[CR][SR] ทริปเลาะไปทั่วกับทัวร์ฉิ่งฉับ ตอน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง



สวัสดีคะ นี่เป็นรีวิวแรกของเรา เราอยากจะมารีวิวสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติดีๆอีกที่ให้เพื่อนๆได้รู้จัก นั่นก็คือ
"เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง"




การเดินทางครั้งนี้เราไปแบบไม่ทันตั้งตัวกันเท่าไหร่ เนื่องจากคิดไว้ให้เป็นทริปเล็กๆใกล้ๆ เรามีสมาชิกฉิ่งฉับทัวร์การร่วมอุดมการณ์การเดินทางครั้งนี้6 ชีวิต ด้วยกันคะ
การเดินทางไปที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง เราต้องติดต่อกับทางอุทยานไว้ก่อนล่วงหน้านะคะก่อนที่จะเข้าไป หากจะพักค้างคืนและต้องรีบขึ้นโคกนกกะบานะคะ เพราะถ้าเย็นหรือค่ำแล้วอาจอดขึ้นก็เป็นได้ เนื่องจากช่วงค่ำแล้วจะมีสัตว์ป่าออกมาหากินอาหาร อาจจะตะเอ๋ กับพี่ช้างเค้าได้คะ ยังไงส่วนการจองหรือแจ้งทางอุทยานนั้นก็สามารถหาข้อมูลจากเว็ปของอุทยานได้คะ ว่าต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง แต่ตอนที่ไปเราโชคดีมากที่ได้ ติดต่อกับพี่นเรศ เจ้าหน้าที่อุทยานได้ เนื่องจากมีพี่ที่เคยไปมาแล้วให้เบอร์ติดต่อมา เราก็ติดต่อพี่นเรศไปว่าจะเข้าไปพักแรม พี่นเรศก็ใจดี จับจองที่พักไว้ให้เราสำหรับการพักค้างแรมคะ อ๋อ!! ลืมบอกไป ที่นั่นเค้าไม่อนุญาติให้นำเต้นท์ไปกางเองโดยไม่ได้รับอนุญาตินะคะ เนื่องจากช้างป่าจะเยอะ อาจทำให้เกิดอันตรายคะ และปฏิบัติตามคำแนะนำของอุทยานอย่างเคร่งครัดด้วยนะคะ  





สำหรับการเดินทางเราเริ่มออกเดินทางจากขอนแก่นเวลาประมาณ07.30 โดยประมาณไปแวะซื้อของรับชาวคณะ กว่าจะได้ออกเดินทางไปถึงใกล้จังหวัดเราก็แวะซื้อข้าวของเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางคืนนี้กันคะ แจ้งไว้ก่อนนะคะว่าเตรียมตัวเตรียมอาหารไปบ้างเล็กน้อยก็ดีเผื่อหิวๆตอนดึกๆคะ











เราเดินทางถึงโคกนกกะบาประมาณเวลาบ่ายสามกว่าๆ เราก็เร่งๆไปถึง รีบไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่เลยทันที กะว่าจะเดินป่าให้ได้วันนี้ แต่ก็แห้วตามระเบียบคะ เนื่องจากว่ามันเย็นไปแล้ว กว่าจะกลับลงมาอาจค่ำทำให้เกิดอันตรายได้ พี่เจ้าหน้าที่เลยพาเข้าไปเก็บของที่พักกันก่อน ระหว่างที่พี่แกพาขับรถไปเราก็ขอไปซ้อนมอไซต์กับพี่แก กะเพื่อขอสอบถามข้อมูลไปด้วย เราก็พยายามถามแกว่าจะทำยังไงที่จะได้เดินป่าวันนี้ ยังดื้อไง..แกเลยงั้นไปดูจุดชมวิวพระอาทิตย์ใกล้ๆก่อนมั้ย ดูพระอาทิตย์ตกไปก่อนวันนี้ พรุ่งนี้เช้าค่อยตื่นเดินใหม่ เราก็ต้องยอมไปตามระเบียบ เพราะเราก็พอจะศึกษาข้อมูลมาบ้างแล้วล่ะว่ามันไม่ควรจริงๆ เพราะจะทำให้เกิดอันตรายได้ หลังจากนั้นเราก็มาถึงที่พัก เราได้บ้านกุหลาบแดง เป็นห้องใหญ่ สามารถนอนได้ถึง10 คน/ห้อง ห้องใหญ่มาก ยังไม่ทันได้ถ่ายรูปไว้ ข้าวของก็เต็มห้องละ เนื่องจากทุกคนรีบเพราะกลัวจะค่ำซะก่อนเดี๋ยวไม่ได้ดูอะไรกัน อันนี้คือภาพของบ้านพักที่เราได้นะคะ บ้านพักไม่มีค่าใช้จ่ายนะคะ แล้วแต่เราจะให้เป็นค่าดูแลรักษาทำความสะอาดให้อุทยานตามที่เราจะให้คะ สภาพนี้แล้วถือว่าคือมันดีเกินสุดบรรยายจริงๆ ที่คิดไว้คิดว่าจะไม่ได้ขนาดนี้ด้วยซ้ำ เพราะตอนที่ถามพี่นเรศตอนแรกแกบอกไม่มีค่าใช้จ่ายอะไร ในใจคิดมันต้องน่ากลัวหรือต้องไม่ดีแน่ๆ แต่พอที่เห็นก็เกินคาดค่ะ ต้องขอขอบคุณสำหรับที่หลับนอนสบายๆกันหนาวจากอุทยานคืนนี้จริงๆคะ











