ปัญหามันมีอยู่ว่า
เมื่อปลายปี 2558
บริษัทลูกค้า ของงานที่ผมดูแลอยู่ เกิดปัญหาตามสภาวะเศรษฐกิจเนี่ยล่ะ
แล้วเขาก็ลดงบส่วนต่างๆ รวมถึงงานที่ผมดูแลอยู่ด้วย (เกี่ยวกับพวก IT Operating)
ซึ่งผมก็พยายามเข้าใจเขาว่าเราต้องรัดกุมมากขึ้นในการทำงาน ไม่สุรุ่ยสุร่าย การตรวจงบโครงการจะเข้มข้นมากขึ้น
แต่ที่นี้เนื่องจากงานที่ผมทำนั้น ระบบทำงานแบบ 24/7 เลยนะครับ
ในทางปฎิบัติแล้ว ไม่ยอมรับ BreakDown time เลย
แม้ตัวสัญญา SLA จะมีช่องให้พอหายใจบ้าง (ุ6 ชั่วโมง)
เอาเข้าจริงๆ ล่มสัก 1 ชั่วโมง ก็หายนะบังเกิดแล้ว
ทีมผมทำงานเพื่อรักษามาตราฐานตรงนี้มาโดยตลอด
พอนโยบายรัดเข็มขัดมา เราก็พยายามชี้แจงว่า ควรเหลืองบ Operation and standby ในส่วนไหนบ้าง
ลูกค้าก็บอกว่าไม่เอา เปลือง
เราให้เหตุผลการทำงานไปอย่างที่ว่าไว้ข้างต้น (ล่มสัก 1 ชั่วโมง ก็หายนะบังเกิดแล้ว)
ลูกค้าตอบเราว่า (ไม่เป็นไร พี่เชื่อว่าไม่เป็นไร)
ทั้งหมดเป็นการพูดคุยทางโทรศัพท์ และผมแอบอัดเก็บไว้
ภาพตัดมาที่
เดือนมกราคม 2559
ระบบล่มแบบลูกผีลูกคนจริงๆอย่างที่เราคาดการณ์ไว้
เราโดนข้อกล่าวหามากมาย
-วางบั๊ก
-แอบเข้ามาทำให้ระบบมีปัญหา
-หย่อนยานด้านการดูแล
เวรสิครับ คิดมาได้ ระบบล่มคุณก็โทรหาผม
ผมคงนึกสนุกอยากวางบั๊กแทนนาฬิกาปลุกให้มาทำงานตอนตีสามล่ะมั้ง
ข้อกล่าวหาเริ่มหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ
งานการไม่เป็นอันทำล่ะครับ วันๆต้องมานั่งตอบลูกค้าเหมือนโดนสอบวินัย
บางเรื่องอธิบายไปหลายรอบมาก ก็ไม่เคยจำได้
บางเรื่องยอมรับว่าโง่ ตอบไม่ได้ เพราะผมไม่ได้ออกแบบไว้ทั้งหมดแต่แรก
เช่นพวกส่วน Legacy System นี่แทบไม่อยากไปแตะมัน
นานวันเข้าข้อกล่าวหาเริ่มไม่ใช่เชิงเทคนิค
-ก้าวร้าว
-ไม่มีสัมมาคารวะ
และเริ่มมีการขู่แบบงงๆว่าจะส่งเรื่องเราและปัญหาให้ผู้บริหารทราบ
โดนมาแบบนี้ เสียความตั้งใจมาก
อย่างที่บอกไปแหละครับ (การทำงานตรงนี้ ไม่เคยยอมรับการล่มเกิน 1 ชั่วโมง)
เสียใจที่ทำงานกับลูกค้าคนนี้มาหลายปี
ไม่นึกว่า มันจะกลายเป็นแบบนี้
ความเชื่อใจมันหายไปไหนหมด?
เราเชื่อลึกๆว่าเขาคงโดนบริษัทกดดันมา
เราก็บอกเขาไปว่า (ให้พี่เขาทำตามที่พี่เห็นว่าเหมาะสมเลย จะแจ้งใครก็ทำไปเลยครับ)
ภาพตัดมา
ผมนั่งอยู่ในห้องฝ่ายบริหาร พยายามชี้แจงปัญหาที่เกิดขึ้น
ฝ่ายบริหารบอกเพียงว่า ผมประพฤติตัวไม่เหมาะสม
ผมก็บอกว่าผมเองทำงานในส่วนนี้มาหลายปี
ถ้ามันไม่เหมาะสม ผมก็ขอลาออก
ผมได้ท้วงแล้วว่าอันไหนควรทำอันไหนไม่ควรทำ ตั้งแต่การขอปรับลดงบ ซึ่งผมก็ยอม
แต่ได้ให้ข้อควรระวังไว้แล้ว
ผมเชื่อว่าปลายทางแล้ว ลูกค้าจะนึกถึงสิ่งที่ผมเคยบอกทั้งหมด ทำไมงบส่วนนี้จึงลดไม่ได้
สุดท้ายงบอาจจะกลับมาตามแผนที่ผมเสนอ
แต่วันนี้
ผมถูกตำหนิ อย่างไม่เป็นธรรม
ถ้าวันนึง ผมเป็นฝ่ายถูก ตอนนั้นผมจะได้อะไรไหม
ไม่มีคำตอบจากฝ่ายบริหาร
มีแต่การบอกให้ผมลองพิจารณาตัวเองอีกครั้ง
หมดไฟ
ไม่อยากไปแล้วครับบริษัท
เอาไงดี
หมดไฟ....แบบพรุ่งนี้ไม่อยากไปทำงานแล้ว เอาไงดี...
