เลิกกัน มีใหม่ไปแล้ว จะกลับไปเป้นเหมือนเดิมได้ไหม ถามเผื่อ?

ก่อนอื่นถ้าพิมพ์ผิดอะไรไปขอโทษนะค่ะ
       เข้าเรื่องเลย เราแยกกัยอยู่กับสามีมาได้ประมาณ 2เดือนแล้วหลังจากที่คบกันมา10ปี แล้วก็แต่งงานมีลูกด้วยกันประมาณ 5 ปีสาเหตุที่เดินหนีออกมาเพราะว่ากลางปี 58 สามีเราเริ่มติดเพื่อน สังสรรค์ (เข้าใจว่าเรื่องปกติ แต่บ้านไม่ค่อยกลับ)

ครั้งที่ 1 เค้าจะกลับห้องทุกวันไม่เกินสามทุ่ม (ที่ทำงานอยู่ไกลที่พัก) พอสามทุ่มครึ่ง โทรหา-ไม่รับ ไลน์ไป-ไม่อ่าน สี่ทุ่มโทรหาน้องชายเค้า-ไม่มี ส่งเฟสไปถามเพื่อนเค้า-ไม่มี ผ่านไปเกือบห้าทุ่ม แม่เค้าโทรมาหลังจากที่น้องชายเค้าโทรไปหา แม่บอกโทรหาเค้าไม่รับเหมือนกัน

พอวางสายแม่ได้เราก็แกะออมสินไปเติมเงิน(ตอนนั้นตังอยู่ในบัญชี ซึ่งเป็นวันที่ธนาคารปิดปรับปรุงระบบ) เติมเงินได้โทรหา 191 ถามอุบัติเหตุ-ไม่มี เราโทรหาเพื่อนด้วยความเกรงใจมากเพราะเพื่อนไปหาแฟน หวังว่าจะให้เพื่อนโอนเงินเอาอีกบัญชี เราจะนั้งรถไปหาเค้า แต่ที่เพื่อนอยู่ไม่มีเอทีเอ็ม เราก็ได้นั่งร้องไห้ รอๆๆๆๆๆๆ เที่ยงคืนโทรกลับมาบอกว่าไปกินวันเกิดเพื่อนลืมบอกเรา เราทั้งดีใจ ทั้งเสียใจ  พอเค้ากับมาก็ทะเลาะกัน เค้าสัญญาว่าต่อไปนี้จะไม่ลืม ผ่านมาประมาณสองเดือน

ครั้งที่ 2 เค้าโทรมาตอนเย็นๆ บอกว่าจะไป ซ้อมกินเหล้ากับเพื่อนก่อนไปสัมนาที่จะมาถึงอีกสองวัน เราบอกว่าอย่าเมามากนะเดี่ยวกลับห้องไม่ไหว เค้าบอกจะจัดให้หนัก ถ้าเมามากคงไม่หลับ เราถามไม่กลับจริงๆหรือ เค้าตอบค่ะ แล้วก็ขอวางสายไป สรุปเค้าไม่กลับ ตื่นเช้าออกจากห้องเพื่อนไปทำงานเลย เราเจอกันตอนเย็น กลับมาทะเลาะกันอีกตามเคย เราก็ร้องไห้ตามเคย น้อยใจ

เรา - คนมีครอบครัวแล้วติดเพื่อนขนาดนี้เลยหรือ
สามี- ผมก้อยากมีสังคม มีเพื่อนบ้าง จะให้ผมเลิกงานกับบ้านอยู่ในสายตาคุณตลอดเลยหรือ
เรา - ห่วงเค้าาบ้างไหม เรานอนอยู่ห้องคนเดียว
ส.ม. - คุณก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่ (หลังจากที่วางสายตอนที่เค้าโทรมาเมื่อวานเย็น คืนนั้นทั้งคืนเราติดต่อเค้าไม่ได้เลย) เค้าบอกว่ากินเหล้าอยู่จะนั่งฟังเสียงโทรศัพท์ด้วยหรือ เราโกรษมากไล่เค้าออกหห้อง จับเสื้อผ้าเค้าโยนออกนอกตู้ เราบอกไปว่าอยากมีสังคมมากนัก ก็อย่ามามีครอบครัว เราไม่ต้องมาอยู่ด้วยกัน ถ้าคุณไม่ไป เราจะไปเอง

