http://www.thaimuslim.com/view.php?c=2&id=21830
ก่อนหน้านี้
อังกฤษประกาศมอบเงินช่วยเหลือจำนวน 35 ล้านปอนด์ (ราว 1,560 ล้านบาท) เพื่อยุติประเพณีขลิบปุ่มกระสันในเด็กหญิง     
    
     การขลิบปุ่มกระสันในเด็กหญิงเป็นธรรมเนียมที่ถือปฏิบัติอย่างแพร่หลายในประเทศแถบแอฟริกาตะวันตกและตะวันออก รวมถึงเอเชีย และ ตะวันออกกลางในบางภูมิภาค แม้แต่ชุมชนผู้อพยพบางแห่งในประเทศตะวันตกอย่าง อังกฤษ, ฝรั่งเศส, แคนาดา และสหรัฐฯ ก็ยังมีปฏิบัติกันอยู่ ซึ่งถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย หากเด็กที่ถูกกระทำมีอายุต่ำกว่า 18 ปี

     องค์การอนามัยโลกประเมินว่า มีสตรีและเด็กหญิงราว 140 ล้านคนทั่วโลกที่ถูกบังคับตัดปุ่มกระสัน (clitoris) และแคมอวัยวะเพศ (labia) ออกตั้งแต่วัยสาว ด้วยความเชื่อว่าการทำเช่นนั้นจะช่วยลดความกำหนัด และทำให้สตรีรักษาพรหมจรรย์ของตนไว้ได้ ทว่าขั้นตอนดังกล่าวอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา เช่น เลือดไหลไม่หยุด, การขับถ่ายปัสสาวะผิดปกติ รวมถึงปัญหาในการคลอดบุตร





http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000004967

ผลวิจัยชี้ผู้หญิงในสหรัฐฯ กว่า “ครึ่งล้าน” เสี่ยงถูก “ขลิบปุ่มกระสัน”
     
      สหรัฐฯ ได้ประกาศให้ธรรมเนียมเช่นนี้เป็นสิ่งผิดกฎหมายมานานถึง 20 ปีแล้ว




การขริบอวัยวะเพศสตรี หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Female Genital Mutilation (FGM)
และ Female Genital Cutting (FGC)

พิธีนี้ประกอบด้วยกระบวนการอันเกี่ยวพันกับการตัด ส่วนใดส่วนหนึ่งของอวัยวะเพศหญิงบางส่วนหรือทั้งหมด

ตามรายงานขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization) การขริบหรือตัดอวัยวะเพศสตรีมี 4 ประเภท


ประเภทที่ 1คือ การตัดหนังหุ้มคลิตอริสเพียงอย่างเดียว หรือการตัดคลิตอริสบางส่วนหรือทั้งหมด มักกระทำกันอย่างแพร่หลายตั้งแต่ประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซียในทวีปเอเชีย ไปจนถึงประเทศซาอุดิอาระเบียและเยเมนในตะวันออกกลาง


ประเภทที่ 2 คือ การตัดคลิตอริสพร้อมๆ กับบางส่วนหรือทั้งหมดของแคมใน และมักทำกันเป็นส่วนใหญ่ในทวีปแอฟริกาแถบที่เรียกว่า Sub-Saharan


ประเภทที่ 3 คือ การตัดหรือทำศัลยกรรมอวัยวะเพศด้านนอก และบางครั้งก็ทำการเย็บหรือทำให้ช่องสังวาสแคบลง ซึ่งส่วนมากกระทำกันในประเทศซูดาน โซมาเลีย มาลี บางส่วนของประเทศไนจีเรีย และอียิปต์


ประเภทที่ 4 คือ กระบวนการใดๆ ที่มีผลต่ออวัยวะเพศ รวมถึงการเจาะหรือแทง และ / หรือการเย็บคลิตอริสหรือบริเวณรอบๆ





