อะแฮ่ม! เริ่มเลยละกันเนาะ หาฤกษ์เขียนรีวิวอยู่นาน ทริปนี้ เราได้มีโอกาสบินลัดฟ้าไปสัมผัสอากาศติดลบที่เกาหลีใต้เมื่อวันที่ 4-9 มกราคม 2016 ที่ผ่านมา รวม 6 วัน 5 คืน มันฟินดีแท้ ที่แน่ๆโอปป้าหน้าตาดีทั้งนั้น คิคิ จุดเริ่มต้นของทริปนี้คือ เรามีความฝันอันยิ่งใหญ่ที่มุ่งมั่นมาตลอดคือการไปเที่ยวเกาหลีหน้าหนาว เหตุเพราะดูซีรี่ย์แล้วอิน ฉากที่เห็นหิมะขาวโพลน หรือจะตอนที่พระเอกนางเอกพูดแล้วมีควันออกมาจากปากจากจมูก อื้อหือ ยิ่งน่าตื่นเต้น มันเท่ดีเนอะ ฮ่าๆๆ เราจึงรีบขออนุญาตบิดามารดาผู้อุปการะคุณมาตลอดชีวิต ซึ่งใช้เวลาขออยู่ประมาณ 3 ปีเห็นจะได้ กว่าที่ท่านทั้งสองจะอนุญาตให้ไปด้วยความเต็มใจ เมื่อได้รับโอกาสอันดีเช่นนี้แล้ว เราจึงรีบหาเพื่อนร่วมทริปทันที และแล้วก็ดั่งฟ้าประทาน เมื่อมิตรสหายที่คบกันมาตั้งแต่สมัยผมติ่งได้ตกลงร่วมทริปครั้งนี้ 1 คนถ้วน สมาชิกของทริปนี้จึงมีทั้งหมดจำนวน 2 นักล่าฝันผู้เด็ดเดี่ยว ความจริงจังของทริปจึงเกิดขึ้นประมาณเดือนมีนาคมปี 2015 แต่เพราะเรามีความมุ่งมั่นว่าต้องไปหน้าหนาวซึ่งจะอยู่ในช่วงเดือนธันวาถึงปลายกุมภา เราจึงต้องรอให้ถึงหน้าหนาวของปี 2016 จึงมีเวลาให้เตรียมเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะวางแผนค่าใช้จ่ายการเดินทาง
เราจะติดตามเพจในเฟซบุ๊คอยู่ตลอด เพราะเพจจะอัพเดทข่าวสารเมื่อมีโปรโมชั่นของสายการบินและอื่นๆที่เป็นประโยชน์กับการท่องเที่ยว และแล้วโปรบินถูกเกาหลีก็ปรากฏต่อสายตา เราต้องตัดสินใจให้เร็ว กดจองให้เร็วเพราะโปรเต็มเร็วมาก โปรแบบนี้จะให้จองล่วงหน้าหลายๆเดือน
- ตอนนั้นจอง 3 ส.ค. 2015 เดินทาง 4 - 9 ม.ค. 2016 (รออีก 5 เดือนนะจ้ะ)
สายการบินแอร์เอเชียร์เอ็ก ราคาบินไปกลับรวมโหลด นน.กระเป๋า ขาละ 20 กก. = 8,027 บาท
เมื่อเรามีตั๋วบินลัดฟ้าเรียบร้อยแล้วลำดับถัดไปคือหาที่พัก เราหาที่พักจากอโกด้าจนในที่สุดตกลงปลงใจที่จะพักเกสเฮาท์
- FunFunStay Guesthouse เราเลือกพักที่นี่เพราะอยู่ในย่านฮงแด ฮงแดคือแหล่งรวมของวัยรุ่นใจกลางกรุงโซลที่เราจะได้เห็นไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นเกาหลีได้ที่นี่ และที่พักยังอยู่ใกล้กับ Subway อีกข้อที่สำคัญคือมีพนักงานบริการภาษาไทย ซึ่งเราเองไม่ได้โง่อังกฤษนะแต่แค่ไม่ถนัด อิอิ และเราเพิ่งเดินทางไปเองครั้งแรกด้วย ไม่รู้จักอะไรเลย ถ้ามีคนที่สามารถสื่อสารได้รู้เรื่องและเข้าใจก็คงจะดีกว่าชิมิล่ะ จองโลดค่ะ พักที่เดียว 5 คืนยาวๆ ดูข้อมูลที่พักได้ไอจีนี้นะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://instagram.com/funfunstay