สรุปเค้าไปเองแล้ววันรุ่งขึ้นเค้าต้องไปสัมนาแล้วแต่เรามีตังแค่แปดร้อยเราให้เค้าไปห้าร้อย เราเอาไว้สามร้อย เค้าไม่เอา เอาไปแค่ร้อยเดียวแล้วก้เดินออกจากห้องไป (เรื่องเงินห้าร้อยที่เราให้เค้าวันนั้น จนถึงวันนี้เค้ายังโกรษเราอยู่เลยว่าทำไมให้ตังไปแค่นั้น ก็เรามีตังติดตัวแค่นั้น ว่าจะถามเค้าว่าจะเอาตังไปเท่าไหร่ จะได้เอาทองไปจำนำ หรือยืมเพื่อน แต่เค้าไปซ้อมกินเหล้า แล้วจะให้เราทำไงต่อ)

หลังจากเรื่องครั้งนี้เราร้องไห้กัลแม่เรา น้องเรา ความเจ็บมันเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราโทรหาแม่เค้าว่าหนูไม่ไหวกับลูกแม่แล้ว หนุขอคืนลูกแม่ได้ไหม แต่แม่ ส.ม.เราโกรษเรามากเลยว่าเราขึ้หึงบ้าง ไม่รักลูกเค้าบ้าง เราก็อธิบายว่าทำไมยังไง แต่แกบอกว่ามันอดีต ตอนนี้ปัจจุบันแล้ว((((อดีตปี51 คือเราอยู่กับ ส.ม.ก่อนแต่งงาน ตอนที่เรามาอยู่ กทม.สักพัก  แต่จะเจอกันตอนวันหยุดเค้าเท่านั้น ตอนนั้น ส.ม.ฝึกงานอยู่ เวลาวางเค้าจะมาหา อาทิตละครั้ง จนเรามีอะไรกันแล้วเราพลาดท้อง เราสองคนไม่ได้ป้องกันเลย ให้ปล่อยข้างนอก พอเราท้องเค้าบอกเราว่ายังไม่พร้อม เราได้แต่ร้องไห้ เราตัดสินใจบอกแม่เรา แม่เราร้องไห้เสียใจมาก แล้วยิ่ง ส.ม.ไม่พร้อมแต่งานอีก แม่ยิ่งเสียใจ(เรามีพ่อนะ แต่แค่ไม่ค่อยสนิทกัน คุยกับแม่มากกว่า) แม่ไม่ยอมรับคำขอโทษเราเลย แต่เราตัดสินใจเอาลูกไว้ แต่ช่วงที่ตั้งท้องได้ เดือนกว่าๆเรามีเลือดออก ไปหาหมอฉีดยาเข็มที่หนึ่งเลือดก็ยังไม่หยุด เข็มที่สองฉีดได้ วันเดียว ลูกไม่อยู่กับเราแล้ว ช่วงที่เราเลือดออก

สามีกับเราก็มีคุยกันบ้างแต่ไปบ่อยเหมือนที่ผ่านมา  ช่วงที่เราเสียลูกไป คนเรียกที่เราโทรหาคือแม่เรา แม่เราร้องไห้สงสารเรา อยากมาหา แต่เราไม่ให้มา เพราะไม่มีใครไปรับที่ขนส่ง แม่เราเดินทางไม่เก่ง วันนั้นเรานอนโรงพยาบาล ส.ม.เลิกจากงานพาสทามก็มาหา แต่นอนเฝ้าไม่ได้ เป็นห้องรวม เค้ากับมานอนที่ห้องเรา แล้วตอนเช้าก้ซื้อขนมกับนมมาให้เราที่โรงพยาบาล แล้วก้ไปทำงานต่อ

หลังจากนั้นมาเราสองคนก็เริ่มต้นกันใหม่ เราย้ายงาน ย้ายที่พัก  หลังจากผ่านเหตุการเรื่องลูกมาได้ประมาณหกเดือน เราเจอข้อความน่าสงสัยในโทรศัพท์เค้า เราก็ถามเพื่อจะหาคำตอบ เค้าตอบมาว่าผู้หญิงมาจีบ แค่คุยๆกัน เดี่ยวพรุ่งนี้ไปบอกให้เลิกยุ่งได้แล้วมีแฟนแล้ว (ผู้หญิงคนนี้ใช้ชื่อย่อว่า ท. แล้วกัน) ก็ผ่านเรื่อง ท.ไป ส.ม.รับปริญญา (เค้าจบทีหลังเราเพราะทำงานไป เรียนไป) เค้ารับช่วงสิ้นเดือนพอดี ด้วยหน้าที่การทำงานเรา ใกล้สิ้นเดือนเราจะยุ่งมาก เราคิดว่าจะเคลียงานเพื่อไปงานเค้า แต่เค้าบอกว่าช่วงนั้นน้ำท่วม (เค้าไปรับ ตจว.) เดินทางลำบากมาไปเลย เค้าไม่มีเวลาเทคแคร์ สรุปเราก้ไม่ไป

