เป็นครั้งแรกกับการเดินทางไกลไปถึงเกาหลี ด้วยเงินเก็บที่มีทั้งหมด ยกขบวนกันไปทั้งบ้าน สูงวัยทั้งนั้น อยากจะมาแชร์ความรู้สึก ประสบการณ์ที่ได้ไป ถ้าข้อมูลตรงไหนผิด ขออภัยล่วงหน้าเลยคะ งานนี้เล่าจากความรู้ส่วนตัว และความรู้สึกล้วนๆคะ
นี่คือโฉมหน้าของพวกเขา ...
จากภาพ .. จะเห็นได้ว่า สูงวัยล้วนๆ 60 อัพทั้งนั้น วัยรุ่น (ตอนปลาย) มีแค่ 3 คนคะ (รวมคนถ่ายรูปด้วย)
ด้วยความที่สมาชิกเกือบทั้งหมดแทบจะเป็นผู้ชื่นชอบ "เกาหลี" ฝักใฝ่ในซีรี่ย์ ตามติดชีวีไอดอล พวกเราผู้ซึ่งเป็นวัยรุ่นจึงเริ่มจัดการให้การท่องเที่ยวครั้งนี้ได้เกิดขึ้น
***เริ่มต้นด้วยการส่องโปรแกรมทัวร์***
สารพัดทัวร์เลยคะ ดูจนตาลาย แต่สิ่งที่กำหนดการเลือกโปรแกรมทัวร์ของเราคือ
"เงิน..งบ!!!"
คิดเลยคะ 10000 อัพ แต่ไม่เกิน 20000 20000 ไม่เกิน 30000
เงื่อนไขที่จะผลต่อราคาก็คือ "สายการบิน" และ "โปรแกรมที่พัก"
"สายการบิน!!!" ราคาตั๋วสูงหน่อย ที่นั่งก็กว้างขึ้น นำ้หนักที่จะขึ้นเครื่องก็มากขึ้น อาหารก็อร่อยขึ้น
ด้วยความที่ผู้ใหญ่ไปเยอะคะ เราเลยมองสายการบินก่อนเลย นั่งตั้ง 5 ชั่วโมงกว่า เอาที่สบายขา จึงเล็ง Korean Air ก่อนเลยคะ
"โปรแกรมที่พัก!!!" เราไปช่วงหน้าหนาวบ้านเขา มันเป็นฤดูสกีคะ ดังนั้น ถ้าโปรแกรมทัวร์พาเรานอนที่สกีรีสอร์ทก็จะแพงขึ้นด้วย สำหรับใครที่อยากเล่นสกีเต็มที่ก็ต้องเลือกนอนสกีรีสอร์ทเลยคะ แต่.... ทริปนี้ สูงวัยเยอะคะ ผ่านเลยคะ
เมื่อเราตั้งเงื่อนไขเบื้องต้นได้แล้ว เราก็มาดูโปรแกรมการท่องเที่ยวคะ ซึ่งจากที่ดู... เยอะมาก ก็พบว่าโปรแกรมจะคล้ายๆกันทุกเจ้าเลย ..นามิ กิมจิ ฮันบก สตรอเบอรี สกี Everland..
อ๊ะ แต่หลังจากตาลายไปแล้วสิบตลบ ก็เริ่มเห็นอะไรที่ต่างคะ มีโปรแกรมล่องแม่น้ำฮัน ทำขนมปัง ดู Pang show
ทำไมไม่ฮันบกล่ะ ไปทั้งที?? แอบมองเห็นความวุ่นวายลางๆ คนเยอะ สูงวัยก็เยอะ เด็กๆอย่างเราคงดูแลไม่ไหว ไหนจะชุลมุนกับกรุ๊ปทัวร์อื่นอีก สถานที่ที่ถ่ายก็มักจะเป็นห้องเป็นสตู ไม่ได้อินเท่าได้ถ่ายกับสถานที่จริงสักหน่อย ฮันบกเลยตกไป
เมื่อโปรแกรมลงตัว จะชัวร์ได้ไง จะไม่โดนหลอก ..
