@@@มุมกาแฟNONแดง(มุมนี้ไม่มีใครเป็นเสื้อแดง)วันเสาร์ที่ 06/02/2559:คดียุบพรรคไทยรักไทยกับวาทกรรมบิดเบือน2@@@

กระทู้คำถาม
จขกท กลับไปนั่งอ่านคำพิพากษาฉบับเต็ม ปี 2549 แต่อ่านในบางช่วง เป็นช่วงของธรรมรักษ์ พอทราบคร่าวๆ ถึงความแตกต่างระหว่างคำวินิจฉัยของศาลรธน กับ คำวินิจฉับของศาลฏีกา เพื่อหาคำตอบว่าแตกต่างกันอย่างไร  แต่ขอแสดงความเห็นว่า คำตัดสินของศาลรธนว่าค่อนข้างมีประเด็นที่เยอะกว่าของศาลฏีกา ว่าทำไมจึงตัดสินยุบพรรค

คำวินิจฉัยของพลเอกธรรมรักษ์ - ศาลรธน
1.  มีการสนับสนับให้สร้างข้อมูลเท็จ ซึ่งกกต ได้ถูกตัดสินไปแล้ว
2.  มีการให้เงินสนับสนุนพรรคเล็กคือพรรคพัฒนาชาติไทย และพรรคแผ่นดินไทยจริง  หลายวัน หลายครั้ง

คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ เป็นการวินิจฉัยว่า  ผิดตามพรบ ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 6, 11


--------------------------------------------------------------------
ขอยกรายละเอียดของกระทู้แรกมาก่อน
ก้ารตัดสินยุบพรรคปี 2549
มีเหตุผลฟังได้ว่า พล.อ.ธรรมรักษ์ และนายพงษ์ศักดิ์ ได้ร่วมกันแก้ไขเปลี่ยนแปลงฐานข้อมูลจริง และทั้ง พล.อ.ธรรมรักษ์และนายพงษ์ศักดิ์ให้เงินสนับสนุนพรรคแผ่นดินไทยเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งจริง


เป็นการวินิจฉัยความผิดตาม อำนาจรัฐซึ่งให้ได้มาซึ่งการปกครองประเทศ...ซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ




ศาลอุทธรณ์

เป็การพิจารณาความผิดฐานกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 6, 11 กรณีจ้างวานพรรคการเมืองขนาดเล็กให้ลงเลือกตั้งปี 2549 โดบมีผู้ถูกกล่าวหาร่วมคือพรรคพัฒนาชาติไทย

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/tpd/1810753
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ปี 2559 ศาลอุทธณ์

ในความผิดฐานกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 6 และ 11

ผู้ถูกร้องที่
1   พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีต รมว.กลาโหม และกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย - ยกฟ้องในชั้นอุทธรณ์ เนื้อข่าวมีพูดถึงเฉพาะวันที่ 3 มีนาคม 2549 มอบเงินให้พรรคพัฒนาชาติไทย แต่ยังไม่ได้อ่านฉบับเต็ม
2.  นายอมรวิทย์ สุวรรณผล อดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิจัยและพัฒนาระบบบริหารฐานข้อมูลพรรคการเมือง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) -- ติดคุก
3.  นายชวการ หรือ กรกฤต โตสวัสดิ์ อดีตสมาชิกพรรคพัฒนาชาติไทย - รับโทษจำคุก แต่ศาลฏีกาไม่มาศาล
4.  นายสุขสันต์ หรือ จตุชัย ชัยเทศ อดีต ผอ.การเลือกตั้งพรรคพัฒนาชาติไทย  - รับโทษจำคุก แต่ศาลฏีกาไม่มาศาล
5.  และนายบุญทวีศักดิ์ อมรสินธุ์ อดีตหัวหน้าพรรคพัฒนาชาติไทย เป็นจำเลยที่ 1-5  - รับโทษจำคุก



นานาสงสัยปล แต่สงสัยนิดนึงนะ มีแต่พรรคเล็กถูกตัดสิน กกต ถูกตัดสิน แต่ทำไมไม่ส่งธรรมรักษ์ไปยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฏีกา
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
ความคิดเห็นที่ 7
ตรรกะง่ายๆครับคุณอำ

ถ้าไม่ผิดตามคำร้องจริง และกรณีที่ศาลอุทรตัดสินให้ธรรมรักษ์ไม่ผิดนั้น  พรรค พท ตอนนี้คงไม่ตีปี๊บแค่วาทะกรรมว่าเป็นบทเรียนหรอกครับ

มีการพยามดึงเรื่องไม่ให้ถึงศาลฏีกา อัยการแผ่นดินไม่ฟ้องต่อ แต่คนที่โดนฟ้องต่อผิดหมด

