เมื่อแปดเก้าปีที่ผ่านมา.....ราคาข้าวสารแพงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อยู่ต่างประเทศถึงกับโอดครวญกันใหญ่....ไม่รู้ว่าชาวนาที่เมืองไทยร่ำรวยกันหรือเปล่าจะภาวะข้าวสารแพง?? หรือพ่อค้าคนกลางกินเรียบ.....ผมในนาม "คนอุดรฯ" จึงตั้งกระทู้แซว "หญิงไทยที่เป็นภรรยาฝรั่ง" เล่นๆ มีตัวละครแค่สองตัวคือ "
ทิดอ่ำ" และสาวที่ชื่อ "
ลำดวน" ตามนี้ และมีการตอบโต้กันเป็นบทกลอนสนุก.....ในบรรยากาศที่เคร่งเครียดในยามนี้ หาเรื่องเบาๆ มาให้อ่านกันเล่นๆ เท่านั้นแหละครับ....เชิญสราญอารมณ์ได้
เมียฝรั่ง......กับข้าวสารแพง....ยังไงๆ มันก็เกี่ยวข้องกันแน่ๆ....
เป็นเมียฝรั่งนี่ท่าจะลำบาก ตกเป็นขี้ปากชาวบ้านไม่หยุดไม่หย่อน.....ชาวบ้านเขาเดือนร้อน ข้าวสารแพงทั่วระแหงหน คนที่ไม่วายโดนสะกิดว่ามีส่วน ทำราคาข้าวผันผวน.......นู่นไงล่ะ!! เมียฝาหรั่ง!! อิ อิ อิ
สำหรับชาวอุดรฯ แล้ว.... “เมียฝาหรั่ง”ออกจะเป็นเรื่องชินตาอยู่สักนิดตั้งแต่สมัยสงครามเวียดนามครั้งกระนู้น ไอ้หนุ่มจีไอ.....ควงแหม่มปลาร้าเพ่นพ่านทั่วเมืองอุดรฯ .....ไอ้พวกที่ชอบกระโตกกระตากเวลาเห็นฝรั่งควงสาวไทยนี่....ฟันธงโฉ๊ะไปเลยว่าไม่ใช่คนอุดรฯ แน่ๆ.........
วกกลับมาที่ประเด็นว่า เมียฝาหรั่งทำให้ราคาข้าวสูงได้อย่างไร?? อ๊ะ.อ๊ะ อ๊ะ.......เรื่องนี้ถ้าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่เชียวนาท่านนา ลองมาฟังข้าพเจ้าสาธยายดูสักนิด แล้วจะคิดเห็นคล้อยผงกหัวตาม หรือส่ายหน้าก็สุดแล้วแต่ท่าน......
ถ้าหากสาวไทยเกือบทั้งหมดยังหลงไหลในหนุ่มไทยอยู่ เช่น สมมุติว่า อีสาวลำดวนแห่งหมู่บ้านโนนสูง ไปตกหลุมรักไอ้ทิดอ่ำแห่งหมู่บ้านโคกแดงในตำบลเดียวกัน แล้วตกร่องปล่องชิ้นอยู่กินด้วยกันสามีภรรยา ผืนนาของไอ้ทิดอ่ำที่มีอยู่ก็เอาไปรวมกับผืนนาของอีสาวลำดวน กลายเป็นผืนนาอันกว้างใหญ่ ช่วยกันปลูกข้าวทำนาด้วยกันเก็บเข้ายุ้งเข้าฉาง ส่วนที่เหลือก็เอาไปขาย อย่างนี้ก็เข้าทำนองที่ว่า “เรือล่มในหนอง เงินทองจะไปไหน” ถ้าเกิดไอ้ทิดอ่ำเป็นกำนันวันไหน อีลำดวนก็ย่อมเป็นกำใน อิ อิ อิ
แต่อนิจจาเหมือนฟ้าลิขิต.......เผอิญว่าอีสาวลำดวนไปปิ๊งกับอ้ายจอห์นสันหนุ่มผมทองจากแดนตะวันตก อ้ายจอห์นสันก็คืออ้ายจอห์นสัน ไม่ใช่ ชาตรี ศรีชล ที่เที่ยวไปร้องเพลงจีบสาวบ้านนอกคอกนาด้วยท่อนที่ว่า “ โอกาสหน้าพี่จะมาหาใหม่ ไม่ลืมคนชื่อวิไล บ้านผักไห่อยุธยา แม่คุณคนสวยพี่จะมาช่วยทำนา เพราะข้าวมันขึ้นราคา อยากมีพ่อตาทำนาดู........ข้าวขึ้นราคาอย่าหลงวาจาไอ้เสี่ยหนุ่ม พี่อยู่ไกลหัวใจมันกลุ้มร้อนลุ่มดั่งเดือนเมษาฯ .....” คนอย่างอ้ายจอห์นสันหรือจะมาช่วยอีลำดวนทำนา??.........Impossible !! ได้ฟันอีลำดวนเสร็จแล้วยังไม่พอ ยังหอบหิ้วอีลำดวนสาวบ้านทุ่งไปอยู่ไกลซะถึงเมืองนอกเมืองนาเป็นแหม่มปลาร้าซะรู้แล้วรู้แร่ด!! ส่วนไอ้ทิดอ่ำก็ได้แต่อ้าปากหว๋อ......ทำหน้าที่เป็นมดแดงเฝ้ามะม่วงสุกต่อไป.........
