ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษาคดีทุจริตรถและเรือดับเพลิง กองทัพสื่อทั้งในและนอกร่วมเกาะติด ล่าสุดมีคำพิพากษาให้ “ประชา มาลีนนท์ - พล.ต.ต.อธิลักษณ์” จำเลยที่ 2 และ 4 กระทำผิด พ.ร.บ.ฮั้ว “ประชา” ถูกจำคุก 12 ปี โดยไม่รอลงอาญา “พล.ต.ต.อธิลักษณ์” ถูกจำคุก 10 ปี ไม่รอลงอาญา ขณะที่ทั้งสองไม่เดินทางมาศาล ส่วน “โภคิน-วัฒนา-อภิรักษ์” และจำเลยที่เกี่ยวข้องรอดคุกหลักฐานไม่พอว่าทำผิดศาลยกฟ้อง!
วันนี้ (10 ก.ย.) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถนนแจ้งวัฒนะ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีกองทัพสื่อมวลชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ มาเกาะติดการอ่านคำพิพากษา ในคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายโภคิน พลกุล อดีต รมว.มหาดไทย, นายประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย, นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์, พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม., บริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาห์รซอยก์ จำกัด (ศาลสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราว) และ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม.เป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้วประมูล จากกรณีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง พร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย ของกรุงเทพมหานคร มูลค่า 6,687,489,000 บาท
ทั้งนี้ นายธานิศ เกศวพิทักษ์ รองประธานศาลฎีกาฯ เจ้าของสำนวนทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง ของกรุงเทพมหานคร พร้อมองค์คณะผู้พิพากษา รวม 9 คน ได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในเวลา 11.40 น.ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชม.จึงจะอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายประชา จำเลยที่ 2 และ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ จำเลยที่ 4 ยังไม่เดินทางมาศาลเพื่อเข้าฟังคำพิพากษาคดีแต่อย่างใด
ล่าสุดศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาให้ นายประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย และ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.มีความผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้วประมูล ปี 2542 จากกรณีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง พร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย ของกรุงเทพมหานคร มูลค่า 6.6 พันล้านบาท ส่วนนายโภคิน พลกุล อดีต รมว.มหาดไทย และนายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ และจำเลยที่เกี่ยวข้องศาลเห็นว่าพยานหลักฐานไม่พอว่ามีส่วนร่วมกระทำผิด พิพากษาให้ยกฟ้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีคำพิพากษาให้ลงโทษ นายประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย จำเลยที่ 2 และ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. จำเลยที่ 4 ที่กระทำความผิดต่อประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบด้วย มาตรา 83 และความผิดต่อ พ.ร.บ.การเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ พ.ศ.2542 หรือ พ.ร.บ.ฮั้วประมูล
ทั้งนี้ การกระทำผิดดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดกรรมเดียวแต่ผิดต่อกฎหมายหลายมาตรา ให้ลงโทษจำเลยที่ 2 และ 4 ในบทหนักสุดในความผิดต่อ พ.ร.บ.การเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ พ.ศ.2542 หรือ พ.ร.บ.ฮั้วประมูล ให้จำคุกจำเลยที่ 2 เป็นเวลา 12 ปี ไม่รอลงอาญา และจำเลยที่ 4 เป็นเวลา 10 ปี ไม่รอลงอาญา
ล่าสุดมีรายงานว่า นายประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย ได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว โดยมีรายงานแจ้งว่า นายประชา ได้หลบหนีเข้าไปยังประเทศแถบยุโรป ที่ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทย โดยใช้ชีวิตอยู่อย่างหรูหรา สุขสบาย ในต่างประเทศ
ทั้งนี้ นายประชา มาลีนนท์ ถือเป็นนักการเมืองคนที่ 3 ของประเทศไทยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ที่ถูกศาลตัดสินให้จำคุก โดยคนแรกคือ นายรักเกียรติ สุขธนะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หรือ พระรักเกียรติ รักขิตะธัมโม (สุขธนะ) ได้ถูกศาลตัดสินให้จำคุกในคดีทุจริตยาฯเป็นเวลา 5 ปี ปัจจุบันพ้นโทษมาแล้วบวชเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบผู้หนึ่ง ถือเป็นนักการเมืองคนเดียวที่ยอมติดคุกชดใช้กรรม แม้จะพยายามหลบหนีคดีมานานหลายปีก็ตาม คนต่อมาคือ นายวัฒนา อัศวเหม ที่หลบหนีคดีทุจริตโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดนำเสียคลองด่าน จ.สมุทรปราการ ที่ศาลมีคำพิพากษาให้จำคุกเช่นกัน และคนสุดท้าย คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกศาลตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 2 ปี ในคดีทุจริตซื้อที่ดินย่านถนนรัชดาฯ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000113918
