ผมเพิ่งมีโอกาสได้ชมภาพยนตร์เรื่อง เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince) ที่ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเยาวชนอันโด่งดังและขายดีทั่วโลก ของ Antoine de Saint-Exupery( อองตวน เดอ แซงเตกซูเปรี) ตัวหนังสือนั้นคงไม่ต้องพูดถึง เพราะมีความสมบูรณ์แบบและเป็นที่รู้จักกันอย่างดีอยู่แล้ว ในส่วนของภาพยนตร์ได้นำใจความสำคัญจากหนังสือมาตีความและนำเสนอในมุมมองใหม่ ที่น่าสนใจไม่แพ้หนังสือทีเดียว เรื่องราวเล่าผ่านตัวละครหลักที่เป็นเด็กหญิงเล็กๆคนหนึ่งกับชายชราผู้ซึ่งมีความผูกพันกับเจ้าชายน้อยในอดีต ทั้งสองค่อยๆสร้างมิตรภาพร่วมกันโดยมีเรื่องราวของเจ้าชายน้อยเป็นสื่อกลาง จนนำไปสู่การผจญภัยที่ท้าทายของเด็กหญิงเพื่อสานต่อความฝันให้แก่ชายชรา
แม้จะเป็นภาพยนตร์ Amimation ที่มีเรื่องราวเหนือจริง แต่กลับแฝงไว้ด้วยปรัชญาและข้อคิดที่เป็นจริงจำนวนมากมาย สิ่งที่ผมประทับใจเป็นพิเศษในภาพยนตร์เรื่องนี้ คือการถ่ายทอดมุมมองในเรื่อง สิ่งที่มีคุณค่าและไร้คุณค่า กับ สิ่งของที่มีประโยชน์และไร้ประโยชน์ มันทำให้ผมนึกย้อนไปถึงเรื่องราวในอดีตของตัวเอง.....
ผมเคยมีสมุดวาดเขียนอยู่เล่มหนึ่ง เป็นสมุดเล่มใหญ่หน้าปกสีเทา ด้านในเต็มไปด้วยลายเส้นดินสอและสีไม้ ที่ระบายจินตนาการและความฝันในวัยเด็ก แต่ละหน้าของสมุดแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการและการเติบโตของช่วงวัย ภาพวาดต้นไม้ขยุกขยิกค่อยๆแตกกิ่งก้านใบสวยงามตามเดือนปีที่ผ่านไป ความฝันเล็กๆ อย่างบ้านทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าครอบด้วยหลังคาสามเหลี่ยม กลายเป็นตึกสูงระฟ้าท่ามกลางเมืองอันทันสมัย จากท้องทุ่งทะเลสาบ ไปสู่ดวงดาวอวกาศนอกโลก
วันเวลาผ่านไป ผมเติบโตขึ้นจนลืมเลือนสมุดวาดเขียนเล่มนั้น ความฝันและจินตนาการที่วาดไว้กลายเป็นสิ่งที่ไร้ค่าไร้ความสำคัญ สมุดถูกวางทิ้งไว้หลายปีจนฝุ่นจับหนา ในวันหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน ผมกลับมาถึงบ้านเห็นแม่กำลังทำการเก็บกวาดบ้านครั้งใหญ่ สมุดวาดเขียนเล่มนั้นวางอยู่ข้างกองหนังสือพิมพ์เก่า แม่ถามเป็นครั้งสุดท้ายว่าผมอยากจะเก็บมันเอาไว้ไหม ผมใช้เวลาคิดเพียงแว๊บเดียวจึงตัดสินใจบอกแม่ให้ทิ้งมันไป แม่นำมันมัดรวมกับกองหนังสือพิมพ์ทันที วันรุ่งขึ้นเมื่อรถซาเล้งรับซื้อของเก่าผ่านมา สมุดวาดเขียนของผมถูกชั่งกิโลขายไปพร้อมกับเศษกระดาษและของเก่าในบ้าน ในที่สุดผมก็ลืมเลือนมันไป
