The Danish Girl | ยอมใจทูนหัว มีผัวข้ามเพศ
ตำนานรักพลิกล็อคของสองจิตรกรชาวเดนมาร์ก เมื่อสามีอยากเปลี่ยนสถานะเป็นเพื่อนสาว ร้าวทรวงใน
จุดพลิกผันเมื่อวันหนึ่งนางแบบของเกอร์ด้า (Alicia Vikander) มาสาย นางขอให้ไอนาร์ (Eddie Redmayne) ช่วยแต่งหญิงเป็นแบบแทน ทั้งคู่ติดใจ ใช้การแต่งหญิงปรุงรสอูมาหมิให้ชีวิตซาบซ่า สามีในคราบสาวสคราญได้ชื่อว่า ลิลี่ พากันออกปาร์ตี้ในชุดกรุยกราย โพสท่าให้ภรรยาวาดภาพด้วยจริตเกินหญิงยิ่งกว่าแข่ง Denmark’s Next Top Model
แล้วเรื่องก็เลยเถิดเมื่อไอนาร์สำเหนียกว่าเค้าเกิดมาเพื่อเป็น ‘ลิลี่’
หนังเดินบนเส้นบางระหว่างความซึ้งกับความฮา เช่น ลิลี่ถามเกอร์ด้าว่าชั้นแต่งหญิงแล้วคนอื่นจะรู้มั้ยว่าชั้นคือไอนาร์? เห่ลโล้ว เจ้าฮะ คือหล่อนหน้าเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคือลิปสติกและวิกแดง, นางอ่อนเปลี้ยเพลียแรงจากความสับสนทางเพศ อาการหนักจนนึกว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ตัดภาพมาอีกทีนางเดินรี่ไปหาผู้ชายถึงบ้านด้วยความสตรอง (ฮื้ม?) หรือเข้าร้านนางโชว์แล้วกรีดมือตามอย่างเว่อร์วัง จบหนังมั่นใจต้องมีคนไปเลียนแบบ (เราเอง 555)
อาการธาตุไฟแตกของลิลี่อาจมีพื้นฐานจากการขาดความเข้าใจความหลากหลายทาง Sexual Orientation ของยุคนั้นซึ่งมุ่งแต่รักษาด้วยวิธีบ้าบอ โชคดีเจอหมอนรีเวชนำเสนอทางเลือกใหม่ที่อยู่ในระยะทดลองแต่ไม่รับรองผล คือการผ่าตัดแปลงเพศ อันเป็นบททดสอบความรักขั้นสุดของนางสองคน
Redmayne เป็นไอนาร์ได้ซับซ้อนกว่าตอนเป็นลิลลี่ ที่พอแต่งหญิงแล้วต้องผินหน้าละมุนนี 45 องศาเข้ากล้อง ทำตาปรือ จือปากสั่นตามถนัดทุกครั้งจนสังเกตได้ คล้ายคนชอบถ่ายเซลฟี่ที่รู้มุมเก่งของตัวเอง
The Danish Girl ที่แท้จริงคือ Vikander รับบทหนักจากภรรยาก๋ากั่น ยันใจสลายที่ผู้ชายของตัวเองเปลี่ยนแปลง ร้องไห้แรงขอสามีคืนก็ไม่กลับมา แต่นางก็ทำตามสัญญาที่ให้คนรักไว้ครั้งไปออกงานด้วยกันในคราบเพื่อนสาวว่า ‘ชั้นไม่มีวันทอดทิ้งเธอ’ แสดงได้ดีมาก (ซีนรถไฟพีคจัด) คือหนังเป็นของเธอไปเลย
หนังเฉิ่มเชยแต่ดูเพลิน องค์ประกอบศิลป์งามโดยเฉพาะฉาก เครื่องแต่งกายและถ่ายภาพ โล่งใจที่ผกก. Tom Hooper เพลามือจากการใช้ Close-up พร่ำเพรื่อแล้ว
รักภาพวาดของเกอร์ด้า เป็นงานศิลปะที่สองคนร่วมกันรังสรรค์ปั้นแต่งขึ้นไม่ต่างจากการใช้ชีวิตคู่ การยอมรับและถ่ายทอดความงามจากตัวตนของคู่ครองทำให้เธอเป็นศิลปินหญิงแกร่งที่โลกยอมรับ ในขณะเดียวกันก็ปลดปล่อยลิลี่ให้โบยบินในแบบที่เธอเป็นอย่างแท้จริง
เกรด | B+
The Danish Girl ฉายรอบพรีวิวหลังสองทุ่มถึงพุธ 3 ก.พ. รอบปกติ 4 ก.พ. จ้ะ
แบ่งปันบทความจาก
https://www.facebook.com/jijabanang
