ศาลฎีกา สั่งจำคุก 5 ปี กำนันเซี้ยะ ประชา โพธิพิพิธ อดีต ส.ส. ประชาธิปัตย์ ด้านภรรยา-คนสนิท โดนจำคุกคนละ 4 ปี คดีฮั้วประมูลงานก่อสร้าง ปี 2542-2544
วันที่ 25 มกราคม 2559 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายประชา โพธิพิพิธ หรือ กำนันเซี้ยะ อดีต ส.ส. กาญจนบุรี พรรคประชาธิปัตย์, นางเขมพร ต่างใจเย็น ภรรยา กำนันเซี้ยะ, น.ส.วรรณา ล้อไพบูลย์ คนสนิท นางเขมพร และนายถวิล สวัสดี (เสียชีวิตแล้ว) เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานกรรโชกทรัพย์, หน่วงเหนี่ยวกักขัง และกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 หรือฮั้วประมูล กรณีเข้าขัดขวางไม่ให้บริษัท วัสดุเซ็นเตอร์ เข้าเสนอราคาประมูลโครงการก่อสร้าง ปี 2542 ถึง 2544 เมื่อถึงเวลานัดจำเลยทั้ง 3 ไม่เดินทางมาศาลมีเพียงทนายความผู้รับมอบอำนาจ ศาลจึงอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์แล้ว มีพยานโจทก์ 14 คน กลุ่มยูโรการ ของกลุ่มกำนันเซี้ยะ ขึ้นเบิกความ เป็นพยานว่ามีการรวมกลุ่มเพื่อฮั้วประมูลในการยื่นซองประกวดราคาก่อสร้างโครงการของรัฐ ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี จริง โดยมีจำเลยที่ 1 เป็นที่ปรึกษา จำเลยที่ 2 เป็นประธานในการประชุมหลายครั้ง ส่วน จำเลยที่ 3 เป็นเลขาฯ และเป็นผู้ติดตามหนี้สิน พยานหลักฐานโจทก์จึงมีน้ำหนักให้รับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัย การกระทำของจำเลยที่ 1-3 เป็นการกระทำผิดหลายบท ให้ลงโทษบทหนักสุดตามมาตรา 209 (2) ให้จำเลยที่ 1 จำคุก 5 ปี ส่วนจำเลยที่ 2 และ 3 ให้จำคุกคนละ 4 ปี พร้อมออกหมายจับจำเลยทั้ง 3 คน
สำหรับคดีดังกล่าว ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จำคุก นายประชา หรือ กำนันเซี้ยะ เป็นเวลา 5 ปี ส่วนจำเลยที่ 2-4 ให้จำคุกคนละ 4 ปี ต่อมา เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2550 ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษากลับให้ยกฟ้องจำเลยทั้งหมด ซึ่งอัยการโจทก์ได้ยื่นฎีกาขอให้ศาลฎีกาพิพากษาลงโทษพวกจำเลย และเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2558 ศาลได้ออกหมายจับ กำนันเซี้ยะ จำเลยที่ 1 และ นางเขมพร จำเลยที่ 2 เนื่องจากไม่ได้เดินทางมาศาล
ขณะที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่พนักงานอัยการคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง กำนันเซี้ยะ เป็นจำเลยฐานบุกรุกที่ราชพัสดุ ในพื้นที่อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี และพื้นที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี รวมเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่ เมื่อต้นปี 2533 ถึง 25 มีนาคม 2547 โดยคดีนี้ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาลงโทษจำคุก กำนันเซี้ยะ 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา แต่ต่อมา กำนันเซี้ยะ ได้ยื่นอุทธณ์ต่อศาล ซึ่งศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยเป็นกำนัน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ย่อมรู้ดีว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ราชพัสดุ ไม่สามารถครอบครองได้ จึงพิพากษาแก้ให้จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 108 ให้จำคุก 4 ปี แต่ทางนำสืบจำเลยให้การเป็นประโยชน์ เห็นควรลดโทษจำคุก กำนันเซี้ยะ เป็นเวลา 3 ปี พร้อมให้ออกหมายจับจำเลยมารับโทษ