หลังจากที่รับปริญญาสักระยะ ยายที่บ้านเค้าเสีย เค้าไปงานศพยายเค้า แต่เราไม่ไป เค้าไม่ได้ชวน ตอนนั้นคิดว่าเค้าคงไม่พร้อมพาเราเข้าบ้าน พอผ่านมาสักระยะ ช่วงวันลอกกระทงเราจำได้ดี แต่จำ ปีไม่ได้ ส.ม.เรานอนหลับอยู่ที่ห้อง เราก็กำลังเดินไปมาแถวๆนั้ น มีเสียงแวบเข้ามา มันคือเสียงโทรศัพท์ ส.ม.สั่น เราเดินไปหามันทันที พอจับขึ้นมาได้ถึงกับช็อกซีนีม่า ปลายสายคือ ท. (เราใช้ชื่อย่อแฟนเราว่า อ.แล้วกัน)

ท.เค้าโทรมาเหมือนจะรู้ว่า อ.อยู่กับเรา ท.วางสายไป เราโทรกับ เพื่อน ท.รับ เราขอสาย ท.ทันที ท.ยอมมาคุยกับเรานะ เปิดใจคุยกัน

เรา - มีอะไรกันหรือยัง
ท.- มีแล้ว
เรา - ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่
ท. - หลังรับปริญญา อ.
เรา - งานรับปริญญาได้ไปไหม งานศพหล่ะ
ท. - ไปทั้งสองงาน เราได้เบอนี้มาจากงานรัปริญญา

(อ.จะมีสองเบอ สองเครื่อง มาหาเราเบอร์นี้ โทรหา ท.ก็อีกเบอ ที่ ท.ได้เบอมาเพราะงานรับปริญญา อ.ฝากกระเป๋าไว้ที่แม่ของเค้า แม่เค้าไปเข้าห้องน้ำเลยฝากกระเป๋าไว้ที่ ท. เพราะคิดว่านี่คงไปว่าที่ลูกสะใภ้แก แล้ว ท.ก็แอบดูของในกระเป๋าเจอโทรศัพท์สองเครื่อง จึงดูข้อความว่ามีอะไรบ้าง เจอข้อความเราคุยกับ อ.เรื่องตอนท้องและข้อความปัจจุบัน  ท. เองก็ช็อก ท.เลยแอบเอาเบออีกเบอไป)

เราคุยกับ ท.สักพักเราก้สกิด อ.ให้ตื่น เราบอกว่ารับซิ รับซิ แฟนตัวเองโทรมา เราวางโทรศัพท์ให้เค้า แล้วร้องไห้เดินออกมา คว้าได้แค่มือถือกับกุญแจห้อง บอกตรง ๆ เลยว่าตอนนั้นช็อกมากๆ ทำอะไรไม่ถูก ร้องไห้อย่างเดียว เดินไปหาที่หลบร้องไห้ คือ ที่ผ่านมา อ.เค้าไม่เคยเลิกกับ ท.เลยเรากับ ท.โดนหรอกตลอดว่า อ.เลิกกับผู้หญิงทุกคนแล้ว อ.กับ ท.ครบกันมาตั้งแต่สมัยเราเรียนมหาลัย พูดง่ายๆ คือคบทีเดียวพร้อมกันสองคน

หลังจากที่เราได้คุยกับ ท. เรายอมถอย ยอมไป เราบอกกับ ท.ว่าเราขอเป็นฝ่ายไป ให้ตัวเองกับ ท.ได้รักกัน  แต่ อ.ขอโอกาสเราไม่ให้เราไป ขอเวลาไปคุยกับ ท. ไปขอโทษ ท. เราก็ให้อภัย อ.ก็ไปจบกับ ท.จริงๆ หลังจากนั้น อ.ก็พาเราเข้าบ้านโดยการพาไปงานบวชเค้า แล้วพอบวชเสร็จสักพักเราก็แต่งงานกัน มีลูกด้วยกัน จบอดีต))))