เราเลือกห้อง 2 เตียง ราคา 700 บาท/คืน/คน ราคาที่จองได้เป็นโปรของอโกด้า รวม 5 คืน = 3,500 บาท
จองที่พักเสร็จหลังจากนั้นก็เมลล์ไปคุยกับเค้าตลอดค่ะ อยากรู้อะไรถามเค้าได้หมดเลยนะ ยิ่งเป็นคนสงสัยเยอะถามกันจนต้องแลกไลน์คุยเพื่อความสะดวกและรวดเร็ว อิอิ
การแต่งกาย
- ชุดฮีทเทค ซื้อได้ที่ร้าน Uniqlo (ชุดนี้จะช่วยควบคุมอุณหภูมิร่างกายค่ะ ถือว่าจำเป็นมากๆ)
- เสื้อคอเต่า
- เสื้อโค้ท
- เลกกิ้ง หรือ ยีนส์
- ผ้าพันคอ
- ถุงมือ / ถุงเท้า
- รองเท้าจะเป็นบู้ทหรือผ้าใบหนาๆก็ได้ค่ะ
(วันที่ 1)
4 มกราคม 2016 มาถึง สิ้นสุด 5 เดือนของการรอคอย
-บิน-เข้าที่พัก-เดินฮงแด-
เราบินกันไฟล์ทเช้า เที่ยวบิน XJ 708 เวลา 8:05 AM - 3:20 PM จากสนบ.ดอนเมืองตรงสู่อินชอน (เวลาเกาหลีเร็วกว่าไทย 2 ชม.)
ด้วยความไม่ค่อยตื่นเต้นไปถึง สนบ.ตีห้าครึ่ง อุอิ
พอเช็คอินโหลดกระเป๋าเรียบร้อยก็รอจนถึงเวลา หลังจากเครื่อง Take off แอร์แสนซนคนสวยก็จะแจกเอกสาร 2 ใบให้เรากรอก ไว้เอาไปยื่นให้พี่ ตม.ที่เกาหลีค่ะ หน้าตาและวิธีการกรอกข้อมูลทำตามในภาพเลยนะคะ ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://seoulcafe2013.blogspot.com/2013/06/blog-post_27.html
เมื่อเครื่องบินเริ่มเข้าเขตอากาศหนาว ไอน้ำที่เกาะหน้าต่างกลายเป็นน้ำแข็งเลย เห็นแล้วตื่นเต้น นี่สินะที่เค้าเรียกว่าอากาศหนาว เกิดมาอยู่ไทยไม่เคยได้สัมผัส
*****ความผิดพลาดวันนี้ คือเราไปซื้อเงินวอนที่สนามบินดอนเมือง ซึ่งเรทแพงมาก 1000 วอน = 40 บาท เรทปกติจะประมาณ 30 บาท แต่ด้วยความกลัวว่า ตม.เกาหลีจะขอดู หนูไม่อยากเข้าห้องเย็น เราสองคนเลยจำใจแลกไปส่วนหนึ่ง ก่อนหน้านั้นได้หาแลกตามธนาคารแล้วแต่ก็ไม่มีพอให้แลกเลย พอดีกับอยู่ต่างจังหวัดไม่มีซุปเปอร์ริช แต่ที่ไหนได้พี่ ตม.แกไม่ถงไม่ถามเรื่องสุขภาพซ้ากคำ ไปถึงก็ยื่นๆปั๊มๆยิ้มสยามสวยๆ พี่แกแค่พูดกลับมาคำเดียวว่า "ไป" เจ็บกว่าคือออกมาจากสนามบินอินชอนก่อนเดินไปขึ้น Subway มีให้แลกเงินวอนเรท 29.50 ฮ่าๆๆๆๆ หัวเราะทั้งน้ำตากันเลยทีเดียว
ดังนั้น!!!!!!!! ย้ำนะคะ ขอย้ำว่าถ้าหาเรทแลกเงินวอนถูกๆที่ไทยไม่ได้ ให้ไปแลกที่ทางออกจากเกทสนามบินอินชอนก่อนเดินไป Subway******