ก่อนอื่นเช็คจากกูเกิล พันทิปนี่แหละคะ ทัวร์นี้เสียงลือเสียงเล่าว่าอย่างใดบ้าง ดีไม่ดี มีอยู่จริง คนเคยไป ไม่หรือโดน ถ้ามีคนกล่าวถึงในแง่ดี ดูมีโปรไฟล์ ก็ติดต่อเลยคะ อย่ารอช้า
เราจะไม่เอ่ยถึงชื่อบริษัททัวร์ที่เราไปนะคะ แต่ถ้าอยากรู้ก็ถามได้คะ
ยุคนี้ไลน์คุยกันได้คะ เราสงสัยอะไร การจ่ายเงิน อะไร ยังไง ถามให้หมด เอาให้หายสงสัย
บริษัทนี้ ให้จ่ายเงินส่วนนึงก่อนคะ เพื่อเป็นการยืนยันว่าเราจะไปจริงๆนะ และคิดว่าคงต้องเอาไปดำเนินการบางอย่าง
และต้องจ่ายส่วนที่เหลือทั้งหมดก่อนเดินทาง 25 วันคะ ซึ่งคิดว่าหลายๆบริษัททัวร์ก็ใช้ระบบนี้นะคะ บอกเลยว่าตอนนั้นกังวลเลยคะ เพราะดันมีข่าวว่าทัวร์โกง รับเงินไปแล้วหายตัว!!!! แต่ยังไงเราก็ต้องจ่ายคะ ก็อยากไปนี่คะ
เมื่อทำการจองเป็นที่เรียบร้อย เขาจะขอหน้าแรกพาสปอร์ตเราคะ
ในส่วนของพาสปอร์ตต้องยังไม่หมดอายุภายใน 6 เดือนก่อนเดินทางนะคะ เผื่อใครจะไม่ได้คำนวณว่าใกล้หมดอายุหรือยัง รีบดูเลยคะ
นี่เราไม่ได้ลืมเรื่องสำคัญไปใช่ไหมคะ...????
ความวุ่นวายของการจัดเตรียมเสื้อผ้ากันหนาว...เหนื่อยมาก เพลียใจเลย กังวลสิคะ ว่าผู้ใหญ่บ้านเราจะทนไหวไหม ที่เตรียมไปจะเอาอยู่ไหม แล้วฉันล่ะ จะไหวไหม สำหรับใครที่ไปกันเองก็คงจัดเต็มเลยคะ แฟชั่นเสื้อโค้ท ส่วนตัวนี่ไม่ทันได้คิดเรื่องนี้เลยคะ เอาให้ไม่หนาวก็พอ
ชั้นที่ 1 เสื้อกางเกงฮีทเทคคะ หรือจะลองจอน แล้วแต่เลยคะ แต่มันช่วยได้มากเลย จะ uniquo หรือจะแบรนด์ไหนก็จัดเลยคะ บางคนอาจเห็นฮีทเทคบางเบา จะเอาอยู่เหรอ .. ก็อยู่นะคะ
ชั้นที่ 2 เสื้อแขนยาวหนาๆ สักชั้น บวกกับกางเกงยีนส์หนาหน่อย
ชั้นที่ 3 เสื้อหนาวที่ใส่ยามประเทศไทยหนาวที่สุด ถ้ากรุงเทพฯก็เสื้อหนาวบางหน่อย ถ้าอยู่ทางเหนือเสื้อหนาวก็หนาหน่อย แต่ขอว่าเป็นเสื้อหนาวคะ
ชั้นสุดท้าย เสื้อโค้ทคะ จะโค้ทผ้าฝ้ายหนักๆ จะยาว จะสั้น หรือจะโค้ทบวมๆคล้ายยางมิชเชอลีนก็ดีนะคะ เรื่องโค้ทนี่ขอเม้าท์ก่อนเลย
เราจับฉลากได้ใส่โค้ทผ้าหนามาก หนักมาก ยาวด้วย ถามว่าดีไหม ดีนะ กันหนาวขาได้ด้วย เท่ห์นะ ดูดี พลางหุ่น แต่เวลาเข้าห้องน้ำลำบากมาก ขอเตือนเลยคะ เพราะถ้าไม่ถอดโค้ทออกก่อน ก็ต้องใช้แรงหนีบใต้คางสูงมากเลยคะ ห้องน้ำบ้านเขาก็ไม่ได้กว้างขวางเท่าห้างบ้านเรานะคะ ดังนั้น โค้ทสไตล์นี้ไม่แนะนำสำหรับผู้ใหญ่วัยสะรุ่นคะ แต่ถ้ายังเด็กๆอยู่ ก็โอเคคะ
เสื้อผ้าเสร็จ แอซเซสซอรีก็ต้องตามมาคะ
ถุงมือ - หนังได้ก็ดี ถ้าไม่หนังก็เอาเป็นผ้าหนาหน่อย ถุงมือที่ไม่โอเค คือ ถุงมือที่ซับน้ำง่ายคะ เพราะถ้าเราเอาถุงมือไปเล่นหิมะ หรือครูดกับหิมะตอนเล่นเสลด ถุงมือจะเปียก หนาวจนต้องถอดถุงมือทิ้งเลยคะ
ผ้าพันคอ - ตามที่อยากเลยคะ จะแมทกับเสื้อโค้ทก็ยิ่งดูดีคะ ตอนที่ไป เรายังเตรียมตัวได้ไม่ดีพอคะ สำหรับผู้ใหญ่แล้ว ผ้าพันคออาจทำให้อึดอัดได้ พอกลับมาจึงเห็นว่า น่าจะหาแบบนี้ไปคะ
ข้อดีของแบบซ้ายล่างก็คือ ปิดคอ ปิดปาก ปิดจมูก ปิดหูได้ด้วย โฟร์อินวันเลย สงสัยสิคะ ทำไมต้องปิดจมูก เคยสงสัยคะ ทำไมในซีรี่ย์ต้องปิดปากกันด้วย เป็นหวัดเหรอ???
