และแล้วก็มาถึงจุดนี้ จุดรอยแยกระหว่างสองยุค น่าจะเป็นช่วงที่โกลาหล
ที่สุดช่วงนึงเลย โพอึนก็มาจากพวกเราไปแล้วว ฮืออ มาดูว่ามีประเด็นอะไรให้คุยบ้าง
มูฮยุล เป็นช่วงที่มูฮยุลสับสน (ทางเพศ) อย่างหนัก กับโบรแมนซ์มุ้งมิ้งของมูฮยุล
กับบังจี อย่างที่กระทู้ข้างล่างว่าไว้ (เฮ้ย ไม่ใช่ละ) มูฮยุลรู้สึกสับสนกับสิ่งที่จะต้องเลือก
จะสู้จนตัวตายก็สงสารย่าและน้องๆที่ต้องทิ้งเอาไว้ข้างหลัง บทสนทนาที่มูฮยุลคุยกับซากวัง
ตอนแอบสะกดรอยตามก็น่าสนใจ ซากวังบอกว่าที่ต้องปกป้องโพอึนและฆ่าอีซองกเย
ตนไม่รู้เหมือนกันว่าถูกหรือผิด อย่าคุยเรื่องนี้กันเลยดีกว่า นี่อาจเป็นลางบอกเหตุกับสิ่ง
ที่มูฮยุลจะต้องเจอก็ได้ ในอนาคตมูฮยุลจะต้องปกป้องบังวอนที่จะต้องเดินในหนทาง
อันโดดเดี่ยว ไร้คนเข้าใจ และอาจถูกครหาว่าเป็นคนเลว แต่สิ่งที่มูฮยุลทำได้คือการ
ภักดีและปกป้องบังวอนเท่านั้น
สิ่งที่มูฮยุลพูดกับบุนอีก็สนับสนุนความคิดดังกล่าวได้เป็นอย่างดี "สุดท้ายแล้วเราก็ไม่รู้ว่า
คนที่เราสู้อยู่ด้วยเป็นคนดีหรือคนเลว" บุนอีก็พูดตอบว่า "เราต้องมุ่งมั่นพอที่จะหันหลัง
ให้กับคนที่เรารัก ยิ่งเป็นนักดาบ ถ้าไม่ฆ่าก็ถูกฆ่า" ถ้ามูฮยุลไม่ฆ่า คนที่มูฮยุลปกป้องอยู่ก็ต้องตาย
อีบังวอน หนทางของบังวอนช่างแสนโดดเดี่ยวยิ่งนัก รู้ทั้งรู้ว่ามือต้องเปื้อนเลือด
ก็ต้องทำ รู้ว่าถ้าทำแล้วตนจะไร้อำนาจ อาจโดนพ่อโกรธจนตัวอาจต้องตายก็ยังทำ รู้ว่าจะโดน
ครหาที่ฆ่าสูญรวมจิตใจของบัณฑิตขงจื๊อทั้งหมด อาจจะมีแต่คนหันหลังให้ทั้งซัมบง
และแม้แต่ครอบครัวตัวเองแต่ก็ต้องทำ เพราะถ้าไม่ทำอาณาจักรในฝันก็จะเป็นได้แค่ฝัน
ครอบครัวและพรรคพวกอาจโดนโพอึนฆ่าทั้งหมด
และเราก็เริ่มจะเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆถึงอุดมการณ์ทางการปกครองของบังวอน เน้นประชาชนเป็นหลัก
ยึดอำนาจมาไว้ที่เดียวให้หมด การปฏิวัติที่ไม่มีการนองเลือดสุดท้ายบังวอนก็ตระหนักได้ว่ามัน
เป็นแค่เรื่องในอุดมคติ เป็นแค่มายาที่ทุกคนหลอกตัวเอง ธรรมชาติในการแย่งอำนาจกันของขุนนาง
ทำให้บ้านเมืองไม่สงบสุข อีบังวอนจึงจะปล่อยให้เป็นไปอย่างนี้ไม่ได้...
