สวัสดีครับพี่ๆเพื่อนๆ วันนี้หนึ่งมาแต่งหน้าจากลุคในหนังอีกแล้ว หนังเรื่องนี้พึ่งเข้าฉายไปในช่วงต้นเดือน เชื่อว่าหลายๆคนที่ได้ดูก็คงจะมีความอินกับเรื่องพอสมควรเลย



the Danish Girl นั่นเอง เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวของสาวประเภทสองนางนึงที่ชื่อว่า ลิลี่ เอลเบ (Lili Elbe) เป็นเรื่องราวตั้งแต่ที่นางยังเป็นผู้ชายและค่อยๆกลายมาเป็นผู้หญิง กึ่งๆจะเป็นอัติชีวประวัติแจ่ก็ดูแล้วสนุก ไม่เครียด เล่าเรื่องส่วนใหญ่ผ่านตัวละครของลิลี่ และภรรยาที่คอยอยู่เคียงข้าง



แน่นอนว่า ลุคที่จะมาแต่งวันนี้คือ ลิลี่ เอลเบ (Lili Elbe) แน่นอน เจ๊ลี่นั้นรับบทโดย เอ็ดดี้ เรดเมย์น (Eddie Redmayne) ซึ่งเรื่องนี้เล่นได้ดีจริงๆ ทำเอาคนดูอินไปตามๆกัน เอาล่ะ วันนี้หนึ่งจะมาแต่งลุคลิลี่ดูบ้าง ดูซะว่าจะอินมั้ย 555 ที่แน่ๆคนแต่งนี่แหละ อินสุดนะ



ลงไพรเมอร์และใช้กาวแท่งเก็บคิ้วและจอน เพราะเดี๋ยวเราจะเขียนคิ้วใหม่และใส่วิก (ที่ไม่ได้ปิดถึงจอน ) เลยจะต้องมีการเก็บจอนกันหน่อย



ลงรองพื้นที่สว่างกว่าผิว เพราะผิวเจ๊ลี่ ขาวจริงไรจริง ยังไม่พอ ไฮไลท์เพิ่มมิติด้วยรองพื้นสีขาว และเซตทุกอย่างด้วยแป้งสีสว่าง



ด้วยความที่ตัวละครนี้ เค้ามีกระให้เห็นประปราย เราจึงต้องมีด้วย ใช้ดินสอเขียนคิ้วที่เนื้อนิ่มหน่อย เขียนกระไปทั่วๆแล้วเอานิ้วเกลี่ยๆเบลนๆประมาณนึง จากนั้นคอนทัวร์จมูกเป็นทรงชมพู่ (แอบเน้นปลายจมูกให้ดูกลมๆ) แล้วคอนทัวร์กรอบหน้าแบบปกติ หน้าไม่ต้องตอบมาก



ลิลี่ ก็มีความหน้าวาวได้ จริงๆเมคอัพยุคนั้น(ยุค20)เน้นสีแมท แต่เราขอเติมไฮไลท์เบาๆไม่เอะอะนิดหน่อย จะได้ดูมีน้ำมีนวดขึ้นมาบ้าง ปัดเท่าที่สบายใจ



เขียนคิ้วกัน คิ้วเจ๊ลี่นั้น จริงๆก็คือทรงคิ้วของเอ็ดดี้ปกติแหละ แต่เราไม่มีแบบเค้า เราเลยต้องเขียนใหม่ให้เล็กลงและยกขึ้นเล็ดน้อย เขียนไม่ต้องคมมาก มีความเบลอความอะไรได้ เขียนเสร็จทับด้วยฝุ่นและเกลี่ยหัวคิ้วให้สว่างๆ ให้คิ้วดูซอฟหน่อย



ตาค่ะตา ด้วยความที่หนึ่งนั้นไม่มีชั้นตา หรือตาสองชั้นที่ชัดๆ อย่าแคร์ ทำเอาค่ะ! เขียนชั้นตาเบาๆด้วยดินสอสีน้ำตาล เน้นเส้นที่กินมาทางหัวตามากกว่าหาง แล้วใช้สีน้ำตาลอ่อนในการเกลี่ย จบด้วยสีดำเน้นให้ชั้นชัดขึ้นนิดนึง (นิดนึงจริงๆเดี๋ยวเยอะไป)



