The Danish girl 2015 การแสดงทรงพลัง กับหนังที่ไปไม่สุด

เมื่อวานได้ไปดู The Danish girl รอบพิเศษจากการเล่นเกมในเพจโรงภาพยนตร์ค่ะ



ขออนุญาติไม่กล่าวถึงเรื่องย่อนะคะ เพราะหาอ่านได้จากเว็บทั่วไป
ขอเข้าส่วนรีวิวเลย

เรื่องนี้เราอยากดูมานานมากแล้วตั้งแต่ประกาศสร้าง
จนตัวอย่างออกมา ยิ่งวนดูตัวอย่างหลายๆรอบยิ่งทวีความอยากดู

จนได้ดู พร้อมความคาดหวังเต็มเปี่ยม...

หนังไปได้ไม่สุด ไม่ถึงที่คาดหวังไว้เท่าที่ควร

แต่ได้การแสดงของนักแสดงนำทั้งสองที่ทรงพลังมากมาค้ำและแบกหนังไว้

Eddie Redmayne นี่ขออนุญาติแฝงพลังอวยไปด้วยนะ (เป็นติ่ง ยอมรับเลย) เล่นดี เล่นถึง เล่นจนรู้สึกว่าเฮียแกไม่ได้เล่น แต่นั่นคือตัวเอง แววตา สีหน้า เสียงพูด จริตจก้านได้หมด ดูแล้วเชื่อว่านี่แหละ ลิลี่ เอลเบ !!

Alicia Vikander ด้วยความที่อายุน้อย แต่เล่นใหญ่เกินอายุ นางแสดงเป็นคนที่เกินวัยตัวเองได้ดีน่าปรบมือ แสดงดีจนสงสาร เห็นใจ จนแม้ว่าหนังจะไม่สุด แต่เราร้องไห้ไปพร้อมกับตัวละครเกอร์ด้าของนาง

จริงๆแค่ดูสองนักแสดงนำก็คุ้มแล้วนะ

ทีนี้มาเรื่องหนัง

****ส่วนนี้มีสปอยนะคะ ****
พอดีพิมพ์ใน app มือถือซ่อนสปอยไม่ได้

หนังหยิบยกเรื่องราวในช่วงชีวิตแต่งงานของไอนาร์และเกอร์ด้า คู่สามีภรรยาจิตรกรในเดนมาร์ก โดยฉากแรกๆจะเห็นได้ว่า สามีคือไอนาร์ มีฝีมือในงานเขียนภาพถูกจริตกับรสนิยมของคนยุคนั้นมากกว่าภรรยาอย่างเห็นได้ชัด จนอาจเกิดเป็นปมเล็กๆในใจของเกอร์ด้าที่อยากจะประสบความสำเร็จในสายอาชีพนี้เช่นเดียวกับสามี

ความถนัดของเกอร์ด้าคือการวาดภาพคน
ของไอนาร์คือภาพทิวทัศน์

อันนี้เราคิดส่วนตัวนะคะ เราคิดว่าการที่ไอนาร์วาดภาพทิวทัศน์โดยอิงจากภาพบ้านเกิดของตัวเองออกมาได้สวยงามเพราะไอนาร์มีความเชื่อในสิ่งที่ตนเองวาด มันสะท้อนถึงบุคลิกที่แน่วแน่ของไอนาร์ แม้จะเป็นจุดเล็กๆก็ตาม
ส่วนเกอร์ด้า ภาพคน ยังไม่มีแรงดึงดูดมากพอ เพราะเกอร์ด้าเป็นคนมั่นใจ ออกจะตรงๆ ถ้าเทียบแล้วถือว่าห้าวพอสมควรกับสาวๆในยุคนั้น ภาพหญิงสาวในยุคนั้นที่จำเป็นต้องขายความงามแบบอ่อนช้อย  
เกอร์ด้าวาดไม่ได้ จนกระทั่งเกอร์ด้าได้ให้ไอนาร์ลองแต่งหญิง และเกิดเป็นเรื่องราวขึ้นมา

