คิดเหมือนกันใหมว่า พ่อแม่ที่มีลูกในขณะที่ตัวเองไม่พร้อม เห็นแก่ตัวที่สุด

ไม่พร้อมในที่นี้คือ ฐานะ และวัยตัวเองที่ไม่พร้อมที่จะเลี้ยงดูลูกให้สุขสบาย และได้รับโอกาสอื่นๆ ตามความเหมาะสม
เด็กบางคนโตมาด้วยความยากลำบาก ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงตัวเอง เด็กบางคนต้องดูแลครอบครัว (รวมถึงพ่อแม่) ตัวเองทั้งที่ยังเล็กๆ
เด็กจำนวนไม่น้อยขาดโอกาสหลายอย่าง เช่น การศึกษา ขาดความก้าวหน้า และทุนที่จะทำตามฝัน หรือความชอบของตนเอง แย่กว่านั้นหลายคนตกเป็นภาระของสังคม ของคนอื่น เพราะพ่อแม่ไม่สามารถเลี้ยงดู อบรมสั่งสอนได้
ผมมองว่าพ่อแม่ที่มีลูก แล้วปล่อยให้ออกมาลำบากนี้เห็นแก่ตัวอย่างที่สุด เพราะคุณควรจะวางแผนอนาคต และเตรียมทุกอย่างให้พร้อม
และเพียงพอสำหรับชีวิตคนๆ หนึ่งที่จะเกิดขึ้นมา
ผมไม่โทษระบบการศึกษาหรือสังคม เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นความรู้พื้นฐานที่ทุกคนคิดได้ และทำเป็น

ขออภัยหากความคิดนี้ขัดแย้งกับทัศนคติของคุณ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 32
บางคนก็เข้าใจยาก
ไม่พร้อมในที่นี้ก็เห็นได้ตามกระทู้แถวๆ นี้
ท้องโดยไม่ได้แต่งงานหรือพ่อแม่รับรู้ แอบกินกันขณะเป็นนักเรียน
พอท้องขึ้นมา ก้ไม่กล้าบอกพ่อแม่
หรือไปบอกฝ่ายชายแล้ว เขาไม่รับให้ไปทำแท้ง
ไปบอกพ่อแม่ฝ่ายชาย เขาไม่รับรู้
มาบอกพ่อแม่ตัวเอง ให้ไปทำแท้ง
ลำพังตัวเองยังเอาไม่รอด เรียนไม่จบ รายได้ไม่มี
ยังไม่ทันได้เริ่มต้นเลย ก็แทบจะถึงจุดจบแล้ว
ท้องๆ ไปทั้งที่สภาพจิตใจเปราะบาง
ฝากท้องมั่ง ไม่ฝากมั่ง เกลียดชังแฟนและครอบครัวแฟนที่ไม่ยอมรับ
รับความกดดันจากครอบครัวตัวเองที่ต้องอายชาวบ้าน
คิดเอาเองแล้วกัน มีสักกี่คนที่เข้มแข็งพอที่จะก้าวออกมาเป็นแม่คน
และพร้อมที่จะดูแลลูกในสถานการณ์แบบนี้

จขกท เข้าไม่ได้หมายคสามหรอกว่าต้องมีบ้านเดี่ยว 100 ตรว
มีรถรับส่งพร้อมคนขับ อะไรเทือกนั้น
เอาแค่ว่าพร้อมที่จะดูเด็กแค่ด้านพื้นฐาน สุขภาพ อนามัย การศึกษา ให้ความรัก
ความเข้าใจในฐานะพ่อๆแม่ๆ ลูกๆ
ไม่ใช่ตัวเองยังเอาไม่รอด แล้วยังมีลูกขึ้นมาอีก
ความคิดเห็นที่ 10
ต้องมีต้นทุนเท่าไหร่ถึงจะมีลูกได้คะ ต้นทุนของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน
คนรวยบางคนมีลูก เลี้ยงลูกเป็นเทวดา ก็ยังเห็นทำตัวเป็นปัญหาสังคมเหมือนกัน
กับคนต้นทุนน้อยบางคน ถึงไม่ได้มีมากมาย ปากกัดตีนถีบเลี้ยงกันตามอัตภาพ
ก็เห็นได้ดีมีเยอะแยะไป

แล้วในวรรคนี้
"ไม่พร้อมที่จะเลี้ยงดูลูกให้สุขสบาย และได้รับโอกาสอื่นๆ ตามความเหมาะสม"
จะให้วัดจากอะไรคะ ว่าความสุขสบายที่หมายถึงจะการันตีว่าเด็กคนนั้นจะไม่เป็นภาระกับใครในอนาคต

