ชวนคุยหกมังกรบินตอนที่ 30 จ้า (spoiled หนัก)

ใครยังไม่ได้ดูข้ามไปได้จ้า จริงๆอยากตั้งตอนซับไทยออกแต่กลัวลืมซะก่อน เลยตั้งตอนยังอินค้างอยู่ละกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
....




























ตอนนี้ก็เป็นตอนที่สนุกมากอีกตอนนึง อย่างที่เฉลยกันแล้วในตอนก่อนหน้าว่าชอคซากวังตัวจริงเสียงจริงคือนางรำยุนรังนั่นเอง
ฮันเยรีเท่มากๆ ไม่รู้ว่าจะอยู่นานรึเปล่า จะโดนกำจัดพร้อมๆกับ  King Gongyang หรือจะมีบทบาทต่อไป



รู้สึกอินกับความรักขององค์ชายละก็ยุนรังอะ ไม่รู้เป็นคนเดียวรึเปล่า แต่ดูเขาทำรายละเอียดตรงนี้ได้ดี องค์ชายที่ไม่ฝักใฝ่การเมืองเพียงแค่อยากเป็นผู้ชายธรรมดาที่เป็นสามีของผู้หญิงที่ตนรัก รู้ว่ายังไงถึงขึ้นบัลลังก์ก็เป็นได้แค่หุ่นเชิดเท่านั้น ส่วนยุนรังที่เกลียดการจับดาบและการเป็นนักฆ่า ก็ซ่อนตัวเองตลอดมาหลังจากฆ่าคนไปคนนึง นางก็อยากเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่งที่มีชีวิตครอบครัวเพื่อลบฝันร้ายในอดีต แต่ก็มีเหตุให้ต้องกลับมาจับดาบเพื่อปกป้องคนที่ตนรัก ไม่รู้ว่าเรื่องจะมีหักมุมให้ยุนรังทรยศ King Gongyang หรือไม่ แต่เมื่อเวลาที่โดนถอดบัลลังก์มาถึง จะต้องเศร้าแน่ๆ

ชอบการใช้รายละเอียดเรื่องการฝึกดาบกับถ้วยชาของอีบังจีมาเป็นการเกริ่นถึงการปรากฎตัวของชอคซากวัง การที่มูมยองยิงลูกศรยาพิษให้องค์ชายต้องยอมกินยาถอนพิษจากถ้วยชาแลกกับการต้องขึ้นครองบัลลังก์ และถ้วยยาถอนพิษนี่เองที่เป็นสัญลักษณ์เปิดตัวชอกซากวังในคราบของยุนรังได้อย่างงดงาม แสดงถึงเพลงดาบวิชาสำนักก็กซาน เป็นการวางองค์ประกอบทุกอย่างได้ลงตัว

นอกเรื่องนิดนึง รู้สึกว่าการคัดเลือกคนที่เล่นเป็นกษัตริย์นี่เป๊ะมากๆ พระเจ้าอูก็ดูหน้าร้าย ไม่เอาการเอางาน เหลาะแหละ ส่วนพระเจ้ากงยางก็ดูหุ่นหมีจิตใจอ่อนโยน แต่ก็แฝงด้วยความอ่อนแอ ที่ไม่อยากจะยุ่งกับเรื่องการเมือง

ตอนนี้อีบังวอนก็มีบทบาทเยอะใช่ย่อย นับวันหน้าตาจะยิ่งดูโหดขึ้นเรื่อยๆ ประทับใจในการวางแผนหลอกมูมยองให้แสดงตัว ด้วยการคิดสำนวนไร้ความหมายขึ้นมาให้มูมยองสับสน แถมยังสามารถใช้สำนวนมั่วดังกล่าวเพื่อเปิดเผยตัวโชยองว่าเป็นหนึ่งในมูมยองด้วย หรือรู้จักในอีกชื่อคือ จีชอนแท

อีบังวอนมานั่งแบ่งปันความรู้กับฮารยุนอีกแล้ว ดูเข้าขากันเป็นอย่างดีนะ เป็นการเกริ่นว่าทั้งคู่จะทำงานร่วมกันในอนาคตสินะ อิอิ


มีการพูดถึงความฝันในวงของทีมซัมบงว่าถ้าได้ประเทศที่สงบสุขแล้วอยากทำอะไร คำตอบของอีบังวอนน่าสนใจมาก "อยากทำให้ผู้คนยิ้มได้ และอยากปกป้องความฝันของทุกคนให้เป็นจริง" เสมือนเป็นคำกล่าวของนักปกครองผู้ยิ่งใหญ่เลย อีบังวอนผู้ยึดความสุขของประชาชนเป็นหลัก ซึ่งดูเหมือนหลักการจะตรงกับซัมบง จะมีอะไรทำให้สองคนนี้ต้องแตกคอกันนะ?


