วันนี้เป็นวันดีเหมือนเคย ชายหนุ่มผู้เดินทางพเนจรไปทั่วแผ่นดินยืนสงบนิ่งหน้าประตูมหาราชวังของเพียรซ์ คนต่างถิ่นอาจรู้จักเขาในชื่อไบรอัน บรู๊ค นักเวทมนตร์ที่ชอบเดินทางไปเรื่อยๆ ทว่าในกำแพงนั้นเขาถูกเรียกด้วยชื่อสกุลอื่นที่ต่างกัน แม้จะไม่มีการเปลี่ยนรูปร่างจากเดิม ทั้งดวงตาสีมรกตและเส้นผมสีเหลืองซีด
“ท่านทหารยาม วันนี้ลาควีล่าอยู่ในราชวังหรือไม่” ไบรอันยิ้มให้ทหารยามสองนายที่ยืนคุมประตูเข้ามหาราชวัง
ทหารนายหนึ่งเตรียมแผดเสียงคำรามเนื่องจากอีกฝ่ายพูดราวกับเจ้าหญิงองค์หนึ่งของจักรวรรดิเป็นเพื่อนเล่น แต่อีกคนบอกให้เพื่อนสงบลงก่อนเพราะจำแววตาและเส้นผมที่มัดรวบอย่างลวกๆได้
“ฝ่าบาท วันนี้พวกท่านทั้งสามองค์ไม่ได้ออกไปนอกเขตมหาราชวังเลย ข้าบาทรับรองได้” ทหารยามทำให้ชายหนุ่มสบถอย่างเสียดายที่อดเล่นสนุกกับทหาร “ข้าบาทจำหน้าฝ่าบาทได้อย่างดี ไม่หลงกลท่านเหมือนคนอื่นๆหรอก”
“ขอบคุณมาก” ชายหนุ่มตอบอย่างร่าเริง “คงไม่ว่าอะไรใช่ไหมหากข้าจะใช้มนตร์เคลื่อนย้ายเข้าไปข้างใน”
“องค์จักรพรรดิเห็นว่าเป็นเรื่องสนุกจึงไม่มีคำสั่งสำหรับท่านโดยตรง แต่สำหรับท่านดัชเชลแล้ว ท่านว่าฝ่าบาทควรถูกสั่งห้ามใช้มนตร์เคลื่อนย้ายเข้าไปเด็ดขาด”
“ทำอย่างกับข้าเคยฟังเขาอย่างนั้น”
กรงแสงสีเหลืองทองล้อมรอบตัวชายหนุ่ม มันคือมนตร์เคลื่อนย้าย
“เดี๋ยวก่อนฝ่าบาท! ครั้งนี้ท่านโรเซลลิน่าวางเขตอาคมไว้...”
ไม่ทันฟังนายทหารพูดจบเวทเคลื่อนย้ายก็ทำงานทันที ส่งชายหนุ่มไปยังระเบียงห้องที่เขาชอบมาเยี่ยมเสมอหลังการเดินทางท่องเที่ยวแทบทุกครั้ง ห้องของเจ้าหญิงลาควีล่า มาเฮราส สตรีที่งดงามที่สุดในจักรวรรดิ
“ไบรอัน!”
ดวงตาสีอำพันของพระนางฉายแววดีใจที่เห็นมนตร์เคลื่อนย้ายของคนรัก ว่าที่พระคู่หมั้นของนาง ประตูระเบียงเปิดออกให้ทั้งคู่สวมกอดกันอย่างแนบแน่น หญิงสาวจูงมือชายหนุ่มเข้าไปคุยต่อในห้องตามประสาคู่รัก
แล้วประตูห้องก็เปิดผางออก! ท่านหญิงเอเลน่าเสนาธิการของจักรพรรดิยืนตระหง่าน ดวงตาสีน้ำผึ้งเรืองแสงแห่งความกราดเกรี้ยว ในมือถือมีดสั้นที่มีเปลวเพลิงลุกท่วมใบมีด!
“ไบรอัน เจ้าทำให้เดวิดสันของข้ามีตัวเปรียบเทียบ!” ท่านหญิงเอเลน่าคำรามกลบทุกเสียงในตึกพักเชื้อพระวงศ์จนหมด “ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า ข้าคงได้แต่งงานกับเขาไปแล้ว”
“ความผิดข้าหรือนั่น” ไบรอันดึงร่างงามในมือไปอยู่ข้างหลังด้วยความที่รู้นิสัยพี่สาวของนางดี “ไม่ใช่แค่ข้าหรอกนะ ที่เห็นว่าเขาไม่คู่ควรกับเจ้าน่ะ เจ้าดาริอุสก็...”
“อย่ามาเถียง!” ท่านหญิงเอเลน่าตวาดปล่อยมีดสั้นออกไปปักขอบประตูด้านหลังอย่างแม่นยำ
“เดี๋ยวโดนไลล่า!” ไบรอันเอ็ด “แล้วรู้ได้อย่างไรว่าข้ามา”
“ไม่รู้สินะว่าโรเซลลิน่าช่วยวางเขตอาคมเตือนไว้หากเจ้าใช้มนตร์เข้ามา ส่วนที่ข้าเล็งไลล่า เพราะรู้ว่าเจ้าจะเข้ามาบังอย่างไรล่ะ!”