สร้างถุงใต้ตาเบาๆด้วยชาโดว์สีอ่อนๆ เขียนเงาข้างใต้ด้วยสีน้ำตาล เขียนขอบตาด้วยฝุ่นเส้นบางๆแล้วปัดมาสคาร่า คือจบค่ะ ตาเรามาเท่านี้พอ



ด้วยความมันในอารมณ์ อยากเติมกระเข้าไปอีกก็เติมค่ะ แล้วปัดเบาๆด้วยแป้งสีสว่างให้กระจางลงนิดนึง ดูเป็นธรรมชาติ จากนั้นปัดแก้มด้วยสีอมส้มๆ ที่ดูแบบว่า โดนแดดบ้างไรบ้าง



ลิปกันเลย เลือกใช้ลิปเนื้อแมททั้งหมด แต่ก็ไม่ได้แมทแห้งเกินไป เริ่มจากสีน้ำตาลด้านใน สีแดงมะเขือเทศด้านนอก และสีส้มตรงกลางๆปาก แล้วเกลี่ยๆให้กลืนกัน ถ้ารู้สึกสีชัดไปก็ตบด้วยลิปสีน้ำตาลลงไปอีกทีเบาๆ



เขียนอินเนอร์ด้วยสีขาว ใส่คอนแทค เปลี่ยนชุด ใส่วิกทรงเทกระจาด ก็เสร็จแล้วจ่ะ ลิลี่ เอลเบ หรือเจ๊ลี่ ในเวอร์ชั่นของน้อยหนึ่ง ดูนางเอกมะ ดูหวานมะ ก็ไม่ 555






จ่ะ นี่คือลุคของ ลิลี่ เอลเบ ที่เราแต่งออกมา จะบอกว่าหนีบมาก แววตาก็ต้องเล่นอ่อนโยนไปมา เล่นโลกสวย เล่นใสๆ คือเหนื่อยมากกับการคีพความเป็นนางเอกแบบไม่ประสาโลก 555 แต่ก็พอได้แหละเนอะ ใครที่ได้ดู the Danish Girl แล้วจะรู้ว่า จริตของนางชนะเลิศจริงๆ ดูไปก็อมยิ้มไป ได้แต่คิดว่า นักแสดงคงต้องทำการบ้านกันมาเยอะมากๆ ทั้งตัวบทลิลี่ และบทภรรยาของลิลี่ (Alicia Vikander) ก็เล่นดีมากๆ เรื่องนี้มีแค่สองคนนี้ก็เอาอยู่ โดยรวมแล้วชอบมาก และรู้สึกสนุกดีที่ได้แต่งลุคนี้
.
.
เมคอัพลุคนี้ จริงๆก็พยายามจะอิงจากในภาพยนตร์มากที่สุด ซึ่งภาพยนตร์ก็อิงมาจากยุค 20 อีกทีหนึ่ง เป็นเมคอัพง่ายๆ สีไม่ฉูดฉาด เป็นเนื้อแมท ซึ่งมีพิเศษนิดนึงตรงที่หนึ่งต้องเขียนรอยกระให้ดูเป็นงานฝรั่งเบาๆ แต่ต้องสร้างตาสองชั้นขึ้นเล็กน้อยแบบเน้นหัวตา ไม่เน้นทั้งตา เขียนคิ้วใหม่ให้บางและโก่งขึ้นนิดหน่อย บวกกับอินเนอร์ความหวานแบบไม่มีเหตุผล 555 โดยรวมก็ประมาณนี้เด้อ
http://www.facebook.com/noyneungmakeup
http://instagram.com/noyneungmakeup
http://noyneungmakeup.bloggang.com
.
.
แอบมีคลิปมาให้ดูกันด้วยนะเออ ไม่ธรรมดาจริงๆ 555 ขอบคุณคลิปจากทีมงาน springme ด้วยนะครับ ^^


ขอบคุณนะครับที่เข้ามารับชม หวังว่าคงได้ประโยชน์
และสนุกสนานไปพร้อมๆกัน คิดเห็นอย่างไรก็โพสคุยกันได้นะครับ ลุคต่อไปจะเป็นอะไร
รอติดตามชมกันนะครับ แล้วเจอกัน บ๊ายบายครับ จุ๊บๆ ^^