เมื่อปลายปี 2558
บริษัทลูกค้า ของงานที่ผมดูแลอยู่ เกิดปัญหาตามสภาวะเศรษฐกิจเนี่ยล่ะ
แล้วเขาก็ลดงบส่วนต่างๆ รวมถึงงานที่ผมดูแลอยู่ด้วย (เกี่ยวกับพวก IT Operating)
ซึ่งผมก็พยายามเข้าใจเขาว่าเราต้องรัดกุมมากขึ้นในการทำงาน ไม่สุรุ่ยสุร่าย การตรวจงบโครงการจะเข้มข้นมากขึ้น
แต่ที่นี้เนื่องจากงานที่ผมทำนั้น ระบบทำงานแบบ 24/7 เลยนะครับ
ในทางปฎิบัติแล้ว ไม่ยอมรับ BreakDown time เลย
แม้ตัวสัญญา SLA จะมีช่องให้พอหายใจบ้าง (ุ6 ชั่วโมง)
เอาเข้าจริงๆ ล่มสัก 1 ชั่วโมง ก็หายนะบังเกิดแล้ว
ทีมผมทำงานเพื่อรักษามาตราฐานตรงนี้มาโดยตลอด
พอนโยบายรัดเข็มขัดมา เราก็พยายามชี้แจงว่า ควรเหลืองบ Operation and standby ในส่วนไหนบ้าง
ลูกค้าก็บอกว่าไม่เอา เปลือง
เราให้เหตุผลการทำงานไปอย่างที่ว่าไว้ข้างต้น (ล่มสัก 1 ชั่วโมง ก็หายนะบังเกิดแล้ว)
ลูกค้าตอบเราว่า (ไม่เป็นไร พี่เชื่อว่าไม่เป็นไร)
ทั้งหมดเป็นการพูดคุยทางโทรศัพท์ และผมแอบอัดเก็บไว้
ภาพตัดมาที่
เดือนมกราคม 2559
ระบบล่มแบบลูกผีลูกคนจริงๆอย่างที่เราคาดการณ์ไว้
เราโดนข้อกล่าวหามากมาย
-วางบั๊ก
-แอบเข้ามาทำให้ระบบมีปัญหา
-หย่อนยานด้านการดูแล
เวรสิครับ คิดมาได้ ระบบล่มคุณก็โทรหาผม
ผมคงนึกสนุกอยากวางบั๊กแทนนาฬิกาปลุกให้มาทำงานตอนตีสามล่ะมั้ง
ข้อกล่าวหาเริ่มหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ
งานการไม่เป็นอันทำล่ะครับ วันๆต้องมานั่งตอบลูกค้าเหมือนโดนสอบวินัย
บางเรื่องอธิบายไปหลายรอบมาก ก็ไม่เคยจำได้
บางเรื่องยอมรับว่าโง่ ตอบไม่ได้ เพราะผมไม่ได้ออกแบบไว้ทั้งหมดแต่แรก
เช่นพวกส่วน Legacy System นี่แทบไม่อยากไปแตะมัน
นานวันเข้าข้อกล่าวหาเริ่มไม่ใช่เชิงเทคนิค
-ก้าวร้าว
-ไม่มีสัมมาคารวะ
และเริ่มมีการขู่แบบงงๆว่าจะส่งเรื่องเราและปัญหาให้ผู้บริหารทราบ
โดนมาแบบนี้ เสียความตั้งใจมาก
อย่างที่บอกไปแหละครับ (การทำงานตรงนี้ ไม่เคยยอมรับการล่มเกิน 1 ชั่วโมง)
เสียใจที่ทำงานกับลูกค้าคนนี้มาหลายปี
ไม่นึกว่า มันจะกลายเป็นแบบนี้
ความเชื่อใจมันหายไปไหนหมด?
เราเชื่อลึกๆว่าเขาคงโดนบริษัทกดดันมา
เราก็บอกเขาไปว่า (ให้พี่เขาทำตามที่พี่เห็นว่าเหมาะสมเลย จะแจ้งใครก็ทำไปเลยครับ)
ภาพตัดมา
ผมนั่งอยู่ในห้องฝ่ายบริหาร พยายามชี้แจงปัญหาที่เกิดขึ้น
ฝ่ายบริหารบอกเพียงว่า ผมประพฤติตัวไม่เหมาะสม
ผมก็บอกว่าผมเองทำงานในส่วนนี้มาหลายปี
ถ้ามันไม่เหมาะสม ผมก็ขอลาออก
ผมได้ท้วงแล้วว่าอันไหนควรทำอันไหนไม่ควรทำ ตั้งแต่การขอปรับลดงบ ซึ่งผมก็ยอม
แต่ได้ให้ข้อควรระวังไว้แล้ว
ผมเชื่อว่าปลายทางแล้ว ลูกค้าจะนึกถึงสิ่งที่ผมเคยบอกทั้งหมด ทำไมงบส่วนนี้จึงลดไม่ได้
สุดท้ายงบอาจจะกลับมาตามแผนที่ผมเสนอ
แต่วันนี้
ผมถูกตำหนิ อย่างไม่เป็นธรรม
ถ้าวันนึง ผมเป็นฝ่ายถูก ตอนนั้นผมจะได้อะไรไหม
ไม่มีคำตอบจากฝ่ายบริหาร
มีแต่การบอกให้ผมลองพิจารณาตัวเองอีกครั้ง
หมดไฟ
ไม่อยากไปแล้วครับบริษัท
เอาไงดี