ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย บ่อน้ำวน น้ำตกพรหมโลก จุดอาถรรพ์คร่าชีวิต 19 คน @ นครศรีธรรมราช !

หยอกเย้าหยอกเย้าหยอกเย้าหยอกเย้า

ช็อก!ภาพถ่ายติดวิญญาณ มือถือผู้เข้าร่วมพิธีปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย บริเวณบ่อน้ำวนน้ำตกพรหมโลก เมืองคอน จุดอาถรรพ์คร่าชีวิต 19 นักท่องเที่ยว ผวารูปผู้ชายนั่งชันเข่าอยู่กลางบ่อน้ำวน


กรณีนายสุราษฎร์ กาญจนอุดม อายุ 22 ปี และนายพีม ฤทธิ์รุตม์ อายุ 22 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต ปี 3 เดินทางไปเที่ยวเล่นน้ำตกพรหมโลก อ.พรหมคีรี จ .นครศรีธรรมราช จมน้ำตายในวังน้ำวน ท่ามกลางการวิพากษ์วิจารณ์ถึงอาถรรพ์น้ำตกพรหมโลกที่ในช่วงเทศกาลสำคัญจะมีนักท่องเที่ยวแห่มาเที่ยวชม และเล่นน้ำจนจมน้ำเสียชีวิตอย่างต่อเนื่องเกือบ 20 ศพ เหตุเกิดเมื่อเย็นวันที่ 5 ม.ค. 59 ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่บริเวณศาลพระภูมิ เจ้าที่ประจำน้ำตกพรหมโลก หมู่ 5 ต.พรหมโลก นายจิรศักดิ์ ชูความดี สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นายประไพ ไชยรัตน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาหลวง และนายวิรัตน์ ทองย้อย หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานเขาหลวง ที่ ขล. 1 หน่วยน้ำตกพรหมโลก พร้อมข้าราชการในสังกัด นิมนต์พระครูปลัดจัด ปัญญาวุฒโฑ เจ้าอาวาสวัดธงทอง อ.ร่อนพิบูลย์ พระเกจิชื่อดังเข้าร่วมพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์เจ้าที่เจ้าทาง และดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิต 19 ศพ ซึ่งยังไม่ไปผุดไปเกิด และวนเวียนอยู่ในพื้นที่ พร้อมสวดเจริญพระพุทธคุณอุทิศส่วนกุศล โดยมีประชาชนที่ทราบข่าวเดินทางเข้าร่วมพิธีเกือบ 100 คน

โดยพระปลัดจัดนั่งสมาธิ บริกรรมคาถาและเพ่งจิตสื่อสารกับสิ่งเร้นลับทั้งหมดที่สิงสถิตอยู่ในบริเวณน้ำตกพรหมโลกเกือบครึ่งชั่วโมง ก่อนจะชี้ว่าจุดที่ตั้งศาลพระภูมิหันผิดทิศ จึงหันศาลพระภูมิไปทางทิศตะวันออก พร้อมระบุอีกว่า ใต้พื้นพิภพด้านล่างของน้ำตกพรหมโลกเป็นที่อยู่อาศัยของพญานาค และบริวาร จำนวนมาก ส่วนกลางลำธารด้านล่างจะมีต้นคะเคียนทองขนาด 2-3 คนโอบ สูงกว่า 20 เมตร ขึ้นอยู่กลางลำธาร โดยต้นตะเคียนนี้เป็นที่สิงสถิตของเจ้าที่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย

โดยพระปลัดจัดได้นำคณะไปยังต้นตะเคียนดังกล่าวซึ่งขึ้นอยู่ระหว่างโขดหิน แล้วทำพิธีบวงสวง และนำผ้าแพร 3 สีไปผูกรอบต้นคะเคียน จากนั้นจึงสวดเจริญชัยมงคลคาถา ซึ่งระหว่างพิธีได้เกิดปรากฎการณ์แปลกประหลาด จู่ ๆ ก้อนเมฆดำทะมึนได้เคลื่อนมาบดบังแสงอาทิตย์ที่แผดกล้า จนมืดครึ้ม และเกิดฝนตกโปรยปราย และลมพัดกระโชกรุนแรงตลอดเวลา แต่หลังเสร็จสิ้นพิธีกรรมท้องฟ้าที่มืดครึ้มก็กลับสว่างจ้าแสดงแดดสาดส่องลงมาเหมือนเดิมอย่างน่าอัศจรรย์ โดยพระปลัดจัด เจ้าพิธีได้ให้เจ้าหน้าที่นำธงผ้ายันต์ที่เขียนด้วยตัวเอง ไปแขวนติดต้นไม้รอบ ๆ บริเวณด้วย ปิดท้ายด้วยการรำมโนราห์ถวายโดยคณะมโนราห์ “หงส์ฟ้า” ซึ่งในขณะที่มีการร่ายรำมโนราห์ถวายปรากฏว่าตาพรานบุญ ซึ่งเป็นครูหมอโนราตามความเชื่อคนคนภาคใต้ได้เข้าทรงผู้หญิงที่ร่วมพิธี 2 คน จนออกมาร่ายรำ และเต้นตาพรานโดยไม่รู้สึกตัว