ยังไม่ทันได้สิ้นกลิ่นน้ำโคลน....อีสาวลำดวนก็เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Lucy ร่อนจดหมายกลับบ้านนาด้วยสำนวนไทยปนอังกฤษว่าอยากจะปลูกบ้านหลังใหญ่พร้อมสระว่ายน้ำที่หมู่บ้านให้ลือลั่นสนั่นทั่วทั้งตำบลไปเลย......ส่วนพ่ออุ้ยแม่เฒ่าของอีลำดวนก็ได้แต่ตอบกลับว่า อีลำดวนเอ้ย...แกจะเอาที่ดีนที่ไหนมาปลูกบ้านหลังใหญ่โตมโหฬารขนาดนั้น......อีลำดวนก็ตอบกลับไปว่าก็ถมที่นาแล้วปลูกบ้านไงพ่อ...? ในที่สุดผืนนาที่เคยปลูกข้าวมาแต่ไหนแต่ไรก็ถูกถมเรียบ แล้วบ้านทรงยุโรปพร้อมสระว่ายน้ำ สนามหญ้าญี่ปุ่นก็เกิดขึ้น
อีลำดวนกลายเป็น “แบบอย่าง” ของสาวๆ ต่างจังหวัด เริ่มจากวงแคบๆ ที่หมู่บ้านเป็นตำบล จากตำบลเป็นอำเภอ จากอำเภอขยายขึ้นไปเป็นจังหวัด ที่บรรดาสาวไทยทั้งหลาย ทั้งสาวแก่แม่หม้าย สุดสวย ขี้เหร่อ ขาว ดำ ต่ำ เตี้ย ไม่เว้นแม้แต่กระเทยอยากเอาเยี่ยงอย่างและเจริญรอยตามอีลำดวนมัน เพียงไม่นาน.....ท้องทุ่งนาที่รวงข้าวเคยเหลืองอร่าม เสียงร้องเพลงบ้านนอกยามลงแขก ควายทุยที่เดินเล็มหญ้าตามริมคันนา ก็หายไป.........แล้วบ้านไทยสไตส์ยุโรปผุดขึ้นมาทดแทนราวกับดอกเห็ดบน “อดีตท้องทุ่งนา”หลายหมู่บ้าน หลายตำบล หลายอำเภอ และหลายจังหวัด.......... นอกจากนั้นยังมีพ่อค้าหัวไสหวังเก็งกำไรจาก “เมียฝรั่ง” ไปเที่ยวกว้านซื้อที่ดินที่นาแล้วถมทำเป็นหมู่บ้านจัดสรรไว้ขายฟันกำไร
จากอดีต ยุคก่อนสงครามเวียดนามพื้นที่เกษตรกรที่ใช้ทำนามีแต่ขยายวงกว้าวขึ้นเรื่อยๆ จนไทยผลิตข้าวและส่งออกเป็นอันดับหนึ่งของโลก ยุคหลังจากสงครามเวียดนามสิ้นสุด พื้นที่เกษตรกรเริ่มลดลง ถูกถมให้เป็นหมู่บ้านจัดสรรส่วนใหญ่ เมื่อพื้นที่ปลูกข้าวลดลง จำนวนข้าวก็ลดลง....และแล้วราคาข้าวก็ถีบตัวขึ้นสูงตามกฏดีมานด์และซัพลาย อุปสงค์อุปทาน
ข้าวสารตอนนี้ขายได้เกวียนละสองหมื่นจากที่เคยขายได้แค่เกวียนละเจ็ดพัน.....!! เฮ้อ ไม่รู้ว่าจะขอบคุณอีสาวลำดวน หรือกล่าวโทษอีลำดวนดีล่ะเนี๊ยะ?? อิ อิ อิ
ยุคข้าวสารแพง.....ก็อย่างนี้แหละ....ข้าพเจ้าหาที่ระบายไม่ได้ ก็ขอวางแหมะไว้บนตักน้อยๆ ของเมียฝาหรั่งล่ะกัน คงไม่หนักที่จะรับนะขอรับ อิ อิ อิ
แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 51 01:57:18
แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 51 23:30:30
จากคุณ : วัชรานนท์ - [ 2 พ.ค. 51 23:29:19 ]
http://topicstock.ppantip.com/klaibann/topicstock/2008/05/H6571573/H6571573.html
....ในยุคข้าวสารแพง แฟนฝรั่งเดือดร้อนอย่างไร?.....อ่านคลายเครียดกันครับ...วัชรานนท์...
