แฟนๆ J Series และ J Movies หลายคน คงเคยผ่านตาผลงานที่มี อุเอะโนะ จุริ เล่นกันมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็น Swing Girls, Engine, Nodame Cantabile, Last Friends ฯลฯ

     ตอนที่ จขกท เริ่มเขียนกระทู้เกี่ยวกับ จุริ ในพันทิปช่วงแรกๆ เป็นช่วงที่ จุริ กลับมารับงานแสดงอีกครั้ง หลังจากพักยาวไปถึงเกือบๆ 2 ปี จำได้ว่าตอนนั้น มีเพื่อนๆ สมาชิก ถามเข้ามากันหลายคน ว่าเธอหายไปไหนมา ทำไมอยู่ๆ ก็หายหน้าไป ทั้งที่กำลังดังเป็นพลุแตก จากบทโนดาเมะ ใน Nodame Cantabile ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก นอกจากทำเป็นละครยาวทางทีวี (2006) ยังต่อยอดไปสู่ละครภาคพิเศษ (2008) และภาพยนตร์อีก 2 ภาค (2009, 2010) รวมถึงการกวาดรางวัลทางการแสดงในประเทศญี่ปุ่น มาถึง 8 รางวัล จากบท รุกะ ในละครเรื่อง Last Friends (Fuji TV, 2008) ก็น่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ จุริ ได้รับเลือกให้มารับบทนำ ในละครไทกะ เรื่อง Princess Go (2011) ซึ่งเป็นละครพีเรียดย้อนยุคเรื่องยาวประจำปีของสถานี NHK ที่ได้ชื่อว่านักแสดงญี่ปุ่นแทบทุกคน อยากจะขอมีส่วนร่วมในละครไทกะสักครั้งหนึ่งในชีวิตแทบทั้งนั้น





     ทั้งๆ ที่กำลังดัง แถมยังได้รับบทนำในละครไทกะ แต่พอการถ่ายทำ Princess Go จบลง จุริกลับหายเงียบไป มีเพียงงานอีเว้นท์ที่จัดเพื่อพบปะกับแฟนคลับในงาน PR Photo Book ในปี 2012 เท่านั้นที่จุริยอมมาออกสื่อ ให้แฟนๆ ได้หายคิดถึง แต่พอจบงาน จุริก็มาหายหน้าไปอีก
     ในตอนนั้น จขกท ก็ทำอะไรไม่ได้ ทำได้แค่รอฟังข่าว และรอการกลับมาของ จุริ ด้วยความห่วงใยเท่านั้น
     สำหรับบทความที่ จขกท นำมาแปลนี้ ขอบอกก่อนว่า จขกท ไม่ได้คิดว่าเป็นบทความที่ดีที่สุด ถูกต้องที่สุด เพราะมันเป็นบทวิเคราะห์ของนักวิจารณ์ละครท่านหนึ่ง ที่วิเคราะห์ถึงเส้นทางการทำงานในฐานะนักแสดงของ จุริ ตั้งแต่ต้น จนมาถึงการข้ามมารับบทเป็นสาวทำงาน วัย 30 ที่เคยผ่านการแต่งงานและหย่าร้างมาก่อน ในละครเรื่องปัจจุบัน Kazoku no Katachi เพียงแต่เมื่ออ่านแล้ว สำหรับ จขกท มันใช่ มันตรงใจ และมีแนวโน้มใกล้เคียงกับที่ จขกท แอบคิดไว้ในใจ เงียบๆ คนเดียว เอาล่ะ เราลองมาอ่านกันนะคะ ว่าเค้าวิเคราะห์ว่าอย่างไรบ้าง

*คอลัมน์วิจารณ์บันเทิง จากเว็บ Real Sound วันที่ 24 มกราคม 2016
http://realsound.jp/movie/2016/01/post-833.html  **หมายเหตุ รูปประกอบใส่โดย จขกท ในบทความต้นฉบับไม่มีรูปค่ะ

