[CR][SR] ทริปเลาะไปทั่วกับทัวร์ฉิ่งฉับ ตอน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ตอนจบ.

ลิงค์ก่อนหน้า http://ppantip.com/topic/34653364   ทริปเลาะไปทั่วกับทัวร์ฉิ่งฉับ ตอน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ตอน1

การเดินทางเส้นทางธรรมชาติครั้งนี้มีระยะทางประมาณ5กม. รวมขาลงด้วยคะ อากาศตอนนี้คือหมอกหนาไปหมด เราเดินตามพี่ยอดไปเรื่อยๆ สอบถามความเป็นมาของที่นี่ไปเรื่อย ถามหาช้างไปเรื่อยๆ และก็เหยียบขี้ช้างไปเรื่อยๆ มีสดบ้างแห้งบ้าง ใหม่บ้าง กลิ่นหอมกรุ่นออกจากเตา เจ้ย !! ไม่ใช่ เราก็เดินไปเรื่อยๆพี่แกก็บอกดอกอะไรต้นอะไร นี่เมเปิ้ล เราก็ไหนๆๆ มองเห็นที่ไหนละ คือหมอกบังหมด แต่พี่ยอดแกบอกว่าถ้าปกติแล้วถ้าไม่หมอกขนาดนี้ตรงนั้นจะเป็นเมเปิ้ลนะ จะเห็นเต็มต้นสีแดงสวยเลยละ เราก็อดเสียดาย แกเลยบอกไม่เป็นไร เดี๋ยวก็มาใหม่รอบหน้า ภาวนาอย่าให้หมอกหนาแบบนี้เนอะ









เดินไปสักพักเราก็ไปเจอสถานีส่งสัญญาณของช่อง7 คะ









พี่ยอดเล่าถึงเรื่องพวกที่มาลักลอบมาขโมยของป่าให้ฟัง แกบอกส่วนใหญ่จะเป็นพวกพม่า เวียดนาม เขมร เข้ามาลักลอบเอาไป คนดูแลรักษาก็รักษาไปดิ๊ อีคนจะลักลอบมาขโมยก็มาขโมยเรื่อยไป บางทีกว่าจะจับได้ใช้เวลาอยู่หลายวัน คือแบบพวกนี้มันเก่งมากจับตัวมันยากมาก กว่าจะจับกันได้ก็ใช้เวลากันนานเลย แต่เดี๋ยวนี้ดีหน่อยมีชาวบ้านช่วยสอดส่องดูแลเวลาเห็นแปลกหน้าเข้ามาก็จะแจ้งมายังอุทยานละ เห็นมั้ยล่ะว่าคนสมัยนี้เค้าช่วยกันดูแลป่ากัน ยิ่งเหลือน้อยๆอยู่ กว่าจะได้มาซึ่งป่าซึ่งสัตว์ป่า ธรรมชาติเค้าให้เรามามากพอแล้ว หยุดทำลายเค้าเพื่อที่จะได้มาเพียงผลประโยชน์เล็กๆน้อยๆของตัวเองเหอะ คนเข้ามาลักลอบไม่เท่าไหร่ นายทุนที่จ้างมานี่สิ จะรวยเอารวยไปถึงไหน เหลืออะไรดีๆไว้ให้คนรุ่นลูกหลานท่านได้ดูได้ศึกษากันบ้าง





เดินไปเรื่อยๆสักพักเราก็ไปเจอกันจุดชมวิวแรกคือ ผาช้างผ่าน










จากนั้นเราก็ออดเดินกันต่อเล้ย จุดต่อไปคือผาสมเด็จ ซึ่งตรงนั้นจะมีฝ่าพระหัตถ์ของพระราชินีอยู่ด้วย ทางเข้าก็ลอดป่าลอดพุ่มไม้กันเข้าไปตามภาพคะ













หลังจากนั้นเราก็เดินทางกันต่อ เพื่อจะไปที่ผาสุดท้ายคือผาเตลิ่ง ซึ่งเป็นผาที่เป็นไฮไลค์ก็ว่าได้มั้งเพราะมันสวยสุดละ แต่ไม่ว่าจะผาไหนๆสิ่งที่เราเห็นมันก็หมอกป่ะวะ คือแบบ มิดเลยอะ ไม่เห็นวิวเห็นอะไรเล้ย แหม่!!มาถูกวันจริงๆ
ผาเตลิ่ง











จากนั้นเราก็เดินต่อไปที่สุดท้ายกันละ คือรอยเท้าไดโนเสา ไปถึงก็เอาเท้าตัวเองเทียบถ่ายรูปกันใหญ่ ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย!ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไงได้แบบนี้ คิดๆๆไว้แล้วก็เก็บได้ไว้เพียงรูปถ่าย







