”โมจิ”คงเป็นคำที่ไม่ต้องอธิบายให้กับแฟนๆที่ชอบขนมญี่ปุ่น เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า”โมจิ”คือขนมหวานของชาวอาทิตย์อุทัย จริงๆแล้วโมจินั้นไม่ได้เป็นเพียงขนมหวาน เพราะมันคือข้าวเหนียวที่ตำจนกลายเป็นก้อนเหนียวๆ จะเป็นของหวานหรือเป็นอาหารคาวนั้นแล้วแต่ว่าเราจะเอามาทานกับอะไร ทางภูมิภาคโทโฮะกุ (หรือภาคอีสาน 6 จังหวัดของญี่ปุ่น) ที่จขกท.อยู่นั้นทานกันเป็นอาหารหลักกันเลย กระทู้นี้แม่บ้านไทยแห่งเมืองเซนไดขอเล่าถึงวิธีง่ายๆในการทำโมจิทานแบบขนมก่อน กระทู้ต่อๆไปจะเล่าถึงวิธีทานโมจิแบบเป็นอาหารหลักของมื้อค่ะ
คนญี่ปุ่นทานโมจิกันตลอดปี แต่จะทานกันมากเป็นพิเศษในช่วงปีใหม่ ตามหมู่บ้าน ชุมชนต่างๆจะมีธรรมเนียมการตำโมจิ (Mochitsuki, 餅つき) ทานกันตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไปจนถึงปีใหม่
ปลายเดือนธันวาคมก่อนถึงปีใหม่ก็จะนำโมจิที่ทำเป็นรูปทรงกลมซ้อนกัน 3 ชั้น เรียกกันว่าคะกะมิโมจิ (Kagami-mochi,鏡餅) มาตั้งถวายเทพเจ้า โดยวางประดับไว้ตามจุดต่างๆในบ้านหรือที่ทำงาน
พอถึงวันที่ 11 มกราคมของทุกปี คนญี่ปุ่นก็จะนำคะกะมิโมจิที่ตั้งถวายเทพเจ้านั้นมาผ่าทานกัน เรียกธรรมเนียมนี้ว่า “คะกะมิบิระคิ” (Kagami-biraki, 鏡開き) คะกะมิโมจิมักจะมีโครงพลาสติกที่หนามากหุ้มอยู่ ต้องผ่าเอาออกก่อน แล้วใช้ฆ้อนทุบโมจิให้แตก หรือมีดใหญ่ๆอย่างอีโต้เฉาะ ยิ่งก้อนใหญ่ต้องใช้แรงมาก ต้องระวัง
โมจินั้นแห้ง แข็ง เก็บไว้ได้นานพอสมควร เวลาจะทานต้องนำมาทำให้นุ่ม ซึ่งทำได้หลายวิธี เช่นใส่ลงไปในซุป, ย่างบนตะแกรง, ย่างน้ำมันบนกระทะ แต่ที่ง่ายสุดที่ขอแนะนำในกระทู้นี้คือใช้ไมโครเวฟ โดยใส่โมจิลงในถ้วยก้นลึกเล็กๆ เติมน้ำให้ท่วมแล้วอุ่นไมโครเวฟ 1นาทีเศษๆสำหรับโมจิ 1 ก้อน
เมื่อได้โมจินุ่มๆร้อนๆแล้ว ต้องรีบทานค่ะ เพราะไม่งั้นจะแข็ง วิธีทานก็คือเอามาเคลือบซอสหวานๆรสต่างๆ,หรือทานกับถั่วแดงต้ม เนื่องจากโมจิจะแข็งตัวไวมาก ดังนั้นก่อนที่จะทำโมจิให้นุ่มไม่ว่าวิธีใดๆ ให้เตรียมซ้อสที่จะใช้เคลือบเสียก่อน