อุเอะโนะ จุริ, ทำไมกล้ารับบทผู้หญิงทำงานวัย 30 ที่ผ่านการหย่าร้างมาแล้วแบบนี้? บทวิเคราะห์เกี่ยวกับการวางตำแหน่งในวงการในฐานะนักแสดงของเธอในปัจจุบัน
     ละครเรื่อง “Kazoku No Katachi” (ช่อง TBS)  ที่ อุเอะโนะ จุริ รับบทเป็นนางเอก กำลังออกอากาศเป็นตอนที่ 2 ในวันที่ 24 มกราคม เวลา 3 ทุ่ม   อุเอะโนะ ซึ่งมีภาพลักษณ์ของ “หญิงสาวที่ร่าเริงแจ่มใส” จากผลงานสร้างชื่ออย่าง “Swing Girls” และ “Nodame Cantabile” แต่ทว่า เธอกลับมารับบทผู้หญิงวัยทำงานวัย 30 ที่ผ่านการหย่าร้างมา ในละครเรื่องนี้
     อุเอะโนะ นั้น ได้รับการยอมรับในเรื่องของความสามารถด้านการแสดงอย่างมาก แม้แต่ในต่างประเทศ จนได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์เกาหลี ที่กำลังออกฉายในญี่ปุ่น เรื่อง “Beauty Inside” ทำให้เราอยากรู้ว่าอุเอะโนะ มีการวางแผนในการทำงานในฐานะนักแสดงแบบไหน คุณนาริมะ เรอิจิ นักวิจารณ์ละคร (น่าจะเหมือนพวกคอลัมนิสต์ หรือนักวิจารณ์บันเทิงบ้านเรา) จะมาทำการวิเคราะห์หนทางในอาชีพนักแสดงของอุเอะโนะ จนถึงการรับบทในละครเรื่อง “Kazoku No Katachi” ให้เราฟัง



     “อุเอะโนะ จุริ เป็นนักแสดงที่ได้รับการยอมรับว่ามีฝีมือการแสดงในระดับสูง ตั้งแต่ช่วงแรกที่เดบิวต์แล้ว ในภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอ “Jozee, the Tiger and the Fish” นั้น เธอสามารถแสดงบทนักศึกษามหาวิทยาลัยที่อายุ 22 ปี ได้ดีเยี่ยม ทั้งที่ตัวเธอในเวลานั้น มีอายุเพียง 17 ปีเท่านั้นเอง ทำให้ได้รับความสนใจจากคนทั้งในและนอกวงการบันเทิง หลังจากนั้น เธอก็สั่งสมประสบการณ์ในอาชีพนักแสดง โดยเน้นมาที่สายการแสดงโดยใช้ฝีมือเป็นหลัก และในที่สุด ก็โด่งดังเป็นที่รู้จักอย่างมาก จาก “Nodame Cantabile”  จนได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงแถวหน้าคนหนึ่งในวงการ
     แต่ทว่า หลังจากนั้น เมื่ออุเอะโนะ มารับบทนำในละครไทกะ เรื่อง “Princess Go” ซึ่งเป็นละครที่มีความไม่สมจริงอยู่ในตัวบทละคร และอุเอะโนะเอง ก็ทำการแสดง โดยยังมีภาพลักษณ์แบบการ์ตูนที่ติดตัวมาจาก “Nodame Cantabile”   จึงทำให้ดูเหมือนว่า เธอสูญเสียความสมดุลในการแสดงครั้งใหญ่ ซึ่งแม้แต่เจ้าตัวเอง ก็ดูจะทุกข์ใจมากกับเรื่องนี้
     หลังจากการถ่ายทำ “Princess Go”จบลง  ในปลายปี 2011 เธอก็หายหน้าไป แทบไม่ปรากฏตัวทั้งในภาพยนตร์และละครเรื่องใดๆ  แต่นั่นอาจจะเป็นเพราะความตั้งใจที่จะรีเซทภาพลักษณ์ที่ติดตาคนดูเสียใหม่ก็เป็นได้  หลังจากที่เธอกลับมารับงานแสดงอีกครั้งในปี 2013 สังเกตเห็นได้ว่า บทบาทที่เธอรับเล่น จะเป็นบทที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น และมีความสมจริง (ไม่กลายเป็นการ์ตูน) และนิ่งมากขึ้น  และนั่นก็ทำให้เธอสามารถนำเอาความสามารถแท้จริงที่มี ออกมาแสดงให้เราได้เห็นได้อีกครั้ง”