สิ่งที่ทำให้คู่สามีภรรยาคู่นี้อยู่ด้วยกันได้ เรามองว่ามันเป็นความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไอนาร์แต่งหญิง ทำให้เกอร์ด้าวาดภาพแล้วประสบความสำเร็จ เกอร์ด้าเป็นผู้จุดประกายให้ลิลี่ได้ตื่นขึ้น ซึ่งตรงนี้ตัวไอนาร์เองก็บอกไว้ว่าลิลี่เกิดขึ้นพร้อมตัวเขา แต่ตื่นขึ้นมามีตัวตนจริงได้เพราะเกอร์ด้า

เกอร์ด้าอาจต้องทนทุกข์กับชีวิตที่สามีตนเองกลายเป็นผู้หญิง ต้องมองสามีของตัวเองไปมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่น ซึ่งเรามองว่าน่าสงสารมาก แต่นางเข้มแข็งไง นางเป็นหญิงแกร่งที่ขัดกับบุคลิกของผู้หญิงในยุคนั้นมากๆจริงๆ

แต่ลิลี่ต้องเผชิญกับความกดดันในสังคม ความเจ็บป่วยของร่างกายแบบชายที่ต่อต้านจิตใจอยู่ตลอด สังคมในสมัยก่อ การเปิดกว้างเรื่องข้ามเพศเป็นเรื่องที่แทบจะยอมรับไม่ได้ิเห็นได้จาก แพทย์ส่วนมากยังวินิจฉัยให้ไอนาร์เป็นโรคทางประสาท เป็นบ้า ถึงกับจะจับมัดขังไว้เพราะป่วยจิต หรือคนในสังคมที่พอเห็นสภาพของไอนาร์แล้วรุมทำร้ายเพียงเพราะคิดว่าเป็นคนไม่ปกติ  ทุกอย่างที่ไอนาร์เผชิญ เหมือนห้องขังที่มองไม่เห็นปิดกั้นไอนาร์ไว้ จนทำให้ไอนาร์ต้องการที่จะกลายเป็นผู้หญิงอย่าสมบูรณ์ ถึงกับยอมเสี่ยงชีวิตรับการผ่าตัดที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน

แม้ว่าการผ่าตัดรอบแรกจะผ่านไปได้ แต่การผ่าตัดอีกรอบ พรากเอาชีวิตของไอนาร์/ลิลี่ไปอย่างถาวร

เราชอบมุมกล้องและฉากต่างๆในเรื่องที่เล่าแบบมุมจำกัด มักจะเป็นมุมแคบๆ เราคิดว่ามันสื่อถึงความคับอกคับใจ การถูกปิดกั้น

จนในที่สุด ฉากสุดท้าย เป็นฉากบ้านเกิดไอนาร์ มุมกล้องเป็นแบบกว้างที่เห็นวิวสุดลูกหูลูกตาพร้อมกับที่เกอร์ด้ายอมปล่อยให้ผ้าพันคอของลิลี่ปลิวลอยสู่ฟ้า

มันคือการปลดปล่อยลิลี่ให้เป็นอิสระ ...

..................................................

เล่าเรื่องหนังมาเยอะแล้ว
ทีนี้ หนังมีข้อติใหญ่ๆเลยคือ
หนังมันไม่ถึงเครื่อง ไม่สุด ไม่กระชากใจเท่าที่ควร
ถามว่าชอบมั้ย แน่นอนว่าชอบค่ะ
แต่หนังพลาดที่เรื่องการเล่าช่วงเวลา เพราะตามประวัติจริงๆ คู่นี้เผชิญเหตุการณ์นี้มาเกือบ 20 ปี
แต่หนังเล่าเหมือนเรื่องเกิดขึ้นภายในเวลาไม่นาน ทำให้คนไม่สามารถอินกับความรู้สึกของตัวละครได้มากพอ

ซึ่งโดยสรุป เนื้อเรื่องโอเคค่ะ การเล่าเรื่องไม่ค่อยผ่าน การแสดงเต็มสิบ

.................................................

รีวิวนี้เป็นรสนิยมส่วนตัวนะคะ มาพูดคุยกันได้ค่ะ ยิ้ม

ขอบคุณค่ะ ,Violettabel

**ไม่มีเพจนะคะ รีวิวบ้านๆจากคนบ้านๆที่ชอบดูหนัง ^^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่