หลังจากเก็บของไว้ในห้องเสร็จเราก็เตรียมอาหารที่จะรับประทานสำหรับคืนนี้ไปเพื่อจะไปทำอาหารที่ส่วนกลาง เนื่องจากที่อุทยานไม่อนุญาติให้ทำอาหารหน้าที่พักหรือในที่พักนะคะ จะมีครัวส่วนกลางให้ อยากได้อะไรก็ยืมจากที่ส่วนกลางได้เลย แต่ถ้าไม่สะดวกอยากทำอาหารเองที่นั่นเค้าก็จะมีอาหารบริการนะคะ น่าจะคิดเป็นหัว คนละประมาณ100-200 บาท/เย็น-เช้า ประมาณนี้นะคะ ไม่แน่ใจเท่าไหร่ เนื่องจากเกรงว่าจะรบกวนอุทยานเราเลยเตรียมอาหารไปกันเองหมด ทั้งมาม่า ทั้งอาหารที่ทานง่ายๆ สังเกตุว่าเราต้องนั่งหลังเบียดกัน4 คน ตอนซื้อของเสร็จคะ เพราะรุ่นหอบไปเยอะจนไม่มีที่จะนั่งจริงๆ ราวกับจะไปอยู่กันสักเดือน ฮ่าๆ แต่ก็คะ ได้กินอะไรกันเยอะแยะ เราเอาหมูไปย่างกันก็ยืมเตาจากอุทยานเอาคะ เออ!ลืมบอกไป วันที่พวกเราไปมีเด็กๆมาเข้าค่ายด้วย คนเยอะจะเยอะแยะดูวุ่นๆกันหน่อย แต่ก็อบอุ่นดีคะ เราก็ไปแอบดูเด็กๆเค้าทำกิจกรรมกันสนุกดี พี่ๆเจ้าหน้าที่อุทยานเป็นคนพาเด็กๆทำกิจกรรมต่างๆ สนุกดีคะ นอกจากจะต้องดูแลรักษาป่าและสัตว์ป่าให้เราแบบไม่มีวันหยุดแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นผู้เผยแพร่และให้ความรู้กับคนรุ่นหลังๆให้รักป่าดูแลป่าและสงวนสัตว์ป่าให้อีกด้วยคะ นับถือพี่ๆเค้าจริงๆ ข้างล่างคือภาพส่วนกลางนะคะ มีครัวมีร้านค้าเล็กๆ มีที่นั่งทานข้าวให้คะ ตอนเช้าๆก็จะมีโจ๊กมีกาแฟ ขนมปังให้ทานด้วยคะ





เอาละ..หลังจากเอาข้าวของวางไว้ที่ส่วนกลางแล้ว เราก็รีบกันเดินไปดูพระอาทิตย์กัน จะเจอมั้ยน้าา เนื่องจากอากาศค่อนข้างเย็นมากตั้งแต่เราเปิดกระจกถ่ายรูปข้างทางกันละ ดูท่าเหมือนหมอกจะหนา เราก็เดินๆๆๆ กันไปตามเส้นทางที่เจ้าหน้าที่บอก ทางนี้เราเดินกันไปเองได้นะคะ ไม่ต้องให้เจ้าหน้าที่พาเดิน เนื่องจากมันไม่ไกลจากที่ส่วนกลางเท่าไหร่













