เมนู “โครงไก่ต้มฟัก” นั้น อดีตนายกฯสมัครจุด พลุ ขึ้นมาเมื่อปี 2539 เมื่อครั้งเจ้าตัวมีตำแหน่งในรัฐบาลเป็นรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งยุคนั้นในเมืองไทยเกิดปัญหาอาหารการกินราคาแพง อดีตนายกฯสมัครจึงเสนอแนะให้ประชาชนปรุงเมนูที่มีคุณประโยชน์สูง-ต้นทุนต่ำ อย่างโครงไก่ต้มฟักรับประทานกัน เพื่อบรรเทาปัญหาค่าครองชีพ เมนู “โครงไก่ต้มฟัก” นี้ หากจะดูกันถึงส่วนผสมตามข้อมูลในเว็บไซต์ของรายการชิมไปบ่นไป ก็ประกอบด้วย… โครงไก่, ฟัก, รากผักชี, กระเทียม, พริกไทยป่น, น้ำปลา และซุปไก่ผง โดยในส่วนของฟักนั้น ควรใช้ “ฟักอ่อน” นำมาปอกเปลือก ผ่าครึ่งตามยาว ฝานเอาไส้ออก แล้วหั่นเป็นชิ้นโต ๆ
สำหรับวิธีทำ “โครงไก่ต้มฟัก” ตาม สูตรในเว็บไซต์ของรายการชิมไปบ่นไป ก็เริ่มจาก… 1.ต้มน้ำให้เดือด แล้วใส่โครงไก่ลงไปในหม้อ 2.นำกระเทียมแกะเปลือก รากผักชีซอย และพริกไทยป่น โขลกให้เข้ากัน 3.ตักน้ำซุปที่ได้จากการต้มโครงไก่มาใส่ลงในหม้ออีกใบ 4.ใส่ส่วนผสมที่โขลกเตรียมไว้ลงไป ปรุงรสด้วยซุปไก่ผงและน้ำปลา 5.เร่งไฟให้เดือด แล้วใส่ฟักตามลงไป 6.ชิมน้ำซุป ปรุงรสตามใจชอบ เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
อ้างอิง : เหลือทิ้งไว้ 2เมนูเด็ด โครงไก่ต้มฟัก ข้าวผัดสมัคร
http://news.mthai.com/hot-news/webmaster-talk/62858.html
ในสภาพเศรษฐกิจห่วยๆแบบนี้แถมสวนทางกับยุควัตถุนิยม เราลองมาย้อนยุคทำอะไรง่ายๆ ถูกๆ แต่อร่อยทานกันดูครับ หวังว่าเมนูนี้น่าจะพอช่วยแบ่งเบาภาระด้านการเงินให้กับครอบครัวเพื่อนสมาชิกได้บ้าง หรืออาจจะรวยอยู่แล้ว แต่อยากลองมาทำอาหารกากๆ จนๆ ทานแบบที่ผมทำก็ยินดีเสมอครับ อย่างน้อยๆผมก็คนหนึ่งถึงแม้จะไม่ได้ร่ำรวยเป็นเศรษฐีอะไร แต่ร้านอาหารดีๆผมก็ไปบ่อยอยู่แต่ก็ไม่ค่อยชอบถ่ายรูปมาอวดเพื่อนๆสักเท่าไหร่ มันไม่ใช่ทางของผม อย่างผมต้องอาหารถูกๆที่คนจนๆบ้านๆ พอจะไปซื้อมาทานได้บ่อยๆ หรือทำทานกันเองด้วยงบต่ำๆ อันนี้ผมก็ชอบที่จะถ่ายรูปมาอวดหรือมานำเสนอต่อให้เพื่อนๆของผมครับ
จู่ๆก็อยากกินโครงไก่ต้มฟัก ประมาณว่าเบื่อข้าว อยากเน้นกินฟักร้อนๆกับน้ำซุปหวานน้ำต้มกระดูกแบบเข้มข้น เมื่อเช้าเลยไปตลาดมา ได้เจ้าพวกนี้มาครับ
- โครงไก่ให้เขาสับมาให้ 2 โครง 20 บาท
- ฟัก 1 ลูก ประมาณ 1 ก.ก. 20 บาท
- ชุดต้มยำ (ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด) 5 บาท
- พริก 10 บาท (ใช้ไม่หมดเอามากินต่อวันหลังได้)
- มะขามเปียก 10 บาท (ใช้ไม่หมดเอามากินต่อวันหลังได้)
- กระเทียม 10 บาท (ใช้ไม่หมดเอามากินต่อวันหลังได้)
รวมทั้งหมด 75 บาท
