รีวิวหนัง : The Danish Girl คนรักเปลี่ยนแปลง ความรักคงเดิม



The Danish Girl ภาพยนตร์จากบทประพันธ์ของ เดวิด อีเบอร์ชอฟฟ์ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องจริงของ ไอนาร์ เวเกเนอร์ ศิลปินชาวเดนมาร์ก กับการแปลงเพศเป็น ลิลี่ เอลบี ในยุคปี20 ซึ่งถือเป็นการผ่าตัดทางเพศครั้งแรกๆของโลก แน่นอนว่ามันคือเรื่องที่อันตรายมาก หนังกำกับโดย ทอม ฮูเปอร์ เจ้าของผลงาน The King’s Speech และ Les Misérables และได้ เอ็ดดี้ เรดเมย์น กับ อลิเชีย วิกันเดอร์ มารับบทนำ

หนังเล่าถึงปี 1926 ในกรุงโคเปนเฮเกน ไอนาร์ เวเกเนอร์  (เอ็ดดี้ เรดเมย์น) ศิลปินหนุ่มนักวาดภาพที่กำลังโด่งดัง อาศัยอยู่อย่างสงบกับภรรยา เกอร์ด้า เวเกเนอร์ (อลิเชีย วิกันเดอร์) ศิลปินสาวผู้ร่าเริง จนกระทั่ง เกอร์ด้า ขอให้ ไอนาร์ เป็นแบบวาดเท้าผู้หญิงแทนเพื่อนของเธอที่ไม่ว่าง ไอนาร์ รู้สึกขวยเขินในช่วงแรก ก่อนที่จะรู้สึกชอบในใจ

เขามาสับสนเข้าไปอีกเมื่อถูกภรรยาจับเแต่งเป็นหญิงไปงานเลี้ยงด้วยความรู้สึกสนุก โดย เกอร์ด้า ตั้งชื่อเขาว่า ลิลี่ แต่ดันมีผู้ชายในงานเดินเข้ามาจีบจริงๆ ขณะเดียวกันภาพวาดของ เกอร์ด้า ที่วาด ไอนาร์ ตอนแต่งหญิงกลับได้รับความนิยมในหมู่นักสะสมศิลปะอย่างไม่น่าเชื่อ นั่นเองคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตของทั้งคู่

บทภาพยนตร์ของ The Danish Girl ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียวกับการเผยให้เห็นความยากลำบากในการใช้ชีวิตของผู้เบี่ยงเบนทางเพศในอดีต นอกจากสังคมไม่ยอมรับ ทางการแพทย์ยังมองว่าพวกเขาป่วยทางจิตอีก โชคดีที่ ไอนาร์ มีภรรยาประเสริฐมาก แม้เธอจะยอมรับตัวตนของเขาไม่ได้ทั้งหมด แต่ ไอนาร์ ก็พยายามเข้าใจในความเปลี่ยนแปลงของสามี และเลือกที่จะยืนหยัดเคียงข้างเขา ซึ่งใครที่ทำแบบนี้ได้จิตใจต้องเข้มแข็งมาก

ส่วน ไอนาร์ น่าชื่นชมในความกล้าหาญที่จะต่อสู้เพื่อให้ได้ใช้ชีวิตในตัวตนที่แท้ คือการเป็น ลิลี่ เอลบี ที่เขามีความสุขกว่าตอนเป็นผู้ชาย กระนั้นมันก็อาจต้องแลกมากับทุกอย่างในชีวิตที่เขามี สำหรับสิ่งที่งดงามที่สุดในเรื่องคือความสัมพันธ์ของ ไอนาร์ กับ เกอร์ด้า และ ลิลี่ กับ ไอนาร์ สถานะของทั้งสองอาจผันแปรจากคนรักเป็นเพื่อนรัก ทว่าความรักที่มีให้กันยังคงเดิม

อลิเซีย แสดงได้เด่นมาก ถ่ายทอดอารมณ์ดี อันที่จริงตัวละคร เกอร์ด้า ก็น่าสงสารไม่แพ้ ลิลี่ ใครเลยจะทำใจได้เมื่อจู่ๆสามีกลายเป็นผู้หญิง แย่งชุดนอนของเธอไปใส่ เอาเครื่องสำอางค์ของเธอไปใช้ มันเป็นความทุกข์ตรมที่สาวๆหลายคนอาจขอเลือกให้สามีตัวเองไปเจ้าชู้มีเมียน้อยยังดีซะกว่า น่าเห็นใจกว่าคือหลายคนอาจรู้สึกโทษตัวเอง ทั้งๆที่ไม่ใช่ความผิดพวกเธอเลย ด้าน เอ็ดดี้ เข้าถึงตัวละครได้แนบเนียน จริตจะก้านแบบสาวแตกมาเต็ม พูดภาษาบ้านๆก็ต้องบอกว่า แรดได้อีก เป็นอีกครั้งที่เขามาพร้อมกับคาแร็กเตอร์น่าจดจำ มาทิอัส โชนาร์ท กับบทเพื่อนวัยเด็กของ ไอนาร์ เขามีความสำคัญในแง่ของการเป็นตัวละครชายแมนเต็มขั้นไม่กี่คนในเรื่อง ช่วงดึงให้โทนหนังไม่อ่อนหวานเกินไป อีกคนที่อยากน่าพูดถึงคือ เบน วิสชอว์ ซึ่งแสดงเป็นชายรักร่วมเพศซึ่งชอบ ลิลี่ ไม่แปลกที่ฉากเลิฟซีนต่างๆจะสมจริง เพราะ เบน เองก็เป็นชายรักร่วมเพศ

The Danish Girl คือโศกนาฏกรรมของคนรักร่วมเพศยุคบุกเบิก สื่อให้เห็นว่าการเป็นกระเทยไม่ใช่เรื่องผิดบาปอะไร เพียงแต่เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองหรือคนรอบข้าง น่าเสียดายที่หนังไม่ได้นำเสนอออกมาให้เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย กลุ่มที่อินเป็นพิเศษน่าจะเป็นชาวรักร่วมเพศ รองมาคงเป็นผู้ชมผู้หญิง ส่วนคนดูผู้ชายหลายประเด็นพวกเขาอาจมองว่ามันไกลตัวไปสักหน่อย

คะแนน 7.5/10

โดย นกไซเบอร์

เครดิต https://www.facebook.com/cyberbirdmovie

ตัวอย่างหนัง http://movie.bugaboo.tv/watch/207213/?link=4
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่