มันก็แค่การตัดตอนไม่ให้คดีถึงที่สุด เพื่อหวังผลแบบนี้ พท ก็เอาผลนี้ไปฟ้องทางกฏหมายต่อเพื่อเรียกร้องไม่น่าได้ เพราะยังไม่ถึงฏีกา

อีกอย่างในคำร้องยุบพรรคไม่ใช่แค่ พลเอก ธรรมรักษ์ ตนเดียวที่เป็นกรรมการ แต่มี พงศักดิ์ รัต... อีกคน และมันตนละเรื่อง กับการวินิจฉัยของ ศาลรัฐธรรมนูญ  เพราะเรื่องนี่ที่ธรรมรักษ์โดนฟ้องอาญา เรื่อง พรบ เจ้าหน้าที่รัฐ ปละไม่ยอมให้ถึงฏีกา แต่ต่อให้ถึงฏีกา ก็คนละกระทงและครละเรื่องกับการจ้างพรรคเล็ก ไปดูในคำร้องยุบพรรค เงินไม่ได้มี่ายให้เจ้าหน้าที่อย่างเดียว แต่มีเงินช่วยให้ส่ง สส ของพรรคเล็กอีก หุหุ
ความคิดเห็นที่ 18
ขอขยาย เพื่อบอกความดีความชอบของพรรคพวกพรรคนี้หน่อย

ในศาลก็ใช้วิธีติดสินบน นอกศาลก็ใช้สื่อบิดเบือนให้ร้ายศาล


แย่แย่

ศาลสั่งจำคุก 3 ปี ไม่รอลงอาญา อดีต ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว นครปฐม เพื่อนร่วมรุ่น "สมชาย" พยายามติดสินบนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ปี 49 ช่วยคดียุบพรรคไทยรักไทย


วันนี้ 24 ธ.ค. ศาลอาญา รัชดา อ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.อ.ชาญชัย เนติรัฐการ อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรโพธิ์แก้ว จ.นครปฐม เป็นจำเลยในความผิดฐานให้สินบนแก่เจ้าพนักงานในตำแหน่งตุลาการ เพื่อจูงใจให้กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ ในคดีที่จำเลย ได้วิ่งเต้นเสนอสินบนจำนวน 30 ล้านบาท ให้แก่ ม.ล.ไกรฤกษ์ เกษมสันต์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้ช่วยเหลือในการติดสินคดียุบพรรคไทยรักไทย เมื่อปี 2549

โดยศาลพิเคราะห์ตามคำเบิกความของพยานคือ ม.ล.ไกรฤกษ์ ซึ่งระบุว่า จำเลยมาขอพบเพื่อเสนอสินบนในครั้งแรก ที่สำนักงานศาลฎีกา จำนวน 15 ล้านบาท และครั้งที่ 2 เสนอให้ที่บ้านพัก จำนวน 30 ล้านบาท แต่ ม.ล.ไกรฤกษ์ ไม่รับ และทำบันทึกถึงนายปัญญา ถนอมรอด ประธานศาลฎีกาในขณะนั้น ซึ่ง ม.ล.ไกรฤกษ์ เบิกความได้เกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกัน และไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน จึงเชื่อว่า เบิกความไปตามข้อเท็จจริง ซึ่งการกระทำของจำเลย ถือว่าคิดเอาแต่ประโยชน์ส่วนตัว ทำลายความถูกต้องของสถาบันหลัก ซึ่งเป็นพึ่งสุดท้ายของประชาชน คิดว่าเงินสามารถซื้อได้ทุกอย่าง จึงพิพากษาว่า จำเลยกระทำผิดตามมาตรา 167 การกระทำของจำเลยถือเป็นการทำลายความถูกต้องของสถาบันหลัก ให้จำคุก 3 ปี ไม่รอลงอาญา

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ชาญชัย จบคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี พ.ศ.2509 เป็นเพื่อนร่วมรุ่นนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี สามีนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคไทยรักไทย โดย พ.ต.อ.ชาญชัย เคยดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.อ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด ระหว่างปี พ.ศ.2543-2545 ก่อนถูกโยกย้ายมาดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.ต.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน ตั้งแต่ตุลาคม 2545 จนถึงปี 2548 จึงเกษียณอายุราชการ
ความคิดเห็นที่ 6


มหกรรมหลอกให้ดิ้นเหมือนผมบอกเมื่อวานครับ เรื่องนี้

  เอ๊าพร้อมกัน ตับ ตับ ตับตับตับ  ย๊าว เค๊าว่าย๊าวๆตับ ตับ ตับตับตับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่