มีดสั้นอาบไฟถูกระดมขว้างมาอีก คราวนี้เล็งที่ลาควีล่าอย่างจงใจ ไบรอันจึงต้องหลบฉากออกไปทางระเบียงห้องที่เข้ามา ลำพังไลล่านางดูแลตัวเองได้
“ไม่เจอกันนานนะไบรอัน” ไบรอันหันหลังขวับ ดาริอุสพี่ของหญิงสาวทั้งสองยืนยิ้มให้เขาอย่างเคย ผิดไปตรงที่ถือดาบวิเศษประจำตัวอยู่ในมือเท่านั้น ดาบเล่มนั้นสามารถดูดและปล่อยเวทมนตร์ต่างๆได้ มีชื่อว่าดาบจันทรา!
ด้วยความรู้สึกผิด ไบรอันก้าวถอยหลังจนชิดรั้วกั้นระเบียงห้อง
“ทำไมเจ้าจึงผิดนัดครั้งหลังสุดที่เราจะออกเดินทางกัน รู้หรือไม่ว่าพอข้าไปถึงก็เจอยายโรเซลลิน่ายืนรออยู่แล้ว สุดท้ายข้าต้องหมั้นกับนางอย่างช่วยไม่ได้”
“ข้ารู้ว่านั่นเป็นดาบประจำตัวเจ้าดาริอุส เพราะอย่างนั้นช่วยวางลงก่อนได้ไหม” ไบรอันขอประนีประนอม ส่วนเอเลน่าก็ก้าวเข้ามาหาด้วยความโมโหที่ไม่ได้ดั่งใจ
“จนกว่าเจ้าจะมีข้ออ้างดีๆที่รับฟังได้” เจ้าชายดาริอุส มหาอุปราชแห่งเพียรซ์ยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม
“เจ้ารู้ใช่ไหมว่าข้าไม่เคยใช้เวทมนตร์ทันนางเลยสักครั้ง” ไบรอันหาทางหนี ดาริอุสพยักหน้าครั้งหนึ่ง
“จะบอกว่ามหาอุปราชแห่งแอสนาร์อย่างเจ้าถูกข่มขู่อย่างนั้นหรือ น่าเชื่อตายล่ะ”
“ก็ใช่น่ะสิ ข้าไม่รู้ว่านางสืบรู้จุดนัดพบของเราได้อย่างไร พอไปรอเจ้าก็เจอนางแล้ว...”
“แล้วเจ้าก็ขายข้า!” ดาริอุสกัดฟันพูด ดาบวิเศษเรืองแสงสีเหลืองเรื่อๆเหมือนแสงจันทร์
ในพริบตาก่อนดาบจันทราจะฟาดฟันลงมา ไบรอันนั่งบนขอบระเบียงแล้วรีบโจนลงไปเบื้องล่างที่เป็นทางเดินทันทีเพื่อหลบดาบของเพื่อนรัก จึงเพิ่งเห็นว่ามีคนเดินอยู่ข้างล่าง แถมยังเป็นพวกพ่อกับแม่ของทั้งสามคนอีกต่างหาก!
ไบรอันคิดว่าคงแย่แน่แล้ว แต่มีมือข้างหนึ่งเอื้อมมาจับเขาลงไปกดกับพื้นอย่างรุนแรง เป็นชายแก่กว่าเขาราวห้าปี ผมสีทองดวงตาสีพระจันทร์เลือด เขาไม่เคยเห็นคนที่มีดวงตาสีนี้มาก่อน แถมยังแต่งตัวฉูดฉาดอีกต่างหาก
“ไม่ใช่คนร้ายหรอกเวเบอร์ ถ้าช่วยส่งกลับขึ้นมาบนนี้จะเป็นพระคุณมากเลย” ดาริอุสร้องบอกอย่างคึกคะนอง
“ปล่อยเขาเวเบอร์” ดัชเชล มาเฮราสพ่อของสามพี่น้องบอกชายผมทองให้ปล่อยไบรอันเป็นอิสระ “จะต้องให้ข้าเตือนเจ้าอีกกี่ครั้งกัน ไบรอัน แบล็คสโตน...หากจะมาหาลูกสาวข้าก็เข้ามาทางประตูแบบคนดีๆเขาทำกัน ไม่ใช่เอะอะก็มาปีนระเบียงห้องแบบนี้ เป็นถึงมหาอุปราชแห่งแอสนาร์แท้ๆ”
“นี่ใครหรือท่านดัชเชล” ไบรอันทำความเคารพพ่อและพวกแม่ของสามพี่น้องอย่างรวดเร็วเป็นที่น่าประทับใจ
“เขาชื่อเวเบอร์ เฟียร์เลส เป็นทูตจากต่างมิติ” ดัชเชลแนะนำตัวคนที่หวังจะให้เป็นลูกเขยตนมากกว่าให้ไบรอันรู้จัก “มาติดต่ออยากให้เปิดเผยเรื่องช่องเดินทางระหว่างมิติ จะได้ไปมาหาสู่กันได้เสมือนบ้านพี่เมืองน้อง ระดับเจ้าคงรู้นะว่าเรื่องประตูมิติทางเหนือไม่ใช่เรื่องกุขึ้น แต่เป็นความจริง”
“เคยเดินทางผ่านหลายครั้งแต่ไม่กล้าเข้าไป” ไบรอันตอบแล้วแนะนำตัวทันที “ข้าคือไบรอัน แบล็คสโตน ว่าที่คู่หมั้นของลาควีล่า”