หลังจากผ่าน ตม.มาเรียบร้อย ก็เดินลงบันไดมารอรับกระเป๋าเลยค่ะ วันนั้นเราได้แต่งตัวพร้อมมาจากบ้านกันเลยทีเดียว แต่งแบบใส่เสื้อและกางเกงฮีทเทคไว้ชั้นในสุด ตามด้วยคอเต่า เลกกิ้ง ก่อนจะถึงเกาหลีคือร้อนได้ใจ ฮ่าๆๆ หลังจากรับกระเป๋า ใส่เสื้อโค้ทเสร็จ เราก็เดินมาทางออก ด้วยความหิวเพราะไม่ได้สั่งจองอาหารบนเครื่อง กะว่าจะมาลิ้มลองรสชาติอาหารโคเรียนสไตล์ทีเดียว อย่างแรกที่ต้องทำคือมุ่งตรงไปร้าน GS25 ซื้อบัตร T-Money ราคา 4,000 วอน
ซื้อแล้วก็ต้องเติมตังค์ค่ะ บอกให้พนักงานเติมให้ได้เลยนะคะ วันนั้นเติมไป 30,000 วอน เราสามารถใช้บัตรนี้จ่ายเป็นค่า Subway และค่ารถบัสในโซล รวมถึงจ่ายค่าสินค้าเวลาซื้อในร้าน GS25 และ 7-11 ต่อด้วยหาของกินรองท้องในร้าน GS25 ก่อนเข้าโซล
คิมบับ ราคา 1,300 วอน เป็นไส้ทูน่า อร่อยดีนะคะ
กินเสร็จเราก็หาเคาเตอร์เช่า Pocket Wifi แต่ต้องใช้บัตรเครดิตซึ่ง เราและคณะไม่มี เลยไม่เช่าก็ได้ไว้เล่น wifi ฟรีที่เกสเฮาส์กับตาม Subway เอา คิดซะว่าได้ประหยัดไปอีกเนาะ เลยเดินต่อยาวๆไปขึ้น AREX เข้าที่พักกันดีกว่า
เดินตามป้าย Airport Railroad ไปเลย ถ้าเดินถูกทางเราจะมาเจอกับลานสเก็ตน้ำแข็ง เดินต่อตามป้ายบอกทางเลยค่ะ หลังจากนี้ก็ให้บัตร T-Money ได้ทำหน้าที่ แตะบัตรตามช่องที่เค้าเดินเข้ากันไปเลย ใช้เวลาเดินทางไป Hongik Sta. ประมาณ 50 นาที และก่อนออกจากสถานีก็จะมีช่องให้เราตื๊ดบัตรออก เพราะเค้าจะหักตังค์ในบัตรจากระยะทางที่เรานั่งค่ะ
ตอนขึ้นมาจากอุโมงค์ Subway แล้วได้สัมผัสกับอากาศภายนอกครั้งแรก บอกได้เลยว่าหนาวมากกกกก ก ล้านตัว รีบรื้อเป้เอาถุงมือมาใส่ทันที เพิ่งจะรู้ซึ้งกับเพลงของโฟร์มด "หายใจเข้าก็ เฮ้อควันๆ หายใจออกก็เฮ้อควันๆ" 5555
-วิธีเดินทางไปฟันฟันสเตย์ จากอินชอนไปลง Hongik Univ. sta. แล้วเดินตามป้าย Exit 7 เพราะเป็นทางออกที่สต๊าฟเกสเฮาท์ส่งแผนที่มาให้ว่าใกล้กับที่พักที่สุด
แผนที่เดินจาก Exit 7 มาเกสเฮาท์ ดูงงๆหน่อยเนาะ ตอนเราไปถึงก็เดินหลงเหมือนกัน555 หลงไปคนละทิศละทางเลย แต่โชคดีที่เจอกับออนนี่คนนึง เค้าก็ไม่รู้จักเกสเฮาท์เราหรอกนะคะแต่ช่วยหาจากกูเกิ้ล แล้วเดินพาเราและคณะไปส่งถึงหน้าที่พักเลย ขอบพระคุณมากๆค่ะ ไปถึงปุ๊บก็รู้สึกประทับใจกับคนที่นี่ปั๊บ งั้นเราจะช่วยอธิบายการเดินทางไปที่พักให้เข้าใจง่ายขึ้นเนาะ พอออกจาก Exit 7 ให้หมุนตัวไปทางซ้าย 45 ํ จะเจอกับทางเดินแนวอาร์ตๆ แบบในรูปค่ะ
ให้เดินไปจนสุดทางเดินนี้นะคะ แล้วก็เลี้ยวขวา เดินไปนิดนึงจะเจอร้านคุณลุงขายบาบีคิว