คุก 12 ปี “ประชา มาลีนนท์” ทุจริตรถและเรือดับเพลิง
วันนี้ (10 ก.ย.) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถนนแจ้งวัฒนะ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีกองทัพสื่อมวลชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ มาเกาะติดการอ่านคำพิพากษา ในคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายโภคิน พลกุล อดีต รมว.มหาดไทย, นายประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย, นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์, พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม., บริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาห์รซอยก์ จำกัด (ศาลสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราว) และ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม.เป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้วประมูล จากกรณีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง พร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย ของกรุงเทพมหานคร มูลค่า 6,687,489,000 บาท
ทั้งนี้ นายธานิศ เกศวพิทักษ์ รองประธานศาลฎีกาฯ เจ้าของสำนวนทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง ของกรุงเทพมหานคร พร้อมองค์คณะผู้พิพากษา รวม 9 คน ได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในเวลา 11.40 น.ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชม.จึงจะอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายประชา จำเลยที่ 2 และ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ จำเลยที่ 4 ยังไม่เดินทางมาศาลเพื่อเข้าฟังคำพิพากษาคดีแต่อย่างใด
ล่าสุดศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาให้ นายประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย และ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.มีความผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้วประมูล ปี 2542 จากกรณีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง พร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย ของกรุงเทพมหานคร มูลค่า 6.6 พันล้านบาท ส่วนนายโภคิน พลกุล อดีต รมว.มหาดไทย และนายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ และจำเลยที่เกี่ยวข้องศาลเห็นว่าพยานหลักฐานไม่พอว่ามีส่วนร่วมกระทำผิด พิพากษาให้ยกฟ้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีคำพิพากษาให้ลงโทษ นายประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย จำเลยที่ 2 และ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. จำเลยที่ 4 ที่กระทำความผิดต่อประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบด้วย มาตรา 83 และความผิดต่อ พ.ร.บ.การเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ พ.ศ.2542 หรือ พ.ร.บ.ฮั้วประมูล
ทั้งนี้ การกระทำผิดดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดกรรมเดียวแต่ผิดต่อกฎหมายหลายมาตรา ให้ลงโทษจำเลยที่ 2 และ 4 ในบทหนักสุดในความผิดต่อ พ.ร.บ.การเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ พ.ศ.2542 หรือ พ.ร.บ.ฮั้วประมูล ให้จำคุกจำเลยที่ 2 เป็นเวลา 12 ปี ไม่รอลงอาญา และจำเลยที่ 4 เป็นเวลา 10 ปี ไม่รอลงอาญา
ล่าสุดมีรายงานว่า นายประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย ได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว โดยมีรายงานแจ้งว่า นายประชา ได้หลบหนีเข้าไปยังประเทศแถบยุโรป ที่ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทย โดยใช้ชีวิตอยู่อย่างหรูหรา สุขสบาย ในต่างประเทศ
ทั้งนี้ นายประชา มาลีนนท์ ถือเป็นนักการเมืองคนที่ 3 ของประเทศไทยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ที่ถูกศาลตัดสินให้จำคุก โดยคนแรกคือ นายรักเกียรติ สุขธนะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หรือ พระรักเกียรติ รักขิตะธัมโม (สุขธนะ) ได้ถูกศาลตัดสินให้จำคุกในคดีทุจริตยาฯเป็นเวลา 5 ปี ปัจจุบันพ้นโทษมาแล้วบวชเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบผู้หนึ่ง ถือเป็นนักการเมืองคนเดียวที่ยอมติดคุกชดใช้กรรม แม้จะพยายามหลบหนีคดีมานานหลายปีก็ตาม คนต่อมาคือ นายวัฒนา อัศวเหม ที่หลบหนีคดีทุจริตโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดนำเสียคลองด่าน จ.สมุทรปราการ ที่ศาลมีคำพิพากษาให้จำคุกเช่นกัน และคนสุดท้าย คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกศาลตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 2 ปี ในคดีทุจริตซื้อที่ดินย่านถนนรัชดาฯ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้