“แล้วก็เป็นเด็กน่าสงสารถูกพ่อแม่ทำร้ายจิตใจเป็นประจำด้วย” ดาริอุสเสริมลงมาจากชั้นสาม
“อย่าเอาเรื่องจริงมาพูดสิ” ไบรอันประท้วงอย่างหัวเสียที่ถูกแฉเรื่องส่วนตัว
“ข้าชื่อเวเบอร์ ท่านใช่ไหมที่ลาควีล่าพูดถึงบ่อยๆว่าเป็นจอมเวทไฟแห่งทิศเหนือ ข้าขอให้นางมาทำงานด้วย นางสามารถเรียกสัตว์ปิศาจได้เราจะใช้พวกมันส่งข่าวและอารักขาคณะเดินทางจากอีกมิติ และคงต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ใช้เวทมนตร์อย่างท่านด้วย ได้ยินว่าเดินทางมาทั่วทวีปใหญ่แล้ว”
“ยินดี” ไบรอันคิดว่าคงเป็นเพื่อนกับชายที่ชื่อเวเบอร์ได้ไม่ยากนัก
“ไปเที่ยวคราวนี้ไม่มีดาริอุสไปด้วย เจ้าคงเหงาน่าดูสินะไบรอัน” ท่านหญิงคาริสซาแม่ของดาริอุสพูดขึ้น พระนางคืออดีตเสนาธิการของจักรวรรดิ บางทีพระนางคงสืบรู้สถานที่นัดพบของพวกเขาแล้วนำไปบอกโรเซลลิน่า จนดาริอุสต้องตกลงหมั้นตามสัญญา
“ข้าไม่คิดว่าจะเจอพวกท่านเร็วแบบนี้ ของฝากอยู่ที่โรงแรมในเมืองข้าจะไปนำมาให้”
“ขึ้นมาคุยกับข้าก่อน!” ดาริอุสร้องบอกจากข้างบน “ขอข้าคุยกับเจ้าเด็กมีปัญหานั่นก่อนท่านแม่คาริสซา พวกท่านกำลังพาเวเบอร์ชมมหาราชวังอยู่นี่”
“คราวนี้ข้าจะปล่อยไปก่อนไบรอัน” ดัชเชลพูดอย่างเก็บอารมณ์ “คราวหน้าขอให้มาในฐานะมหาอุปราช และเข้ามาทางประตูด้วย! ไปกันต่อเวเบอร์ ข้ากำลังพูดถึงไหนแล้ว...”
แล้วดัชเชลกับภรรยาก็พาเวเบอร์เดินชมมหาราชวังต่อไป ไบรอันปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าแล้วบอกดาริอุสว่าจะขึ้นไป ก่อนก้าวเดินไปมุมตึกเพื่อขึ้นไปทางประตูดีๆ ครอบครัวของดาริอุสค่อนข้างซับซ้อน พ่อของดาริอุสเป็นราชบุตรเขยที่แต่งเข้ามาด้วยเหตุผลทางการเมืองที่ดำมืด และด้วยเหตุผลทางการเมืองเช่นกัน ดัชเชลจึงถูกกดดันให้รับอนุจนมีลาควีล่าเกิดขึ้นมา คู่แฝดดาริอุสและเอเลน่าจึงเป็นพี่คนละแม่ของลาควีล่า
ไบรอันสัมผัสผลึกเวทมนตร์ข้างทางแล้วบอกว่าจะไปชั้นใด มันคือผลึกที่แฝงอาคมเคลื่อนย้ายเอาไว้เพื่อใช้เดินทางในตัวตึกที่กว้างใหญ่ ไม่ถึงอึดใจก็ไปหยุดอยู่หน้าห้องของดาริอุสแล้ว เขาเคาะประตูดังๆเป็นสัญญาณแล้วเปิดประตูเข้าไปทันที
“เพราะเจ้าแท้ๆข้าจึงแพ้เดิมพัน ต้องหมั้นกับยายนั่นแล้วต้องนั่งทำงานเป็นหน้าเป็นตา ออกไปเที่ยวบ่อยๆอย่างเคยไม่ได้แล้ว” ดาริอุสบ่นมาจากเก้าอี้รับแขกตัวหนึ่งมุมห้อง
“ข้าขอโทษ จึงกลับมาเล่าเรื่องการเดินทางให้ฟังอย่างไรล่ะ” ไบรอันนั่งแหมะบนเก้าอี้ยาวอย่างเป็นกันเอง
เขาทั้งคู่พบกันเมื่อหลายปีก่อนตอนเรียนอยู่ที่ซีเนีย เป็นข้อตกลงของจักรวรรดิทั้งสองที่เมืองรายรอบต้องส่งเจ้าชายเจ้าหญิงไปเรียนที่เมืองหลวง และเจ้าชายของเมืองหลวงต้องไปเรียนกับอีกจักรวรรดิหนึ่งเพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการติดต่อสื่อสาร
การพบกันครั้งแรกระหว่างไบรอันกับดาริอุสเป็นที่พูดถึงเสมอในการสนทนาของพวกเขา ตอนนั้นดาริอุสหนีเรียนไปนอนเล่นใต้ต้นไม้ที่ไบรอันแอบขึ้นไปนั่งอ่านหนังสือ เมื่อรู้ตัวว่ามีคนอยู่ข้างบนหนังสือก็ร่วงลงมาใส่หัวเสียแล้ว สองคนจึงรู้จักและเป็นเพื่อนกันนับตั้งแต่นั้นมา ทั้งคู่ออกท่องเที่ยวไปทวีปต่างๆด้วยกันโดยไม่สนใจฐานะและหน้าที่การงานของพวกตน