เดินตรงต่อไปเลย เดินไปจนถึงถนนใหญ่แล้วจะเจอกับร้านในรูปนะคะ
เห็นร้านนี้ก็ข้ามถนนไปฝั่นโน้นเลยค่ะ จากนั้นก็เดินไปทางขวาก็จะเจอฟันฟันสเตเกสเฮาท์
เดินเข้าไปแล้วขึ้นไปชั้น 4 เกสเฮาท์จะอยู่ที่ชั้น 4 ของตึก
เพิ่งรู้มาเมื่อกี้จากพี่สต๊าฟที่พักว่าที่ดาดฟ้าฟันฟันนั้น เป็นสถานที่ถ่ายทำซีรี่ย์เรื่อง It's first time มินโฮวงชายนี่แสดงนำค่ะ เพิ่งถ่ายไปเมื่อเดือนกันยายา 2015
ใครอยากตามรอยมินโฮก็มาพักที่นี่ได้นะคะ ส่วนตัวเราประทับใจที่นี่มากๆ ^^
ตอนเช็คอินมีข้อผิดพลาดเล็กน้อยค่ะ พอดีตอนเราจองที่พักไปกับอโกด้า เค้าจะให้เรากรอกข้อมูลบัตรเครดิตหรือบัตรวีซ่าเพื่อจะได้หักเงินจากบัญชี ตอนนั้นที่จองไปเป็นการจองล่วงหน้าหลายเดือนซึ่งทางอโกด้าจะหักเงินเราวันที่ 1 มกรา 59 แต่บัตรเราดันปฏิเสธระบบ อโกด้าจึงส่งเมลล์ยกเลิกที่พักไปที่เกสเฮาท์ เดชะบุญที่เรารู้สึกเป็นห่วงเรื่องที่พักขึ้นมาในวันที่ 2 มกรา เลยลองเช็คเงินในบัญชีก็เห็นว่าเงินยังอยู่ครบ รีบไปเปิดเมลล์ดูพบว่าอโกด้าส่งเมลล์มาว่าแคนเซิลที่พักเราไปแล้ว ฮะ! อะไรนะ จะเดินทางวันที่ 4 อยู่แล้ว เลยรีบติดต่อสต๊าฟที่พักกลับไปเลยค่ะว่าเรายังจะเข้าพักเหมือนเดิม โชคดีที่ห้องยังว่าง โล่งใจไม่ต้องไปนอนข้าง Subway แล้ว 555 พี่สต๊าฟเลยล็อคห้องไว้ให้เราเหมือนเดิมแถมยังไว้ใจให้เราไปจ่ายเงินตอนวันเข้าพักทีเดียว เลิฟเลย ในคืนแรกเราต้องนอนห้องรวม 8 คนก่อน 1 คืน เพราะตอนที่มีเมลล์ส่งไปว่าเราแคนเซิล เค้าก็รับจองห้อง 2 คนของแขกคนอื่นไปแล้ว ด้วยความใจดีของโฮทเค้าเลยลดราคาห้องให้เราอีก รวม 5 คืน 2 คน 203,108 วอน คิดเป็นเงินไทยหารสองเหลือคนละ 3,046 บาท สต๊าฟที่นี่เค้าน่ารักจริงๆนะบอกเลย เก็บกระเป๋าเสร็จเราไม่รอช้ารีบเดินลงมาไปสำรวจฮงแดซักหน่อย
ที่นี่เป็นแหล่งของวัยรุ่นจริงๆ และหน้าตาก็ดีมากๆด้วย เดินไปนี่เพลินเลย ที่ฮงแดจะมีวัยรุ่นจะมาเปิดหมวกแสดงความสามารถให้เราดูทุกวัน และคนที่เดินผ่านไปมาก็จะให้ความร่วมมือดีมาก จะมีการส่งเสียงให้กำลังใจคนที่โชว์ ปรบมือ ร้องเพลงตาม ทำให้เราประทับใจไปอีกก
เดินไปซักพักก็เจอกับร้านต็อกโบกีของอาจุมม่า เราไม่รอช้า เพราะรอวันนี้มานานแล้ว วันที่ได้มายืนกินต็อกโบกีตามร้านโพจังมาจาในเกาหลี
-ต็อกโบกี 1 จาน 2,500 วอน
-โอเด้ง 1 ไม้ 500 วอน
กินเสร็จก็เดินต่อไปเรื่อยๆ จนได้เจอกับร้านขนมปังไข่