โพอึน ทาสคนสุดท้ายของโครยอ ปกป้องแผ่นดินบ้านเกิดจนลมหายใจสุดท้าย
ตัวแทนแห่งความภักดีจนถึงที่สุด โพอึนมองว่าการรับใช้สองแผ่นดินเป็นการขัดกับหลักขงจื๊อ
อย่างรุนแรง โพอึนจึงขอรับใช้แผ่นดินที่กำลังจะล่มสลาย จะตายก็ต้องตายไปด้วยกัน
การตายของโพอึน เป็นการตายที่สยองและหดหู่มาก โพอึนที่ปกป้องความเชื่อของตัวเอง
จนวินาทีสุดท้ายของชีวิต ไม่มีท่าทีลังเลต่อการชักชวนและการให้เหตุผลของบังวอนเลย
บังวอนถามถึงว่าเหตุใดโพอึนจึงไม่นึกถึงความเดือดร้อนของประชาชนในแผ่นดินที่เน่าเฟะ
แห่งนี้ โพอึนยิ้มอย่างผู้เหนือกว่า แล้วตอบว่าหลักของขงจื๊อและความภักดีต้องมาก่อน
ความต้องการของประชาชนเสมอ ไม่อย่างงั้นจะไม่มีอะไรให้ยึดเหนี่ยว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บังเอิญมาก ผมได้ดูหนัง The Throne แล้วตอนรัชทายาทซาโดใกล้ขาดใจตายในกล่องไม้
ถามพระเจ้ายองโจผู้เป็นบิดาว่า เหตุใดหลักขงจื๊อที่ควรมุ่งเน้นประชาชนเป็นหลัก
กลับยึดตามกฎ คำสอนของขงจื๊อมากกว่าความต้องการของประชาชน ทำไมพ่อต้องเป็นคน
ฆ่าลูกเพียงเพราะเหตุผลทางการเมือง ทำไมลูก (ซาโด)ที่ไม่ต้องการใช้ชีวิตบนบัลลังก์
เล่นเกมการเมือง แต่อยากใช้ชีวิตกับศิลปะและการต่อสู้ที่ตัวเองถนัด แต่ก็ต้องทำตามกฎ
ทำไมความจำเป็นและความต้องการของมนุษย์จึงถูกกดทับไว้เสมอมา ทั้งๆที่ขงจื๊อน่าจะ
เกี่ยวข้องกับมนุษย์มากที่สุดไม่ใช่หรือ และคนที่พูดประโยคนี้คือยูอาอินของเรานั่นเอง
55555+ ขนาดไปเกิดเป็นซาโดยังไม่เลิกเถียงโพอึนอีกนะ
อย่างที่รู้ๆเนาะ แผนปฏิวัติประเทศของซัมบงมันทำได้ยากมากๆ ยังไม่ได้เสียงสนุบสนุน
ของบัณฑิตขงจื๊อ บังวอนก็ฆ่าโพอึนตายซะละ แล้วหลังสถาปนาประเทศซัมบงก็อยู่ไม่นาน
อาจจะทำให้งานที่ซัมบงวางแผนไว้ยังไม่เสร็จก็ได้ สิ่งที่เคยวาดฝันไว้ว่าจะให้ความต้องการของ
ประชาชนมาก่อนก็ทำได้ไม่สำเร็จ
มันย้อนแย้งเหมือนกันที่การตายที่แสนหดหู่เลือดท่วมหน้า กระโหลกศรีษะเปิดของโพอึนจะเป็น
การตายที่มีเกียรติที่สุดครั้งนึงในประวัติศาสตร์ของโครยอเลย เป็นสัญญาณบอกการสิ้นยุคสมัย