“แล้วงานหมั้นของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ได้ข่าวมาว่าจัดเสียใหญ่โตเลยนี่นา” ไบรอันรินชากินเองโดยไม่ต้องรอคำเชิญ ดาริอุสหรี่ตามองคู่สนทนา
“ทำเป็นพูดดี ทีแบบนี้ไม่ใช่พลังเปิดกาลเวลาของเจ้าดูบ้างล่ะ เห็นแอบดูน้องสาวข้าประจำว่าทำอะไรอยู่ตอนที่พวกเราเดินทางกัน” ดาริอุสถากถาง
พลังเปิดดูกาลเวลาเป็นพลังที่ไบรอันได้รับตั้งแต่เกิด เพราะน้องสาวฝาแฝดของเขาคือนางผู้หยั่งรู้ในยุคนี้ เป็นพลังแสนสะดวกที่ใช้ดูได้ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต นอกเสียจากกว่าเนอร์วาน่าน้องสาวเขาไม่ยอมให้เห็นเท่านั้น
“พูดถึงพิธีการ ตกลงเจ้าจะเข้าพิธีหมั้นกับน้องข้าเมื่อไร พ่อข้าบ่นอยากเห็นงานแต่งลูกสาวเต็มทีแล้ว”
“จริงสิ น้องสาวเจ้าเกือบฆ่าข้าแล้วนะเมื่อกี้นี้ เล่นใช้ไลล่าเป็นตัวประกัน...”
“อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง” ดาริอุสขัด “ข้าไม่ยอมลงหลุมที่เรียกว่าการแต่งงานคนเดียวหรอกนะ ต้องลากเจ้าไปด้วยให้ได้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม”
“รอให้ข้าครบยี่สิบก่อน” ไบรอันตอบจากใจจริง “ข้าอยากให้...”
“อยากให้ไลล่าเห็นอะไรมากกว่านี้ใช่ไหม ข้าฟังจนเอียนแล้ว นางจะสิบแปดแล้วนะไบรอัน ถ้านางไม่ได้เป็นว่าที่คู่หมั้นเจ้าคงโดนจำหน่ายขายทางการเมืองไปนานแล้ว แล้วที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าจะไม่มีคนดีเลย แต่คนที่เหมาะกับนางคือเจ้า น่าจะรู้ตั้งนานแล้วนี่นา”
“ก็เจ้าหญิงที่มีดีแค่ความสวย ไม่เป็นแม่บ้านแม่เรือน ชอบการต่อสู้สารพัด นิสัยเอาแต่ใจเป็นเด็กไม่รู้จักโตแบบนั้นใครจะคบได้จริงจังกัน แค่อยากให้นางมีเวลาตัดสินใจมากกว่านี้ เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่...หัดเคาะประตูบ้างนะไลล่า!”
ไบรอันถอนใจดังเฮือกเมื่อลาควีล่าถลันเข้าประตูห้องมาโดยไม่มีการเคาะเรียกก่อนตามมารยาท
“ท่านโชคดีนะไบรอัน วันนี้ข้าหัดทำเค้ก เอามาให้ชิมด้วยละ” หญิงสาวชูจานใส่ขนมเค้กก้อนใหญ่เอาไว้
“ขนมใส่ยาพิษนั่นหรอ อย่ากินนะไบรอันนางหัดวางยาในขนม อีกไม่นานเจ้าคงต้องทดสอบอาหารก่อนกินเสียแล้ว นางมีแผนใส่ยาเสน่ห์ลงไปแล้วหลอกให้เจ้าแต่งงานด้วยแน่ๆ”
“ก็ข้าบอกแล้วว่านั่นคือรสชาติแฝง เป็นเครื่องปรุงที่ข้าใส่เพื่อเสริมรส” ลาควีล่าแหว ไบรอันรับมาวางไปตรงหน้า ดาริอุสเตือนเขาอีกครั้งด้วยแววตาว่าอย่ากินเลยจะดีกว่า
ไบรอันไม่ลังเลที่จะตัดส่วนหนึ่งมาชิมรส มันทั้งขมทั้งเปรี้ยวราวกับเป็นอาหารคาวมากกว่าของหวาน เขาจึงปฏิเสธที่จะพูดเรื่องรสชาติของขนมชิ้นนั้น แล้วเล่าให้ดาริอุสฟังว่าน้องสาวอีกคนแทบฆ่าเขาตายเสียแล้ว เพราะเขาถูกนำไปเปรียบเทียบกับคนรักของนางที่แทบไม่มีอะไรดีเลย
แล้วชีวิตอันสงบสุขของพวกเขาก็ดำเนินไปเรื่อยๆไม่หยุดยั้ง...
