วันนี้ไอ้น้องชายตัวดีโทรมาแต่เช้าบอกว่า ผมอยากลองทำนิยาย e-book ให้ช่วยอ่านหน่อยภาษาพอใช้ได้ไหม ไอ้เราก็ความรู้น้อยเลยบอกว่า จะมาลงถามผู้รู้ใน pantip ให้ เชิญติชมด้วยนะครับ เด่ยวผมให้น้องเข้ามาอ่านเอง ขอบพระคุณครับ
ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มแล้ว ฉันยืนอยู่หน้าบ้านไม้ทรงไทยหลังหนึ่ง บ้านหลังนี้ค่อนข้างจะอยู่ห่างจากตัวเมืองพอสมควร สภาพรอบบ้านมีสวนเล็ก ๆ มีต้นหญ้าปกคลุมซึ่งบัดนี้มันสูงเกือบถึงเอวของมนุษย์โดยเฉลี่ยแล้ว สายลมที่พัดผ่าน ต้นหญ้าที่พลิ้วไหวตามแรงลมราวกับมีชีวิต ชิงช้าหน้าบ้านแกว่งไหวเสมือนมีคนแกว่งมันเบา ๆ ฉันค่อย ๆ ก้าวเข้ามาผ่านรั้วบ้านอย่างช้า ๆ มันมืดซะเหลือเกินฉันคิดในใจก่อนที่จะหยิบไฟฉายที่ฉันพกติดตัวเสมอขึ้นมาเปิด แสงไฟจากปลายกระบอกไฟฉายทำให้เห็นทางที่ทอดยาวจากสวนไปยังบันไดขึ้นสู่ตัวบ้าน มันจากพื้นดินราวสูง 2 เมตรความมืดที่อยู่โดยรอบทำให้เหมือนมีฉันอยู่ในโลกนี้เพียงลำพัง ยิ่งเดินเข้ามาใกล้ฉันยิ่งเห็นบัดไดชัดเจนขึ้น มันยังคงสูงสง่าราวกับรอคอยใครสักคนที่จะท้าทายมันเมื่อเดินขึ้นไป ผิวไม้สีดำของมันก็ยิ่งเพิ่มบรรยากาศความน่ากลัวได้เป็นอย่างดี ไม่มีทางให้ถอยแล้วสินะฉันคิด พร้อมเหยียบขั้นบันไดขั้นแรกขึ้นไปอย่างห้าวหาญ เอี๊ยดดด ราวกับจะตอบรับคำท้าทายนั้นบันไดขั้นแรกส่งเสียงร้องราวกับจะเอ่ยบอกเรื่องราวความเก่าแก่ของมัน ผ่านมาชั่วอึดใจหรืออาจจะเป็นอึดใจที่นานที่สุดในชีวิตฉัน ฉันก็ได้มายืนอยู่ที่บันไดขั้นสุดท้ายพลางจ้องมองแม่กุญแจอันใหญ่สนิมเกาะราวกับคราบเลือด พลางค้นหากุญแจเพื่อทำการเปิดมัน เอี๊ยด ฉันหยุด เสียงบันได ใครกัน ไม่สิบันไดเก่าแบบนี้คงเป็นเสียงตามธรรมชาติความเก่าของมันหรือไม่ ฉันก็คงประสาทหลอนหลังจากทำงานอดหลับอดนานมาหลายวันจนหูแว่วไป เอี๊ยดดด ไม่ ไม่ใช่หูฝาดแล้ว มีคนขึ้นบันไดมาจริง ๆ ใคร หรืออะไรก็ตาม มันยังคงไม่หยุดเสียงนั้นยังคงใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จนกระทั่งมันหยุดตรงบันไดขั้นก่อนหน้าฉัน ฉันยังคงไม่กล้ามองไปข้างหลัง เวลาที่ผ่านไปทำให้ความเงียบเข้าปกคลุม จะมีแสงก็เพียงจากไฟฉายของฉันเท่านั้น ไอ้เจ้าสิ่งนั้นมันยังคงอยู่ข้างหลังฉันแน่ ความเงียบทำให้ได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายใจที่แทบจะรดต้นคอ ฉันลังเล แต่ก็กลั้นใจ พร้อมกลับหลังหันฉายไฟกลับไปด้านหลังอย่างช้า ๆ แสงไฟของฉันเมื่อกระทบกับมันมันส่งเสียงออกมาเล็กน้อย แต่ก็ทำให้ฉันรู้ตัวแล้วว่าใครกันที่อยู่ข้างหลัง ตัวอะไรที่ตามฉันมา