และการกระทำของยองกยูและบังวอนที่โหดร้ายเยี่ยงสัตว์ป่า กลับเป็นจุดเปลี่ยนแปลงของหน้า
ประวัติศาสตร์แผ่นดินเกาหลี เป็นการกระทำขัดศีลธรรมอย่างรุนแรงเพื่อประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่มากกว่า
ส่วนโพอึนก็สามารถยืดอกได้อย่างภาคภูมิใจ ในสายตาของโพอึนซัมบงและบังวอนก็เป็นได้แค่
กบฎต่อแผ่นดินโครยอเท่านั้น
ขออวยหน่อยว่าลุงที่เล่นเป็นโพอึนเล่นดีมว้ากก เล่นน้อยแต่ได้มากเป็นอย่างนี้สินะ
ฟีลลิ่งจากดวงตาก่อนตายนั้นบอกอะไรหลายสิ่งหลายอย่างมากเลย
อีซองกเย หลายๆคนอาจจะหงุดหงิดที่ฮีไม่ทำอะไรซักอย่าง นั่งรอความตาย
ของครอบครัวตามโชคชะตา แต่บุคลิกตามประวัติศาสตร์อาจจะเป็นอย่างงี้ก็ได้นะ ตอนทะเลาะ
กับบังวอนนี่ดุเดือดมาก เพราะอีซองกเยให้ค่ากับความซื่อสัตย์และคุณธรรมมาก ไม่อยากปฏิวัติ
โดยเสียเลือดเนื้อให้มาก เขากับซัมบงอยากจะเกลี้ยกล่อมโพอึนให้ถึงที่สุด เพื่อชนะใจเหล่าบัณฑิต
ขงจื๊อทั้งหมดให้ได้ แต่บังวอนก็ทำลาย "เหตุผลอันชอบธรรม" นั้นไปแล้วในสายตาอีซองกเย
อาจจะเป็นจุดแตกหักระหว่างพ่อกับลูกคู่นี้ก็ได้
ซัมบง หลังจากทราบข่าวการสิ้นใจของโพอึนสหายเลิฟ ซัมบงก็คิดทบทวนว่าตัวเอง
ทำอะไรพลาดไป ตำราของหลักวิชาการอะไรมากมายไม่สามารถเกลี้ยกล่อมโพอึนได้เลย
หรือมันไม่มีทางเป็นไปได้ตั้งแต่เริ่มแล้ว? หลังจากทำใจอยู่นานซัมบงก็กลายเป็นคนใหม่
บอกให้ซองกเยเอาหัวของโพอึนเสียบประจานซะ คนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นจึงจะต้องเป็นผู้อยู่รอด
การหันหลังให้คนที่รักและกลายเป็นคนไร้หัวใจจำเป็นต่อการทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ต้องเหี้ยมเข้าไว้
เท่าที่อ่านมาซัมบงตัวจริงก็ประมาณนี้นะ เหี้ยมพอประมาณ ไม่ได้อ่อนโยนแบบที่ผ่านๆมา
และซัมบงยังย้ำให้บังวอนฟังอีกครั้งว่าถึงตนจะเข้าใจเหตุผลของบังวอนในการฆ่าโพอึน
แต่"ไม่มีที่ให้บังวอนในประเทศใหม่"อยู่ดี คงเป็นการเปิดศึกเต็มตัวแล้ว
มาคุยกันเรื่องหกมังกรถึงตอนล่าสุดครับ (สปอยล์)