นักรบจันทรา ตอนพิเศษ เมื่อทุกอย่างสงบสุข
“ท่านทหารยาม วันนี้ลาควีล่าอยู่ในราชวังหรือไม่” ไบรอันยิ้มให้ทหารยามสองนายที่ยืนคุมประตูเข้ามหาราชวัง
ทหารนายหนึ่งเตรียมแผดเสียงคำรามเนื่องจากอีกฝ่ายพูดราวกับเจ้าหญิงองค์หนึ่งของจักรวรรดิเป็นเพื่อนเล่น แต่อีกคนบอกให้เพื่อนสงบลงก่อนเพราะจำแววตาและเส้นผมที่มัดรวบอย่างลวกๆได้
“ฝ่าบาท วันนี้พวกท่านทั้งสามองค์ไม่ได้ออกไปนอกเขตมหาราชวังเลย ข้าบาทรับรองได้” ทหารยามทำให้ชายหนุ่มสบถอย่างเสียดายที่อดเล่นสนุกกับทหาร “ข้าบาทจำหน้าฝ่าบาทได้อย่างดี ไม่หลงกลท่านเหมือนคนอื่นๆหรอก”
“ขอบคุณมาก” ชายหนุ่มตอบอย่างร่าเริง “คงไม่ว่าอะไรใช่ไหมหากข้าจะใช้มนตร์เคลื่อนย้ายเข้าไปข้างใน”
“องค์จักรพรรดิเห็นว่าเป็นเรื่องสนุกจึงไม่มีคำสั่งสำหรับท่านโดยตรง แต่สำหรับท่านดัชเชลแล้ว ท่านว่าฝ่าบาทควรถูกสั่งห้ามใช้มนตร์เคลื่อนย้ายเข้าไปเด็ดขาด”
“ทำอย่างกับข้าเคยฟังเขาอย่างนั้น”
กรงแสงสีเหลืองทองล้อมรอบตัวชายหนุ่ม มันคือมนตร์เคลื่อนย้าย
“เดี๋ยวก่อนฝ่าบาท! ครั้งนี้ท่านโรเซลลิน่าวางเขตอาคมไว้...”
ไม่ทันฟังนายทหารพูดจบเวทเคลื่อนย้ายก็ทำงานทันที ส่งชายหนุ่มไปยังระเบียงห้องที่เขาชอบมาเยี่ยมเสมอหลังการเดินทางท่องเที่ยวแทบทุกครั้ง ห้องของเจ้าหญิงลาควีล่า มาเฮราส สตรีที่งดงามที่สุดในจักรวรรดิ
“ไบรอัน!”
ดวงตาสีอำพันของพระนางฉายแววดีใจที่เห็นมนตร์เคลื่อนย้ายของคนรัก ว่าที่พระคู่หมั้นของนาง ประตูระเบียงเปิดออกให้ทั้งคู่สวมกอดกันอย่างแนบแน่น หญิงสาวจูงมือชายหนุ่มเข้าไปคุยต่อในห้องตามประสาคู่รัก
แล้วประตูห้องก็เปิดผางออก! ท่านหญิงเอเลน่าเสนาธิการของจักรพรรดิยืนตระหง่าน ดวงตาสีน้ำผึ้งเรืองแสงแห่งความกราดเกรี้ยว ในมือถือมีดสั้นที่มีเปลวเพลิงลุกท่วมใบมีด!
“ไบรอัน เจ้าทำให้เดวิดสันของข้ามีตัวเปรียบเทียบ!” ท่านหญิงเอเลน่าคำรามกลบทุกเสียงในตึกพักเชื้อพระวงศ์จนหมด “ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า ข้าคงได้แต่งงานกับเขาไปแล้ว”
“ความผิดข้าหรือนั่น” ไบรอันดึงร่างงามในมือไปอยู่ข้างหลังด้วยความที่รู้นิสัยพี่สาวของนางดี “ไม่ใช่แค่ข้าหรอกนะ ที่เห็นว่าเขาไม่คู่ควรกับเจ้าน่ะ เจ้าดาริอุสก็...”
“อย่ามาเถียง!” ท่านหญิงเอเลน่าตวาดปล่อยมีดสั้นออกไปปักขอบประตูด้านหลังอย่างแม่นยำ
“เดี๋ยวโดนไลล่า!” ไบรอันเอ็ด “แล้วรู้ได้อย่างไรว่าข้ามา”
“ไม่รู้สินะว่าโรเซลลิน่าช่วยวางเขตอาคมเตือนไว้หากเจ้าใช้มนตร์เข้ามา ส่วนที่ข้าเล็งไลล่า เพราะรู้ว่าเจ้าจะเข้ามาบังอย่างไรล่ะ!”
