บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนพฤศจิกายน 2567 ยอดขายตลาดรวม 42,309 คัน ลดลง 31.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 18,000 คัน ลดลง 26.7% ในขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขาย 24,309 คัน ลดลง 34.4% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขายทั้งหมด 14,435 คัน ลดลง 34.7%
ประเด็นสำคัญ
ตลาดรถยนต์เดือนพฤศจิกายน 2567 มียอดขาย 42,309 คัน ลดลง 31.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา กลุ่มตลาดรถยนต์นั่งชะลอตัวที่ 26.7% ด้วยยอดขาย 18,000 คัน ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวเช่นกันที่ 34.4% ด้วยยอดขาย 24,309 คัน และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ทำยอดขายได้ 14,435 คัน ลดลง 34.7% ในส่วนของตลาด xEV มียอดขายทั้งหมด 14,988 คัน คิดเป็นสัดส่วน 35% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด เติบโตลดลง 26% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ยอดขายรถยนต์ HEV 8,373 คัน คิดเป็นสัดส่วน 56% ของตลาด xEV ทั้งหมดเติบโตลดลง 20% และยอดขายรถยนต์ BEV อยู่ที่ 5,870 คัน คิดเป็นสัดส่วน 39% จากยอดขายในกลุ่ม xEV ทั้งหมด ลดลง 36% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ตลาดรถยนต์เดือนธันวาคม มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น จากยอดจองทั้งหมดรวมทุกยี่ห้อและประเภทรถยนต์ ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 “Thailand International Motor Expo 2024” เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่มาพร้อมกับรถยนต์รุ่นใหม่และแคมเปญกระตุ้นตลาดช่วงสุดท้ายปลายปี ที่แต่ละค่ายต่างขนกันมาแบบจัดเต็ม ทำยอดจองได้ถึง 54,513 คัน เติบโตขึ้น 2.38% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งอาจมีส่วนช่วยในการผลักดันตลาดรถยนต์เดือนธันวาคมให้เติบโตขึ้นได้
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนพฤศจิกายน 2567
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 42,309 คัน ลดลง 31.3%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 17,107 คัน ลดลง 21.2% ส่วนแบ่งตลาด 40.4%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,068 คัน ลดลง 41.7% ส่วนแบ่งตลาด 14.3%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 4,874 คัน ลดลง 33.5% ส่วนแบ่งตลาด 11.5%
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 18,000 คัน ลดลง 26.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 5,751 คัน ลดลง 23.4% ส่วนแบ่งตลาด 32%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 3,829 คัน ลดลง 2.5% ส่วนแบ่งตลาด 21.3%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 1,461 คัน เพิ่มขึ้น 67.5% ส่วนแบ่งตลาด 8.1%
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 24,309 คัน ลดลง 34.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 11,356 คัน ลดลง 20% ส่วนแบ่งตลาด 46.7%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,068 คัน ลดลง 41.7% ส่วนแบ่งตลาด 25%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,603 คัน ลดลง 31% ส่วนแบ่งตลาด 6.6%
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)
ปริมาณการขาย 14,435 คัน ลดลง 34.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 6,521 คัน ลดลง 23.7% ส่วนแบ่งตลาด 45.2%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 5,251 คัน ลดลง 44% ส่วนแบ่งตลาด 36.4%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,603 คัน ลดลง 31% ส่วนแบ่งตลาด 11.1%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 2,954 คัน
โตโยต้า 1,194 คัน - อีซูซุ 918 คัน – ฟอร์ด 640 คัน – มิตซูบิชิ 149 คัน – นิสสัน 53 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 11,481 คัน ลดลง 35.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 5,327 คัน ลดลง 25.2% ส่วนแบ่งตลาด 46.4%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 4,333 คัน ลดลง 45% ส่วนแบ่งตลาด 37.7%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 963 คัน ลดลง 34.9% ส่วนแบ่งตลาด 8.4%
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2567
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 518,659 คัน ลดลง 26.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 199,487 คัน ลดลง 17.5% ส่วนแบ่งตลาด 38.5%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 77,429 คัน ลดลง 45.3% ส่วนแบ่งตลาด 14.9%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 67,322 คัน ลดลง 20.3% ส่วนแบ่งตลาด 13%
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 203,421 คัน ลดลง 23.6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 59,784 คัน ลดลง 35% ส่วนแบ่งตลาด 29.4%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 41,169 คัน ลดลง 19.7% ส่วนแบ่งตลาด 20.2%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 16,640 คัน เพิ่มขึ้น 16.4% ส่วนแบ่งตลาด 8.2%
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 315,238 คัน ลดลง 28.5%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 139,703 คัน ลดลง 6.7% ส่วนแบ่งตลาด 44.3%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 77,429 คัน ลดลง 45.3% ส่วนแบ่งตลาด 24.6%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 26,153 คัน ลดลง 21.3% ส่วนแบ่งตลาด 8.3%
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)
ปริมาณการขาย 181,286 คัน ลดลง 39.8%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 82,940 คัน ลดลง 29.8% ส่วนแบ่งตลาด 45.8%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 67,267 คัน ลดลง 47.1% ส่วนแบ่งตลาด 37.1%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 19,023 คัน ลดลง 43.4% ส่วนแบ่งตลาด 10.5%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 32,349 คัน
โตโยต้า 11,476 คัน - อีซูซุ 11,121 คัน - ฟอร์ด 7,287 คัน – มิตซูบิชิ 2,038 คัน – นิสสัน 427 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 148,937 คัน ลดลง 39.3%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 71,464 คัน ลดลง 26.9% ส่วนแบ่งตลาด 48%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 56,146 คัน ลดลง 47.9% ส่วนแบ่งตลาด 37.7%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 11,736 คัน ลดลง 48.2% ส่วนแบ่งตลาด 7.9%