วิธีง่ายๆในการทำซอสเคลือบโมจิคือไปซื้อแบบสำเร็จรูปจากซุเปอร์มาร์เก็ตมาได้เลย โดยมากรสยอดนิยมทั่วไปของคนญี่ปุ่นได้แก่ถั่วแดง วอลนัต งา ส่วนชาวเซนไดจะมีซุนดะ (ถั่วแระ)บดหวานเพิ่มมาอีกรส ในรูปคือถั่วแดงกวนและซุนดะ
ที่ร้านขายของเดี๋ยวนี้จะเห็นว่ามี "Mochi no moto"ของบริษัทมะรุมิยะออกมาขายถุงละ 120 เยน ใน มีหลายรสให้เลือก จขกท.ลองซื้อมา 3 รส คือ รสซุนดะ, รสคินะโกะ (ผงถั่วเหลืองหวานๆ) และรสมิตะระชิ (ซีอี๊วหวานๆ)พบว่าอร่อยทุกรส ในแต่ละถุงมี 3 ซอง นำผงทำซอสโมจินี้มาผสมน้ำอุ่นในอัตราส่วน 1ช้อนโต๊ะต่อ 1 ซอง ก็จะได้ซอสหวานข้นสำหรับเคลือบโมจิ ทำซอสเตรียมไว้ เสร็จแล้วไมโครเวฟโมจิให้นุ่ม แล้วรีบมาเคลือบคลุกเคล้ากับซ้อส ก็จะพร้อมทานได้เลยค่ะ
ซุนดะ โมจิ
คินะโกะ โมจิ
มิตะระชิ โมจิ
หากต้องการทำเป็นแบบโมจิใส่ถั่วแดงหรือถั่วแระซุนดะต้มน้ำตาล (Zenzai, ぜんざい) ก็แสนง่ายเช่นกัน
ใส่ถั่วกวน 50 กรัม น้ำ 50 มล.ในถ้วย ไม่ต้องกวน อุ่นไมโครเวพ 1 นาที เสร็จแล้วเอาโมจิใส่ลงไป 1 ก้อน อุ่นไมโครเวพอีก 1 นาทีครึ่ง เอาออกมากวนให้เข้ากันก็จะได้ เซนไซแบบง่ายสุด
จขกท.เขียนกระทู้นี้ไป ทำโมจิทานไป อร่อยไป พร้อมๆกับถ่ายรูปไปด้วย ตอนนี้ท้องหนักอึ้งเป็นอย่างมาก !
จะไม่ให้หนักได้อย่างไร ในเมื่อโมจิ 1 ก้อนมีราวๆ 116 แคลอรี่ และโมจิ 2 ก้อนมีแคลอรี่เท่ากับทานข้าว 1 ชาม
จากในรูปลองนับดูสิคะว่าจขกท.ทานเข้าไปกี่ชามแล้ว
แม่บ้านไทยเมืองเซนไดเล่าถึงการทำโมจิทานแบบง่ายๆ
คนญี่ปุ่นทานโมจิกันตลอดปี แต่จะทานกันมากเป็นพิเศษในช่วงปีใหม่ ตามหมู่บ้าน ชุมชนต่างๆจะมีธรรมเนียมการตำโมจิ (Mochitsuki, 餅つき) ทานกันตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไปจนถึงปีใหม่
ปลายเดือนธันวาคมก่อนถึงปีใหม่ก็จะนำโมจิที่ทำเป็นรูปทรงกลมซ้อนกัน 3 ชั้น เรียกกันว่าคะกะมิโมจิ (Kagami-mochi,鏡餅) มาตั้งถวายเทพเจ้า โดยวางประดับไว้ตามจุดต่างๆในบ้านหรือที่ทำงาน
พอถึงวันที่ 11 มกราคมของทุกปี คนญี่ปุ่นก็จะนำคะกะมิโมจิที่ตั้งถวายเทพเจ้านั้นมาผ่าทานกัน เรียกธรรมเนียมนี้ว่า “คะกะมิบิระคิ” (Kagami-biraki, 鏡開き) คะกะมิโมจิมักจะมีโครงพลาสติกที่หนามากหุ้มอยู่ ต้องผ่าเอาออกก่อน แล้วใช้ฆ้อนทุบโมจิให้แตก หรือมีดใหญ่ๆอย่างอีโต้เฉาะ ยิ่งก้อนใหญ่ต้องใช้แรงมาก ต้องระวัง