ที่สุดช่วงนึงเลย โพอึนก็มาจากพวกเราไปแล้วว ฮืออ มาดูว่ามีประเด็นอะไรให้คุยบ้าง
มูฮยุล เป็นช่วงที่มูฮยุลสับสน (ทางเพศ) อย่างหนัก กับโบรแมนซ์มุ้งมิ้งของมูฮยุล
กับบังจี อย่างที่กระทู้ข้างล่างว่าไว้ (เฮ้ย ไม่ใช่ละ) มูฮยุลรู้สึกสับสนกับสิ่งที่จะต้องเลือก
จะสู้จนตัวตายก็สงสารย่าและน้องๆที่ต้องทิ้งเอาไว้ข้างหลัง บทสนทนาที่มูฮยุลคุยกับซากวัง
ตอนแอบสะกดรอยตามก็น่าสนใจ ซากวังบอกว่าที่ต้องปกป้องโพอึนและฆ่าอีซองกเย
ตนไม่รู้เหมือนกันว่าถูกหรือผิด อย่าคุยเรื่องนี้กันเลยดีกว่า นี่อาจเป็นลางบอกเหตุกับสิ่ง
ที่มูฮยุลจะต้องเจอก็ได้ ในอนาคตมูฮยุลจะต้องปกป้องบังวอนที่จะต้องเดินในหนทาง
อันโดดเดี่ยว ไร้คนเข้าใจ และอาจถูกครหาว่าเป็นคนเลว แต่สิ่งที่มูฮยุลทำได้คือการ
ภักดีและปกป้องบังวอนเท่านั้น
สิ่งที่มูฮยุลพูดกับบุนอีก็สนับสนุนความคิดดังกล่าวได้เป็นอย่างดี "สุดท้ายแล้วเราก็ไม่รู้ว่า
คนที่เราสู้อยู่ด้วยเป็นคนดีหรือคนเลว" บุนอีก็พูดตอบว่า "เราต้องมุ่งมั่นพอที่จะหันหลัง
ให้กับคนที่เรารัก ยิ่งเป็นนักดาบ ถ้าไม่ฆ่าก็ถูกฆ่า" ถ้ามูฮยุลไม่ฆ่า คนที่มูฮยุลปกป้องอยู่ก็ต้องตาย
อีบังวอน หนทางของบังวอนช่างแสนโดดเดี่ยวยิ่งนัก รู้ทั้งรู้ว่ามือต้องเปื้อนเลือด
ก็ต้องทำ รู้ว่าถ้าทำแล้วตนจะไร้อำนาจ อาจโดนพ่อโกรธจนตัวอาจต้องตายก็ยังทำ รู้ว่าจะโดน
ครหาที่ฆ่าสูญรวมจิตใจของบัณฑิตขงจื๊อทั้งหมด อาจจะมีแต่คนหันหลังให้ทั้งซัมบง
และแม้แต่ครอบครัวตัวเองแต่ก็ต้องทำ เพราะถ้าไม่ทำอาณาจักรในฝันก็จะเป็นได้แค่ฝัน
ครอบครัวและพรรคพวกอาจโดนโพอึนฆ่าทั้งหมด
และเราก็เริ่มจะเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆถึงอุดมการณ์ทางการปกครองของบังวอน เน้นประชาชนเป็นหลัก
ยึดอำนาจมาไว้ที่เดียวให้หมด การปฏิวัติที่ไม่มีการนองเลือดสุดท้ายบังวอนก็ตระหนักได้ว่ามัน
เป็นแค่เรื่องในอุดมคติ เป็นแค่มายาที่ทุกคนหลอกตัวเอง ธรรมชาติในการแย่งอำนาจกันของขุนนาง
ทำให้บ้านเมืองไม่สงบสุข อีบังวอนจึงจะปล่อยให้เป็นไปอย่างนี้ไม่ได้...