เราเคยเห็นลูกคนงานก่อสร้าง ครอบครัวนึงมีลูกเป็นพรวน เราเองก็เคยคิด
ว่าทำไมเค้าลำบากแต่ยังปล่อยให้มีลูกมาก แต่ก็ได้แค่คิดเพราะเราไม่รู้ว่าลำบากของเรา
กับลำาบากของเค้ามันต่างกันรึเปล่า เลยไม่อยากไปคิดแทนคนอื่นค่ะ
ความคิดเห็นที่ 22
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาแสดงความคิดห็น
ผมไม่หวังว่าทั้งหมดต้องคล้อยตามหรือสนับสนุน เพราะแต่ละคนย่อมมีมุมมอง และความคิดแตกต่างกัน
สิ่งที่ผมต้องการจะสื่อให้ทราบคือ ในเมื่อเราคิดที่จะมีหนึ่งชีวิตที่จะต้องเกิดขึ้น อยู่ในความคุ้มครองดูแลของเรา
เราก็ควรสนับสนุน เลี้ยงดูเขาอย่างดี และเหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานทางสังคมที่ชีวิตเด็กคนหนึ่งพึงมี ไปจนเขาสามาถหาเลี้ยงตัวเองได้ตามสมควร
และคงไม่ถึงขนาดว่าต้องเลี้ยงดูอย่างดีจนดูมากเกินไปอย่างที่บางคนกล่าวถึง อยากได้อะไรต้องได้ ไม่ถึงขนาดนัน ทุกๆ อย่างเราสามารถประเมินถึงความพอดีได้
และผมเห็นด้วยที่บางความคิดเห็นบอกว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรที่พร้อมทุกอย่าง แต่ขอเสริมด้วยว่า ความไม่พร้อมไม่ใช่ข้ออ้างทั้งหมดที่จะมาลดอนาคต
หรือตัดเส้นทางของเด็กคนหนึ่งที่ไม่สามารถเลือกได้ว่าเกิดมาจะต้องเจอกับอะไรบ้าง
ผมไม่ได้สนับสนุนว่าเด็กที่เกิดมาต้องสุขสบายบนกองเงินกองทองที่พ่อแม่เตรีมไว้ให้ เพียงแต่ควรจะรับผิดชอบในฐานะพ่อแม่ที่พึงมีต่อหนึ่งชีวิตที่ตนเองทำให้เกิดขึ้นเท่านั้น
ความคิดเห็นที่ 18
มีใครไม่ เห็นแก่ตัว บ้างในโลกนี้

เรามองว่าทุกคนน่ะเเหละที่ เห็นเเก่ตัวหมด
จะมีก็เเต่พวกอาสาสมัคร ที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือคน โดยไม่มีสิ่งตอบเเทนเท่านั้นเเหละ
(เเต่บางคนก็หวังชื่อเสียง หวังภาพลักษณ์นะ)

ไม่พร้อมในที่นี้คือ ฐานะ และวัยตัวเองที่ไม่พร้อมที่จะเลี้ยงดูลูกให้สุขสบาย และได้รับโอกาสอื่นๆ ตามความเหมาะสม
อยากขอนิยามคำนี้นิดนึงค่ะ เพราะมาตรฐานคนเราไม่เท่ากันนะ
ตัวเราเองเมื่อก่อนยังเคยคิดเสมอ ว่าทำไมพ่อแม่เราไม่รวยเเบบพ่อแม่เพื่อน เราอยากเป็นนักบินก็ไม่ได้เรียนเพราะไม่มีเงิน
เราอยากไปเที่ยวดิสนีย์เเลนด์ก็ไม่ได้ไป เราอยากอยู่คอนโด อยากนั่งลีมูซีน อยากไปเรียนเมืองนอก ทำไม ทำไม พ่อแม่จะมีเราทำไม
คุณคงคิดว่าเราเเย่ ตอนนี้เราก็คิดว่าตอนนั้นเราเเย่ค่ะ เเต่มันเป็นเพราะเพื่อนเรามีในสิ่งที่เราไม่มี ก็เลยทำให้คิดเเบบนั้น
เเล้วคุณคิดว่าเราเกิดมาให้ครอบครัวที่ไม่พร้อมรึเปล่า