มีดสั้นอาบไฟถูกระดมขว้างมาอีก คราวนี้เล็งที่ลาควีล่าอย่างจงใจ ไบรอันจึงต้องหลบฉากออกไปทางระเบียงห้องที่เข้ามา ลำพังไลล่านางดูแลตัวเองได้
“ไม่เจอกันนานนะไบรอัน” ไบรอันหันหลังขวับ ดาริอุสพี่ของหญิงสาวทั้งสองยืนยิ้มให้เขาอย่างเคย ผิดไปตรงที่ถือดาบวิเศษประจำตัวอยู่ในมือเท่านั้น ดาบเล่มนั้นสามารถดูดและปล่อยเวทมนตร์ต่างๆได้ มีชื่อว่าดาบจันทรา!
ด้วยความรู้สึกผิด ไบรอันก้าวถอยหลังจนชิดรั้วกั้นระเบียงห้อง
“ทำไมเจ้าจึงผิดนัดครั้งหลังสุดที่เราจะออกเดินทางกัน รู้หรือไม่ว่าพอข้าไปถึงก็เจอยายโรเซลลิน่ายืนรออยู่แล้ว สุดท้ายข้าต้องหมั้นกับนางอย่างช่วยไม่ได้”
“ข้ารู้ว่านั่นเป็นดาบประจำตัวเจ้าดาริอุส เพราะอย่างนั้นช่วยวางลงก่อนได้ไหม” ไบรอันขอประนีประนอม ส่วนเอเลน่าก็ก้าวเข้ามาหาด้วยความโมโหที่ไม่ได้ดั่งใจ
“จนกว่าเจ้าจะมีข้ออ้างดีๆที่รับฟังได้” เจ้าชายดาริอุส มหาอุปราชแห่งเพียรซ์ยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม
“เจ้ารู้ใช่ไหมว่าข้าไม่เคยใช้เวทมนตร์ทันนางเลยสักครั้ง” ไบรอันหาทางหนี ดาริอุสพยักหน้าครั้งหนึ่ง
“จะบอกว่ามหาอุปราชแห่งแอสนาร์อย่างเจ้าถูกข่มขู่อย่างนั้นหรือ น่าเชื่อตายล่ะ”
“ก็ใช่น่ะสิ ข้าไม่รู้ว่านางสืบรู้จุดนัดพบของเราได้อย่างไร พอไปรอเจ้าก็เจอนางแล้ว...”
“แล้วเจ้าก็ขายข้า!” ดาริอุสกัดฟันพูด ดาบวิเศษเรืองแสงสีเหลืองเรื่อๆเหมือนแสงจันทร์
ในพริบตาก่อนดาบจันทราจะฟาดฟันลงมา ไบรอันนั่งบนขอบระเบียงแล้วรีบโจนลงไปเบื้องล่างที่เป็นทางเดินทันทีเพื่อหลบดาบของเพื่อนรัก จึงเพิ่งเห็นว่ามีคนเดินอยู่ข้างล่าง แถมยังเป็นพวกพ่อกับแม่ของทั้งสามคนอีกต่างหาก!
ไบรอันคิดว่าคงแย่แน่แล้ว แต่มีมือข้างหนึ่งเอื้อมมาจับเขาลงไปกดกับพื้นอย่างรุนแรง เป็นชายแก่กว่าเขาราวห้าปี ผมสีทองดวงตาสีพระจันทร์เลือด เขาไม่เคยเห็นคนที่มีดวงตาสีนี้มาก่อน แถมยังแต่งตัวฉูดฉาดอีกต่างหาก
“ไม่ใช่คนร้ายหรอกเวเบอร์ ถ้าช่วยส่งกลับขึ้นมาบนนี้จะเป็นพระคุณมากเลย” ดาริอุสร้องบอกอย่างคึกคะนอง
“ปล่อยเขาเวเบอร์” ดัชเชล มาเฮราสพ่อของสามพี่น้องบอกชายผมทองให้ปล่อยไบรอันเป็นอิสระ “จะต้องให้ข้าเตือนเจ้าอีกกี่ครั้งกัน ไบรอัน แบล็คสโตน...หากจะมาหาลูกสาวข้าก็เข้ามาทางประตูแบบคนดีๆเขาทำกัน ไม่ใช่เอะอะก็มาปีนระเบียงห้องแบบนี้ เป็นถึงมหาอุปราชแห่งแอสนาร์แท้ๆ”
“นี่ใครหรือท่านดัชเชล” ไบรอันทำความเคารพพ่อและพวกแม่ของสามพี่น้องอย่างรวดเร็วเป็นที่น่าประทับใจ
“เขาชื่อเวเบอร์ เฟียร์เลส เป็นทูตจากต่างมิติ” ดัชเชลแนะนำตัวคนที่หวังจะให้เป็นลูกเขยตนมากกว่าให้ไบรอันรู้จัก “มาติดต่ออยากให้เปิดเผยเรื่องช่องเดินทางระหว่างมิติ จะได้ไปมาหาสู่กันได้เสมือนบ้านพี่เมืองน้อง ระดับเจ้าคงรู้นะว่าเรื่องประตูมิติทางเหนือไม่ใช่เรื่องกุขึ้น แต่เป็นความจริง”
“เคยเดินทางผ่านหลายครั้งแต่ไม่กล้าเข้าไป” ไบรอันตอบแล้วแนะนำตัวทันที “ข้าคือไบรอัน แบล็คสโตน ว่าที่คู่หมั้นของลาควีล่า”