สูตรการทำของผมจะแตกต่างจากท่านสมัครนะครับ โดยจะเน้นแบบแซบๆมากกว่าที่จะออกแบบกลมกล่อม วิธีทำก็แสนง่ายครับ
- เอาโครงไก่ ชุดต้มยำใส่ลงหม้อ เติมเกลือป่นครึ่งช้อนโต๊ะ น้ำปลาสัก 3-4 ทัพพี มะขามเปียกเพื่อตัดรสเค็มให้น้ำซุปกลมกล่อมขึ้นอีกสักประมาณหัวแม่มือครึ่ง ผงชูรสอีกสักหนึ่งช้อนชา พริกตามใจชอบ เปิดน้ำประปาลงหม้อแล้วยกไปใส่เตาแก๊ส ปิดฝาพอแง้มๆต้มมันเลย เอาไฟเดือดๆแรงๆนั่นแหละจะได้กินเร็วๆเปื่อยเร็วๆ
- หลังจากต้มโครงไก่ไปได้สักพักใหญ่ๆ จะมีพวกไขมันลอยหน้าขึ้นมา ก็พยายามตักมันออกไม่ให้มันเยอะจนเกินไป ผมตักมันออกเกือบหมดเพราะเดี๋ยวต้มต่อมันก็จะออกมาอีกแล้วก็จะพอดี แล้วจึงปอกฟักคว้านเม็ดและใส้กลางออก หั่นชิ้นใหญ่เล้กตามใจชอบ เทลงหม้อตามลงไป ต้มต่ออีกประมษร 20 นาที ฟักก็จะสุกจนนิ่มพอดีทาน
- ชิมน้ำซุปดู ปรุงรสชาติเพิ่มเติมเล็กน้อยตามใจชอบแล้วยกลง
- กินเลยครับไม่ต้องรอใครมาตัดริบบิ้น รสชาติหวานน้ำต้มกระดูก น้ำซุปเข้มข้นมากๆ ฟักเปื่อยกำลังดี ทุกคำที่ทานเข้าไปรับประกันความอร่อยครับ
ทำจนเสร็จพึ่งรู้ลืมใส่กระเทียมทุบ
แต่ไม่เป็นไรไม่ใส่ก็ได้อร่อยอยู่ครับ
ลองทำดูนะครับ น้องๆนักเรียนนักศึกษาที่อยู่ตามหอพักก็ลองใช้หม้อหุงข้าวทำทานเล่นๆกับเพื่อนตอนปลายเดือนดูก็ได้ งบไม่ถึงร้อยแต่ได้อาหารอร่อยๆมาเป็นหม้อใหญ่ๆ ทานได้ทั้งบ้าน แบ่งให้เพื่อนบ้านด้วยก็ยังได้หากเพื่อนบ้านไม่รังเกียจอาหารถูกๆแบบนี้ เกิดเป็นมนุษย์เราก็ต้องรู้จักปรับตัวให้ได้ตามสภาพความเป็นไปของบ้านเมือง เศรษฐกิจ สังคม อยู่กับสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด
The Mario 12 มกราคม 2559
ในสภาพเศษฐกิจห่วยๆแบบนี้ เรามาทำเมนูในตำนานของอดีตนายกฯ สมัคร สุนทรเวช "โครงไก่ต้มฟัก" ทานกันครับ ไม่กี่บาทอิ่มทั้งบ้าน
สำหรับวิธีทำ “โครงไก่ต้มฟัก” ตาม สูตรในเว็บไซต์ของรายการชิมไปบ่นไป ก็เริ่มจาก… 1.ต้มน้ำให้เดือด แล้วใส่โครงไก่ลงไปในหม้อ 2.นำกระเทียมแกะเปลือก รากผักชีซอย และพริกไทยป่น โขลกให้เข้ากัน 3.ตักน้ำซุปที่ได้จากการต้มโครงไก่มาใส่ลงในหม้ออีกใบ 4.ใส่ส่วนผสมที่โขลกเตรียมไว้ลงไป ปรุงรสด้วยซุปไก่ผงและน้ำปลา 5.เร่งไฟให้เดือด แล้วใส่ฟักตามลงไป 6.ชิมน้ำซุป ปรุงรสตามใจชอบ เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
อ้างอิง : เหลือทิ้งไว้ 2เมนูเด็ด โครงไก่ต้มฟัก ข้าวผัดสมัคร http://news.mthai.com/hot-news/webmaster-talk/62858.html