จขกท คะ ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่เป็น ทาสนายทุน ทาสระบบวัตถุนิยม ทาสสิ่งสมมติที่เป็นมายาคติ ทั้งนั้น
ที่เราดิ้นรนเรียนสูงๆ ทำงานดีๆ เงินเดือนเยอะๆ บ้านใหญ่ๆ กินอาหารดีๆ ไปเที่ยวเยอะๆ (หรูๆ)
เรากำลังวัดค่าของคนที่ตัวเงินตราเเละอำนาจชื่อเสียง ขอถามกลับ ว่าสิ่งเหล่านั้นมันทำให้ชีวิตเรามีคุณค่ามากขึ้นตรงไหน
คุณได้ขัดเกลาจิตใจตัวเองไหม ได้พัฒนาตัวเอง พัฒนาวิธีคิด ทำให้โลกของเราดีขึ้นยังไง
ในเมื่อทุกวันนี้มนุษย์ยังเป็นปลิง สูบทรัพยากรของโลกให้หมดลงอย่างต่อเนื่อง
ในโลกมนุษย์เป็นเผ่าพันธ์เดียวที่อยู่สุขสบาย หันกลับไปมองทรัพยากรของโลกสิ น้ำเอย น้ำมันเอย อากาศเอย
มันบริสุทธิ์เหมือนเมื่อก่อนไหม สัตว์สูญพันธ์ไปกี่สายพันธ์เเล้ว น้ำเเละอากาศปนเปื้อนไปมากเเค่ไหน
ดินที่อุดมสมบูรณ์จริงๆ เหลือน้อยเพียงใด เเทบจะมีคนส่วนน้อยมากๆ ในโลกที่เเคร์เรื่องพวกนี้

มันเกิดขึ้นเพราะยุคอุตสากรรม ที่คนเป็นทาสของเงินตราอย่างสมบูรณ์ที่สุด
การสืบเผ่าพันธ์ตามธรรมชาติ การเลี้ยงดูเด็กที่ใกล้ชิด การหาอาหารเลี้ยงปากท้อง
มันกลายเป็นเรื่องเล็กน้อย ทั้งที่จริง มันคือทั้งหมดที่มนุษย์สามารถทำได้ โดยไม่ต้องไปเบียดเบียนใคร
เเต่ก็เปล่าเลย ทุกคนดิ้นรน ทะเยอทะยาน โลภ เเละมีกิเลสมากขึ้นเเบบไม่เคยพอ
เเล้วผลเสียตกอยู่ที่ใคร ถ้าไม่ใช่ตัวเอง เเละลูกหลาน
ทุกวันนี้ทำเเท้งกันเพราะหน้าตา อนาคต อ้างความไม่พร้อมที่เป็นเรื่องสมมติทั้งนั้น
คุณเอาสิ่งมโน สิ่งที่ลอยอยู่ในอากาศ วาดฝันเสียเลิศเลอ มาเเลกกับชีวิต 1 ชีวิต
นอกจากว่ามันจะต่ำว่าสัญชาตญาณของสัตว์เดรัจฉานเเล้ว มันยังเป็นความคิดผิดๆ ที่ไม่น่าเกิดมาจากสัตว์ประเสริฐอีกด้วยนะ

หากคุณบอกว่าพ่อแม่ควรมีลูกตอนพร้อม ถึงจะไม่เห็นเเก่ตัว
เราก็อยากจะบอกคุณกลับว่า ทุกวันนี้โลกไม่มีความพร้อมให้มนุษย์หน้าไหนเกิดขึ้นมาเเม้อีกสักคนเดียวค่ะ
ความคิดเห็นที่ 12
จขกท.จะไปตำหนิว่าเขาเห็นแก่ตัวไม่ได้
เพราะเจ้าตัวเองยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเห็นแก่ตัว

จขกท.อย่า ประเมิน'พลังของการหลอกตัวเอง'ต่ำเกินไป
หลายคนที่เลี้ยงลูกแบบลูกกินน้ำตาต่างข้าว
ยังเอาไปอวดชาวบ้านว่าตัวเองเจ๋ง เลี้ยงลูกมาดี
(เลขาผมเอง  ผมละโคตรสงสารน้องเลย)

เพราะฉะนั้นมันไม่ได้อยู่ที่พร้อมไม่พร้อม แต่อยู่ที่สามัญสำนึก
บางคนมีลูกตอนไม่พร้อมมากๆ แต่สามัญสำนึกของการรับผิดชอบมันเกิดตามหลังได้
เลี้ยงลูกได้ดีมากๆก็มี เพราะสำนึกเขาดีครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่