.....วันนี้พอได้มาชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้ความทรงจำของผมหวนกลับคืนมา ผมรู้สึกเสียใจและเสียดายเป็นอย่างยิ่ง
คุณค่าและมูลค่าเป็นสิ่งที่ไม่มีวันเอามาเปรียบเทียบกันได้
เราไม่สามารถเปลี่ยนสิ่งที่มีคุณค่าต่อชีวิตให้กลายเป็นสิ่งที่มีมูลค่าได้ และบ่อยครั้งที่เราสูญเสียสิ่งมีคุณค่าต่อชีวิตของเราไป เราก็ไม่สามารถใช้มูลค่า(เงิน)หาซื้อมันกลับมา
เช่นเดียวกับสมุดวาดเขียนสีเทาเล่มนั้น ทั้งๆที่วันนี้ผมมีสิ่งของที่มีมูลค่าต่างๆมากมาย ซึ่งต่อให้ยอมแลกมันทั้งหมดเพื่อให้ได้สมุดวาดเขียนเล่มนั้นกลับมา ผมก็ไม่สามารถจะทำได้ เมื่อคิดแล้วก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจมากๆ ที่ความฝันวัยเยาว์ของผมถูกตีค่าและขายไปในราคาเทียบเท่าเศษขยะเท่านั้น
ผมหันกลับมามองตัวเองที่ใช้ชีวิตไหลไปกับกระแสแห่งวัตถุนิยม จนละทิ้งหลายสิ่งหลายอย่างที่มีคุณค่าต่อชีวิตหรือยอมที่จะแปรสภาพของมันไป สมุดวาดเขียนเล่มนั้นเป็นเพียงแค่ตัวอย่างหนึ่งในจำนวนมากมายของคุณค่าที่หล่นหายไประหว่างทาง ผมได้แต่บอกกับตัวเองว่า หลังจากนี้จะพยายามไม่ละทิ้งสิ่งที่มีคุณค่าต่อชีวิต และไม่นำมันไปเปรียบเทียบหรือเปลี่ยนแปลงเป็นมูลค่าอีกต่อไป อยากจะให้คุณค่าและมูลค่าในชีวิตผม เป็นสองสิ่งที่คู่ขนานกันไปและหวังว่ามันไม่ต้องมาบรรจบกันจนสุดทาง.
ฝากติดตามและติ-ชมด้วยนะครับ
www.facebook.com/rpggroups
http://rpggroups.wix.com/rpggroups
“คุณค่าVS.มูลค่า” : ข้อคิดเล็กๆจากเจ้าชายตัวเล็กๆ
แม้จะเป็นภาพยนตร์ Amimation ที่มีเรื่องราวเหนือจริง แต่กลับแฝงไว้ด้วยปรัชญาและข้อคิดที่เป็นจริงจำนวนมากมาย สิ่งที่ผมประทับใจเป็นพิเศษในภาพยนตร์เรื่องนี้ คือการถ่ายทอดมุมมองในเรื่อง สิ่งที่มีคุณค่าและไร้คุณค่า กับ สิ่งของที่มีประโยชน์และไร้ประโยชน์ มันทำให้ผมนึกย้อนไปถึงเรื่องราวในอดีตของตัวเอง.....