ในสภาพเศรษฐกิจห่วยๆแบบนี้แถมสวนทางกับยุควัตถุนิยม เราลองมาย้อนยุคทำอะไรง่ายๆ ถูกๆ แต่อร่อยทานกันดูครับ หวังว่าเมนูนี้น่าจะพอช่วยแบ่งเบาภาระด้านการเงินให้กับครอบครัวเพื่อนสมาชิกได้บ้าง หรืออาจจะรวยอยู่แล้ว แต่อยากลองมาทำอาหารกากๆ จนๆ ทานแบบที่ผมทำก็ยินดีเสมอครับ อย่างน้อยๆผมก็คนหนึ่งถึงแม้จะไม่ได้ร่ำรวยเป็นเศรษฐีอะไร แต่ร้านอาหารดีๆผมก็ไปบ่อยอยู่แต่ก็ไม่ค่อยชอบถ่ายรูปมาอวดเพื่อนๆสักเท่าไหร่ มันไม่ใช่ทางของผม อย่างผมต้องอาหารถูกๆที่คนจนๆบ้านๆ พอจะไปซื้อมาทานได้บ่อยๆ หรือทำทานกันเองด้วยงบต่ำๆ อันนี้ผมก็ชอบที่จะถ่ายรูปมาอวดหรือมานำเสนอต่อให้เพื่อนๆของผมครับ
จู่ๆก็อยากกินโครงไก่ต้มฟัก ประมาณว่าเบื่อข้าว อยากเน้นกินฟักร้อนๆกับน้ำซุปหวานน้ำต้มกระดูกแบบเข้มข้น เมื่อเช้าเลยไปตลาดมา ได้เจ้าพวกนี้มาครับ
- โครงไก่ให้เขาสับมาให้ 2 โครง 20 บาท
- ฟัก 1 ลูก ประมาณ 1 ก.ก. 20 บาท
- ชุดต้มยำ (ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด) 5 บาท
- พริก 10 บาท (ใช้ไม่หมดเอามากินต่อวันหลังได้)
- มะขามเปียก 10 บาท (ใช้ไม่หมดเอามากินต่อวันหลังได้)
- กระเทียม 10 บาท (ใช้ไม่หมดเอามากินต่อวันหลังได้)
รวมทั้งหมด 75 บาท
สูตรการทำของผมจะแตกต่างจากท่านสมัครนะครับ โดยจะเน้นแบบแซบๆมากกว่าที่จะออกแบบกลมกล่อม วิธีทำก็แสนง่ายครับ
- เอาโครงไก่ ชุดต้มยำใส่ลงหม้อ เติมเกลือป่นครึ่งช้อนโต๊ะ น้ำปลาสัก 3-4 ทัพพี มะขามเปียกเพื่อตัดรสเค็มให้น้ำซุปกลมกล่อมขึ้นอีกสักประมาณหัวแม่มือครึ่ง ผงชูรสอีกสักหนึ่งช้อนชา พริกตามใจชอบ เปิดน้ำประปาลงหม้อแล้วยกไปใส่เตาแก๊ส ปิดฝาพอแง้มๆต้มมันเลย เอาไฟเดือดๆแรงๆนั่นแหละจะได้กินเร็วๆเปื่อยเร็วๆ
- หลังจากต้มโครงไก่ไปได้สักพักใหญ่ๆ จะมีพวกไขมันลอยหน้าขึ้นมา ก็พยายามตักมันออกไม่ให้มันเยอะจนเกินไป ผมตักมันออกเกือบหมดเพราะเดี๋ยวต้มต่อมันก็จะออกมาอีกแล้วก็จะพอดี แล้วจึงปอกฟักคว้านเม็ดและใส้กลางออก หั่นชิ้นใหญ่เล้กตามใจชอบ เทลงหม้อตามลงไป ต้มต่ออีกประมษร 20 นาที ฟักก็จะสุกจนนิ่มพอดีทาน
- ชิมน้ำซุปดู ปรุงรสชาติเพิ่มเติมเล็กน้อยตามใจชอบแล้วยกลง
- กินเลยครับไม่ต้องรอใครมาตัดริบบิ้น รสชาติหวานน้ำต้มกระดูก น้ำซุปเข้มข้นมากๆ ฟักเปื่อยกำลังดี ทุกคำที่ทานเข้าไปรับประกันความอร่อยครับ
ทำจนเสร็จพึ่งรู้ลืมใส่กระเทียมทุบ
แต่ไม่เป็นไรไม่ใส่ก็ได้อร่อยอยู่ครับ
ลองทำดูนะครับ น้องๆนักเรียนนักศึกษาที่อยู่ตามหอพักก็ลองใช้หม้อหุงข้าวทำทานเล่นๆกับเพื่อนตอนปลายเดือนดูก็ได้ งบไม่ถึงร้อยแต่ได้อาหารอร่อยๆมาเป็นหม้อใหญ่ๆ ทานได้ทั้งบ้าน แบ่งให้เพื่อนบ้านด้วยก็ยังได้หากเพื่อนบ้านไม่รังเกียจอาหารถูกๆแบบนี้ เกิดเป็นมนุษย์เราก็ต้องรู้จักปรับตัวให้ได้ตามสภาพความเป็นไปของบ้านเมือง เศรษฐกิจ สังคม อยู่กับสิ่งที่มีไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด
The Mario 12 มกราคม 2559