     เกี่ยวกับการแสดงที่มีความสมจริงที่พูดถึงนั้น นาริมะซังได้กล่าวไว้ว่า
     “ด้วยความสามารถทางการแสดงของอุเอะโนะ ที่อยู่ในระดับสูง  การที่เธอจะรับ*บทนำ เป็นเรื่องที่สามารถทำได้แน่นอน แต่ว่าเธออาจจะเปล่งประกายในฐานะนักแสดงมากที่สุด ในบทรองลงมา บทที่ต้องการการแสดงที่ละเอียดอ่อน และต้องใช้ความสามารถในการแสดงอย่างมากก็เป็นได้  (บท รุกะ ใน Last Friends นี่ลอยมาเลย)
     ถ้าจะลองยกตัวอย่างดู บทละครที่สร้างขึ้น เพื่อให้ตรงกับคาแรกเตอร์และภาพลักษณ์ของตัวนักแสดงที่มารับบทนั้นๆ ก็มีให้เห็นมากมาย แต่สำหรับอุเอะโนะ เธอไม่ได้ปรับให้บทนั้นๆมาตรงกับภาพลักษณ์หรือบุคลิกของตัวเอง แต่เธอเป็นนักแสดงที่พยายามปรับตัวเองให้เข้าใกล้ หรือกลายเป็นตัวละครนั้นๆให้มากที่สุด อย่างใน “Last Friends” หรือ “Alice No Toge” ที่เธอสามารถเข้าถึงการแสดงบทที่ซีเรียส สมจริงได้อย่างน่าชื่นชม แม้คนที่ไม่เคยรู้จัก อุเอะโนะ จุริ ก็ยังต้องยอมรับในฝีมือการแสดงของเธอ  และเพราะเธอสั่งสมฝีมือการแสดงให้เป็นที่ประจักษ์ โดยไม่พึ่งพาชื่อของตัวเองนั่นล่ะ ที่ทำให้เธอได้รับข้อเสนองานแสดงต่างๆ จากต่างประเทศเข้ามา”

     *หมายเหตุจาก จขกท -- ในละครหรือภาพยนตร์ญี่ปุ่น จะมีนักแสดงที่รับบทนำ (Lead Role) ในแต่ละเรื่อง 1 คน ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางในการดำเนินเรื่อง (บางครั้งก็มี 2 คน เรียกว่า W (Double) Lead Role อย่างในเรื่อง Nodame Cantabile) นักแสดงคนอื่นๆ ก็จะกลายเป็นนักแสดงสมทบ (บทสำคัญรองลงมา) ไปโดยอัตโนมัติ


     นอกจากนี้ นาริมะซัง ยังได้กล่าวถึงการแสดงในละครเรื่อง “Kazoku No Katachi” ของ อุเอะโนะ กับการเข้าถึงบทบาท ที่ดูเหมือนจะเรียบๆ ไม่หวือหวา และไม่สะดุดตาอะไร ซึ่งได้กลายเป็นจุดที่น่าจับตามองอีกจุดหนึ่ง