ระหว่างทางที่เดินไปป่าที่เดินไป สวยมาก  ทางค่อนข้างลื่น เพราะมันจะชื้นๆมีหิน มีสาหร่ายติดหินลื่นตลอดทาง แต่ก็ค่อยๆเดินคุยๆฮาๆ กันไปเรื่อยๆ ไม่นานเราก็ถึงที่หมาย เป็นที่ลักษาณะหน้าผา แต่ไม่สูงมาก มองไปข้างหน้า แทบจะไม่เห็นภูเขาหรือวิวข้างหน้าเลยคะ เนื่องจากอย่างที่บอกว่า เป็นวันที่อากาศค่อนข้างชื้นและก็หมอกก็ค่อนข้างเยอะจริงๆ พอฟ้าจะเปิดก็แป๊บเดียวจริงๆ ถ่ายรูปกันแทบไม่ทันก็ได้ภาพมาแบบที่เห็นคะ ภาพอาจไม่สวยมากนะคะ เนื่องจากใช้มือถือและกล้องsj ถ่ายคะ บวกกับการเป็นมือสมัครเล่นด้วยคะแฮ่ะๆ











หลังจากที่เดินกันเสร็จแล้วเราก็กลับมายังที่ส่วนกลางเหมือนเดิม เออ!!ลืมบอกไปว่าสัญญาณโทรศัพท์ค่อนข้างหายากนิดนึ่งนะคะ จะเต็มๆหน่อยก็ตรงที่ดูพระอาทิตย์ตกนั่นแหละคะ กลับมาที่ส่วนกลางเราก็มาย่างหมูกินข้าวกันให้เต็มอิ่ม อากาศตอนนั้นเย็นมาก นั่งกินไปย่างไป ดูเด็กๆทำกิจกรรมไปเพลินๆหัวเราะไปกับพี่เจ้าหน้าที่ที่พาเด็กทำกิจกรรมคะ กินเสร็จเราก็กลับที่พักไปนั้งดื่มเบาๆ เพื่อจะเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติกันในวันพรุ่งนี้กันต่อคะ อากาศกลางคืนค่อนข้าวหนาวมาก ที่นั่นเงียบ อ๋อ!ลืมบอกไปนะคะ ว่าที่นั่นเค้าตัดไฟตอนสามทุ่มนะคะ แต่วันที่ไปเราโชคดีหน่อยตรงที่มีเด็กๆไปเข้าค่าย ไฟจึงตัดประมาณห้าทุ่มได้คะ ใครจะชาร์ตแบตชาร์ตกล้องก็ต้องรับตุนกันไว้นะคะ เดี๋ยวไฟตัดหมดกันเลย



กลางคืนที่ผ่านมากว่าจะได้นอนก็เกือบดึกดื่น เนื่องจากทั้งเสียงเครื่องสูบน้ำ เสียงแตร เสียงแซ็ค ดังสนั่นห้อง (จะอะไรละกรนแข่งกันสิคับ) คนรู้สึกตัวง่ายแบบเราก็ต้องลำบากหน่อย ถีบกันแล้วกันอีก กว่าจะหลับได้...เราตื่นมากันเช้ามา07.00 เราก็เริ่มรู้สึกตัวและก็เริ่มเสียงดังกันละ จริงๆพี่นเรศบอกเราว่าถ้าจะเดินชมพระอาทิตย์ขึ้น ตีห้าให้มารวมตัวไปพร้อมกับเด็กๆเลยนะ แต่ฉิ่งฉับเราขอบายคะ ดูจากสภาพแต่ละคนไม่น่าจะตื่นได้ แต่ก็ถือว่าเราตื่นกันเช้ากว่าที่คาดกันไว้มาก ตื่นมาก็ไม่อาบน้ำเลยล้างหน้าแปรงฟันเตรียมพร้อมกินข้าวเดินป่ากันเลยคะ เราก็ไปกินมาม่าคัฟที่เราเตรียมมาที่ส่วนกลางพร้อมติดต่อพี่เจ้าหน้าที่เอาไว้ และรอพี่เจ้าหน้าที่ทานข้าวเสร็จเพื่อรอเดินป่าในเช้านี้ คะ เรารอพี่เจ้าหน้าที่สักพัก พี่แกก็เดินมาบอกปะ..เราก็โอเคร พร้อมกันเดินกันเลย พี่ที่พาเราเดินป่าศึกษาธรรมชาติครั้งนี้คือพี่ยอดคะ เราเริ่มออกเดินประมาณเก้าโมงกว่าๆ



เดี๋ยวมาต่อตอนที่2กันเน้อ  

http://ppantip.com/topic/34654758   ทริปเลาะไปทั่วกับทัวร์ฉิ่งฉับ ตอน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ตอนจบ.
ชื่อสินค้า:   ท่องเที่ยวไทย
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่