พอดีอ่านที่เขาเขียน ๆ กัน แล้วเกิดอารมณ์อยากเล่าประสบการณ์ที่เราเคยเจอให้ฟังบ้าง
เรื่องนี้เป็นเรื่องสมัยเรายังเป็นเด็ก ๆ อยู่นะ ประมาณ 30 ปี ที่แล้ว
จะขอบรรยายสภาพห้องให้ฟังก่อนนะ จะได้วาดภาพถูกว่าเป็นยังไง
บ้านที่เราอยู่เป็นห้องแถว บ้านไม้ชั้นครึ่ง ชั้นล่างจะเป็นร้านขายของ ส่วนที่ต่อขึ้นไปเป็นชั้นลอยจะเป็นห้องนอน
โดยแบ่ง 2 ผั่ง เป็นด้านหน้ากับด้านหลังที่ต่อเติมขึ้นทีหลัง(ทำเป็นพื้นต่างระดับ ด้านหน้าจะสูงกว่าด้านบน ด้วยบันได 1 ขั้น)
ห้องนอนฝั่งด้านบน จะกั้นห้องนอน เป็น 2 ห้อง คือ ห้องพ่อกับแม่เรานอน 1 ห้อง ส่วนติดกันเป็นห้องพี่ชายนอนใช้ตู้เสื้อผ้ากั้นไว้แทนผนัง
ตู้เสื้อผ้า ยาวประมาณ 3 เมตร ครึ่งบนฝั่งหนึ่งเป็นกระจกเงา อีกฝั่งเป็นกระจกใส ส่วนครึ่งล่างทึบเป็นไม้
ส่วนเรากับพี่สาวอีก 2 คนนอนด้วยกันในมุ้ง อยู่ตรงข้ามกับที่พี่ชายนอน (สมัยนั้นยังนอนกับพื้นในมุ้งกันนะ ยังไม่มีมุ้งลวด)
เราตอนนั้นก็เด็กประมาณ 10 ขวบอ่ะนะ (ไม่อยากบอกเลย รู้อายุ จขกท. พอดี)
มีอยู่คืนนึง เราก็นอนหลับไปพร้อมกับพี่สาวเรานี่แหละ แต่อยู่ ๆ ก็เหมือนกับฝันร้ายแล้วสะดุ้งตื่นขึ้นมาลุกนั่งตอนกลางดึก
อ้อ ลืมบอกไป เรากับพี่สาวเรา นอนหันปลายเท้าไปทางตู้เสื้อผ้าที่อยู่หน้าห้องนอนพี่ชายนะ
รู้มั้ยเราเห็นอะไรตอนเราตื่นขึ้นมาแล้วลุกนั่งตอนกลางดึก
จริง ๆ กลางคืนมันก็ต้องมืดสิเนอะ ปรากฎว่าเรามองเห็นตัวเราในกระจกของตู้เสื้อผ้า
ซึ่งมันทำให้เราแปลกใจมาก เพราะมันมึดขนาดนี้แล้ว เรามองเห็นตัวเองในกระจกของตู้เสื้อผ้าที่อยู่สูงกว่าที่เรานั่งบนพื้นตั้งเยอะ
พอเรามองต่อไปอีกแปบ ปรากฎว่าที่เราเข้าใจว่าเป็นเงาของเราในกระจกมันกลายเป็นผู้หญิงห่มสไบเฉียงอยู่ในกระจกแล้วค่อย ๆ ออกมาจากกระจก
เหมือนแบบลอยออกมาจากกระจก จากครึ่งตัวกลายเป็นเต็มตัว ห่มสไบสีเขียว นุ่งผ้าซิ่นเขียว ยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า
เราตอนนั้นคือ แบบว่า ช็อคไปแล้ว ไม่ได้ตาฝาดแน่ ๆ นั่งตัวแข็งอยู่ในมุ้ง
แล้วเค้าก็ค่อย ๆ ลอยมา เหมือนแบบ โปเยโปโลเย เลยอ่ะ ลอยมาทางมุ้งเราอ่ะ
อารมณ์เราก็คิดได้อย่างเดียว คลุมโปงค่ะ ร้อนก็ร้อน แต่ไม่กล้าเปิดผ้าห่มออกมาดู
กลัวเจอยืนจ้องเราติดกับมุ้ง
หลอนมาก น่ากลัวสุด ๆ ไม่กล้าปลุกพี่ให้ตื่นมาเจอด้วย
ปรากฎว่าเราก็หลับไปในสภาพคลุมโปงนั่นแหละจนเช้า
หลังจากนั้นอีกประมาณ อาทิตย์ 2 อาทิตย์ เราก็ได้ยินแม่เราเล่าว่าให้คนทรงมาดูแล้วบอกว่าใต้ดินบ้านเราที่ปลูกบ้านอยู่
มีรากตะเคียนฝังไว้ ก็เลยให้เค้ามาทำพิธีเอาออกไป เราก็เลยเล่าให้แม่เราฟังเรื่อยที่เราเจอมา
แล้วแม่เราก็บอกเราว่า ไม่รู้หรือไงว่าห้ามส่องกระจกตอนกลางคืนในความมืด
ทำให้เราเวลาไปนอนที่ไหนขอนอนไม่ตรงกระจกอีกเลย
ถ้าชอบก็เม้นกันบ้างนะ จะได้เล่าเรื่องอื่นที่เคยเจอมาให้ฟังอีก