คำตอบก็คือ พอไปที่นั่นในหน้าหนาวอย่างนี้ การปิดจมูกนอกจากจะกันลมที่มักจะแรงได้แล้ว ยังทำให้เราหายใจได้สะดวกขึ้น ไอเย็นก็ไม่เข้าจมูกเราจนทำให้เราเป็นหวัดด้วย แถมถ้าขี้มูกไหลก็ไม่มีใครเห็นด้วยคะ แถมถ้าได้แบบดูดีมีสไตล์ ก็เพิ่มความคูลให้ตัวเราได้คะ
และตอนที่เราไป พอไปหาซื้อผ้าปิดจมูกจากร้าน GS25 ราคา 3000 วอน เป็นเงินไทย 90 บาทคะ!!!!! ดังนั้นพกผ้าปิดจมูกเผื่อไปจากบ้านเราเลยคะ กลับมาที่ปัญหาที่เจอคะ แม่เราหูอ่อนคะ ผ้าปิดจมูกหลุดตลอดเวลา แถมหมวกที่เตรียมไปก็ใหญ่เกินอีก ลำบากมากคะ
แม่เราคนกลางคะ โดนปิดซะไม่เห็นลูกกะตาเลยคะ หมวกก็บังทัศนวิสัย เดินยาก ผ้าปิดจมูกก็จะหลุด สิ่งนี้สำคัญนะคะ เลือกดีๆเลยคะ จะได้เดินได้อย่างสนุก
รองเท้า - บูทได้บูทเลยคะ ควรใหญ่กว่าเบอร์รองเท้าปกตินะคะ เพราะต้องใส่รองเท้าหนาด้วย ถ้าเล็กเกินไป มันไม่กัดคะ แต่มันทรมานเท้าคะ เอาที่พื้นรองเท้าหนานุ่มหน่อยนะคะ เราซื้อมาจากห้างนึง แบบไม่มียี่ห้อ ด้านในก็เป็นขนนี่นา หิ้วไปถึงสนามบินคะ จะให้แม่ใส่ มันบางไปคะ เลยต้องใส่แผน 2 นั่นก็คือผ้าใบ ผ้าใบเนียะ จะสวย จะงาม จะเท่ห์ จะเบาขนาดไหน ตามสะดวกคะ แต่ว่า...ยางรองเท้าอย่าสึกนะคะ เราต้องไปเดินบนพื้นที่มีความชื้นสูง บางทีก็บนหิมะ บางทีก็บนพื้นน้ำแข็ง ลื่นง่าย และทั้งหมดทั้งมวล ใหญ่กว่าไซส์ปกติคะ สำคัญมาก ถ้าให้ดีก็พกถุงเท้าที่เราจะใช้ ไปใส่ทดลองตอนเลือกซื้อก็ยิ่งดีคะ และจะยิ่งดี ถ้ารองเท้าสามารถใส่ถอดใส่ถอดได้เลย ไม่ต้องมาหยุดแก้เชือก ผูกเชือก ส่วนตัวเป็นแบบผูกเชือก แต่ผูกเงื่อนตายไปเลยคะ จะได้ถอดง่ายใส่ง่าย ไหนจะ ตอ มอ อีก ไว้เล่าต่อคราวหน้าคะ
มือใหม่สะพายกล้อง ไปส่องหิมะที่เกาหลี จะดีไหม..ไปกับทัวร์
สารพัดทัวร์เลยคะ ดูจนตาลาย แต่สิ่งที่กำหนดการเลือกโปรแกรมทัวร์ของเราคือ
"เงิน..งบ!!!"