ผมเคยมีสมุดวาดเขียนอยู่เล่มหนึ่ง เป็นสมุดเล่มใหญ่หน้าปกสีเทา ด้านในเต็มไปด้วยลายเส้นดินสอและสีไม้ ที่ระบายจินตนาการและความฝันในวัยเด็ก แต่ละหน้าของสมุดแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการและการเติบโตของช่วงวัย ภาพวาดต้นไม้ขยุกขยิกค่อยๆแตกกิ่งก้านใบสวยงามตามเดือนปีที่ผ่านไป ความฝันเล็กๆ อย่างบ้านทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าครอบด้วยหลังคาสามเหลี่ยม กลายเป็นตึกสูงระฟ้าท่ามกลางเมืองอันทันสมัย จากท้องทุ่งทะเลสาบ ไปสู่ดวงดาวอวกาศนอกโลก
วันเวลาผ่านไป ผมเติบโตขึ้นจนลืมเลือนสมุดวาดเขียนเล่มนั้น ความฝันและจินตนาการที่วาดไว้กลายเป็นสิ่งที่ไร้ค่าไร้ความสำคัญ สมุดถูกวางทิ้งไว้หลายปีจนฝุ่นจับหนา ในวันหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน ผมกลับมาถึงบ้านเห็นแม่กำลังทำการเก็บกวาดบ้านครั้งใหญ่ สมุดวาดเขียนเล่มนั้นวางอยู่ข้างกองหนังสือพิมพ์เก่า แม่ถามเป็นครั้งสุดท้ายว่าผมอยากจะเก็บมันเอาไว้ไหม ผมใช้เวลาคิดเพียงแว๊บเดียวจึงตัดสินใจบอกแม่ให้ทิ้งมันไป แม่นำมันมัดรวมกับกองหนังสือพิมพ์ทันที วันรุ่งขึ้นเมื่อรถซาเล้งรับซื้อของเก่าผ่านมา สมุดวาดเขียนของผมถูกชั่งกิโลขายไปพร้อมกับเศษกระดาษและของเก่าในบ้าน ในที่สุดผมก็ลืมเลือนมันไป
.....วันนี้พอได้มาชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้ความทรงจำของผมหวนกลับคืนมา ผมรู้สึกเสียใจและเสียดายเป็นอย่างยิ่ง
เราไม่สามารถเปลี่ยนสิ่งที่มีคุณค่าต่อชีวิตให้กลายเป็นสิ่งที่มีมูลค่าได้ และบ่อยครั้งที่เราสูญเสียสิ่งมีคุณค่าต่อชีวิตของเราไป เราก็ไม่สามารถใช้มูลค่า(เงิน)หาซื้อมันกลับมา
เช่นเดียวกับสมุดวาดเขียนสีเทาเล่มนั้น ทั้งๆที่วันนี้ผมมีสิ่งของที่มีมูลค่าต่างๆมากมาย ซึ่งต่อให้ยอมแลกมันทั้งหมดเพื่อให้ได้สมุดวาดเขียนเล่มนั้นกลับมา ผมก็ไม่สามารถจะทำได้ เมื่อคิดแล้วก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจมากๆ ที่ความฝันวัยเยาว์ของผมถูกตีค่าและขายไปในราคาเทียบเท่าเศษขยะเท่านั้น
ผมหันกลับมามองตัวเองที่ใช้ชีวิตไหลไปกับกระแสแห่งวัตถุนิยม จนละทิ้งหลายสิ่งหลายอย่างที่มีคุณค่าต่อชีวิตหรือยอมที่จะแปรสภาพของมันไป สมุดวาดเขียนเล่มนั้นเป็นเพียงแค่ตัวอย่างหนึ่งในจำนวนมากมายของคุณค่าที่หล่นหายไประหว่างทาง ผมได้แต่บอกกับตัวเองว่า หลังจากนี้จะพยายามไม่ละทิ้งสิ่งที่มีคุณค่าต่อชีวิต และไม่นำมันไปเปรียบเทียบหรือเปลี่ยนแปลงเป็นมูลค่าอีกต่อไป อยากจะให้คุณค่าและมูลค่าในชีวิตผม เป็นสองสิ่งที่คู่ขนานกันไปและหวังว่ามันไม่ต้องมาบรรจบกันจนสุดทาง.
ฝากติดตามและติ-ชมด้วยนะครับ
www.facebook.com/rpggroups
http://rpggroups.wix.com/rpggroups