารก็สงสาร ตลกก็ตลก เขาคงเห็นเราเครียดจริงๆ เลยกลัวลาออก)
ทุกวันนี้กาแฟเอาไม่อยู่ ต้องเพิ่งลิโพแล้วค่ะ
แต่ก็จะสู้ต่อไป
นี่คือสิ่งที่จขกทได้พบเจอมา ในการเริ่มทำงานเป็นเลขาและล่าม
รายละเอียดงานอาจต่างกันไปที่บริษัท และเจ้านายนะคะ
ถือว่ามาแชร์ให้ฟังแล้วกันค่ะ ใครมีอะไรแปลกๆ อีกก็เอามาแชร์ได้นะคะ
เลขานายญี่ปุ่น เมื่ออิฉันต้องมาเป็นทุกอย่างของนาย
หวังว่าจะมีคนจำได้ที่เคยเข้ามาตั้งกระทู้ถามเรื่องการเป็นเลขานายญี่ปุ่นค่ะ
หลังจากเวลาล่วงเลยผ่านไป ก็ได้บทสรุปออกมาว่า
ดิฉันมาช่วยงานเป็นเลขาและล่ามของนายญี่ปุ่นที่บริษัทที่เพิ่งเปิดค่ะ
(บริษัทที่ตอนแรกบอกว่า ไม่ต้องใช้ล่ามที่กรุงเทพนั่นแหล่ะค่ะ)
จริงๆ แล้ว บริษัทเพิ่งเปิดอย่างเป็นทางการได้ไม่นาน
แต่รู้สึกอดรนทนไม่ไหว อย่างจะมาบ่นๆ ให้ฟังกันซะก่อน
เรื่องที่จะเล่าให้ฟังนั้ง อาจไม่ใช่เรื่องแปลกของการเป็นเลขา
แต่สำหรับเรานั้นถือว่าแปลกค่ะ เพราะยังไม่เคยทำงานสายนี้มาก่อน
ขอย้ำว่าบางเรื่องที่เจอนั้น น้องๆ หรือเพื่อนๆ พี่ๆ คนไหนที่ทำงานในสายงานเดียวกัน
อาจจะเจอไม่เหมือนกับเรานะคะ มันขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมการทำงาน และเนื้องานในแต่ละองค์กรค่ะ
มาค่ะ มาเริ่มกัน ว่าวันๆ เลขาและล่ามญี่ปุ่นอย่างอิฉันนั้นทำอะไรบ้าง
1. "เอกสารรอเซ็น" ด้วยความที่เจ้านายเป็นญี่ปุ่น และเอกสารเป็นภาษาไทย ก็ไม่พ้นเลขาที่ต้องนั่งอ่านและทำความเข้าใจ
เพื่อที่จะเอาไปอธิบายให้นายอย่างถูกต้อง ไม่ผิดพลาด
แต่บางคนที่เอาเอกสารมาให้ ก็บอกว่าจะรอเอา แล้วก็ยืนกดดัน
คือพี่คะ นายน่ะว่างเซ็น แต่หนูน่ะไม่ว่างอ่านและแปล ถ้าพี่อธิบายเองได้ พี่อธิบายเองเลยค่ะ หนูโอเค
หรือบางคนก็น่ารัก เอาเอกสารมาวางไว้ ไม่เขียนอธิบายอะไรทั้งสิ้น ไม่เขียนด้วยว่าใครเอามาวาง
เลขาก็นั่งงมไปนี่มันเอกสารอะไร แล้วสงสัยตรงไหนต้องไปถามใคร สรุปได้แต่นั่งบ่นให้นายฟัง
เอกสารอะไรไม่รู้ เอามาให้เซ็น ไม่อธิบายซักคำ เมโมจดบอกกันหน่อยก็ไม่มี
นายก็ได้แต่ยิ้มเป็นกำลังใจ พร้อมช่วยบ่นตามน้ำ