     “สำหรับละครเรื่อง “Kazoku No Katachi” เป็นเรื่องเกี่ยวกับสังคมปัจจุบัน ที่ยกเอาหัวข้อเกี่ยวกับความเป็นจริงที่หนุ่มสาววัย 30 ต้องพบเจอ ทั้งการแต่งงานและชีวิตครอบครัว ที่นำเอาเรื่องซีเรียส มาทำให้ออกมาเป็นละครคอมมาดี้ ที่ทำให้คนดูรู้สึกอบอุ่น บทที่อุเอะโนะเล่น เป็นบทผู้หญิงทำงานในวัย 32 ปี ที่ผ่านการหย่าร้างมาแล้ว 1 ครั้ง และเพราะเป็นบทที่ทำให้รู้สึกว่าใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่อยู่ใกล้ตัวเรา ก็น่าจะทำให้ผู้ชมที่อยู่ในวัยเดียวกันนี้ มีความรู้สึกร่วมตามไปด้วยได้
     อุเอะโนะ จุริ ที่ได้แสดงให้เห็นถึงพลังในด้านการแสดงที่มี ผ่านการแสดงบทบาทที่ต่างไปจาก “Nodame Cantabile”  หากเราได้มองถึงความหมายที่แฝงมาในการแสดงอันละเอียดอ่อนของเธอ ก็คงจะสัมผัสได้ถึงความสามารถอันเยี่ยมยอดนี้ได้อย่างแน่นอน


     จขกท : ปัญหาใหญ่ที่ จุริ เจอมานั้น คงไม่ต่างอะไรกับนักแสดงอีกมากมาย ที่หลายครั้ง ไม่สามารถสลัดภาพลักษณ์ติดตาผู้ชม ที่มาจากบทที่ทำให้ตัวเองโด่งดัง และเป็นที่รู้จักออกไปได้ ซึ่งนี่เป็นเรื่องใหญ่มาก สำหรับนักแสดงอาชีพ มันจะเป็นอย่างไร ถ้าคุณไม่สามารถทำให้คนเชื่อได้ว่า คุณคือคนๆนั้น ในละครแต่ละเรื่อง
     ในกรณีของ จุริ หลังจากอิมเมจ “โนดาเมะ” ที่มีอิมแพคแรง และประทับใจคนดูจำนวนมากมาย ทำให้ จุริ พบกับความยากลำบากในการสลัดภาพลักษณ์ “โนดาเมะ” ออกไปได้ เมื่อไปรับบทอื่นๆ

     จขกท ยังจำได้ว่าได้ดูเบื้องหลังการถ่ายทำละครเรื่อง Jodan Janai (TBS, 2007) ซึ่งเป็นช่วงการถ่ายทำช่วงสุดท้ายที่ต้องยกกองไปทำงานกันที่ฝรั่งเศส แล้ว จุริ ในเวลานั้น ไม่สามารถแสดงออกมาในแบบที่ตัวเองคิดไว้ได้ เธอพูดพร้อมกับน้ำตานองหน้าว่า “ทำยังไงดี เล่นอะไรก็เป็นโนดาเมะไปหมดเลย” ด้วยเวลาและสถานที่ถ่ายทำ ที่จำกัด ทำให้ จุริ ลนมากขึ้นไปอีก กว่าจะผ่านฉากนั้นไปได้ ก็เล่นเอา จุริ และทีมงานตึงเครียดเป็นอย่างมาก

     สถานการณ์ดูจะดี และผ่อนคลายมากขึ้น เมื่อ จุริ ประสบความสำเร็จ และเป็นที่จับตามองด้านการแสดงอีกครั้ง เมื่อเธอตัดสินใจเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่หมด เพื่อรับบท คิชิโมะโตะ รุกะ จากเรื่อง Last Friends (2008) หญิงสาวที่แอบหลงรักเพื่อนสนิทที่เป็นผู้หญิงของตัวเอง และมีความมุ่งมั่นอยากจะเปลี่ยนร่างกายให้เป็นผู้ชาย เพื่อจะได้อยู่เคียงข้างและปกป้องหญิงสาวที่ตัวเองรัก  ซึ่งจากเรื่องนี้ เรื่องเดียว จุริ ได้รับรางวัลทางการแสดงมาถึง 8 รางวัล


ขอต่อในความเห็นที่ 1 นะคะ พื้นที่ไม่พอซะแล้ว T T