คิดเลยคะ 10000 อัพ แต่ไม่เกิน 20000 20000 ไม่เกิน 30000
ด้วยความที่ผู้ใหญ่ไปเยอะคะ เราเลยมองสายการบินก่อนเลย นั่งตั้ง 5 ชั่วโมงกว่า เอาที่สบายขา จึงเล็ง Korean Air ก่อนเลยคะ
"โปรแกรมที่พัก!!!" เราไปช่วงหน้าหนาวบ้านเขา มันเป็นฤดูสกีคะ ดังนั้น ถ้าโปรแกรมทัวร์พาเรานอนที่สกีรีสอร์ทก็จะแพงขึ้นด้วย สำหรับใครที่อยากเล่นสกีเต็มที่ก็ต้องเลือกนอนสกีรีสอร์ทเลยคะ แต่.... ทริปนี้ สูงวัยเยอะคะ ผ่านเลยคะ
อ๊ะ แต่หลังจากตาลายไปแล้วสิบตลบ ก็เริ่มเห็นอะไรที่ต่างคะ มีโปรแกรมล่องแม่น้ำฮัน ทำขนมปัง ดู Pang show
ทำไมไม่ฮันบกล่ะ ไปทั้งที?? แอบมองเห็นความวุ่นวายลางๆ คนเยอะ สูงวัยก็เยอะ เด็กๆอย่างเราคงดูแลไม่ไหว ไหนจะชุลมุนกับกรุ๊ปทัวร์อื่นอีก สถานที่ที่ถ่ายก็มักจะเป็นห้องเป็นสตู ไม่ได้อินเท่าได้ถ่ายกับสถานที่จริงสักหน่อย ฮันบกเลยตกไป
เมื่อโปรแกรมลงตัว จะชัวร์ได้ไง จะไม่โดนหลอก ..
ก่อนอื่นเช็คจากกูเกิล พันทิปนี่แหละคะ ทัวร์นี้เสียงลือเสียงเล่าว่าอย่างใดบ้าง ดีไม่ดี มีอยู่จริง คนเคยไป ไม่หรือโดน ถ้ามีคนกล่าวถึงในแง่ดี ดูมีโปรไฟล์ ก็ติดต่อเลยคะ อย่ารอช้า
ยุคนี้ไลน์คุยกันได้คะ เราสงสัยอะไร การจ่ายเงิน อะไร ยังไง ถามให้หมด เอาให้หายสงสัย
บริษัทนี้ ให้จ่ายเงินส่วนนึงก่อนคะ เพื่อเป็นการยืนยันว่าเราจะไปจริงๆนะ และคิดว่าคงต้องเอาไปดำเนินการบางอย่าง
และต้องจ่ายส่วนที่เหลือทั้งหมดก่อนเดินทาง 25 วันคะ ซึ่งคิดว่าหลายๆบริษัททัวร์ก็ใช้ระบบนี้นะคะ บอกเลยว่าตอนนั้นกังวลเลยคะ เพราะดันมีข่าวว่าทัวร์โกง รับเงินไปแล้วหายตัว!!!! แต่ยังไงเราก็ต้องจ่ายคะ ก็อยากไปนี่คะ
เมื่อทำการจองเป็นที่เรียบร้อย เขาจะขอหน้าแรกพาสปอร์ตเราคะ
ในส่วนของพาสปอร์ตต้องยังไม่หมดอายุภายใน 6 เดือนก่อนเดินทางนะคะ เผื่อใครจะไม่ได้คำนวณว่าใกล้หมดอายุหรือยัง รีบดูเลยคะ
ความวุ่นวายของการจัดเตรียมเสื้อผ้ากันหนาว...เหนื่อยมาก เพลียใจเลย กังวลสิคะ ว่าผู้ใหญ่บ้านเราจะทนไหวไหม ที่เตรียมไปจะเอาอยู่ไหม แล้วฉันล่ะ จะไหวไหม สำหรับใครที่ไปกันเองก็คงจัดเต็มเลยคะ แฟชั่นเสื้อโค้ท ส่วนตัวนี่ไม่ทันได้คิดเรื่องนี้เลยคะ เอาให้ไม่หนาวก็พอ