โพอึน ทาสคนสุดท้ายของโครยอ ปกป้องแผ่นดินบ้านเกิดจนลมหายใจสุดท้าย
ตัวแทนแห่งความภักดีจนถึงที่สุด โพอึนมองว่าการรับใช้สองแผ่นดินเป็นการขัดกับหลักขงจื๊อ
อย่างรุนแรง โพอึนจึงขอรับใช้แผ่นดินที่กำลังจะล่มสลาย จะตายก็ต้องตายไปด้วยกัน
การตายของโพอึน เป็นการตายที่สยองและหดหู่มาก โพอึนที่ปกป้องความเชื่อของตัวเอง
จนวินาทีสุดท้ายของชีวิต ไม่มีท่าทีลังเลต่อการชักชวนและการให้เหตุผลของบังวอนเลย
บังวอนถามถึงว่าเหตุใดโพอึนจึงไม่นึกถึงความเดือดร้อนของประชาชนในแผ่นดินที่เน่าเฟะ
แห่งนี้ โพอึนยิ้มอย่างผู้เหนือกว่า แล้วตอบว่าหลักของขงจื๊อและความภักดีต้องมาก่อน
ความต้องการของประชาชนเสมอ ไม่อย่างงั้นจะไม่มีอะไรให้ยึดเหนี่ยว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มันย้อนแย้งเหมือนกันที่การตายที่แสนหดหู่เลือดท่วมหน้า กระโหลกศรีษะเปิดของโพอึนจะเป็น
การตายที่มีเกียรติที่สุดครั้งนึงในประวัติศาสตร์ของโครยอเลย เป็นสัญญาณบอกการสิ้นยุคสมัย
และการกระทำของยองกยูและบังวอนที่โหดร้ายเยี่ยงสัตว์ป่า กลับเป็นจุดเปลี่ยนแปลงของหน้า
ประวัติศาสตร์แผ่นดินเกาหลี เป็นการกระทำขัดศีลธรรมอย่างรุนแรงเพื่อประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่มากกว่า
ส่วนโพอึนก็สามารถยืดอกได้อย่างภาคภูมิใจ ในสายตาของโพอึนซัมบงและบังวอนก็เป็นได้แค่
กบฎต่อแผ่นดินโครยอเท่านั้น
ขออวยหน่อยว่าลุงที่เล่นเป็นโพอึนเล่นดีมว้ากก เล่นน้อยแต่ได้มากเป็นอย่างนี้สินะ
ฟีลลิ่งจากดวงตาก่อนตายนั้นบอกอะไรหลายสิ่งหลายอย่างมากเลย
อีซองกเย หลายๆคนอาจจะหงุดหงิดที่ฮีไม่ทำอะไรซักอย่าง นั่งรอความตาย
ของครอบครัวตามโชคชะตา แต่บุคลิกตามประวัติศาสตร์อาจจะเป็นอย่างงี้ก็ได้นะ ตอนทะเลาะ
กับบังวอนนี่ดุเดือดมาก เพราะอีซองกเยให้ค่ากับความซื่อสัตย์และคุณธรรมมาก ไม่อยากปฏิวัติ
โดยเสียเลือดเนื้อให้มาก เขากับซัมบงอยากจะเกลี้ยกล่อมโพอึนให้ถึงที่สุด เพื่อชนะใจเหล่าบัณฑิต
ขงจื๊อทั้งหมดให้ได้ แต่บังวอนก็ทำลาย "เหตุผลอันชอบธรรม" นั้นไปแล้วในสายตาอีซองกเย
อาจจะเป็นจุดแตกหักระหว่างพ่อกับลูกคู่นี้ก็ได้
ซัมบง หลังจากทราบข่าวการสิ้นใจของโพอึนสหายเลิฟ ซัมบงก็คิดทบทวนว่าตัวเอง
ทำอะไรพลาดไป ตำราของหลักวิชาการอะไรมากมายไม่สามารถเกลี้ยกล่อมโพอึนได้เลย
หรือมันไม่มีทางเป็นไปได้ตั้งแต่เริ่มแล้ว? หลังจากทำใจอยู่นานซัมบงก็กลายเป็นคนใหม่
บอกให้ซองกเยเอาหัวของโพอึนเสียบประจานซะ คนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นจึงจะต้องเป็นผู้อยู่รอด
การหันหลังให้คนที่รักและกลายเป็นคนไร้หัวใจจำเป็นต่อการทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ต้องเหี้ยมเข้าไว้
เท่าที่อ่านมาซัมบงตัวจริงก็ประมาณนี้นะ เหี้ยมพอประมาณ ไม่ได้อ่อนโยนแบบที่ผ่านๆมา
และซัมบงยังย้ำให้บังวอนฟังอีกครั้งว่าถึงตนจะเข้าใจเหตุผลของบังวอนในการฆ่าโพอึน
แต่"ไม่มีที่ให้บังวอนในประเทศใหม่"อยู่ดี คงเป็นการเปิดศึกเต็มตัวแล้ว