จากในช่วงที่ผ่านมามีกรณีฆ่าข่มขืนเด็ก ผญ. แล้วเห็นในโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คประนามนักโทษในคดีนี้ต่างๆนานา
แต่ที่ดิฉันตกใจคือ เกือบ 100% ของคนที่มาแสดงความคิดเห็นนั้นเห็นด้วยกับการที่ต้องลงโทษประหารชีวิต
คือต้องออกตัวก่อนนะคะ ว่าไม่ใช่นักมนุษยธรรมหรืออะไรและดิฉันไม่ใช่พวกโลกสวย ดิฉันแค่อยากแสดงความคิดเห็นในมุมมองของดิฉันค่ะ
จากที่เห็นในต่างประเทศเขารณรงค์ให้มีการยกเลิกโทษประหาร หลายประเทศก็เลิกใช้ไปแล้วเพราะหลักมนุษยธรรม แต่ทำไมที่ดิฉันเห็นในประเทศไทยกลับมีการร่วมกันรณรงค์ให้มีการตัดสินโทษโดยการประหารชีวิตกันคะ ?

ดิฉันจึงไม่แน่ใจว่าการที่บอกว่าเพิ่มโทษให้หนักขึ้น เพื่อการทำผิดจะได้ลดลง ดิฉันไม่เห็นด้วยกับประโยคนี้ค่ะ ดิฉันคิดว่าการจะข่มขืนคน ก่อนข่มขืนคนที่ลงมือจะคิดหรือเปล่าว่าการกระทำดังกล่าวจะมีโทษรุนแรง ถ้าคนมีจิตสำนึกเรื่องกฎหมายขนาดนี้ มันไม่ลงมือข่มขืนใครได้หรอกค่ะ เพราะทุกกรณีที่พบเห็นในข่าวล้วนแต่มีการข่มขืนแล้วฆ่าเพื่อกลบเกลื่อนความผิด ยกตัวอย่างประเทศอินเดียนะคะ ที่สถติการถูกข่มขืนสูงมาก โทษเขาก็ประหารชีวิต แล้วทำไมสถติเขายังสูงคะ ? ของแบบนี้ดิฉันว่ามันอยู่ที่จิตสำนึกคะ่ ที่แปลกใจไปยิ่งกว่านั้นคอละครไทยกลับรู้สึกฟินที่พระเอกข่มขืนนางเอก ดิฉันว่าควรจะลบความคิดแบบนี้ไปได้แล้วนะคะ ถึงจะเป็นสามีภรรยากัน ถ้าฝ่ายหญิงไม่เต็มใจมันก็เป็นการข่มขืนไม่ใช่เหรอคะ ?

ต้นเหตุคือสังคมเรายังไม่จริงจังกับเรื่องของการข่มขืน คนที่จะกระทำเรื่องแบบนี้ก็ยังคงมีอยู่ ดิฉันไม่ใช่บุคคลที่โดนกระทำและก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนะคะ และตัวดิฉันเองก็ไม่อยากให้เกิดกรณีแบบนี้กับใครเลยค่ะ ถ้าจะโทษอารมณ์ทางเพศอย่างเดียวคงไม่ใช่ เพราะถ้าอย่างนั้น ผู้ชายทั้งประเทศถ้าเกิดอารมณ์ทางเพศก็คงจะวิ่งข่มขืนผู้หญิงกันให้ว่อนเมือง มันผิดที่คนลงมือมันขาดจิตสำนึก และส่วนตัวดิฉันคิดว่าถ้าจะแก้ปัญหาจริงๆมันต้องแก้ที่ต้นเหตุค่ะ ไม่ใช่ปลายเหตุ
ดังนั้นการที่หลายๆคนออกมาสนับสนุนการตัดสินโทษประหารชีวิต หนึ่งเสียงของดิฉันเขอป็นหนึ่งเสียงที่ไม่เห็นด้วยค่ะ
และสุดท้ายดิฉันขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและไม่มีใครอยากให้เกิดด้วยนะคะ