ชั้นที่ 1 เสื้อกางเกงฮีทเทคคะ หรือจะลองจอน แล้วแต่เลยคะ แต่มันช่วยได้มากเลย จะ uniquo หรือจะแบรนด์ไหนก็จัดเลยคะ บางคนอาจเห็นฮีทเทคบางเบา จะเอาอยู่เหรอ .. ก็อยู่นะคะ
ชั้นที่ 2 เสื้อแขนยาวหนาๆ สักชั้น บวกกับกางเกงยีนส์หนาหน่อย
ชั้นที่ 3 เสื้อหนาวที่ใส่ยามประเทศไทยหนาวที่สุด ถ้ากรุงเทพฯก็เสื้อหนาวบางหน่อย ถ้าอยู่ทางเหนือเสื้อหนาวก็หนาหน่อย แต่ขอว่าเป็นเสื้อหนาวคะ
ชั้นสุดท้าย เสื้อโค้ทคะ จะโค้ทผ้าฝ้ายหนักๆ จะยาว จะสั้น หรือจะโค้ทบวมๆคล้ายยางมิชเชอลีนก็ดีนะคะ เรื่องโค้ทนี่ขอเม้าท์ก่อนเลย
ถุงมือ - หนังได้ก็ดี ถ้าไม่หนังก็เอาเป็นผ้าหนาหน่อย ถุงมือที่ไม่โอเค คือ ถุงมือที่ซับน้ำง่ายคะ เพราะถ้าเราเอาถุงมือไปเล่นหิมะ หรือครูดกับหิมะตอนเล่นเสลด ถุงมือจะเปียก หนาวจนต้องถอดถุงมือทิ้งเลยคะ
คำตอบก็คือ พอไปที่นั่นในหน้าหนาวอย่างนี้ การปิดจมูกนอกจากจะกันลมที่มักจะแรงได้แล้ว ยังทำให้เราหายใจได้สะดวกขึ้น ไอเย็นก็ไม่เข้าจมูกเราจนทำให้เราเป็นหวัดด้วย แถมถ้าขี้มูกไหลก็ไม่มีใครเห็นด้วยคะ แถมถ้าได้แบบดูดีมีสไตล์ ก็เพิ่มความคูลให้ตัวเราได้คะ
และตอนที่เราไป พอไปหาซื้อผ้าปิดจมูกจากร้าน GS25 ราคา 3000 วอน เป็นเงินไทย 90 บาทคะ!!!!! ดังนั้นพกผ้าปิดจมูกเผื่อไปจากบ้านเราเลยคะ กลับมาที่ปัญหาที่เจอคะ แม่เราหูอ่อนคะ ผ้าปิดจมูกหลุดตลอดเวลา แถมหมวกที่เตรียมไปก็ใหญ่เกินอีก ลำบากมากคะ
รองเท้า - บูทได้บูทเลยคะ ควรใหญ่กว่าเบอร์รองเท้าปกตินะคะ เพราะต้องใส่รองเท้าหนาด้วย ถ้าเล็กเกินไป มันไม่กัดคะ แต่มันทรมานเท้าคะ เอาที่พื้นรองเท้าหนานุ่มหน่อยนะคะ เราซื้อมาจากห้างนึง แบบไม่มียี่ห้อ ด้านในก็เป็นขนนี่นา หิ้วไปถึงสนามบินคะ จะให้แม่ใส่ มันบางไปคะ เลยต้องใส่แผน 2 นั่นก็คือผ้าใบ ผ้าใบเนียะ จะสวย จะงาม จะเท่ห์ จะเบาขนาดไหน ตามสะดวกคะ แต่ว่า...ยางรองเท้าอย่าสึกนะคะ เราต้องไปเดินบนพื้นที่มีความชื้นสูง บางทีก็บนหิมะ บางทีก็บนพื้นน้ำแข็ง ลื่นง่าย และทั้งหมดทั้งมวล ใหญ่กว่าไซส์ปกติคะ สำคัญมาก ถ้าให้ดีก็พกถุงเท้าที่เราจะใช้ ไปใส่ทดลองตอนเลือกซื้อก็ยิ่งดีคะ และจะยิ่งดี ถ้ารองเท้าสามารถใส่ถอดใส่ถอดได้เลย ไม่ต้องมาหยุดแก้เชือก ผูกเชือก ส่วนตัวเป็นแบบผูกเชือก แต่ผูกเงื่อนตายไปเลยคะ จะได้ถอดง่ายใส่ง่าย ไหนจะ ตอ มอ อีก ไว้เล่าต่อคราวหน้าคะ