เมียฝรั่ง......กับข้าวสารแพง....ยังไงๆ มันก็เกี่ยวข้องกันแน่ๆ....
เป็นเมียฝรั่งนี่ท่าจะลำบาก ตกเป็นขี้ปากชาวบ้านไม่หยุดไม่หย่อน.....ชาวบ้านเขาเดือนร้อน ข้าวสารแพงทั่วระแหงหน คนที่ไม่วายโดนสะกิดว่ามีส่วน ทำราคาข้าวผันผวน.......นู่นไงล่ะ!! เมียฝาหรั่ง!! อิ อิ อิ
สำหรับชาวอุดรฯ แล้ว.... “เมียฝาหรั่ง”ออกจะเป็นเรื่องชินตาอยู่สักนิดตั้งแต่สมัยสงครามเวียดนามครั้งกระนู้น ไอ้หนุ่มจีไอ.....ควงแหม่มปลาร้าเพ่นพ่านทั่วเมืองอุดรฯ .....ไอ้พวกที่ชอบกระโตกกระตากเวลาเห็นฝรั่งควงสาวไทยนี่....ฟันธงโฉ๊ะไปเลยว่าไม่ใช่คนอุดรฯ แน่ๆ.........
วกกลับมาที่ประเด็นว่า เมียฝาหรั่งทำให้ราคาข้าวสูงได้อย่างไร?? อ๊ะ.อ๊ะ อ๊ะ.......เรื่องนี้ถ้าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่เชียวนาท่านนา ลองมาฟังข้าพเจ้าสาธยายดูสักนิด แล้วจะคิดเห็นคล้อยผงกหัวตาม หรือส่ายหน้าก็สุดแล้วแต่ท่าน......
ถ้าหากสาวไทยเกือบทั้งหมดยังหลงไหลในหนุ่มไทยอยู่ เช่น สมมุติว่า อีสาวลำดวนแห่งหมู่บ้านโนนสูง ไปตกหลุมรักไอ้ทิดอ่ำแห่งหมู่บ้านโคกแดงในตำบลเดียวกัน แล้วตกร่องปล่องชิ้นอยู่กินด้วยกันสามีภรรยา ผืนนาของไอ้ทิดอ่ำที่มีอยู่ก็เอาไปรวมกับผืนนาของอีสาวลำดวน กลายเป็นผืนนาอันกว้างใหญ่ ช่วยกันปลูกข้าวทำนาด้วยกันเก็บเข้ายุ้งเข้าฉาง ส่วนที่เหลือก็เอาไปขาย อย่างนี้ก็เข้าทำนองที่ว่า “เรือล่มในหนอง เงินทองจะไปไหน” ถ้าเกิดไอ้ทิดอ่ำเป็นกำนันวันไหน อีลำดวนก็ย่อมเป็นกำใน อิ อิ อิ
แต่อนิจจาเหมือนฟ้าลิขิต.......เผอิญว่าอีสาวลำดวนไปปิ๊งกับอ้ายจอห์นสันหนุ่มผมทองจากแดนตะวันตก อ้ายจอห์นสันก็คืออ้ายจอห์นสัน ไม่ใช่ ชาตรี ศรีชล ที่เที่ยวไปร้องเพลงจีบสาวบ้านนอกคอกนาด้วยท่อนที่ว่า “ โอกาสหน้าพี่จะมาหาใหม่ ไม่ลืมคนชื่อวิไล บ้านผักไห่อยุธยา แม่คุณคนสวยพี่จะมาช่วยทำนา เพราะข้าวมันขึ้นราคา อยากมีพ่อตาทำนาดู........ข้าวขึ้นราคาอย่าหลงวาจาไอ้เสี่ยหนุ่ม พี่อยู่ไกลหัวใจมันกลุ้มร้อนลุ่มดั่งเดือนเมษาฯ .....” คนอย่างอ้ายจอห์นสันหรือจะมาช่วยอีลำดวนทำนา??.........Impossible !! ได้ฟันอีลำดวนเสร็จแล้วยังไม่พอ ยังหอบหิ้วอีลำดวนสาวบ้านทุ่งไปอยู่ไกลซะถึงเมืองนอกเมืองนาเป็นแหม่มปลาร้าซะรู้แล้วรู้แร่ด!! ส่วนไอ้ทิดอ่ำก็ได้แต่อ้าปากหว๋อ......ทำหน้าที่เป็นมดแดงเฝ้ามะม่วงสุกต่อไป.........