ต้องขอโทษที่มีแต่รูปของพวกเราเยอะมากกว่ารูปวิวไปหน่อยนะคะ แต่ก็อย่างที่บอกคะว่า หมอกมันเยอะจริงๆถ่ายวิวอะไรก็ไม่เห็นอะไรเลยมัวไปหมดคะจากนั้นเราก็เดินลงอีกประมาณ1กม.ทางลงคือลัดป่าเข้าไปทางลื่นมาก เราแอบลื่นไถลล้มอีกต่างหากทั้งจับกล้องจับมือถือเยอะแยะไปหมด เสียหลักลื่นตุ๊ดทิ่มเบาๆก็หัวเราะกันสนุกสนานกันไป เราลงมารอรถของอุทยานค่ารถมารับ200บาท ก็นั่งไปเจอทากที่ติดรองเท้าติดกางเกงขึ้นรถกันมาบ้าง ระหว่างทางก็เจอเมเปิ้ลสีแดงข้างทางเต็มต้นสวยงามมาก



ระหว่างทางของการเดินทางครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์การชื่นชมธรรมชาติดีๆอีกทริปนึ่ง เราคิดอยู่เสมอว่าถ้าเรามาปีหน้าปีต่อไปและต่อไปเรื่อยๆทุกอย่างจะเป็นเหมือนเดิมแบบนี้มั้ยนะ ต่อไปคงปั่นจักรยานหรือขับรถขึ้นไปชมได้เลยแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราก็อย่าลืมไปนะว่า ที่นั่นไม่ใช่ที่ของเรา ที่นั่นคือที่บ้านของสัตว์ป่า เราเป็นผู้เข้าไปขออาศัย ขอศึกษาหาความรู้จากสิ่งที่เราไม่เคยเห็น สิ่งที่ไม่รู้จักไม่เคยเห็นหรือสัมผัส ก็ต้องดูและศึกษาไว้แต่ตา เท่านั้น อย่างที่บอกว่าบางสิ่งมันอาจไม่ได้รับรู้ได้เพียงแค่สายตาเท่านั้นแต่เราจะต้องรับรู้มันด้วยใจเราด้วย บรรพบุรุษรักษาสิ่งที่มีค่าที่สุดให้เราได้ศึกษาเข้าใจถึงธรรมชาติ หากแต่เราได้ชื่นชมมัน แต่ก็ต้องรักษาไว้ให้คงอยู่ตามที่บรรพบุรุษท่านได้ดูแลไว้ให้เราด้วย //หากยิ่งทำลาย นับวันสิ่งที่มีค่าที่เรามองผ่านก็จะสูญหายไปเรื่อยๆเหลือไว้ซึ่งคงตึกสูง ถนนยาวที่รถติด อากาศที่ไม่บริสุทธิ์ มีคนอีกหลายชีวิตที่เค้าไม่ได้หลับนอนเป็นเวลา ไม่ได้ใช้ชีวิตสะดวกสบาย หรือได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตาหรือมีวันหยุดสำหรับเที่ยวยาวๆเหมือนพวกเรา แต่เค้าต้องใช้ชีวิต ใช้แรงกายทุ่มเท เพื่อดูแลรักษาไว้ซึ่งป่า ซึ่งสัตว์ป่าไว้ให้เราได้ดูได้ศึกษากันต่อ รวมถึงรุ่นลูกหลานของเราต่อไปอีกด้วย ขอบคุณเจ้าหน้าที่อุทยานทุกท่านที่ให้ความรู้ ให้ความดูแล และช่วยดูแลป่าไม้ต้นไม้สัตว์ป่าและสิ่งสวยงามแบบนี้ไว้ให้เราได้ศึกษาหรือได้สัมผัสกันแบบนี้นะคะ
*รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกหากมีอะไรผิดพลาดประการใดก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ
สุดท้ายแล้วก็อินจากเรื่องราวของหัวหน้า สืบ นาคะเสถียร เลยเอากลอนดีๆมาทิ้งท้ายไว้ ไว้พบกันใหม่ทริปหน้ากับฉิ่งฉับทัวร์นะคะ

"ผมอยากให้ทุกคนลองจินตนาการดูว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้มีครอบครัวมีพ่อมีแม่มีลูกเหมือนกับเรา สัตว์ป่ามีสิทธิ์ที่จะมีชีวิต มนุษย์มีสิทธิ์อะไรที่ไปเอาชีวิตมัน"
(จาก"ฝนตกที่ห้วยขาแข้ง")

เสียงปืนที่ดั่งลั่น ตัวแม่นั้นต้องสิ้นใจ
ลูกน้อยที่กอดไว้ กระดอนไปเพราะแรงปืน

ฝืนใจเข้ากอดแม่ หวังแก้ให้แม่ฟื้น
แม่จ๋าเพราะเสียงปืน จึงไม่คืนชีวิตมา

โทษใดให้ประหาร ศาลไหนพิพากษา
หากลูกท่านเป็นสัตว์ป่า ใครเข่นฆ่าท่านยอมไหม

ชีวิตใครก็รัก ท่านประจักษ์บ้างหรือไม่
โปรดเถิดจงเห็นใจ สัตว์ป่าไซร้ก็เหมือนกัน

อนิจจา สัตว์ป่าผู้น่าสงสาร ถูกล้างผลาญเข่นฆ่าให้อาสัญ
ผิดด้วยหรือต้องถูกฆ่าให้จาบัลย์....
โอ้ มนุษย์นั้นจะโหดร้าย ถึงไหนกัน.....

คำร้อง สืบ นาคะเสถียร




ชื่อสินค้า:   ท่องเที่ยวไทย
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่