เห็นในรีวิวว่ากันว่าอร่อยนักหนา แต่เราไม่ค่อยเชื่อเพราะคิดว่าคงจะคาวๆ วันนี้มาถึงถิ่นเลยขอลองหน่อยละกัน เลยชี้ไม้ชี้มือบอกอุปป้าว่าเอา 1 ชิ้น สรุปได้ว่าอร่อยจริงๆไม่คาวเลย อิ่มแล้วเดินซึมซับบรรยากาศไปเรื่อยๆจนเจอกับ
[img]http://f.ptcdn.info/292/039/000/o115
[CR] [Backpack] สองสาวไปหนาวฟินๆที่เกาหลี ทริปนี้เที่ยวสไตล์ตามใจฉัน ที่สำคัญงบไม่เกิน 30,000 :)
เราจะติดตามเพจในเฟซบุ๊คอยู่ตลอด เพราะเพจจะอัพเดทข่าวสารเมื่อมีโปรโมชั่นของสายการบินและอื่นๆที่เป็นประโยชน์กับการท่องเที่ยว และแล้วโปรบินถูกเกาหลีก็ปรากฏต่อสายตา เราต้องตัดสินใจให้เร็ว กดจองให้เร็วเพราะโปรเต็มเร็วมาก โปรแบบนี้จะให้จองล่วงหน้าหลายๆเดือน
- ตอนนั้นจอง 3 ส.ค. 2015 เดินทาง 4 - 9 ม.ค. 2016 (รออีก 5 เดือนนะจ้ะ)
สายการบินแอร์เอเชียร์เอ็ก ราคาบินไปกลับรวมโหลด นน.กระเป๋า ขาละ 20 กก. = 8,027 บาท
เมื่อเรามีตั๋วบินลัดฟ้าเรียบร้อยแล้วลำดับถัดไปคือหาที่พัก เราหาที่พักจากอโกด้าจนในที่สุดตกลงปลงใจที่จะพักเกสเฮาท์
- FunFunStay Guesthouse เราเลือกพักที่นี่เพราะอยู่ในย่านฮงแด ฮงแดคือแหล่งรวมของวัยรุ่นใจกลางกรุงโซลที่เราจะได้เห็นไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นเกาหลีได้ที่นี่ และที่พักยังอยู่ใกล้กับ Subway อีกข้อที่สำคัญคือมีพนักงานบริการภาษาไทย ซึ่งเราเองไม่ได้โง่อังกฤษนะแต่แค่ไม่ถนัด อิอิ และเราเพิ่งเดินทางไปเองครั้งแรกด้วย ไม่รู้จักอะไรเลย ถ้ามีคนที่สามารถสื่อสารได้รู้เรื่องและเข้าใจก็คงจะดีกว่าชิมิล่ะ จองโลดค่ะ พักที่เดียว 5 คืนยาวๆ ดูข้อมูลที่พักได้ไอจีนี้นะคะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราเลือกห้อง 2 เตียง ราคา 700 บาท/คืน/คน ราคาที่จองได้เป็นโปรของอโกด้า รวม 5 คืน = 3,500 บาท
จองที่พักเสร็จหลังจากนั้นก็เมลล์ไปคุยกับเค้าตลอดค่ะ อยากรู้อะไรถามเค้าได้หมดเลยนะ ยิ่งเป็นคนสงสัยเยอะถามกันจนต้องแลกไลน์คุยเพื่อความสะดวกและรวดเร็ว อิอิ
การแต่งกาย
- ชุดฮีทเทค ซื้อได้ที่ร้าน Uniqlo (ชุดนี้จะช่วยควบคุมอุณหภูมิร่างกายค่ะ ถือว่าจำเป็นมากๆ)
- เสื้อคอเต่า
- เสื้อโค้ท
- เลกกิ้ง หรือ ยีนส์
- ผ้าพันคอ
- ถุงมือ / ถุงเท้า
- รองเท้าจะเป็นบู้ทหรือผ้าใบหนาๆก็ได้ค่ะ
(วันที่ 1)
4 มกราคม 2016 มาถึง สิ้นสุด 5 เดือนของการรอคอย
-บิน-เข้าที่พัก-เดินฮงแด-
เราบินกันไฟล์ทเช้า เที่ยวบิน XJ 708 เวลา 8:05 AM - 3:20 PM จากสนบ.ดอนเมืองตรงสู่อินชอน (เวลาเกาหลีเร็วกว่าไทย 2 ชม.)