เราเคยมีโอกาสได้ทำงานที่เดียวกัน เราทะเลาะกันหนักมาก จำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร เราตบหน้าเค้า แต่เค้าก็ตบเราคืนเค้าบอกเราว่าพ่อแม่ยังไม่เคยตีเลย แล้วเราเป็นใคร แต่เราก็ทำงานที่เดียวกันได้แค่ไม่ก็เดือนแล้วก็พากันลาออกมา ต่างฝ่ายต่างได้งานใหม่ คนละที่ หลังจากที่ทะเลาะกันครั้งที่ 2 เรากับ ส.ม.ปรับความเข้าใจกันเยอะมาก

ที่ผ่านมาเวลาเราทะเลาะกันเราจะเก็บของหนี้จากเค้าตลอด เราจะให้เหตุผลว่าอย่าให้เราเดินจากกันตอนที่เราเกียดกันเลย ให้เราลองห่างกันดูบ้าง เผื่อว่าเราจะคิดถึงกัน แต่เราจะเก็บของไปสักกี่ครั้ง ส.ม.จะมารั้งเราไว้ทุกครั้ง สัญญาทุกอย่างเพื่อไม่ให้เราไป แต่เหตุการครั้งนี้เราสองคนก็ทะเลาะกันบ่อย ส.ม.เริ่มเอาแต่ใจมากขึ้น ถิฐิมากขึ้น เลิกงานกลับมาเล่นแต่เกม เล่นไลน์ ก่อนหน้านี้เราจะโทรหากันตอนพักเที่ยงทุกวัน  ตั้งแต่กลางปีที่แล้วทุกอย่างค่อยๆ หายไป

จนวันฮาโลวีน เรานัดกับเพื่อนๆ พีๆ ไว้ว่าจะไปเที่ยวกัน ซึ่งก็เป็นเพื่อนที่เค้ารู้จักดี เคยไปกิน ไปนอนด้วยกันมา แต่เราไม่ได้บอกเค้าว่าจะไปกับเพื่อนกลุ่มนี้ เราไลน์ไปบอกเค้าว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อนนะคืนนี้ ไม่รู้จะกลับตอนไหน  เค้าอ่านไลน์แต่ไม่ตอบ ไม่โทรหา พี่ที่ไปด้วยกันบอกให้เราไปนอนห้องแก เพราะฝนตกหนักมากตอนกับ เดี่ยวตอนเช้าไปส่ง พอเราไปห้องพี่คนนี้เราโทรหาเค้า ไม่รับ ไลน์ไปไม่อ่าน เราจะโทรบอกว่าไม่กลับห้องนะ นอนห้องพี่คนนี้ เราอาบน้ำนอน ตื่นเช้ารีบนั่งแท็กซี่กลับห้อง ส.ม.เราไม่ได้กลับห้องเหมือนกัน ไปไหนไม่รู้ เหมือนเราเปิดโอกาสให้เค้าไปนอนที่อื่นเลย ใช่ไหม เราก็ร้องให้เก็บเสื้อผ้าเหมือนเดิม

ครั้งนี้เค้าไม่ห้ามเรา เราเดินออกมากับกระเป่าสะพาย กระเป๋าผ้า พอเราปิดประตูออกมาถึงหน้าลิฟคิดได้ว่า กูต้องทำอะไรสักอย่าง เรากลับไปห้อง ไปเอากุญแจระมอเตอร์ไซซึ่ง ส.ม.ขับไปทำงานทุกวัน พอเราหยิบกุญแจรถออกมา เค้ากับห้ามเราไว้ บอกว่าอย่าเอารถไป พี่ต้องขับไปทำงานทุกวัน เอารถไปแล้วพี่จะไปทำงานยังไง  และแล้วเราก็ดีกันโดยที่เราขอสัญญากับเค้าว่า ไม่ว่าจะไปเมาที่ไหนให้กับห้อง กับมาหากัน เค้าก็สัญญาว่าไม่ทำแบบนี้อีก แต่ในใจเราระแวงเค้ามากขึ้น เป็นกังวล ไม่ไว้ใจ เพราะเราเคยเห็นประวัติการคุยไลน์ที่เค้าคุยกับเพื่อนผู้หญิงที่ทำงาน แล้วหลายวันถัดมามประวัติมันหายไป ////เดี่ยวพรุ่งนี้เย็นๆมาเล่าครั้งที่ 3 ให้ฟังนะค่ะ ครั้งสุดท้ายของครอบครัวเรา
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่