อีบังวอนกล่าวกับมูฮยุลว่าดินแดนแห่งความสงบสุขไม่มีวันมาถึงหรอก เพราะมนุษย์ย่อมถวิลหาสิ่งที่ตัวเองขาดเสมอไม่ว่าจะ"มีมาก"แค่ไหน เหมือนกับซัมบงที่คิดสร้างประเทศที่ดีกว่าโครยอ ประเทศแห่งความรุ่งเรืองและสงบสุข แต่นั่นจะเป็นไปได้หรือไม่เมื่อข้างกายซัมบงยังมีอีบังวอน กษัตริย์ที่ขึ้นชื่อว่ากระหายอำนาจมากคนนึงในประวัติศาสตร์ เป็นตัวแปรที่คาดเดาผลลัพธ์ไม่ได้เลย และความโลภของมนุษย์คนอื่นๆอีกที่ไม่มีวันสิ้นสุด ซัมบงจะสร้างประเทศที่ต้องการได้หรือไม่...  ก็เหมือนโลกปัจจุบันของเรา ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่านวัตกรรมนั้นก้าวไกลกว่าแต่ก่อนมาก แต่โลกตอนนี้เป็นโลกที่ดีกว่าแต่ก่อนจริงหรือ? ผู้มีอุดมการณ์มากมายที่ต้องการเปลี่ยนแปลงโลกไปในทางที่ดีขึ้นได้เสียสละมากมาย แต่โลกก็ยังเต็มไปด้วยสงครามและความขัดแย้ง ตัวการก็มาจากสิ่งที่มีจิตใจที่เรียกว่ามนุษย์


หรือนี่จะเป็นจุดแตกหักจริงๆ?

              ช่วงพีคของตอนคือการที่อีบังวอนแอบได้ยินโพอึนกับซัมบงคุยกัน สิ่งที่ช็อคบังวอนคือกฎเหล็กห้าประการที่ซัมบงเคยกล่าวไว้ว่าจะใช้มัดใจโพอึนให้มาเป็นคู่ครอง เอ๊ย ให้มาเข้าร่วมทีมในประเทศใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม ห้าข้อโดยรวมๆคือการลดอำนาจกษัตริย์ลง เหลือเป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ของประทเศ เป็นดอกไม้แห่งชาติ แต่แทบไม่มีอำนาจในการปกครอง ผู้มีอำนาจทางการเมืองคือเหล่านักปกครองหรือเสนาบดีทั้งหลาย เพราะซัมบงเล็งเห็นว่า การสืบทอดทางบัลลังก์เป็นต้นเหตุแห่งการทุจริตทั้งปวง คนที่ไร้ความสามารถ คนที่ไร้คุณธรรมก็สามารถเข้าปกครองประเทศได้เพียงแค่ตัวเองมีสายเลือด"ศักดิ์สิทธิ์" ดังที่แสดงให้เห็นจากกษัตริย์ทั้งสามพระองค์แห่งโครยอในเรื่อง บังวอนรู้สึกเหมือนถูกหักหลัง ความฝันที่ตัวเองจะทำให้ประชาชนยิ้มได้ และทำให้ความฝันของประชาชนเป็นจริงต้องสั่นคลอด จิตใต้สำนึกที่ถวิลหาอำนาจเริ่มขัดแย้งกับมโนธรรม หากไร้ซึ่งอำนาจตนจะทำให้ประชาชนยิ้มได้ได้อย่างไร หรือนี่คือจุดเริ่มต้นของรอยร้าวที่ไม่สามารถหาทางประสานได้ระหว่างชองโดจอนและอีบังวอน?
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่