ด้วยความไม่ค่อยตื่นเต้นไปถึง สนบ.ตีห้าครึ่ง อุอิ
พอเช็คอินโหลดกระเป๋าเรียบร้อยก็รอจนถึงเวลา หลังจากเครื่อง Take off แอร์แสนซนคนสวยก็จะแจกเอกสาร 2 ใบให้เรากรอก ไว้เอาไปยื่นให้พี่ ตม.ที่เกาหลีค่ะ หน้าตาและวิธีการกรอกข้อมูลทำตามในภาพเลยนะคะ ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เมื่อเครื่องบินเริ่มเข้าเขตอากาศหนาว ไอน้ำที่เกาะหน้าต่างกลายเป็นน้ำแข็งเลย เห็นแล้วตื่นเต้น นี่สินะที่เค้าเรียกว่าอากาศหนาว เกิดมาอยู่ไทยไม่เคยได้สัมผัส
*****ความผิดพลาดวันนี้ คือเราไปซื้อเงินวอนที่สนามบินดอนเมือง ซึ่งเรทแพงมาก 1000 วอน = 40 บาท เรทปกติจะประมาณ 30 บาท แต่ด้วยความกลัวว่า ตม.เกาหลีจะขอดู หนูไม่อยากเข้าห้องเย็น เราสองคนเลยจำใจแลกไปส่วนหนึ่ง ก่อนหน้านั้นได้หาแลกตามธนาคารแล้วแต่ก็ไม่มีพอให้แลกเลย พอดีกับอยู่ต่างจังหวัดไม่มีซุปเปอร์ริช แต่ที่ไหนได้พี่ ตม.แกไม่ถงไม่ถามเรื่องสุขภาพซ้ากคำ ไปถึงก็ยื่นๆปั๊มๆยิ้มสยามสวยๆ พี่แกแค่พูดกลับมาคำเดียวว่า "ไป" เจ็บกว่าคือออกมาจากสนามบินอินชอนก่อนเดินไปขึ้น Subway มีให้แลกเงินวอนเรท 29.50 ฮ่าๆๆๆๆ หัวเราะทั้งน้ำตากันเลยทีเดียว ดังนั้น!!!!!!!! ย้ำนะคะ ขอย้ำว่าถ้าหาเรทแลกเงินวอนถูกๆที่ไทยไม่ได้ ให้ไปแลกที่ทางออกจากเกทสนามบินอินชอนก่อนเดินไป Subway******
หลังจากผ่าน ตม.มาเรียบร้อย ก็เดินลงบันไดมารอรับกระเป๋าเลยค่ะ วันนั้นเราได้แต่งตัวพร้อมมาจากบ้านกันเลยทีเดียว แต่งแบบใส่เสื้อและกางเกงฮีทเทคไว้ชั้นในสุด ตามด้วยคอเต่า เลกกิ้ง ก่อนจะถึงเกาหลีคือร้อนได้ใจ ฮ่าๆๆ หลังจากรับกระเป๋า ใส่เสื้อโค้ทเสร็จ เราก็เดินมาทางออก ด้วยความหิวเพราะไม่ได้สั่งจองอาหารบนเครื่อง กะว่าจะมาลิ้มลองรสชาติอาหารโคเรียนสไตล์ทีเดียว อย่างแรกที่ต้องทำคือมุ่งตรงไปร้าน GS25 ซื้อบัตร T-Money ราคา 4,000 วอน
ซื้อแล้วก็ต้องเติมตังค์ค่ะ บอกให้พนักงานเติมให้ได้เลยนะคะ วันนั้นเติมไป 30,000 วอน เราสามารถใช้บัตรนี้จ่ายเป็นค่า Subway และค่ารถบัสในโซล รวมถึงจ่ายค่าสินค้าเวลาซื้อในร้าน GS25 และ 7-11 ต่อด้วยหาของกินรองท้องในร้าน GS25 ก่อนเข้าโซล
คิมบับ ราคา 1,300 วอน เป็นไส้ทูน่า อร่อยดีนะคะ