ยังไม่ทันได้สิ้นกลิ่นน้ำโคลน....อีสาวลำดวนก็เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Lucy ร่อนจดหมายกลับบ้านนาด้วยสำนวนไทยปนอังกฤษว่าอยากจะปลูกบ้านหลังใหญ่พร้อมสระว่ายน้ำที่หมู่บ้านให้ลือลั่นสนั่นทั่วทั้งตำบลไปเลย......ส่วนพ่ออุ้ยแม่เฒ่าของอีลำดวนก็ได้แต่ตอบกลับว่า อีลำดวนเอ้ย...แกจะเอาที่ดีนที่ไหนมาปลูกบ้านหลังใหญ่โตมโหฬารขนาดนั้น......อีลำดวนก็ตอบกลับไปว่าก็ถมที่นาแล้วปลูกบ้านไงพ่อ...? ในที่สุดผืนนาที่เคยปลูกข้าวมาแต่ไหนแต่ไรก็ถูกถมเรียบ แล้วบ้านทรงยุโรปพร้อมสระว่ายน้ำ สนามหญ้าญี่ปุ่นก็เกิดขึ้น
อีลำดวนกลายเป็น “แบบอย่าง” ของสาวๆ ต่างจังหวัด เริ่มจากวงแคบๆ ที่หมู่บ้านเป็นตำบล จากตำบลเป็นอำเภอ จากอำเภอขยายขึ้นไปเป็นจังหวัด ที่บรรดาสาวไทยทั้งหลาย ทั้งสาวแก่แม่หม้าย สุดสวย ขี้เหร่อ ขาว ดำ ต่ำ เตี้ย ไม่เว้นแม้แต่กระเทยอยากเอาเยี่ยงอย่างและเจริญรอยตามอีลำดวนมัน เพียงไม่นาน.....ท้องทุ่งนาที่รวงข้าวเคยเหลืองอร่าม เสียงร้องเพลงบ้านนอกยามลงแขก ควายทุยที่เดินเล็มหญ้าตามริมคันนา ก็หายไป.........แล้วบ้านไทยสไตส์ยุโรปผุดขึ้นมาทดแทนราวกับดอกเห็ดบน “อดีตท้องทุ่งนา”หลายหมู่บ้าน หลายตำบล หลายอำเภอ และหลายจังหวัด.......... นอกจากนั้นยังมีพ่อค้าหัวไสหวังเก็งกำไรจาก “เมียฝรั่ง” ไปเที่ยวกว้านซื้อที่ดินที่นาแล้วถมทำเป็นหมู่บ้านจัดสรรไว้ขายฟันกำไร
จากอดีต ยุคก่อนสงครามเวียดนามพื้นที่เกษตรกรที่ใช้ทำนามีแต่ขยายวงกว้าวขึ้นเรื่อยๆ จนไทยผลิตข้าวและส่งออกเป็นอันดับหนึ่งของโลก ยุคหลังจากสงครามเวียดนามสิ้นสุด พื้นที่เกษตรกรเริ่มลดลง ถูกถมให้เป็นหมู่บ้านจัดสรรส่วนใหญ่ เมื่อพื้นที่ปลูกข้าวลดลง จำนวนข้าวก็ลดลง....และแล้วราคาข้าวก็ถีบตัวขึ้นสูงตามกฏดีมานด์และซัพลาย อุปสงค์อุปทาน
ข้าวสารตอนนี้ขายได้เกวียนละสองหมื่นจากที่เคยขายได้แค่เกวียนละเจ็ดพัน.....!! เฮ้อ ไม่รู้ว่าจะขอบคุณอีสาวลำดวน หรือกล่าวโทษอีลำดวนดีล่ะเนี๊ยะ?? อิ อิ อิ
ยุคข้าวสารแพง.....ก็อย่างนี้แหละ....ข้าพเจ้าหาที่ระบายไม่ได้ ก็ขอวางแหมะไว้บนตักน้อยๆ ของเมียฝาหรั่งล่ะกัน คงไม่หนักที่จะรับนะขอรับ อิ อิ อิ
แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 51 01:57:18
แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 51 23:30:30
จากคุณ : วัชรานนท์ - [ 2 พ.ค. 51 23:29:19 ]
http://topicstock.ppantip.com/klaibann/topicstock/2008/05/H6571573/H6571573.html