อย่าส่องกระจกตอนกลางคืน เวลาปิดไฟ
เรื่องนี้เป็นเรื่องสมัยเรายังเป็นเด็ก ๆ อยู่นะ ประมาณ 30 ปี ที่แล้ว
จะขอบรรยายสภาพห้องให้ฟังก่อนนะ จะได้วาดภาพถูกว่าเป็นยังไง
บ้านที่เราอยู่เป็นห้องแถว บ้านไม้ชั้นครึ่ง ชั้นล่างจะเป็นร้านขายของ ส่วนที่ต่อขึ้นไปเป็นชั้นลอยจะเป็นห้องนอน
โดยแบ่ง 2 ผั่ง เป็นด้านหน้ากับด้านหลังที่ต่อเติมขึ้นทีหลัง(ทำเป็นพื้นต่างระดับ ด้านหน้าจะสูงกว่าด้านบน ด้วยบันได 1 ขั้น)
ห้องนอนฝั่งด้านบน จะกั้นห้องนอน เป็น 2 ห้อง คือ ห้องพ่อกับแม่เรานอน 1 ห้อง ส่วนติดกันเป็นห้องพี่ชายนอนใช้ตู้เสื้อผ้ากั้นไว้แทนผนัง
ตู้เสื้อผ้า ยาวประมาณ 3 เมตร ครึ่งบนฝั่งหนึ่งเป็นกระจกเงา อีกฝั่งเป็นกระจกใส ส่วนครึ่งล่างทึบเป็นไม้
ส่วนเรากับพี่สาวอีก 2 คนนอนด้วยกันในมุ้ง อยู่ตรงข้ามกับที่พี่ชายนอน (สมัยนั้นยังนอนกับพื้นในมุ้งกันนะ ยังไม่มีมุ้งลวด)
เราตอนนั้นก็เด็กประมาณ 10 ขวบอ่ะนะ (ไม่อยากบอกเลย รู้อายุ จขกท. พอดี)
มีอยู่คืนนึง เราก็นอนหลับไปพร้อมกับพี่สาวเรานี่แหละ แต่อยู่ ๆ ก็เหมือนกับฝันร้ายแล้วสะดุ้งตื่นขึ้นมาลุกนั่งตอนกลางดึก
อ้อ ลืมบอกไป เรากับพี่สาวเรา นอนหันปลายเท้าไปทางตู้เสื้อผ้าที่อยู่หน้าห้องนอนพี่ชายนะ
รู้มั้ยเราเห็นอะไรตอนเราตื่นขึ้นมาแล้วลุกนั่งตอนกลางดึก
จริง ๆ กลางคืนมันก็ต้องมืดสิเนอะ ปรากฎว่าเรามองเห็นตัวเราในกระจกของตู้เสื้อผ้า
ซึ่งมันทำให้เราแปลกใจมาก เพราะมันมึดขนาดนี้แล้ว เรามองเห็นตัวเองในกระจกของตู้เสื้อผ้าที่อยู่สูงกว่าที่เรานั่งบนพื้นตั้งเยอะ
พอเรามองต่อไปอีกแปบ ปรากฎว่าที่เราเข้าใจว่าเป็นเงาของเราในกระจกมันกลายเป็นผู้หญิงห่มสไบเฉียงอยู่ในกระจกแล้วค่อย ๆ ออกมาจากกระจก
เหมือนแบบลอยออกมาจากกระจก จากครึ่งตัวกลายเป็นเต็มตัว ห่มสไบสีเขียว นุ่งผ้าซิ่นเขียว ยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า
เราตอนนั้นคือ แบบว่า ช็อคไปแล้ว ไม่ได้ตาฝาดแน่ ๆ นั่งตัวแข็งอยู่ในมุ้ง
แล้วเค้าก็ค่อย ๆ ลอยมา เหมือนแบบ โปเยโปโลเย เลยอ่ะ ลอยมาทางมุ้งเราอ่ะ
อารมณ์เราก็คิดได้อย่างเดียว คลุมโปงค่ะ ร้อนก็ร้อน แต่ไม่กล้าเปิดผ้าห่มออกมาดู
กลัวเจอยืนจ้องเราติดกับมุ้ง
หลอนมาก น่ากลัวสุด ๆ ไม่กล้าปลุกพี่ให้ตื่นมาเจอด้วย
ปรากฎว่าเราก็หลับไปในสภาพคลุมโปงนั่นแหละจนเช้า
หลังจากนั้นอีกประมาณ อาทิตย์ 2 อาทิตย์ เราก็ได้ยินแม่เราเล่าว่าให้คนทรงมาดูแล้วบอกว่าใต้ดินบ้านเราที่ปลูกบ้านอยู่
มีรากตะเคียนฝังไว้ ก็เลยให้เค้ามาทำพิธีเอาออกไป เราก็เลยเล่าให้แม่เราฟังเรื่อยที่เราเจอมา
แล้วแม่เราก็บอกเราว่า ไม่รู้หรือไงว่าห้ามส่องกระจกตอนกลางคืนในความมืด
ทำให้เราเวลาไปนอนที่ไหนขอนอนไม่ตรงกระจกอีกเลย
ถ้าชอบก็เม้นกันบ้างนะ จะได้เล่าเรื่องอื่นที่เคยเจอมาให้ฟังอีก