กินเสร็จเราก็หาเคาเตอร์เช่า Pocket Wifi แต่ต้องใช้บัตรเครดิตซึ่ง เราและคณะไม่มี เลยไม่เช่าก็ได้ไว้เล่น wifi ฟรีที่เกสเฮาส์กับตาม Subway เอา คิดซะว่าได้ประหยัดไปอีกเนาะ เลยเดินต่อยาวๆไปขึ้น AREX เข้าที่พักกันดีกว่า
เดินตามป้าย Airport Railroad ไปเลย ถ้าเดินถูกทางเราจะมาเจอกับลานสเก็ตน้ำแข็ง เดินต่อตามป้ายบอกทางเลยค่ะ หลังจากนี้ก็ให้บัตร T-Money ได้ทำหน้าที่ แตะบัตรตามช่องที่เค้าเดินเข้ากันไปเลย ใช้เวลาเดินทางไป Hongik Sta. ประมาณ 50 นาที และก่อนออกจากสถานีก็จะมีช่องให้เราตื๊ดบัตรออก เพราะเค้าจะหักตังค์ในบัตรจากระยะทางที่เรานั่งค่ะ
ตอนขึ้นมาจากอุโมงค์ Subway แล้วได้สัมผัสกับอากาศภายนอกครั้งแรก บอกได้เลยว่าหนาวมากกกกก ก ล้านตัว รีบรื้อเป้เอาถุงมือมาใส่ทันที เพิ่งจะรู้ซึ้งกับเพลงของโฟร์มด "หายใจเข้าก็ เฮ้อควันๆ หายใจออกก็เฮ้อควันๆ" 5555
-วิธีเดินทางไปฟันฟันสเตย์ จากอินชอนไปลง Hongik Univ. sta. แล้วเดินตามป้าย Exit 7 เพราะเป็นทางออกที่สต๊าฟเกสเฮาท์ส่งแผนที่มาให้ว่าใกล้กับที่พักที่สุด
แผนที่เดินจาก Exit 7 มาเกสเฮาท์ ดูงงๆหน่อยเนาะ ตอนเราไปถึงก็เดินหลงเหมือนกัน555 หลงไปคนละทิศละทางเลย แต่โชคดีที่เจอกับออนนี่คนนึง เค้าก็ไม่รู้จักเกสเฮาท์เราหรอกนะคะแต่ช่วยหาจากกูเกิ้ล แล้วเดินพาเราและคณะไปส่งถึงหน้าที่พักเลย ขอบพระคุณมากๆค่ะ ไปถึงปุ๊บก็รู้สึกประทับใจกับคนที่นี่ปั๊บ งั้นเราจะช่วยอธิบายการเดินทางไปที่พักให้เข้าใจง่ายขึ้นเนาะ พอออกจาก Exit 7 ให้หมุนตัวไปทางซ้าย 45 ํ จะเจอกับทางเดินแนวอาร์ตๆ แบบในรูปค่ะ
ให้เดินไปจนสุดทางเดินนี้นะคะ แล้วก็เลี้ยวขวา เดินไปนิดนึงจะเจอร้านคุณลุงขายบาบีคิว
เดินตรงต่อไปเลย เดินไปจนถึงถนนใหญ่แล้วจะเจอกับร้านในรูปนะคะ
เห็นร้านนี้ก็ข้ามถนนไปฝั่นโน้นเลยค่ะ จากนั้นก็เดินไปทางขวาก็จะเจอฟันฟันสเตเกสเฮาท์
เดินเข้าไปแล้วขึ้นไปชั้น 4 เกสเฮาท์จะอยู่ที่ชั้น 4 ของตึก
เพิ่งรู้มาเมื่อกี้จากพี่สต๊าฟที่พักว่าที่ดาดฟ้าฟันฟันนั้น เป็นสถานที่ถ่ายทำซีรี่ย์เรื่อง It's first time มินโฮวงชายนี่แสดงนำค่ะ เพิ่งถ่ายไปเมื่อเดือนกันยายา 2015
ใครอยากตามรอยมินโฮก็มาพักที่นี่ได้นะคะ ส่วนตัวเราประทับใจที่นี่มากๆ ^^