อย่างไรก็ตาม การ ขริบอวัยวะเพศสตรีมีความเสี่ยงอย่างมาก ดังนี้


•ทำให้เลือดไหลไม่หยุด ( ตกเลือด )
•ทำให้เกิดอาการช็อคจากความเจ็บปวดและโลหิตตก
•ทำให้เกิดการติดเชื้อและบาดแผลที่รักษาไม่หาย
•ทำให้เกิดบาดแผลหรืออาการบาดเจ็บต่อบริเวณใกล้ เคียง เช่น ท่อปัสสาวะและช่องทวารหนัก
•อาจทำให้เกิดการติดเชื้อเอชไอวี / เอดส์ และเชื้อไวรัสอื่นๆ ได้
•ทำให้เสียชีวิต



อาการหรือโรคแทรกซ้อนระยะยาวของการ ขริบอวัยวะเพศสตรี มีดังนี้

•เกิดแผลเป็นและเนื้อเยื่อแข็งด้าน
•ประสบปัญหาในการปัสสาวะและการไหลของเลือดประจำ เดือน
•ทำให้ความรู้สึกทางเพศลดลงหรือไม่มีเลย
•ทำให้เกิดความเจ็บปวดขณะร่วมเพศ
•ทำให้เกิดความเจ็บปวดและยากลำบากในการคลอดลูก
เหตุผลที่ต้องทำการ ขริบอวัยวะเพศสตรี ก็เพื่อเกียรติยศของครอบครัว เพื่อการชำระล้างให้สะอาด




อีกทั้งเพื่อให้ผู้หญิงสัตย์ซื่อต่อสามี หรือเหตุผลง่ายๆ ก็เพียงเพื่อทำให้ผู้หญิงหวาดกลัวในการมีเพศสัมพันธ์ และในอีกหลายๆ วัฒนธรรม หญิงสาวที่มิได้ผ่านการขริบอวัยวะเพศจะถูกพิจารณาว่า “ไม่สะอาด” ดังนั้น เธอจึงยังแต่งงานไม่ได้ และบ่อยครั้งที่เด็กสาวต้องเข้าพิธีขริบอวัยวะเพศซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของ การผ่านเข้าสู่ความเป็นผู้หญิง



กระบวนการขริบอวัยวะเพศสตรี นั้น กระทำโดยสมาชิกครอบครัวช่วยกันกดหญิงสาวให้นอนลงกับพื้น ขณะที่หมอตำแยใช้เครื่องมือที่มีความคม เช่นมีด เศษแก้ว หรือเครื่องมือที่ใช้ตัดหรือขริบโดยเฉพาะ เพื่อตัดเอาหนังหุ้มคลิตอริสหรือเนื้อที่ห้อยอยู่สองข้างปากช่องสังวาสออก บ่อยครั้งที่เครื่องมือเหล่านี้ก็ไม่ค่อยสะอาด อันทำให้เกิดการติดเชื้อและการแพร่ของเชื้อไวรัส



พ่อแม่หลายคนที่กลัวว่าลูกสาวตนจะประสบภาวะแทรก ซ้อนดังกล่าว ได้นำลูกสาวไปทำการขริบที่โรงพยาบาลซึ่งจะใช้ยาสลบและเครื่องไม้เครื่องมือ ที่สะอาดถูกสุขลักษณะ สิ่งนี้อาจก่อให้เกิดความเสียหายมากขึ้น เนื่องจากอวัยวะเพศอาจถูกเฉือนทิ้งอย่างไม่บันยะบันยัง