ระหว่างพิธี น.ส.สุภาวดี สุวรรณเวหา อายุ 30 ปี ซึ่งเข้าร่วมพิธี ได้ใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปบ่อน้ำวน ซึ่งเป็นจุดที่คนพลัดตกลงไปเสียชีวิตไว้ เมื่อนำภาพมาตรวจสอบ พบว่า 1 ใน 3 ภาพที่ถ่ายไว้เป็นภาพบ่อน้ำวน แต่สิ่งที่ชวนขนลุกคือมีเงาลาง ๆ ของชายวัยกลางคน นั่งชันเข่ากลางบ่อ สร้างความตกตะลึง และพิศวง ให้แก่บรรดาผู้ที่เห็นภาพดังกล่าวต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา โดย น.ส.สุภาวดี กล่าวว่า ระหว่างที่ร่วมพิธีตนนั่งพนมมือไหว้และหันไปมองบริเวณบ่อน้ำวน และก็ต้องตกใจแทบช็อก เมื่อเห็นร่างลาง ๆ ของผู้ชายนั่งชันเข่าอยู่กลางบ่อน้ำวนจึงรีบคว้าโทรศัพท์มาถ่ายภาพดังกล่าวเอาไว้ อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นได้มีการถ่ายภาพบ่อน้ำวนในมุมเดียวกันอีกหลายภาพ แต่ไม่พบร่างลางเลือนที่พบในตอนแรก

ด้านพระปลัดจัด กล่าวว่า ก่อนหน้านี้อาตมาได้เดินทางมาที่น้ำตกพรหมโลก ตั้งสมาธิเพ่งกระแสจิตสื่อสารกับสิ่งเร้นลับที่สิงสถิตบริเวณน้ำตก ซึ่งได้ขอให้อาตมาช่วยเป็นสื่อกลางทำพิธี บวงสรวงบอกกล่าวขอขมา และทำบุญอุทิศให้ดวงวิญญาณที่ยังสิงสถิตอยู่ในบริเวณนี้ เพื่อให้ได้ไปผุดไปเกิดในภพที่ดี จึงดำเนินการให้ตามประสงค์ โดยยืนยันว่าไม่ได้เป็นการ อวดอุตริมนุษยธรรมแต่อย่างใด และขอเรียนว่าในโลกเร้นลับที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้มันน่ากลัวกว่าที่เรามองเห็น เพราะเขามีอิทธิฤทธิ์บารมีมากกว่ามนุษย์ สำหรับภาพผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่นั่งชันเข่ากลางบ่อน้ำวนที่โยมผู้หญิงถ่ายติดนั้น ในขณะที่อาตมาประกอบพิธีอาตมาก็เห็นภาพดังกล่าวเช่นเดียวกัน

“ที่ผ่านมานานมากแล้วที่ไม่เคยมีใครบวงสรวงบอกกล่าวเทพดา เทพนาคา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และดวงจิตวิญญาณที่น้ำตกแห่งนี้เลย โดยสิ่งที่อาตมาสื่อและขอได้ในเบื้องต้นคือในช่วง 3 ปีหลังจากวันทำพิธีนี้จะไม่เคยเหตุร้ายแรง หรือมีคนมาพลัดตกจมบ่อน้ำวนเสียชีวิตอีก และในช่วง 3 ปีนี้ขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งประชาชนช่วยกันนำเครื่องเซ่นสังเวยมาบวงสรวงบอกกล่าว ขอเขมาเป็นระยะ ๆ และหลังจาก 3 ปีผ่านพ้นไปอาตมาจะสื่อสารกันอีกครั้งหนึ่งว่าจะให้อาตมาดำเนินการอย่างไรต่อไป”พระปลัดจัดกล่าว.

http://www.dailynews.co.th/regional/374249
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่