ตุ๊กตุ๊กไทย ยานยนต์ระดับประเทศ ที่ไม่ก้าวไปไหน หรือแท้จริงแล้วก้าวไปไหนไม่ได้

เริ่มจากเห็นหัวข้อข่าวนี้ใน เว็บ VoiceTV "ตุ๊กตุ๊กไทย ดังระดับโลก แต่ถูกควบคุม"
http://news.voicetv.co.th/thailand/319482.html
ปล.แทรกคลิปไม่ได้ซะงั้น

แต่โดยใจความของคลิประบุว่า
แม้ว่ารถตุ๊กตุ๊กจะเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของประเทศไทย ที่ทั่วโลกล้วนจดจำ
จนมีการนำไปทำเป็น ของตกแต่งในพื้นที่ ที่ต้องการแสดงออกถึงความเป็นไทย เช่นร้านอาหาร
หรือแม้แต่สำนักงานกูเกิ้ลประเทศไทย ก็มีรถตุ๊กตุ๊ก เป็นของตกแต่งเช่นเดียวกัน





ภาพยนต์ดังหลายๆเรื่อง ที่มาถ่ายทำในประเทศไทย จำเป็นต้องมีรถตุ๊กตุ๊ก อยู่ในฉากทั้งนั้น
แทบจะเรียกได้ว่า ถ้าไม่นับช้างไทย ตุ๊กตุ๊กนี่แหละ ที่เป็นยานยนต์ของประเทศไทยอย่างแท้จริง
ถ้าหากถือว่า ตุ๊กตุ๊ก เป็นแบรนด์ แบรนด์นี้ย่อมมีมูลค่าในตลาดไม่น้อย เพราะมีเอกลักษณ์ในตัวเองอย่างโดดเด่น
ผมเคยดูรายการท๊อปเกียร์ที่นำรถสามล้อ ในอังกฤษ มาขับทดสอบสมรรถนะ เห็นแล้วอยากจะบอกว่า ตุ๊กตุ๊กไทยดีกว่ามาก
หากเทียบกันแล้ว ผมว่าในความเป็นสัญลักษณ์นั้น รถตุ๊กตุ๊ก ทำได้ดีเทียบเท่ารถมินิ ของอังกฤษ (แม้ตอนนี้จะเป็นของ BMW)
แต่มันก็มีความเป็น สัญลักษณ์ ของอังกฤษ อยู่เต็มตัว หรือรถโฟร์คสวาเก้น รุ่นBeetles ของเยอรมันฯ เลยนะครับ



คำถามที่ตามมาคือ "แล้วทำไมถึงไม่มีใครพัฒนารถตุ๊กตุ๊ก ให้มันดีกว่านี้ล่ะ?" ในเมื่อดูตลาดแล้ว น่าจะมีอนาคตที่สดใส
รวมถึงน่าจะทำให้มรการจ้างงาน จ้างนักวิจัย จ้างดีไซน์เนอร์ อีกมหาศาล แต่ทำไมมันถึงไม่เกิดขึ้น ทั้งๆที่เรามีรถตุ๊กตุ๊กใช้มานานมากแล้ว
ในคลิปนั้นมีการกล่าวถึง กฏระเบียบ "การจดทะเบียนรถยนต์สามล้อรับจ้าง" ที่จำกัดใว้เฉพาะผู้ที่เป็นนิติบุคคลเท่านั้น
ผมเลยไปหาข้อมูลเพิ่มเติม พบว่า การจดทะเบียนนี้ มีข้อกำหนดทั้งในด้านปริมาณ และวัตถุประสงค์
เช่นในปี 58 มีการเปิดให้ลงทะเบียน รถตุ๊กตุ๊ก ตามโครงการสามล้อเอื้ออาทรรอบที่ 2 จำนวน 814 คัน (เทียบไม่ได้กับจำนวนแท๊กซี่ด้วยซ้ำ)
และยังพ่วงข้อจำกัด อีกนิดหน่อย
"โดยผู้ที่จะลงทะเบียนขอใช้สิทธิจดทะเบียน จะต้องเป็นบุคคลธรรมดาที่มีใบขับขี่รถยนต์สามล้อสาธารณะ
มีที่พักอาศัยในเขตกรุงเทพฯ, นครปฐม, นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรสาคร และ สมุทรปราการ
โดยผู้ที่ได้รับสิทธิ 1 ราย นำรถมาจดทะเบียนได้ 1 คัน และห้ามจำหน่าย จ่าย โอน ให้แก่บุคคลอื่นที่มิใช่ทายาทภายใน 2 ปี นับแต่วันที่จดทะเบียน"

ฟังจากในคลิปช่วงเวลาที่ขายดีที่สุด มียอดซื้อถึง 30 คันต่อปี... คันละไม่ถึง 2 แสนบาท รวมแล้วปีละ 6 ล้านบาท
แทบจะมองได้ว่า เป็นธุรกิจขนาดเล็ก ที่ตลาดไม่มีวันโต เลยก็ว่าได้ เพราะความต้องการของตลาดมันถูกจำกัดด้วยเงื่อนไขทางกฏหมาย



เราคาดหวังว่า วันหนึ่งเราจะมีรถยนต์แบรนด์ไทย ของไทยเราเอง... ดูจากความเป็นจริงแล้ว มันคงเป็นเรื่องเพ้อฝันไม่น้อย
ในเมื่อความเป็นจริง เมื่อเรามองดูในสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว ดูในสิ่งที่เราทำกับสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว ทั้งๆที่เราผลักดันให้มันเป็นสัญลักษณ์ของเรา
แต่เรากลับจำกัดการเจริญเติบโตของมันอย่างมาก ราวกลับว่าไม่อยากให้มีใครใช้มัน ไม่อยากให้มีใครได้ครอบครอง เป็นเจ้าของยานยนต์นี้
ไม่อยากให้มันเป็นยานพาหนะส่วนบุคคล ยานพาหนะสำหรับทุกๆคน เลยไม่แน่ใจจริงๆว่า เราภูมิใจในรถตุ๊กตุ๊กจริงหรือไม่

ทุกวันนี้เรามองว่าเราเป็นดีทรอยส์แห่งเอเชีย... เราคือแหล่งผลิตรถยนต์สำหรับภูมิภาคนี้ แต่ดีทรอยส์ของเรา กลับไม่มีแบรนด์ของเราเลย
ลองมองไปดูเมืองดีทรอยส์ในวันนี้สิครับ วันที่ผู้ผลิตรถยนต์ย้านฐานการผลิตออกจากเมือง สภาพเมืองเป็นเช่นไร
มันไม่ใช่แค่ พนักงานของโรงงานที่ผลิตรถยนต์เท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ แต่มันข้องเกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด
นี่ขนาดอเมริกาเป็นเจ้าของแบรนด์ชั้นนำหลานแบรนด์นะครับ แล้วเราล่ะ... หวังว่าวันนี้จะไม่มาถึงนะครับ

ข้องมูลเพิ่มเติม
http://www.thairath.co.th/content/518941
http://www.dailynews.co.th/article/343018

ภาพจาก
http://thailandonfilm.blogspot.com/2015/06/strike-back-legacy-2015tv.html
http://lottery.kapook.com/view138021.html
https://www.spokedark.tv/fashion/fashion-fashion/tuk-tuk-thailand-2/

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่