โมจินั้นแห้ง แข็ง เก็บไว้ได้นานพอสมควร เวลาจะทานต้องนำมาทำให้นุ่ม ซึ่งทำได้หลายวิธี เช่นใส่ลงไปในซุป, ย่างบนตะแกรง, ย่างน้ำมันบนกระทะ แต่ที่ง่ายสุดที่ขอแนะนำในกระทู้นี้คือใช้ไมโครเวฟ โดยใส่โมจิลงในถ้วยก้นลึกเล็กๆ เติมน้ำให้ท่วมแล้วอุ่นไมโครเวฟ 1นาทีเศษๆสำหรับโมจิ 1 ก้อน
เมื่อได้โมจินุ่มๆร้อนๆแล้ว ต้องรีบทานค่ะ เพราะไม่งั้นจะแข็ง วิธีทานก็คือเอามาเคลือบซอสหวานๆรสต่างๆ,หรือทานกับถั่วแดงต้ม เนื่องจากโมจิจะแข็งตัวไวมาก ดังนั้นก่อนที่จะทำโมจิให้นุ่มไม่ว่าวิธีใดๆ ให้เตรียมซ้อสที่จะใช้เคลือบเสียก่อน
วิธีง่ายๆในการทำซอสเคลือบโมจิคือไปซื้อแบบสำเร็จรูปจากซุเปอร์มาร์เก็ตมาได้เลย โดยมากรสยอดนิยมทั่วไปของคนญี่ปุ่นได้แก่ถั่วแดง วอลนัต งา ส่วนชาวเซนไดจะมีซุนดะ (ถั่วแระ)บดหวานเพิ่มมาอีกรส ในรูปคือถั่วแดงกวนและซุนดะ
ที่ร้านขายของเดี๋ยวนี้จะเห็นว่ามี "Mochi no moto"ของบริษัทมะรุมิยะออกมาขายถุงละ 120 เยน ใน มีหลายรสให้เลือก จขกท.ลองซื้อมา 3 รส คือ รสซุนดะ, รสคินะโกะ (ผงถั่วเหลืองหวานๆ) และรสมิตะระชิ (ซีอี๊วหวานๆ)พบว่าอร่อยทุกรส ในแต่ละถุงมี 3 ซอง นำผงทำซอสโมจินี้มาผสมน้ำอุ่นในอัตราส่วน 1ช้อนโต๊ะต่อ 1 ซอง ก็จะได้ซอสหวานข้นสำหรับเคลือบโมจิ ทำซอสเตรียมไว้ เสร็จแล้วไมโครเวฟโมจิให้นุ่ม แล้วรีบมาเคลือบคลุกเคล้ากับซ้อส ก็จะพร้อมทานได้เลยค่ะ
ซุนดะ โมจิ
คินะโกะ โมจิ
มิตะระชิ โมจิ
หากต้องการทำเป็นแบบโมจิใส่ถั่วแดงหรือถั่วแระซุนดะต้มน้ำตาล (Zenzai, ぜんざい) ก็แสนง่ายเช่นกัน
ใส่ถั่วกวน 50 กรัม น้ำ 50 มล.ในถ้วย ไม่ต้องกวน อุ่นไมโครเวพ 1 นาที เสร็จแล้วเอาโมจิใส่ลงไป 1 ก้อน อุ่นไมโครเวพอีก 1 นาทีครึ่ง เอาออกมากวนให้เข้ากันก็จะได้ เซนไซแบบง่ายสุด
จขกท.เขียนกระทู้นี้ไป ทำโมจิทานไป อร่อยไป พร้อมๆกับถ่ายรูปไปด้วย ตอนนี้ท้องหนักอึ้งเป็นอย่างมาก !
จะไม่ให้หนักได้อย่างไร ในเมื่อโมจิ 1 ก้อนมีราวๆ 116 แคลอรี่ และโมจิ 2 ก้อนมีแคลอรี่เท่ากับทานข้าว 1 ชาม
จากในรูปลองนับดูสิคะว่าจขกท.ทานเข้าไปกี่ชามแล้ว