2. เรื่องยุบยิบในบริษัท ด้วยความที่บริษัทใหม่มาก อุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ก็ยังมีไม่พร้อม
เครื่องปรินท์ไม่มี ก็วิ่งมาหาเลขา เครื่องแสกนพังก็วิ่งมาหาเลขา เลขาก็มัวแต่จัดการให้คนอื่น
จนลืมดูเจ้านายตัวเอง ที่ตู้จะเก็บเอกสารยังไม่มี เจ้านายก็ดี้ดี ไม่หือไม่อือ เอาเอกสารวางไว้บนพื้นแบบเหงาๆ
วันๆ ไม่ต้องทำอะไร รับแต่เรื่องพวกนี้ก็หมดพลังงานแล้ว
3. ที่อยู่นายทั้งไทย ทั้งญี่ปุ่น หน้าพาสปอร์ต หน้าบุ๊คแบงค์ รหัสเอทีเอ็ม รหัสเข้าคอม รหัสอนุมัติเงิน
แพคเกจโทรศัพท์ รหัสอีเมล์ ต้องจำให้ได้ ห้ามจดแล้ววางเรี่ยราด โถๆ แค่รหัสอีเมล์ตัวเองดิฉันยังจำไม่ได้เลย
นี่ต้องมาจำของนายด้วย รหัสอิฉันเอาไว้ก่อนแล้วกัน จำของนายให้ได้ก่อนก็พอ
4. นัดประชุม บางอันนายเข้าได้ บางอันนายเข้าไม่ได้ นายก็ส่งอิฉันเข้าไปแทน
แล้วต้องมาเล่าให้นายฟัง พอกลับมาที่โต๊ะ จดหมายรักแปะเต็มโต๊ะ โทรกลับคนนั้น โทรหาคนนี้
เอกสารที่ฝากไว้ทำไมยังไม่เซ็น พรุ่งนี้ขอนัดประชุมนายให้ด้วย กาแฟนายหมดแล้ว บลาๆ
5. ต้องสวยตลอดเวลา บางทีวิ่งขึ้นวิ่งลง อายไลเนอร์มันก็ไหล หน้าก็มัน ไม่มีเวลาแม้แต่จะส่องกระจก
ดูสภาพหนังหนาและทรงผมตัวเอง ตกเย็นพี่ที่นั่งใกล้ๆ ถาม หนูไหวมั้ยลูก เข้าห้องน้ำหน่อยมั้ย
อิฉันเลยเดินลอยๆ ไปเข้าห้องน้ำ สิ่งแรกที่เห็นในกระจก นั่นมันผีที่ไหน อายไลเนอร์นี่เลอะจนจะถึงคิ้ว
ปากนี่ซีดยังกับศพ หัวเหมือนไปมุดพุ่มไม้ที่ไหนมา แล้วเจ้านายก็นั่งอยู่กับเราโดยไม่บอกกันสักคำ
6. มีอะไรก็โทรมาหาเลขา ณ เวลา 4 ทุ่มที่อิฉันกำลังจะล้มตัวลงนอน น้องคะเอกสารที่ให้นายเซ็นเมื่อตอนเย็น
ได้มั้ยคะ - -* พี่คะนี่มัน 4 ทุ่มนะ พี่โทรมาถามหนูตอนนี้จริงๆ อ่ะเหรอ วางจากคนนี้ไป คนนั้นโทรมาอีก
ไม่ทราบว่าโอนเงินมัดจำค่าจัดงานเลี้ยงผู้ถือหุ้นรึยังครับ ตรูจะรู้มั้ย ตรูไม่ใช่บัญชี!! หึ่ย!! ได้แต่คิด ปากก็ตอบไปว่า
เดี๋ยวพรุ่งนี้เข็คให้นะคะ
7. เป็นกำแพงกั้นระหว่างเธอและนาย บางทีนายมีเรื่องอยากคุยกับคุณก ไอเราก็โทรหาลูกน้องคุณก ซะดิบดี
นัดวัน เวลา เรียบร้อย ถึงเวลาคุณก โทรมาหาเรา "ไม่ต้องให้ญี่ปุ่นมาคุยกับพี่หรอก พี่ไม่คุย ก็บอกแล้วว่ามันเป็นแบบนี้ๆ
