สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ไม่ประหารก็ได้ แต่ตัดอัณฑะหรือเอ็น ทิ้งไปซะ!
สมาชิกหมายเลข 1581674 ถูกใจ, แพนชาน ถูกใจ, อมยิ้มจากดาวอังคาร ถูกใจ, แสงดั่งจันทรา ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2543792 ถูกใจ, ยิ้มแล้วโลกสดใส ถูกใจ, TANGTUU ถูกใจ, it's always you ถูกใจ, หมูน่าหม่ำ ถูกใจ, LittleSister ถูกใจรวมถึงอีก 7 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 2
เหนื่อยใจเหมือนกันน่ะ ที่จะแก้ปัญหาไอ้พวกชั่วๆให้หมดไปจากโลกได้
ต้องคิดนั่นคิดนี่ กลัวนั่นกลัวนี่ไปหมด แต่ไม่คิดจะเชือดไก่ให้ลิงดูหน่อยเหรอ
เผื่อมันจะปรามๆอะไรได้บ้าง
ต้องคิดนั่นคิดนี่ กลัวนั่นกลัวนี่ไปหมด แต่ไม่คิดจะเชือดไก่ให้ลิงดูหน่อยเหรอ
เผื่อมันจะปรามๆอะไรได้บ้าง
cherry_na_rak^^ ถูกใจ, แพนชาน ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2516138 สยอง, แสงดั่งจันทรา ถูกใจ, Meepook ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 704920 ถูกใจ, linp ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2543792 ถูกใจ, TANGTUU ถูกใจ, นัมจูฮยอกแฟนเราเองจำไว้ ถูกใจรวมถึงอีก 8 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
ไม่เห็นด้วยแนวคิดสุดโต่ง รณรงค์"ข่มขืน"ต้องประหาร!
"บิ๊กตู่"ไม่เห็นด้วยรณรงค์เพิ่มโทษประหารชีวิตคดีข่มขืน ชี้กฎหมายต้องมีขั้นตอน ด้าน "ไก่อู"แก้ต่าง นายกฯไม่ได้เจตนาเข้าข้างคนผิด แต่ต้องมองในฐานะเป็นรัฐบาล วอนสังคมคิดรอบด้าน
วันพฤหัสที่ 4 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 16:45 น.
เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่อิมแพคอารีนา เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาต(คสช.) กล่าวตอนหนึ่งในระหว่างมอบนโยบายในพิธีเปิดการประชุมสัมมนาการเตรียมการจัดทำร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ว่า เช้าวันนี้ตนได้เปิดดูโทรทัศน์มีคนเสนอว่าคดีข่มขืนให้ประหารชีวิต คดีอะไรที่ร้ายแรงต้องประหารชีวิตทั้งหมด นี่คือคนไทยที่มีแต่ความสุดโต่งเหมือนกับการตัดสินของเปาบุ้นจิ้น ซึ่งจะประหารชีวิตอย่างเดียวไม่ได้ เพราะกฎหมายมีขั้นตอน และปัญหาไม่ได้อยู่ที่กฎหมาย แต่อยู่ที่การบังคับใช้กฎหมายว่าทำได้หรือไม่ได้ และจิตสำนึกของคน นอกจากนี้การใช้มาตรา 44 ในกรณีทำผิดแล้วยึดรถนั้น ยังไม่ได้ยกเลิก ยังทำตลอดต่อไปทั้งปีจนกว่าตนจะพ้นจากตำแหน่ง
ด้านพล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการรณรงค์ให้ผู้กระทำผิดจากการข่มขืนได้รับโทษประหารชีวิตว่า คำว่า “สุดโต่ง” ที่ท่านนายกฯ กล่าวนั้น ไม่ได้หมายความว่านายกฯจะปกป้อง หรือเข้าข้างผู้กระทำผิด แต่ต้องการให้สังคมร่วมกันพิจารณาอย่างรอบคอบว่า แท้จริงแล้วต้นเหตุของปัญหาคืออะไร การใช้กฎหมายรุนแรงบังคับแต่เพียงอย่างเดียว จะแก้ไขปัญหาได้จริงหรือไม่ โดยนายกฯ เห็นว่า การแก้ปัญหาดังกล่าวจะต้องดูหลายมิติ ทั้งเรื่องกฎหมาย การสร้างจิตสำนึกที่ดี การสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวและสังคม หากใช้กฎหมายหนักขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่สามารถยุติปัญหาได้ก็ต้องพึงระวัง ทั้งนี้นายกฯ ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมไปศึกษาข้อมูลและหาทางออกในเรื่องดังกล่าว โดยนำกรณีศึกษาจากประเทศต่าง ๆ มาเปรียบเทียบด้วย เพื่อให้เกิดการยอมรับตามหลักสากล
"โดยส่วนตัวนายกฯ เข้าใจหัวอกของคนเป็นพ่อแม่และญาติพี่น้องของผู้เสียหาย และรู้สึกเจ็บปวด ไม่พอใจผู้กระทำผิดเช่นเดียวกับคนทั่วไป แต่นายกฯ ก็ต้องมองปัญหาในฐานะที่เป็นรัฐบาล ซึ่งจะต้องพิจารณาในภาพรวมอย่างรอบคอบและเป็นสากลด้วย ในมุมตรงกันข้ามหากใช้ยาแรงหรือบังคับใช้กฎหมายอย่างรุนแรงที่สุด อาจยิ่งส่งเสริมให้ผู้กระทำผิดทำร้ายเหยื่อจนถึงแก่ชีวิต เพราะคิดว่า จะได้ไม่เหลือหลักฐานสำหรับการเอาผิดตนเอง ซึ่งจะมีผลถึงการรับโทษขั้นรุนแรง เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน"พล.ต.สรรเสริญ กล่าว.