กาลเวลาผ่านไป 15 ปี หากในใจของชายผู้หนึ่ง 15 ปีนั้นยาวนานดังนิรันดร์
เด็กหนุ่มเพิ่งเรียนจบได้พบกับเจ้าหญิงวัยรุ่นแสนสวยที่เพิ่งจะพ้นวัยมัธยม เธอเห็นเขาเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่เคยเจอ หนุ่มชาวสวนที่ผิดแผก แตกต่าง และ น่าค้นหา ถึงเขาจะเป็นผู้ใหญ่มากกว่าหลายขวบปี แต่มีหรือที่จะตามทัน และ เข้าใจ คุณหนูเอาแต่ใจที่แต่ละก้าวย่างเคยแต่เดินเหยียบไปบนลาดพรมดอกไม้ ชีวิตเริงร่าด้วยแสงสี เขาไม่ได้นึกเลยด้วยซ้ำว่าความเสน่หาที่เด็กสาวผู้นั้นแสดงออก ก็เหมือนเด็กที่ได้จับจองของเล่นชิ้นใหม่ วันไหนจะเบื่อ ... ก็สุดรู้
เมื่อเกินกำลังจะห้ามหวงและสอนสั่ง คุณวรรณก็ใจเด็ดพอที่จะตัดหางปล่อยวัด ด้วยรู้ว่าเด็กสาวอย่างรัศมีคงอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้ไม่นาน แล้วมันก็เป็นความจริง เธอตั้งท้องและเรียกร้องต้องการทุกสิ่งหนักข้อไปเรื่อย ๆ เพราะไม่เคยทำอะไรได้ด้วยตนเอง ชายหนุ่มผู้นั้น .... หวังจะให้ครอบครัวได้สุขสบาย ทั้งเมียและลูกได้อยู่ดีกินดีไม่ลำบาก ก็เหมือนผู้ชายทั่วไปที่มีสำนึกในการเป็นหัวหน้าครอบครัว
หากใครจะรู้ว่าความพยายามเหล่านั้นนำเขาไปสู่สิ่งใด
ด้วยความปรารถนาแรงกล้าเพื่อให้ลูกเมียได้มีความสุขได้ทุกสิ่งตามประสงค์ การทำผิดเพียงหนึ่งครั้งบานปลายเป็นเรื่องใหญ่ จนถึงขั้นติดคุกติดตะราง สัจธรรมชีวิตเริ่มเผยโฉมให้รามได้เห็น เขาต้องรับผิดในสิ่งที่ก่อ แม้ไม่ได้ตั้งใจให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่โตก็ตาม จากนั้นเคราะห์ยิ่งซ้ำกรรมยิ่งซัด เมียรักหอบลูกตีจาก ทิ้งเพียงวาจาแสนเจ็บแสบว่า "รับไม่ได้" ไม่ได้คิดถึงใจใคร ไม่ได้คิดว่าที่รามทำทั้งหมดนี่เพราะอะไร "เขา" กลายเป็นคนผิดเพียงคนเดียว
คนดีที่อารมณ์ชั่ววูบพาผิดพลั้ง มลทินอันนั้นไม่เพียงฝากริ้วรอยในชีวิตของราม แต่ยังไม่ผลกระทบต่อจิตใจไม่แพ้กัน บัดนี้ดวงตาที่เคยบึกบึนนั้นแห้งผาก ชีวิตชีวาได้สูญสลายหายไปสิ้น ไม่ใช่เพียงเพราะอดีตในคุกเท่านั้น แต่เป็นเพราะต้องพรากจากลูกสาวอันเป็นที่รักดุจดังลมหายใจ จะติดต่อสืบหาหรือขอพบก็กลัวเหลือเกินว่าเจ้าหญิงน้อย ๆ ของพ่อจะแปดเปื้อนกับคนขี้คุกขี้ตะราง ใจคอยแต่คิดว่าขอให้ลูกอยู่ดีเท่านั้นก็พอใจ
หากรามก็รู้ว่ามันหาได้พอเพียงไม่ ...