อย่างไรก็ตาม พ่อแม่หลายคนก็เริ่มตั้งคำถามหรือแสดงความสงสัยในการทำให้ลูกสาวเล็กๆ ของตนเจ็บปวดและเสี่ยงต่อการเสียชีวิตอันเนื่องจากการถูกตัดอวัยวะเพศ แถมยังมีผลกระทบระยะยาวดังกล่าวข้างต้นด้วย ด้วยเหตุนี้ จึงได้มีการรณรงค์ให้การศึกษาแก่ผู้คนในทวีปแอฟริกาและแถบตะวันออกกลาง เพื่อเตือนพวกเขาให้รู้ถึงอันตรายของการขริบหรือตัดอวัยวะเพศ ตอนนี้ บรรดาหมอตำแยต่างก็ทิ้งมีดและเครื่องไม้เครื่องมือของตน เพื่อสอนให้ชุมชนของ


พวกเธอรู้ถึงอันตรายของการกระทำตามจารีตประเพณีนี้ และบรรดาเด็กหญิงก็ถูกปล่อยให้ผ่านไปสู่การเป็นหญิงสาวโดยไม่ต้องเสียเลือด เสียเนื้อ บรรดาผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากการขริบอวัยวะเพศมากที่สุดก็คือผู้หญิงและ เด็กสาวๆ พวกนี้เป็นผู้ทำการรณรงค์อย่างแข็งขันและผลักดันให้ยุติการขริบอวัยวะเพศ พวกเธอตระหนักถึงการรักษาความเป็นหนึ่งเดียว ของร่างกาย (ที่พระเจ้าประทานให้ และมิมีผู้ใดมีสิทธิ์ที่จะตัดส่วนหนึ่งส่วนใดออกไปได้) สำหรับชนรุ่นต่อไป



สาวแอฟริกาเสี่ยงเสียชีวิตสูงเนื่องจาก ประเพณีการขริบอวัยวะเพศ เตือนสาวแอฟริกา เสี่ยงเสียชีวิตสูง เหตุขริบน้องสาว
แหล่งข่าว – หนังสือพิมพ์ โพสต์ทูเดย์ (25 พฤศจิกายน 2005)

   ไคโร ( เอพี ) — บรรดาสตรีในแอฟริกา - ตะวันออกกลาง 130 ล้านคน ยังทุกข์ระทมกับจารีตเก่าของสังคม “ ขริบอวัยวะเพศหญิง” เสี่ยงติดเชื้อ



องค์การกองทุนเด็กแห่งสหประชาชาติ ( ยูนิเซฟ ) ได้ออกรายงาน ระบุว่า ในทุกๆ ปีนั้นมีเด็กหญิงและสตรีมากถึงราว 3 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากประเทศในทวีปแอฟริกาและตะวันออกกลาง ยังคงต้องทนทรมานจากจารีตประเพณี “การ ขริบอวัยวะเพศหญิง” แม้จะเคยมีการรณรงค์ต่อต้านมาแล้วก่อนหน้านี้ ขณะที่ ยูนิเซฟ ระบุว่า เป็นหนึ่งในภัยเงียบของการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่รุนแรงที่สุด




ทั้งนี้ การ ขริบอวัยวะเพศหญิง เป็นจารีตซึ่งเชื่อกันว่าจะช่วยเพิ่มความงามของสตรี ตัดความปรารถนาทางเพศ คงไว้ซึ่งเกียรติของสตรี และเพิ่มศักยภาพในชีวิตสมรส ซึ่งได้กลายเป็นวิถีทางวัฒนธรรมส่วนหนึ่งของเด็กหญิงไปแล้ว



   “การขริบอวัยวะเพศสตรี สื่อถึงความภาคภูมิใจ การเติบโตขึ้นเป็นหญิงสาว และรู้สึกถึงการเป็นส่วนหนึ่งในสังคม ขณะที่การไม่ยอมรับจารีตนี้จะนำมาซึ่งความอับอาย และไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม ทั้งตัวเด็กหญิงและครอบครัว ” รายงานระบุ ขณะที่การยุติจารีตดังกล่าวจะต้องมาจากการตระหนักในข้อเท็จจริงและความสมัคร ใจของคนในสังคมเอง ไม่ใช่เพียงการบังคับใช้กฎหมาย ”