ฎีกา สั่งคุก 5 ปี กำนันเซี้ยะ อดีต ส.ส. ประชาธิปัตย์ คดีฮั้วประมูล
วันที่ 25 มกราคม 2559 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายประชา โพธิพิพิธ หรือ กำนันเซี้ยะ อดีต ส.ส. กาญจนบุรี พรรคประชาธิปัตย์, นางเขมพร ต่างใจเย็น ภรรยา กำนันเซี้ยะ, น.ส.วรรณา ล้อไพบูลย์ คนสนิท นางเขมพร และนายถวิล สวัสดี (เสียชีวิตแล้ว) เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานกรรโชกทรัพย์, หน่วงเหนี่ยวกักขัง และกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 หรือฮั้วประมูล กรณีเข้าขัดขวางไม่ให้บริษัท วัสดุเซ็นเตอร์ เข้าเสนอราคาประมูลโครงการก่อสร้าง ปี 2542 ถึง 2544 เมื่อถึงเวลานัดจำเลยทั้ง 3 ไม่เดินทางมาศาลมีเพียงทนายความผู้รับมอบอำนาจ ศาลจึงอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์แล้ว มีพยานโจทก์ 14 คน กลุ่มยูโรการ ของกลุ่มกำนันเซี้ยะ ขึ้นเบิกความ เป็นพยานว่ามีการรวมกลุ่มเพื่อฮั้วประมูลในการยื่นซองประกวดราคาก่อสร้างโครงการของรัฐ ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี จริง โดยมีจำเลยที่ 1 เป็นที่ปรึกษา จำเลยที่ 2 เป็นประธานในการประชุมหลายครั้ง ส่วน จำเลยที่ 3 เป็นเลขาฯ และเป็นผู้ติดตามหนี้สิน พยานหลักฐานโจทก์จึงมีน้ำหนักให้รับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัย การกระทำของจำเลยที่ 1-3 เป็นการกระทำผิดหลายบท ให้ลงโทษบทหนักสุดตามมาตรา 209 (2) ให้จำเลยที่ 1 จำคุก 5 ปี ส่วนจำเลยที่ 2 และ 3 ให้จำคุกคนละ 4 ปี พร้อมออกหมายจับจำเลยทั้ง 3 คน
สำหรับคดีดังกล่าว ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จำคุก นายประชา หรือ กำนันเซี้ยะ เป็นเวลา 5 ปี ส่วนจำเลยที่ 2-4 ให้จำคุกคนละ 4 ปี ต่อมา เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2550 ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษากลับให้ยกฟ้องจำเลยทั้งหมด ซึ่งอัยการโจทก์ได้ยื่นฎีกาขอให้ศาลฎีกาพิพากษาลงโทษพวกจำเลย และเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2558 ศาลได้ออกหมายจับ กำนันเซี้ยะ จำเลยที่ 1 และ นางเขมพร จำเลยที่ 2 เนื่องจากไม่ได้เดินทางมาศาล
ขณะที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่พนักงานอัยการคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง กำนันเซี้ยะ เป็นจำเลยฐานบุกรุกที่ราชพัสดุ ในพื้นที่อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี และพื้นที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี รวมเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่ เมื่อต้นปี 2533 ถึง 25 มีนาคม 2547 โดยคดีนี้ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาลงโทษจำคุก กำนันเซี้ยะ 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา แต่ต่อมา กำนันเซี้ยะ ได้ยื่นอุทธณ์ต่อศาล ซึ่งศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยเป็นกำนัน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ย่อมรู้ดีว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ราชพัสดุ ไม่สามารถครอบครองได้ จึงพิพากษาแก้ให้จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 108 ให้จำคุก 4 ปี แต่ทางนำสืบจำเลยให้การเป็นประโยชน์ เห็นควรลดโทษจำคุก กำนันเซี้ยะ เป็นเวลา 3 ปี พร้อมให้ออกหมายจับจำเลยมารับโทษ