น้ำตาเด็กหญิงตัวกลมป้อมวัย 6 ขวบยังจารลึกในใจคนเป็นพ่อเหมือนเรื่องราวเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
สายรุ้งสดสวยเมื่อวันนั้น ... ยังบาดใจคนเป็นพ่อมาจนถึงวันนี้
ดังนั้นเมื่อแรกสบตาสาวน้อยหน้าใสตากลมแป๋วที่ใครก็ว่าเป็นตัวปัญหา .... ก็พลอยให้นึกถึงลูกสาวที่จากเป็น แม้จะหลบหน้าอย่างไร ใจก็อดนึกเอ็นดูไม่ได้ และ ใจอีกเช่นกันที่นึกจะเสียวแปลบปลาบด้วยความคิดถึงและอาลัยลูกรักไม่ได้เช่นกัน ท้ายที่สุดใจส่วนลึกก็ยอมรับเอา "เด็กหนูนา" เป็นตัวแทนของลูกสาวที่ไม่เคยพบเจอกว่า 15 ปี และ กลายเป็นแรงผลักดันหนึ่งที่ทำให้เขาเดินทางไปพบกับรัศมี ... ทนให้เธอย่ำยี ยอมให้เธอโขกสับ เพียงเพื่อจะได้รู้ว่าลูกน้อยของตนเป็นอย่างไร
หากใครจะนึกว่าสาวน้อยของพ่อที่เชื่อว่าสงวนนวลอยู่บนหอคอยงาช้างจะกลับมาอยู่ข้างกายของพ่อนานแล้ว ความรู้สึกนั้นช่างท่วมท้น ยามที่หันหลังฟังหญิงสาวเอ่ยถึงเจ้าก้านไม้ขีดไฟตัวน้อย และ ทวงถามด้วยเสียงสั่นเครือ "พ่อทิ้งนากับแม่ทำไม" ยามหนึ่งก็เหมือนสายฟ้าที่ฟาดลงมากลางใจเพราะไม่คาดคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นจริง น้ำตาหลั่งไหลเพราะความอัดอั้นและกังวล หากลูกต้องแปดเปื้อนเล่า พ่อจะทนได้อย่างไร แต่เมื่อเวลาผ่านไปน้ำตาของลูกก็ดังสายน้ำที่รดชโลมใจที่แห้งผากมายาวนานเป็น 10 ปี เมื่อรู้ว่าความรักและผูกพันผลักดันให้สาวน้อยคนนี้มาพาสายใยรักแห่งครอบครัวกลับคืน แท้ที่จริงแล้วเขายังเป็นคนที่ลูกต้องการ
ในสายตาและในหัวใจราม
ยามนี้ ... สายรุ้งคงมีสีสันสดสวยอย่างที่ควรเป็น
ไม่ใช่มีดที่กรีดลงทัณฑ์หัวใจอย่างที่เคยเป็นมาอีกต่อไป
และแล้วหนึ่งความรักก็กลับคืนหัวใจได้ถึงสองดวงในยามนี้
ราม - นารา : ยามสายรุ้งพาดผ่านใจ
เด็กหนุ่มเพิ่งเรียนจบได้พบกับเจ้าหญิงวัยรุ่นแสนสวยที่เพิ่งจะพ้นวัยมัธยม เธอเห็นเขาเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่เคยเจอ หนุ่มชาวสวนที่ผิดแผก แตกต่าง และ น่าค้นหา ถึงเขาจะเป็นผู้ใหญ่มากกว่าหลายขวบปี แต่มีหรือที่จะตามทัน และ เข้าใจ คุณหนูเอาแต่ใจที่แต่ละก้าวย่างเคยแต่เดินเหยียบไปบนลาดพรมดอกไม้ ชีวิตเริงร่าด้วยแสงสี เขาไม่ได้นึกเลยด้วยซ้ำว่าความเสน่หาที่เด็กสาวผู้นั้นแสดงออก ก็เหมือนเด็กที่ได้จับจองของเล่นชิ้นใหม่ วันไหนจะเบื่อ ... ก็สุดรู้
เมื่อเกินกำลังจะห้ามหวงและสอนสั่ง คุณวรรณก็ใจเด็ดพอที่จะตัดหางปล่อยวัด ด้วยรู้ว่าเด็กสาวอย่างรัศมีคงอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้ไม่นาน แล้วมันก็เป็นความจริง เธอตั้งท้องและเรียกร้องต้องการทุกสิ่งหนักข้อไปเรื่อย ๆ เพราะไม่เคยทำอะไรได้ด้วยตนเอง ชายหนุ่มผู้นั้น .... หวังจะให้ครอบครัวได้สุขสบาย ทั้งเมียและลูกได้อยู่ดีกินดีไม่ลำบาก ก็เหมือนผู้ชายทั่วไปที่มีสำนึกในการเป็นหัวหน้าครอบครัว