ตลาดรถยนต์เดือนพฤศจิกายนชะลอตัว ยอดขาย 42,309 คัน ลดลง 31.3%
ประเด็นสำคัญ
ตลาดรถยนต์เดือนพฤศจิกายน 2567 มียอดขาย 42,309 คัน ลดลง 31.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา กลุ่มตลาดรถยนต์นั่งชะลอตัวที่ 26.7% ด้วยยอดขาย 18,000 คัน ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวเช่นกันที่ 34.4% ด้วยยอดขาย 24,309 คัน และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ทำยอดขายได้ 14,435 คัน ลดลง 34.7% ในส่วนของตลาด xEV มียอดขายทั้งหมด 14,988 คัน คิดเป็นสัดส่วน 35% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด เติบโตลดลง 26% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ยอดขายรถยนต์ HEV 8,373 คัน คิดเป็นสัดส่วน 56% ของตลาด xEV ทั้งหมดเติบโตลดลง 20% และยอดขายรถยนต์ BEV อยู่ที่ 5,870 คัน คิดเป็นสัดส่วน 39% จากยอดขายในกลุ่ม xEV ทั้งหมด ลดลง 36% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ตลาดรถยนต์เดือนธันวาคม มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น จากยอดจองทั้งหมดรวมทุกยี่ห้อและประเภทรถยนต์ ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 “Thailand International Motor Expo 2024” เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่มาพร้อมกับรถยนต์รุ่นใหม่และแคมเปญกระตุ้นตลาดช่วงสุดท้ายปลายปี ที่แต่ละค่ายต่างขนกันมาแบบจัดเต็ม ทำยอดจองได้ถึง 54,513 คัน เติบโตขึ้น 2.38% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งอาจมีส่วนช่วยในการผลักดันตลาดรถยนต์เดือนธันวาคมให้เติบโตขึ้นได้
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนพฤศจิกายน 2567
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 42,309 คัน ลดลง 31.3%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 17,107 คัน ลดลง 21.2% ส่วนแบ่งตลาด 40.4%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,068 คัน ลดลง 41.7% ส่วนแบ่งตลาด 14.3%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 4,874 คัน ลดลง 33.5% ส่วนแบ่งตลาด 11.5%
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 18,000 คัน ลดลง 26.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 5,751 คัน ลดลง 23.4% ส่วนแบ่งตลาด 32%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 3,829 คัน ลดลง 2.5% ส่วนแบ่งตลาด 21.3%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 1,461 คัน เพิ่มขึ้น 67.5% ส่วนแบ่งตลาด 8.1%
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 24,309 คัน ลดลง 34.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 11,356 คัน ลดลง 20% ส่วนแบ่งตลาด 46.7%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,068 คัน ลดลง 41.7% ส่วนแบ่งตลาด 25%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,603 คัน ลดลง 31% ส่วนแบ่งตลาด 6.6%
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)
ปริมาณการขาย 14,435 คัน ลดลง 34.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 6,521 คัน ลดลง 23.7% ส่วนแบ่งตลาด 45.2%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 5,251 คัน ลดลง 44% ส่วนแบ่งตลาด 36.4%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,603 คัน ลดลง 31% ส่วนแบ่งตลาด 11.1%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 2,954 คัน
โตโยต้า 1,194 คัน - อีซูซุ 918 คัน – ฟอร์ด 640 คัน – มิตซูบิชิ 149 คัน – นิสสัน 53 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 11,481 คัน ลดลง 35.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 5,327 คัน ลดลง 25.2% ส่วนแบ่งตลาด 46.4%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 4,333 คัน ลดลง 45% ส่วนแบ่งตลาด 37.7%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 963 คัน ลดลง 34.9% ส่วนแบ่งตลาด 8.4%
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2567
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 518,659 คัน ลดลง 26.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 199,487 คัน ลดลง 17.5% ส่วนแบ่งตลาด 38.5%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 77,429 คัน ลดลง 45.3% ส่วนแบ่งตลาด 14.9%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 67,322 คัน ลดลง 20.3% ส่วนแบ่งตลาด 13%
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 203,421 คัน ลดลง 23.6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 59,784 คัน ลดลง 35% ส่วนแบ่งตลาด 29.4%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 41,169 คัน ลดลง 19.7% ส่วนแบ่งตลาด 20.2%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 16,640 คัน เพิ่มขึ้น 16.4% ส่วนแบ่งตลาด 8.2%
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 315,238 คัน ลดลง 28.5%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 139,703 คัน ลดลง 6.7% ส่วนแบ่งตลาด 44.3%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 77,429 คัน ลดลง 45.3% ส่วนแบ่งตลาด 24.6%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 26,153 คัน ลดลง 21.3% ส่วนแบ่งตลาด 8.3%
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)
ปริมาณการขาย 181,286 คัน ลดลง 39.8%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 82,940 คัน ลดลง 29.8% ส่วนแบ่งตลาด 45.8%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 67,267 คัน ลดลง 47.1% ส่วนแบ่งตลาด 37.1%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 19,023 คัน ลดลง 43.4% ส่วนแบ่งตลาด 10.5%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 32,349 คัน
โตโยต้า 11,476 คัน - อีซูซุ 11,121 คัน - ฟอร์ด 7,287 คัน – มิตซูบิชิ 2,038 คัน – นิสสัน 427 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 148,937 คัน ลดลง 39.3%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 71,464 คัน ลดลง 26.9% ส่วนแบ่งตลาด 48%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 56,146 คัน ลดลง 47.9% ส่วนแบ่งตลาด 37.7%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 11,736 คัน ลดลง 48.2% ส่วนแบ่งตลาด 7.9%