รบกวนผู้เขียนและผู้อ่าน ช่วยเช็คสำนวนนิยายให้น้องผมหน่อย
ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มแล้ว ฉันยืนอยู่หน้าบ้านไม้ทรงไทยหลังหนึ่ง บ้านหลังนี้ค่อนข้างจะอยู่ห่างจากตัวเมืองพอสมควร สภาพรอบบ้านมีสวนเล็ก ๆ มีต้นหญ้าปกคลุมซึ่งบัดนี้มันสูงเกือบถึงเอวของมนุษย์โดยเฉลี่ยแล้ว สายลมที่พัดผ่าน ต้นหญ้าที่พลิ้วไหวตามแรงลมราวกับมีชีวิต ชิงช้าหน้าบ้านแกว่งไหวเสมือนมีคนแกว่งมันเบา ๆ ฉันค่อย ๆ ก้าวเข้ามาผ่านรั้วบ้านอย่างช้า ๆ มันมืดซะเหลือเกินฉันคิดในใจก่อนที่จะหยิบไฟฉายที่ฉันพกติดตัวเสมอขึ้นมาเปิด แสงไฟจากปลายกระบอกไฟฉายทำให้เห็นทางที่ทอดยาวจากสวนไปยังบันไดขึ้นสู่ตัวบ้าน มันจากพื้นดินราวสูง 2 เมตรความมืดที่อยู่โดยรอบทำให้เหมือนมีฉันอยู่ในโลกนี้เพียงลำพัง ยิ่งเดินเข้ามาใกล้ฉันยิ่งเห็นบัดไดชัดเจนขึ้น มันยังคงสูงสง่าราวกับรอคอยใครสักคนที่จะท้าทายมันเมื่อเดินขึ้นไป ผิวไม้สีดำของมันก็ยิ่งเพิ่มบรรยากาศความน่ากลัวได้เป็นอย่างดี ไม่มีทางให้ถอยแล้วสินะฉันคิด พร้อมเหยียบขั้นบันไดขั้นแรกขึ้นไปอย่างห้าวหาญ เอี๊ยดดด ราวกับจะตอบรับคำท้าทายนั้นบันไดขั้นแรกส่งเสียงร้องราวกับจะเอ่ยบอกเรื่องราวความเก่าแก่ของมัน ผ่านมาชั่วอึดใจหรืออาจจะเป็นอึดใจที่นานที่สุดในชีวิตฉัน ฉันก็ได้มายืนอยู่ที่บันไดขั้นสุดท้ายพลางจ้องมองแม่กุญแจอันใหญ่สนิมเกาะราวกับคราบเลือด พลางค้นหากุญแจเพื่อทำการเปิดมัน เอี๊ยด ฉันหยุด เสียงบันได ใครกัน ไม่สิบันไดเก่าแบบนี้คงเป็นเสียงตามธรรมชาติความเก่าของมันหรือไม่ ฉันก็คงประสาทหลอนหลังจากทำงานอดหลับอดนานมาหลายวันจนหูแว่วไป เอี๊ยดดด ไม่ ไม่ใช่หูฝาดแล้ว มีคนขึ้นบันไดมาจริง ๆ ใคร หรืออะไรก็ตาม มันยังคงไม่หยุดเสียงนั้นยังคงใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จนกระทั่งมันหยุดตรงบันไดขั้นก่อนหน้าฉัน ฉันยังคงไม่กล้ามองไปข้างหลัง เวลาที่ผ่านไปทำให้ความเงียบเข้าปกคลุม จะมีแสงก็เพียงจากไฟฉายของฉันเท่านั้น ไอ้เจ้าสิ่งนั้นมันยังคงอยู่ข้างหลังฉันแน่ ความเงียบทำให้ได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายใจที่แทบจะรดต้นคอ ฉันลังเล แต่ก็กลั้นใจ พร้อมกลับหลังหันฉายไฟกลับไปด้านหลังอย่างช้า ๆ แสงไฟของฉันเมื่อกระทบกับมันมันส่งเสียงออกมาเล็กน้อย แต่ก็ทำให้ฉันรู้ตัวแล้วว่าใครกันที่อยู่ข้างหลัง ตัวอะไรที่ตามฉันมา