ด้วยความปรารถนาแรงกล้าเพื่อให้ลูกเมียได้มีความสุขได้ทุกสิ่งตามประสงค์ การทำผิดเพียงหนึ่งครั้งบานปลายเป็นเรื่องใหญ่ จนถึงขั้นติดคุกติดตะราง สัจธรรมชีวิตเริ่มเผยโฉมให้รามได้เห็น เขาต้องรับผิดในสิ่งที่ก่อ แม้ไม่ได้ตั้งใจให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่โตก็ตาม จากนั้นเคราะห์ยิ่งซ้ำกรรมยิ่งซัด เมียรักหอบลูกตีจาก ทิ้งเพียงวาจาแสนเจ็บแสบว่า "รับไม่ได้" ไม่ได้คิดถึงใจใคร ไม่ได้คิดว่าที่รามทำทั้งหมดนี่เพราะอะไร "เขา" กลายเป็นคนผิดเพียงคนเดียว
คนดีที่อารมณ์ชั่ววูบพาผิดพลั้ง มลทินอันนั้นไม่เพียงฝากริ้วรอยในชีวิตของราม แต่ยังไม่ผลกระทบต่อจิตใจไม่แพ้กัน บัดนี้ดวงตาที่เคยบึกบึนนั้นแห้งผาก ชีวิตชีวาได้สูญสลายหายไปสิ้น ไม่ใช่เพียงเพราะอดีตในคุกเท่านั้น แต่เป็นเพราะต้องพรากจากลูกสาวอันเป็นที่รักดุจดังลมหายใจ จะติดต่อสืบหาหรือขอพบก็กลัวเหลือเกินว่าเจ้าหญิงน้อย ๆ ของพ่อจะแปดเปื้อนกับคนขี้คุกขี้ตะราง ใจคอยแต่คิดว่าขอให้ลูกอยู่ดีเท่านั้นก็พอใจ
น้ำตาเด็กหญิงตัวกลมป้อมวัย 6 ขวบยังจารลึกในใจคนเป็นพ่อเหมือนเรื่องราวเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
สายรุ้งสดสวยเมื่อวันนั้น ... ยังบาดใจคนเป็นพ่อมาจนถึงวันนี้
ดังนั้นเมื่อแรกสบตาสาวน้อยหน้าใสตากลมแป๋วที่ใครก็ว่าเป็นตัวปัญหา .... ก็พลอยให้นึกถึงลูกสาวที่จากเป็น แม้จะหลบหน้าอย่างไร ใจก็อดนึกเอ็นดูไม่ได้ และ ใจอีกเช่นกันที่นึกจะเสียวแปลบปลาบด้วยความคิดถึงและอาลัยลูกรักไม่ได้เช่นกัน ท้ายที่สุดใจส่วนลึกก็ยอมรับเอา "เด็กหนูนา" เป็นตัวแทนของลูกสาวที่ไม่เคยพบเจอกว่า 15 ปี และ กลายเป็นแรงผลักดันหนึ่งที่ทำให้เขาเดินทางไปพบกับรัศมี ... ทนให้เธอย่ำยี ยอมให้เธอโขกสับ เพียงเพื่อจะได้รู้ว่าลูกน้อยของตนเป็นอย่างไร
หากใครจะนึกว่าสาวน้อยของพ่อที่เชื่อว่าสงวนนวลอยู่บนหอคอยงาช้างจะกลับมาอยู่ข้างกายของพ่อนานแล้ว ความรู้สึกนั้นช่างท่วมท้น ยามที่หันหลังฟังหญิงสาวเอ่ยถึงเจ้าก้านไม้ขีดไฟตัวน้อย และ ทวงถามด้วยเสียงสั่นเครือ "พ่อทิ้งนากับแม่ทำไม" ยามหนึ่งก็เหมือนสายฟ้าที่ฟาดลงมากลางใจเพราะไม่คาดคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นจริง น้ำตาหลั่งไหลเพราะความอัดอั้นและกังวล หากลูกต้องแปดเปื้อนเล่า พ่อจะทนได้อย่างไร แต่เมื่อเวลาผ่านไปน้ำตาของลูกก็ดังสายน้ำที่รดชโลมใจที่แห้งผากมายาวนานเป็น 10 ปี เมื่อรู้ว่าความรักและผูกพันผลักดันให้สาวน้อยคนนี้มาพาสายใยรักแห่งครอบครัวกลับคืน แท้ที่จริงแล้วเขายังเป็นคนที่ลูกต้องการ
ยามนี้ ... สายรุ้งคงมีสีสันสดสวยอย่างที่ควรเป็น
ไม่ใช่มีดที่กรีดลงทัณฑ์หัวใจอย่างที่เคยเป็นมาอีกต่อไป