“แล้วก็เป็นเด็กน่าสงสารถูกพ่อแม่ทำร้ายจิตใจเป็นประจำด้วย” ดาริอุสเสริมลงมาจากชั้นสาม
“อย่าเอาเรื่องจริงมาพูดสิ” ไบรอันประท้วงอย่างหัวเสียที่ถูกแฉเรื่องส่วนตัว
“ข้าชื่อเวเบอร์ ท่านใช่ไหมที่ลาควีล่าพูดถึงบ่อยๆว่าเป็นจอมเวทไฟแห่งทิศเหนือ ข้าขอให้นางมาทำงานด้วย นางสามารถเรียกสัตว์ปิศาจได้เราจะใช้พวกมันส่งข่าวและอารักขาคณะเดินทางจากอีกมิติ และคงต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ใช้เวทมนตร์อย่างท่านด้วย ได้ยินว่าเดินทางมาทั่วทวีปใหญ่แล้ว”
“ยินดี” ไบรอันคิดว่าคงเป็นเพื่อนกับชายที่ชื่อเวเบอร์ได้ไม่ยากนัก
“ไปเที่ยวคราวนี้ไม่มีดาริอุสไปด้วย เจ้าคงเหงาน่าดูสินะไบรอัน” ท่านหญิงคาริสซาแม่ของดาริอุสพูดขึ้น พระนางคืออดีตเสนาธิการของจักรวรรดิ บางทีพระนางคงสืบรู้สถานที่นัดพบของพวกเขาแล้วนำไปบอกโรเซลลิน่า จนดาริอุสต้องตกลงหมั้นตามสัญญา
“ข้าไม่คิดว่าจะเจอพวกท่านเร็วแบบนี้ ของฝากอยู่ที่โรงแรมในเมืองข้าจะไปนำมาให้”
“ขึ้นมาคุยกับข้าก่อน!” ดาริอุสร้องบอกจากข้างบน “ขอข้าคุยกับเจ้าเด็กมีปัญหานั่นก่อนท่านแม่คาริสซา พวกท่านกำลังพาเวเบอร์ชมมหาราชวังอยู่นี่”
“คราวนี้ข้าจะปล่อยไปก่อนไบรอัน” ดัชเชลพูดอย่างเก็บอารมณ์ “คราวหน้าขอให้มาในฐานะมหาอุปราช และเข้ามาทางประตูด้วย! ไปกันต่อเวเบอร์ ข้ากำลังพูดถึงไหนแล้ว...”
แล้วดัชเชลกับภรรยาก็พาเวเบอร์เดินชมมหาราชวังต่อไป ไบรอันปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าแล้วบอกดาริอุสว่าจะขึ้นไป ก่อนก้าวเดินไปมุมตึกเพื่อขึ้นไปทางประตูดีๆ ครอบครัวของดาริอุสค่อนข้างซับซ้อน พ่อของดาริอุสเป็นราชบุตรเขยที่แต่งเข้ามาด้วยเหตุผลทางการเมืองที่ดำมืด และด้วยเหตุผลทางการเมืองเช่นกัน ดัชเชลจึงถูกกดดันให้รับอนุจนมีลาควีล่าเกิดขึ้นมา คู่แฝดดาริอุสและเอเลน่าจึงเป็นพี่คนละแม่ของลาควีล่า
ไบรอันสัมผัสผลึกเวทมนตร์ข้างทางแล้วบอกว่าจะไปชั้นใด มันคือผลึกที่แฝงอาคมเคลื่อนย้ายเอาไว้เพื่อใช้เดินทางในตัวตึกที่กว้างใหญ่ ไม่ถึงอึดใจก็ไปหยุดอยู่หน้าห้องของดาริอุสแล้ว เขาเคาะประตูดังๆเป็นสัญญาณแล้วเปิดประตูเข้าไปทันที
“เพราะเจ้าแท้ๆข้าจึงแพ้เดิมพัน ต้องหมั้นกับยายนั่นแล้วต้องนั่งทำงานเป็นหน้าเป็นตา ออกไปเที่ยวบ่อยๆอย่างเคยไม่ได้แล้ว” ดาริอุสบ่นมาจากเก้าอี้รับแขกตัวหนึ่งมุมห้อง
“ข้าขอโทษ จึงกลับมาเล่าเรื่องการเดินทางให้ฟังอย่างไรล่ะ” ไบรอันนั่งแหมะบนเก้าอี้ยาวอย่างเป็นกันเอง
เขาทั้งคู่พบกันเมื่อหลายปีก่อนตอนเรียนอยู่ที่ซีเนีย เป็นข้อตกลงของจักรวรรดิทั้งสองที่เมืองรายรอบต้องส่งเจ้าชายเจ้าหญิงไปเรียนที่เมืองหลวง และเจ้าชายของเมืองหลวงต้องไปเรียนกับอีกจักรวรรดิหนึ่งเพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการติดต่อสื่อสาร
การพบกันครั้งแรกระหว่างไบรอันกับดาริอุสเป็นที่พูดถึงเสมอในการสนทนาของพวกเขา ตอนนั้นดาริอุสหนีเรียนไปนอนเล่นใต้ต้นไม้ที่ไบรอันแอบขึ้นไปนั่งอ่านหนังสือ เมื่อรู้ตัวว่ามีคนอยู่ข้างบนหนังสือก็ร่วงลงมาใส่หัวเสียแล้ว สองคนจึงรู้จักและเป็นเพื่อนกันนับตั้งแต่นั้นมา ทั้งคู่ออกท่องเที่ยวไปทวีปต่างๆด้วยกันโดยไม่สนใจฐานะและหน้าที่การงานของพวกตน