ตอนเช็คอินมีข้อผิดพลาดเล็กน้อยค่ะ พอดีตอนเราจองที่พักไปกับอโกด้า เค้าจะให้เรากรอกข้อมูลบัตรเครดิตหรือบัตรวีซ่าเพื่อจะได้หักเงินจากบัญชี ตอนนั้นที่จองไปเป็นการจองล่วงหน้าหลายเดือนซึ่งทางอโกด้าจะหักเงินเราวันที่ 1 มกรา 59 แต่บัตรเราดันปฏิเสธระบบ อโกด้าจึงส่งเมลล์ยกเลิกที่พักไปที่เกสเฮาท์ เดชะบุญที่เรารู้สึกเป็นห่วงเรื่องที่พักขึ้นมาในวันที่ 2 มกรา เลยลองเช็คเงินในบัญชีก็เห็นว่าเงินยังอยู่ครบ รีบไปเปิดเมลล์ดูพบว่าอโกด้าส่งเมลล์มาว่าแคนเซิลที่พักเราไปแล้ว ฮะ! อะไรนะ จะเดินทางวันที่ 4 อยู่แล้ว เลยรีบติดต่อสต๊าฟที่พักกลับไปเลยค่ะว่าเรายังจะเข้าพักเหมือนเดิม โชคดีที่ห้องยังว่าง โล่งใจไม่ต้องไปนอนข้าง Subway แล้ว 555 พี่สต๊าฟเลยล็อคห้องไว้ให้เราเหมือนเดิมแถมยังไว้ใจให้เราไปจ่ายเงินตอนวันเข้าพักทีเดียว เลิฟเลย ในคืนแรกเราต้องนอนห้องรวม 8 คนก่อน 1 คืน เพราะตอนที่มีเมลล์ส่งไปว่าเราแคนเซิล เค้าก็รับจองห้อง 2 คนของแขกคนอื่นไปแล้ว ด้วยความใจดีของโฮทเค้าเลยลดราคาห้องให้เราอีก รวม 5 คืน 2 คน 203,108 วอน คิดเป็นเงินไทยหารสองเหลือคนละ 3,046 บาท สต๊าฟที่นี่เค้าน่ารักจริงๆนะบอกเลย เก็บกระเป๋าเสร็จเราไม่รอช้ารีบเดินลงมาไปสำรวจฮงแดซักหน่อย
ที่นี่เป็นแหล่งของวัยรุ่นจริงๆ และหน้าตาก็ดีมากๆด้วย เดินไปนี่เพลินเลย ที่ฮงแดจะมีวัยรุ่นจะมาเปิดหมวกแสดงความสามารถให้เราดูทุกวัน และคนที่เดินผ่านไปมาก็จะให้ความร่วมมือดีมาก จะมีการส่งเสียงให้กำลังใจคนที่โชว์ ปรบมือ ร้องเพลงตาม ทำให้เราประทับใจไปอีกก
เดินไปซักพักก็เจอกับร้านต็อกโบกีของอาจุมม่า เราไม่รอช้า เพราะรอวันนี้มานานแล้ว วันที่ได้มายืนกินต็อกโบกีตามร้านโพจังมาจาในเกาหลี
-ต็อกโบกี 1 จาน 2,500 วอน
-โอเด้ง 1 ไม้ 500 วอน
กินเสร็จก็เดินต่อไปเรื่อยๆ จนได้เจอกับร้านขนมปังไข่
เห็นในรีวิวว่ากันว่าอร่อยนักหนา แต่เราไม่ค่อยเชื่อเพราะคิดว่าคงจะคาวๆ วันนี้มาถึงถิ่นเลยขอลองหน่อยละกัน เลยชี้ไม้ชี้มือบอกอุปป้าว่าเอา 1 ชิ้น สรุปได้ว่าอร่อยจริงๆไม่คาวเลย อิ่มแล้วเดินซึมซับบรรยากาศไปเรื่อยๆจนเจอกับ
[img]http://f.ptcdn.info/292/039/000/o115