รีวิว | The Danish Girl | ยอมใจทูนหัว มีผัวข้ามเพศ
ตำนานรักพลิกล็อคของสองจิตรกรชาวเดนมาร์ก เมื่อสามีอยากเปลี่ยนสถานะเป็นเพื่อนสาว ร้าวทรวงใน
จุดพลิกผันเมื่อวันหนึ่งนางแบบของเกอร์ด้า (Alicia Vikander) มาสาย นางขอให้ไอนาร์ (Eddie Redmayne) ช่วยแต่งหญิงเป็นแบบแทน ทั้งคู่ติดใจ ใช้การแต่งหญิงปรุงรสอูมาหมิให้ชีวิตซาบซ่า สามีในคราบสาวสคราญได้ชื่อว่า ลิลี่ พากันออกปาร์ตี้ในชุดกรุยกราย โพสท่าให้ภรรยาวาดภาพด้วยจริตเกินหญิงยิ่งกว่าแข่ง Denmark’s Next Top Model
แล้วเรื่องก็เลยเถิดเมื่อไอนาร์สำเหนียกว่าเค้าเกิดมาเพื่อเป็น ‘ลิลี่’
หนังเดินบนเส้นบางระหว่างความซึ้งกับความฮา เช่น ลิลี่ถามเกอร์ด้าว่าชั้นแต่งหญิงแล้วคนอื่นจะรู้มั้ยว่าชั้นคือไอนาร์? เห่ลโล้ว เจ้าฮะ คือหล่อนหน้าเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคือลิปสติกและวิกแดง, นางอ่อนเปลี้ยเพลียแรงจากความสับสนทางเพศ อาการหนักจนนึกว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ตัดภาพมาอีกทีนางเดินรี่ไปหาผู้ชายถึงบ้านด้วยความสตรอง (ฮื้ม?) หรือเข้าร้านนางโชว์แล้วกรีดมือตามอย่างเว่อร์วัง จบหนังมั่นใจต้องมีคนไปเลียนแบบ (เราเอง 555)
อาการธาตุไฟแตกของลิลี่อาจมีพื้นฐานจากการขาดความเข้าใจความหลากหลายทาง Sexual Orientation ของยุคนั้นซึ่งมุ่งแต่รักษาด้วยวิธีบ้าบอ โชคดีเจอหมอนรีเวชนำเสนอทางเลือกใหม่ที่อยู่ในระยะทดลองแต่ไม่รับรองผล คือการผ่าตัดแปลงเพศ อันเป็นบททดสอบความรักขั้นสุดของนางสองคน
Redmayne เป็นไอนาร์ได้ซับซ้อนกว่าตอนเป็นลิลลี่ ที่พอแต่งหญิงแล้วต้องผินหน้าละมุนนี 45 องศาเข้ากล้อง ทำตาปรือ จือปากสั่นตามถนัดทุกครั้งจนสังเกตได้ คล้ายคนชอบถ่ายเซลฟี่ที่รู้มุมเก่งของตัวเอง
The Danish Girl ที่แท้จริงคือ Vikander รับบทหนักจากภรรยาก๋ากั่น ยันใจสลายที่ผู้ชายของตัวเองเปลี่ยนแปลง ร้องไห้แรงขอสามีคืนก็ไม่กลับมา แต่นางก็ทำตามสัญญาที่ให้คนรักไว้ครั้งไปออกงานด้วยกันในคราบเพื่อนสาวว่า ‘ชั้นไม่มีวันทอดทิ้งเธอ’ แสดงได้ดีมาก (ซีนรถไฟพีคจัด) คือหนังเป็นของเธอไปเลย
หนังเฉิ่มเชยแต่ดูเพลิน องค์ประกอบศิลป์งามโดยเฉพาะฉาก เครื่องแต่งกายและถ่ายภาพ โล่งใจที่ผกก. Tom Hooper เพลามือจากการใช้ Close-up พร่ำเพรื่อแล้ว
รักภาพวาดของเกอร์ด้า เป็นงานศิลปะที่สองคนร่วมกันรังสรรค์ปั้นแต่งขึ้นไม่ต่างจากการใช้ชีวิตคู่ การยอมรับและถ่ายทอดความงามจากตัวตนของคู่ครองทำให้เธอเป็นศิลปินหญิงแกร่งที่โลกยอมรับ ในขณะเดียวกันก็ปลดปล่อยลิลี่ให้โบยบินในแบบที่เธอเป็นอย่างแท้จริง
เกรด | B+
The Danish Girl ฉายรอบพรีวิวหลังสองทุ่มถึงพุธ 3 ก.พ. รอบปกติ 4 ก.พ. จ้ะ
แบ่งปันบทความจาก https://www.facebook.com/jijabanang