“แล้วงานหมั้นของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ได้ข่าวมาว่าจัดเสียใหญ่โตเลยนี่นา” ไบรอันรินชากินเองโดยไม่ต้องรอคำเชิญ ดาริอุสหรี่ตามองคู่สนทนา
“ทำเป็นพูดดี ทีแบบนี้ไม่ใช่พลังเปิดกาลเวลาของเจ้าดูบ้างล่ะ เห็นแอบดูน้องสาวข้าประจำว่าทำอะไรอยู่ตอนที่พวกเราเดินทางกัน” ดาริอุสถากถาง
พลังเปิดดูกาลเวลาเป็นพลังที่ไบรอันได้รับตั้งแต่เกิด เพราะน้องสาวฝาแฝดของเขาคือนางผู้หยั่งรู้ในยุคนี้ เป็นพลังแสนสะดวกที่ใช้ดูได้ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต นอกเสียจากกว่าเนอร์วาน่าน้องสาวเขาไม่ยอมให้เห็นเท่านั้น
“พูดถึงพิธีการ ตกลงเจ้าจะเข้าพิธีหมั้นกับน้องข้าเมื่อไร พ่อข้าบ่นอยากเห็นงานแต่งลูกสาวเต็มทีแล้ว”
“จริงสิ น้องสาวเจ้าเกือบฆ่าข้าแล้วนะเมื่อกี้นี้ เล่นใช้ไลล่าเป็นตัวประกัน...”
“อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง” ดาริอุสขัด “ข้าไม่ยอมลงหลุมที่เรียกว่าการแต่งงานคนเดียวหรอกนะ ต้องลากเจ้าไปด้วยให้ได้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม”
“รอให้ข้าครบยี่สิบก่อน” ไบรอันตอบจากใจจริง “ข้าอยากให้...”
“อยากให้ไลล่าเห็นอะไรมากกว่านี้ใช่ไหม ข้าฟังจนเอียนแล้ว นางจะสิบแปดแล้วนะไบรอัน ถ้านางไม่ได้เป็นว่าที่คู่หมั้นเจ้าคงโดนจำหน่ายขายทางการเมืองไปนานแล้ว แล้วที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าจะไม่มีคนดีเลย แต่คนที่เหมาะกับนางคือเจ้า น่าจะรู้ตั้งนานแล้วนี่นา”
“ก็เจ้าหญิงที่มีดีแค่ความสวย ไม่เป็นแม่บ้านแม่เรือน ชอบการต่อสู้สารพัด นิสัยเอาแต่ใจเป็นเด็กไม่รู้จักโตแบบนั้นใครจะคบได้จริงจังกัน แค่อยากให้นางมีเวลาตัดสินใจมากกว่านี้ เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่...หัดเคาะประตูบ้างนะไลล่า!”
ไบรอันถอนใจดังเฮือกเมื่อลาควีล่าถลันเข้าประตูห้องมาโดยไม่มีการเคาะเรียกก่อนตามมารยาท
“ท่านโชคดีนะไบรอัน วันนี้ข้าหัดทำเค้ก เอามาให้ชิมด้วยละ” หญิงสาวชูจานใส่ขนมเค้กก้อนใหญ่เอาไว้
“ขนมใส่ยาพิษนั่นหรอ อย่ากินนะไบรอันนางหัดวางยาในขนม อีกไม่นานเจ้าคงต้องทดสอบอาหารก่อนกินเสียแล้ว นางมีแผนใส่ยาเสน่ห์ลงไปแล้วหลอกให้เจ้าแต่งงานด้วยแน่ๆ”
“ก็ข้าบอกแล้วว่านั่นคือรสชาติแฝง เป็นเครื่องปรุงที่ข้าใส่เพื่อเสริมรส” ลาควีล่าแหว ไบรอันรับมาวางไปตรงหน้า ดาริอุสเตือนเขาอีกครั้งด้วยแววตาว่าอย่ากินเลยจะดีกว่า
ไบรอันไม่ลังเลที่จะตัดส่วนหนึ่งมาชิมรส มันทั้งขมทั้งเปรี้ยวราวกับเป็นอาหารคาวมากกว่าของหวาน เขาจึงปฏิเสธที่จะพูดเรื่องรสชาติของขนมชิ้นนั้น แล้วเล่าให้ดาริอุสฟังว่าน้องสาวอีกคนแทบฆ่าเขาตายเสียแล้ว เพราะเขาถูกนำไปเปรียบเทียบกับคนรักของนางที่แทบไม่มีอะไรดีเลย
แล้วชีวิตอันสงบสุขของพวกเขาก็ดำเนินไปเรื่อยๆไม่หยุดยั้ง...