หนูไม่เข้าใจหรอ" เลขาก็ได้แต่กรอกตามองบน ทำเสียงหวาน
"หนูเข้าใจค่ะพี่ แต่ก็อย่างที่หนูบอกว่านายบอกว่าตอนนั้นไม่ได้คุยกันแบบนี้"
คุณก "ก็ไปอธิบายให้ญี่ปุ่นเข้าใจแบบนี้สิ" แล้วคุณท่านก็วางไป
ไอเราจะเถียงต่อก็ไม่ได้ เขาเป็นผู้ใหญ่ ได้แต่นั่งโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่คนเดียว
จนทนไม่ไหว โทรไปฟ้องกรรมการบริหารคนไทยอีกท่าน ให้มาช่วยเคียร์
8. ถ้าแยกร่างได้ อิฉันก็จะทำ
ในระหว่างที่เป็นตัวแทนนายเข้าประชุม ก็มีโทรศัพท์เรียกให้ออกมาตัดสินใจ
เรื่องการตั้งพาสเวิร์ดเครื่องถ่ายเอกสารของนาย (มันต้องรีบขนาดนั้นใช่มั้ยคะพี่)
แว็บออกมาจากห้องประชุม มาตั้งพาสเวิร์ด โทรศัพท์ที่โต๊ะก็ดัง จะปล่อยให้นายรับก็ใช่เรื่อง
วิ่งมารับโทรศัพท์ อีกมือจดพาสเวิร์ด น้องอีกคนวิ่งมาหา พี่คะมีสายรอคุยต่อนะ
น้ำตาจะไหล อยากจะมีซัก 10 ร่าง
9. ถามอะไรต้องตอบได้
บางทีนายก็จะถามขึ้นมาลอยๆ ว่าได้ดูรีพอร์ตยอดขายเมื่อวานรึยัง ตรงนี้คืออะไรไม่เข้าใจ
อีเมล์ที่คุณข แผนกการเงินส่งมาคืออะไร อ่านแล้วงง
คนที่นั่งอยู่ตรงโน้นเป็นใคร เขามาทำอะไร
เอกสารนี่เซ็นเสร็จแล้วไปให้ใคร
ตู้ ATM ธนาคารกรุงเทพอยู่ตรงไหน
คนนี้วันๆ เขาทำอะไรบ้าง แล้วทำงานเป็นยังไง
เงินที่เขามาขอเบิกล่วงหน้า มันเยอะไปรึเปล่า ไม่เซ็นได้มั้ย
และอีกมากมาย ซึ่งเราต้องตอบได้ ถ้าตอบไม่ได้ในทันที
ต้องไปหาคำตอบ แล้วมาตอบนายให้ได้
และนี่คือสิ่งที่อิฉันเจอคร่าวๆ ตั้งแต่เปิดบริษัทมา
ถึงแม้งานจะหนักขนาดไหน แต่เราก็แฮปปี้ค่ะ เพราะได้เจ้านายดีมาก
เวลาเห็นเลขาหน้าเครียดๆ นายก็เอาแต่ขอโทษ ที่ช่วยอะไรไม่ได้
กลับถึงบ้านส่งไลน์มาขอบคุณ ที่ช่วยทำงาน ช่วยดูแล
และเตือนว่ามาทำงานด้วยนะ
(อันนี้สงสารก็สงสาร ตลกก็ตลก เขาคงเห็นเราเครียดจริงๆ เลยกลัวลาออก)
ทุกวันนี้กาแฟเอาไม่อยู่ ต้องเพิ่งลิโพแล้วค่ะ
แต่ก็จะสู้ต่อไป
นี่คือสิ่งที่จขกทได้พบเจอมา ในการเริ่มทำงานเป็นเลขาและล่าม
รายละเอียดงานอาจต่างกันไปที่บริษัท และเจ้านายนะคะ
ถือว่ามาแชร์ให้ฟังแล้วกันค่ะ ใครมีอะไรแปลกๆ อีกก็เอามาแชร์ได้นะคะ